เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1236: การปะทะกันของโถงศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 1236: การปะทะกันของโถงศักดิ์สิทธิ์
เต๋าเจิ้งเทียนพยายามตั้งหลักให้มั่นคงหลังจากที่เขากระเด็นออกมาหลายพันเมตร เขาจ้องมองด้วยความตะลึงไปที่เถี่ยต้าซึ่งกำลังอาบด้วยแสงสีทอง ซึ่งแต่ความไม่อยากจะเชื่อเต็มบนสีหน้าของเขา เขาสามารถรับรู้ได้ว่าเถี่ยต้าไม่ได้แข็งแกร่งมากมายอะไร ไม่ถึงระดับ 16 ดาวด้วยซ้ำ แต่เขาสามารถปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังขนาดนั้นออกมาได้ การโจมตีของเขาดูเหมือนจะมีผลกระทบอย่างน่ามหัศจรรย์ในการโจมตีไปที่วิญญาณและมันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญกับบางอย่างเช่นนี้
ในเวลาเดียวกัน เขาเข้าใจว่าถ้ามันไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาอยู่ในขั้นสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 8 และวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่ามาก เขาก็คงไม่สามารถป้องกันเจตจำนงในการต่อสู้ที่มาพร้อมกับขวานได้อย่างรวดเร็วได้อย่างแน่นอน
“คนผู้นี้มาจากที่ไหนกัน ? และวิธีที่เขาฝึกฝนระดับชั้นสวรรค์คืออะไรกันแน่ ? ” เต๋าเจิ้งเทียนอุทานออกมา เต๋าเจิ้งเทียนพบว่ามันผิดปกติสำหรับจอมยุทธที่น่ากลัวเช่นนี้ซึ่งไม่มีชื่อเสียงอะไรเลยในอาณาจักรทะเล
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เต๋าเจิ้งเทียนจะคิดอะไรออก เจี้ยนเฉินก็พุ่งเข้ามาจากที่ไกล ๆ เขาแทงไปที่เต๋าเจิ้งเทียนด้วยพลังบรรพกาลที่กำลังห่อหุ้มยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขา เขาไปใกล้เต๋าเจิ้งเทียนมากที่สุดเพื่อที่จะมั่นใจว่าเขาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเซียนราชาคนอื่น ๆ อีก
“เต๋าเจิ้งเทียน ลิ้มรสทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของข้าหน่อยเป็นไง ! ” นูบิสตะโกนออกมาขณะที่พลังมหาศาลปุทุขึ้นรอบ ๆ ตัวเขา แขนของเขาเคลื่อนในรูปแบบมหัศจรรย์ขณะที่เขาร่ายทักษะการต่อสู้ระดับเซียนฉบับปรับปรุงของเขา
นูบิสตอนนี้หน้าซีดขาว เขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสในตอนที่เขาถูกทำให้กระเด็นออกไปโดยการโจมตีด้วยฝ่ามือของเต๋าเจิ้งเทียน อย่างไรก็ตาม เขายังคงเป็นสัตว์อสูรโบราณ แม้ว่าร่างกายของเขาจะไม่แข็งแกร่งเหมือนกับร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉิน แต่มันก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่มาก อาการบาดเจ็บของเขายังไม่ถึงกับส่งผลทำให้เขาไร้พลัง
มันเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่อย่างชัดเจนสำหรับนูบิสเพื่อที่จะร่ายทักษะการต่อสู้ระดับเซียน เขาไม่สามารถใช้มันได้อย่างทันทีด้วยความแข็งแกร่งเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาสักครู่ในการสะสมพลัง ชั้นของพลังสีทองหนาแน่นได้พุ่งพรวดออกมาอย่างรวดเร็วจากร่างกายของเขา มันผุดออกมาหมุนรอบ ๆ ตัวเขา สีเป็นสีเดียวกับพลังของเถี่ยต้า แต่นั่นก็แค่เป็นภาพภายนอกเท่านั้น ในความจริงแล้ว พลังทั้ง 2 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พวกมันไม่มีทางใกล้เคียงกันเลยแม้แต่น้อย
“มังกรอสรพิษทะยานฟ้า ! ” นูบิสคำรามออกมาในขณะที่พลังสีทองรอบ ๆ ตัวเขาหยุดชั่วครู่ มันเปลี่ยนเป็นมังกรสีทองขนาดใหญ่ที่กำลังปะทุขึ้นรอบ ๆ ตัวเขาด้วยมังกรที่เหมือนกับงูบินขึ้นไปบนอากาศ ความกดดันมหาศาลพุ่งไปหาเต๋าเจิ้งเทียน โจมตีเขาขณะที่เขากำลังต่อสู้กับเจี้ยนเฉิน
ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของนูบิสได้ไปถึงชั้นสวรรค์ที่ 7 เรียบร้อยแล้ว แต่เต๋าเจิ้งเทียนยังคงรับมือกับทักษะการต่อสู้ของเขาและเจี้ยนเฉินด้วยท่าทีที่สงบอย่างมาก ในแต่ละครั้งที่เขาแทงออกไป มังกรสีทองก็จะถูกผ่าครึ่ง อย่างไรก็ตาม ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนของนูบิสยังคงประกอบไปด้วยพลังของอสรพิษทองริ้วเงิน ดังนั้นมันแตกต่างอย่างชัดเจนจากทักษะการต่อสู้อื่น ๆ ก่อนที่มังกรทองจะหายไปหลังจากมันถูกแยกให้เป็น 2 ส่วน มันคืนตัวอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นและเริ่มพุ่งไปที่เต๋าเจิ้งเทียนอย่างต่อเนื่องด้วยพลังและขนาดเท่าเดิมเหมือนก่อนหน้านี้
