เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1184 - พิษ
ตอนที่ 1184 – พิษ
” เจียงหยางชิงหยุนทำมากเกินไปที่ข่มขู่เจ้าด้วยเรื่องผลไม้เซียนด้วยเงื่อนไขดังกล่าว การกระทำของเขาไม่ต่างจากคนไร้ยางอาย เขาไม่คู่ควรกับการเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลผู้พิทักษ์ โหยวเยว่พูดอย่างชอบธรรม เจี้ยนเฉินได้รับผลไม้เซียนด้วยความช่วยเหลือของรุยจินและอีกสองคนหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ดังนั้นมันจึงควรเป็นของเจี้ยนเฉินโดยสิ้นเชิง แต่เจียงหยางชิงหยุนได้แสดงถึงสภาพที่น่าสมเพท ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยางรวมถึงเป็นผู้อาวุโสของเจี้ยนเฉินซึ่งทำให้โหยวเยว่โกรธแค้น
สีหน้าของเถี่ยต้าก็น่ากลัวเช่นกัน เขาไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เขานั่งอยู่ที่นั่นก่อนที่จะตัดสินใจในตอนท้าย เขากัดฟันพูด “เจี้ยนเฉิน มันจะดีที่สุดถ้าข้าไปจากที่นี่ มิฉะนั้นเจ้าอาจจะถูกลากลงไปเมื่อเจียงหยางชิงหยุนร่วมมือกับทุกคนเพื่อตามล่าข้า ตอนนี้ข้ารู้ถึงเล่ห์เหลี่ยมของสงครามแล้ว แม้ว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ข้าก็ยังสามารถวิ่งหนีได้”
เจี้ยนเฉินยกมือขึ้นเพื่อปฏิเสธข้อเสนอของเถี่ยต้าโดยไม่ลังเล เขาจ้องมองเถี่ยต้าและพูดอย่างมีความรับผิดชอบว่า” เถี่ยต้า อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกเลย ตระกูลผู้พิทักษ์นั้นมีพลังมาก แต่พวกมันก็ไม่เพียงพอที่เราจะกลัว แม้ว่าพวกเขาจะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของทวีปเทียนหยวนและทวีปสัตว์เทวะ แต่พวกเขาสามารถฆ่าเราได้จริงหรือ ? ”
” เถียต้า อย่าหดหู่ เจ้าอย่าลืมว่าข้ามีโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มด้วย ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นทนทานมากสามารถป้องกันได้แม้กระทั่งการโจมตีของเซียนจักรพรรดิรวมถึงค่ายกลสังหารของนางที่อยู่ข้างใน ค่ายกลสังหารที่สามารถกำจัดแม้แต่เซียนจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน ตราบใดที่เรามีโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับเราได้ แม้ว่าพวกเขาจะรวมตัวกันทั้งสองทวีป” โหยวเยว่กล่าวอย่างมั่นใจ นางรู้สึกตื่นเต้นจากข้างในอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะในที่สุดนางก็มีพลังพอที่จะช่วยเหลือเจี้ยนเฉินในตอนนี้ นางสามารถแบ่งเบาภาระของเจี้ยนเฉินกับเขาได้ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนาง
ในช่วงเวลานี้มีการกระตุกที่สีหน้าของเขา เจี้ยนเฉินจ้องมองไปออกไปไกล ๆ สายตาของเขาดูเหมือนจะสามารถมองทะลุโครงสร้างและมองออกไปข้างนอกอย่างชัดเจนในขณะที่แสงในดวงตาของเขาลุกวาบ
หลังจากนั้น สีหน้าของเถี่ยต้าก็กระตุกเช่นกัน ทันใดนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนและจิตสังหารที่ทรงพลังก็ออกมาจากภายในร่างของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ “เจี้ยนเฉิน ผู้คนจากตระกูลเจียงหยางได้เข้ามาโจมตี”
เจี้ยนเฉินส่ายหัวและมีข้อกังขาฉายผ่านดวงตาของเขา เขาพูดว่า “เถี่ยต้า โปรดรอสักครู่ มันอาจจะไม่เหมือนที่เจ้าจินตนาการไว้ ไปดูกันก่อนดีกว่า”
กลุ่มคนจำนวนมากบินมาที่เมือง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดินทางอย่างไม่รีบร้อนและมีหลายร้อยคน
ผู้คนในเมืองเห็นภาพที่น่าทึ่งในอากาศและเมืองทั้งเมืองส่งเสียงดังอื้ออึงขึ้นอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงกับสิ่งนี้
ทุกคนรู้ว่าใครก็ตามที่สามารถบินได้ในอากาศอย่างน้อยก็เป็นเซียนสวรรค์โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั่วอาณาจักรมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นและมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เพิ่งปรากฏตัวเช่นกัน ทุกคนมีสถานะอันยิ่งใหญ่ภายในอาณาจักรสามารถยืนอยู่บนพื้นดินที่เท่าเทียมกับฮ่องเต้ พวกเขาไม่ค่อยปรากฏในที่สาธารณะ
แต่ตอนนี้พวกเขาเห็นคนหลายร้อยคนกำลังบินอยู่ในอากาศด้วยการเหลือบตาดูเพียงครั้งเดียว นี่ทำให้พวกเขาตกใจสุดขีด
กลุ่มคนบินตรงไปยังตระกูลเจียงหยาง ก่อนที่จะหยุดที่ทางเข้าด้านหน้าในที่สุด
สมาชิกระดับสูงของตระกูลทั้งหมดมารวมตัวกันที่ทางเข้า พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบ ๆ และไม่มีใครพูดอะไรเลย เจียงหยางซูหยวนเซียวที่หน้ามืดครึ้มยืนอยู่ข้างหน้า เจียงหยางซูอวี้หยวนยืนเคียงข้างเขา และหลังจากนั้นก็คือเจี้ยนเฉิน, โหยวเยว่, เถี่ยต้า, เจียงหยางป้า และคนอื่น ๆ
จากคนหลายร้อยคน ชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นผู้อาวุโสที่มีอำนาจมากที่สุดในสาขาซูคือเจียงหยางซูเซียว
เจียงหยางซูเซียวดูเหมือนจะย่ำแย่ในขณะนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดียวดาย ไร้ประโยชน์ ความเศร้าโศกและอื่น ๆ โดยไม่รู้ตัว เขาดูเหมือนแก่ขึ้นมาก
มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในกลุ่มด้านหลังเจียงหยางซูเซียวซึ่งมีความแข็งแรงแตกต่างกันไป พวกเขาอาจมีพลังพอ ๆ กับเซียนผู้คุมกฏหรืออ่อนแอเหมือนชายหนุ่มและเด็กสองสามคนที่ไม่ได้เป็นเซียนปฐพี พวกเขาถูกอุ้มโดยคนรอบข้างผ่านอากาศ
อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุทุกคนเต็มไปด้วยความเดียวดาย พวกเขามืดมนและดวงตาของพวกเขาก็ชาด้าน
” ท่านปู่ ท่านทำอะไร..” เจียงหยางซูหยวนเซียวระงับความเศร้าของเขาและถามอย่างสงสัย
” เฮ้อ” เจียงหยางซูเซียวถอนหายใจออกมาลึก ๆ มีน้ำตาคลออยู่ในดวงตาอันชรา เขากล่าวว่า “เซียวเอ๋อ ข้าไม่สามารถอยู่ในตระกูลได้อีกต่อไปหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา ข้าออกจากตระกูลมาแล้ว ในขณะที่คนที่อยู่ข้างหลังข้าเป็นสมาชิกของสาขาซูที่ยินดีมากับข้า คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่อยู่ข้างหลัง”
เจียงหยางซูหยวนเซียวกระตุกอย่างรุนแรง เขากำหมัดของเขาทันทีก่อนที่จะคลายออกอย่างช้า ๆ เขาถอนหายใจรดท้องฟ้าแล้วพูดว่า “การจากมาเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน การจากมาเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน..”
ในวันนั้นตระกูลเจียงหยางได้เพิ่มสมาชิกใหม่หลายร้อยคน อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดมีสถานะที่ดี พวกเขาทุกคนเป็นสมาชิกตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง เพียงจำนวนของเซียนผู้คุมกฏก็เกินสิบ แม้แต่ในตระกูลผู้พิทักษ์พวกเขาก็มีสถานะอยู่ในระดับหนึ่ง
เซียนผู้คุมกฎส่วนใหญ่เลือกที่จะออกมากับเจียงหยางซูเซียวและมีเพียงไม่กี่คนที่เลือกที่จะอยู่ข้างหลัง อย่างไรก็ตามกลุ่มยังไม่เท่าหนึ่งในร้อยของสาขาซูทั้งหมด
โชคดีที่ตระกูลเจียงหยางมีขนาดใหญ่มากหลังจากได้รับการปรับปรุง ดังนั้นแม้หลังจากสมาชิกเพิ่มขึ้นหลายร้อยคนก็ไม่รู้สึกคับแคบ เจียงหยางป้าจัดการกับคนอย่างเหมาะสม ในขณะที่เจียงหยางซูเซียวกลายเป็นคนที่มีสถานะสูงสุด
เจี้ยนเฉินประทับใจกับการกระทำของเจียงหยางซูเซียวซึ่งเติมความอบอุ่นให้กับเขา ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในตระกูลผู้พิทักษ์ อย่างน้อยสาขาซูก็ยืนเคียงข้างเขา
เจียงหยางซูเซียวไม่ได้พูดถึงผลไม้เซียนเลย หลังจากทักทายเขา เจี้ยนเฉินก็ไปหารุยจิน, หงเหลียน และ เฮยยู่ ที่พักอยู่
เฮยยู่กำลังนั่งอยู่บนเตียงของเขา ผิวของเขาคล้ำเพราะพิษยังคงอยู่ในตัวเขา วัตถุเซียนกลายเป็นหอคอยทองคำขนาดเท่ากำปั้นเมื่อมันหมุนตัวช้า ๆ ส่องแสงสลัว ๆ เหนือตัวเขา
หงเหลียนและรุยจินนั่งใกล้ ๆ พวกเขาขมวดคิ้วขณะที่คิดลึก ๆ
“ผู้อาวุโสเฮยยู่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ? พิษยังไม่ได้ถูกกำจัดออกไปอีกหรือ ? ” หน้าอกของเจี้ยนเฉินบีดรัดแน่นทันทีเมื่อเขาเห็นสภาพของเฮยยู่
เฮยยู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและส่ายหัวเบา ๆ เขากล่าวว่า” พิษที่มากับข้านั้นหายากมากในทวีปนี้ มันแข็งแกร่งกว่าพิษของสัตว์อสูรอันดับหนึ่งและแม้แต่จิตวิญญาณวัตถุเซียนก็ไม่สามารถช่วยข้าได้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นพิษที่อยู่ในระดับ 9 จิตวิญญาณวัตถุเซียนสามารถใช้พลังเซียนธาตุแสงระดับ 8 เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่เพียงพอที่จะกำจัดพิษ”