ในทางตรงข้าม เถี่ยต้าได้มาที่ปล่องภูเขาไฟที่เต๋าหลินได้สร้างขึ้น เขาแกว่งขวานแสงสีทองของเขาจบชีวิต เต๋าหลิน
ร่างกายเต๋าเจิ้งเทียนชะงักด้วยการตายของเต๋าหลินพร้อมกับความโศกเศร้าบนใบหน้าของเขา เขาต้องการที่จะช่วยเต๋าหลินแต่เขากำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับเจี้ยนเฉินและนูบิส เถี่ยต้านั้นอยู่ใกล้กับเต๋าหลินมาก ๆ เขาไม่สามารถจะช่วยได้เลยแม้เขาจะดึงโถงศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกมาก็ตาม จากผลลัพธ์แล้ว เขาคงทำได้แค่มองอย่างไร้ความหวังก่อนที่เต๋าหลินจะตายไปต่อหน้าตาต่อเขา
เถี่ยต้าเอาแหวนมิติของเต๋าหลินมาก่อนที่จะไปหาฉิงยี่หยวน เขาพูดเสียงต่ำแต่เป็นเสียงที่อ่อนโยน ” ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า ไปช่วยเจี้ยนเฉินเถอะ”
ฉิงยี่หยวนไม่ได้พูดอะไร นางพยักหน้าก่อนที่จะยกคู่ต่อสู้ของนางให้กับเถี่ยต้า และพุ่งเข้าไปหาเต๋าเจิ้งเทียน
ในที่สุดเต๋าเจิ้งเทียนก็รู้สึกกดดันเล็กน้อยเมื่อฉิงยี่หยวนเข้ามาร่วมการต่อสู้ด้วย เซียนราชาในฝั่งของเขากำลังจะตาย ยังมีอีก 1 เซียนราชาในฝั่งของเผ่าเต่าเข้ามาร่วมการต่อสู้กับเขา ทันทีที่การต่อสู้ยืดออกไป เขาก็ยิ่งมีศัตรูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขาในการเผชิญหน้า
เต๋าเจิ้งเทียนรู้ดีว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปได้ ยิ่งเขายืดเยื้อไปเท่าไหร่ ก็จะมีคนบาดเจ็บในฝั่งของเขามากเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าจะมีบางคนที่ได้รับบาดเจ็บในฝั่งของเผ่าเต่า แต่พวกเขาก็ไม่มีใครเลยที่ตาย
“ตระกูลเต๋าทุกคนเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์เดี๋ยวนี้เลย ! ” เต๋าเจิ้งเทียนตะโกนออกมาขณะที่คลื่นเสียงได้ปะทุผ่านการต่อสู้ระหว่างเซียนราชา มันก้องกังวาลภายในรัศมี 100 กิโลเมตร
โถงศักดิ์สิทธิ์ถูกขว้างไปบนอากาศโดยเต๋าเจิ้งเทียน มันขยายใหญ่ขึ้นมากภายในพริบตา มันดูอ้างว้างและเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา เห็นได้ชัดว่ามันคงอยู่มาเนิ่นนานแล้ว
โถงศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงดังสนั่นเมื่อมันลอยต่ำลงมาถึงพื้น สถานที่ทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างร้ายแรงขณะที่ประตูของโถงศักดิ์สิทธิ์เปิดออก มันตั้งตระง่านเหมือนกับป้อมปราการที่แข็งแกร่งและป้องกันพลังงานร้ายแรงที่กวาดผ่านอากาศมา มันสร้างอาณาเขตปลอดภัยรอบ ๆ โถงศักดิ์สิทธิ์
กลุ่มคนที่กลัวกระจายตัวออกไป ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เห็นแสงแห่งความหวังและพุ่งเข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
แสงสีทองแผ่ผ่านอากาศออกมา เถี่ยต้าได้แกว่งขวานของเขาด้วยกำลังมหาศาลไปที่ชายแก่ชุดดำที่อยู่ข้างหน้าเขา ชายแก่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 แต่เขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสด้วยการต่อสู้กับฉิงยี่หยวน จากผลลัพธ์ที่ได้ เขาไม่มีพลังพอที่จะต่อต้านพลังการกวาดแกว่งของเถี่ยต้าได้อีกต่อไป ในตอนนั้น เขาตะลึงจากเจตจำนงในการต่อสู้ขั้นสูงสุด ขวานสีทองได้ผ่าหัวของเขาเป็น 2 ส่วน
เซียนราชา 4 ใน 9 คนที่เป็นกลุ่มพันธมิตรได้ถูกเถี่ยต้าฆ่าด้วยความเร็วแสงและยังเหลืออีก 5 คนที่กำลังนอนกองอยู่กับพื้น อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดเครียดอย่างมาก พวกเขาไม่ได้มีความมั่นใจเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป
ขณะที่บรรพบุรูษของตระกูลม่อซินเสียใจกับการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก ถ้าเขารู้ว่าเผ่าเต่าแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน เขาก็คงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานกับตระกูลเต๋าเป็นอย่างแน่ ตระกูลม่อซินได้สูญเสียอย่างหนักในการต่อสู้กับเผ่าเต่านับตั้งแต่ 1 ในเซียนราชาของเขาถูกเถี่ยต้าฆ่าตาย
“เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ ! ” เต๋าเจิ้งเทียนแผดเสียงด้วยท่าทีมืดมน เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไป เขาแกว่งทวนของเขาอย่างหนักเท่าที่เขาจะทำได้ซึ่งทำให้เจี้ยนเฉินและฉิงยี่หยวนถอยหลัง หลังจากนั้นเขาถอยและหายตัวเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ภายในพริบตา เซียนราชาอีก 4 คนในฝ่ายพันธมิตรก็ไม่รีรอเช่นกัน พวกเขาเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียวกันกับเต๋าเจิ้งเทียน
ประตูของโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ปิดทันทีและก็บินขึ้นสูงจากพื้นดิน 1,000 กิโลเมตร
“ท่านบรรพบุรุษ โปรดให้เราเข้าไปด้วย” กลุ่มคนกว่า 100 คนของตระกูลเต๋ามาไม่ทันเวลาในการเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทั้งหมดเริ่มหน้าซีดขณะที่ความสิ้นหวังผุดขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา คนฉลาดบางคนรีบหันหลังกลับไปและวิ่งหนีไปให้ไกลเมื่อพวกเขาเห็นว่าไม่มีหวังในการเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาหลีกเลี่ยงในการประนีประนอมกับเผ่าเต่าเช่นเดียวกับพลังที่กระเพื่อมมาจากการต่อสู้
เต๋าเจิ้งเทียนไม่ได้ออกไปเนื่องจากเขากำลังควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์อยู่ซึ่งมันกำลังตกทับเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ เขาต้องการที่จะใช้ความแข็งแกร่งของโถงศักดิ์สิทธิ์ในการรับมือกับพวกเขาทั้ง 8 คน
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็นเมื่อเขาตระหนักถึงสิ่งที่เต๋าเจิ้งเทียนพยายามทำ “เต๋าเจิ้งเทียน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนเดียวหรือที่มีโถงศักดิ์สิทธิ์ ? ” โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดได้ปรากฏในมือของเจี้ยนเฉิน และเปลี่ยนเป็นโถงขนาดใหญอย่างรวดเร็ว มันไม่ได้เล็กไปกว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ของเต๋าเจิ้งเทียนเลย
เจี้ยนเฉิน นูบิส เถี่ยต้า ฉิงยี่หยวน ไทโตว หลานจิง ซินเปียน และโมชาส ทั้งหมดได้เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน โถงศักดิ์สิทธิ์ได้ลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว มันเคลื่อนที่เหมือนกับแสงและมันบินไปทางโถงศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเต๋า
แม้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดจะถูกโจมตีจนย่อยยับโดยไคเซอร์ แต่มันก็ซ่อมแซมตัวเองอัตโนมัติ หลังจากผ่านไปนาน มันได้ฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาแปดในสิบส่วน แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเหมือนแต่ก่อนแต่ภายนอกก็ยังดูไม่เป็นไรอีกด้วย
” ตู้ม ! ” เสียงดังสนั่น โถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองปะทะกันในอากาศ แรงมหาศาลประทุจากการชนกันของทั้งสองและทำให้มันทั้งสองกระเด็นออกไป
โถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่ การชนกันอย่างรุนแรงไม่ได้ทำให้พวกมันเสียหายเลยแม้แต่น้อย
โถงศักดิ์สิทธิ์ได้บินขึ้นไปสูงพร้อมกันหลังจากชนกันไปแล้ว พวกมันทั้งสองรู้ว่าพวกมันไม่สามารถทำอะไรกันได้เลยเว้นแต่ว่าพวกมันจะถูกควบคุมโดยเซียนจักรพรรดิ
“ผู้คุมกฎแห่งเผ่าเต่า ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีโถงศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน” น้ำเสียงของเต๋าเจิ้งเทียนดังออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของเขา
เจี้ยนเฉินปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ ที่ยอดโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด เขาจ้องมองอย่างเยือกเย็นไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเต๋าซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,000 เมตร “เต๋าเจิ้งเทียน ข้ายังไม่สามารถทำลายเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าได้วันนี้ ดังนั้นมันก็ควรจบแค่นี้ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้แปลว่าจะแก้ปัญหาความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างตระกูลเต๋าและเผ่าเต่าได้ เมื่อข้ามีอำนาจที่สามารถทำลายล้างโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าได้ เมื่อนั้นจอมยุทธของเผ่าเต่าของเราจะไปเยือนอีกครั้ง”