เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1266: ลูกท้อเมฆม่วง
ตอนที่ 1266: ลูกท้อเมฆม่วง
ทันทีที่มีคนพูดว่าพวกเขาต้องการใช้โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเพื่อเอามาป้องกันอุโมงค์มิติ ใบหน้าของเจียงหยางซูหยวนเซียวก็หม่นลงทันที โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเป็นของโหยวเยว่และโหยวเยว่ก็เป็นคู่หมั้นของเจี้ยนเฉิน หากพวกเขาเอาโถงศักดิ์สิทธิ์มาขวางอุโมงค์มิติ การที่จะได้รับคืนมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
นี่เป็นเพราะโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มนั้นแข็งแกร่งพอที่จะรับมือเซียนจักรพรรดิได้ เพื่อที่จะให้คนในตระกูลผู้พิทักษ์คงอำนาจอยู่ได้ พวกเขาไม่อาจปล่อยให้โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มที่ทรงพลังขนาดนี้หลุดลอยไปได้
คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ไม่กล้าแตะต้องโหยวเยว่มาก่อน อย่างแรกเลยก่อนหน้านี้เพราะว่าพวกเขาไม่อาจทำอะไรนางได้หากว่านางซ่อนตัวอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ อย่างที่สองเจี้ยนเฉินอยู่ฝ่ายเดียวกับนางพร้อมกับสัตว์เทวะที่มีพลังเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิ เป็นเหตุให้ตระกูลผู้พิทักษ์ได้แต่มองโถงศักดิ์สิทธิ์ของโหยวเยว่ตาเป็นมันโดยไม่อาจทำอะไรนางได้
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง การคงอยู่ของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อทวีปเทียนหยวน อาจอธิบายได้ว่ามันเป็นหายนะที่อาจจะส่งผลต่อคนทั้งโลก การใช้โอกาสนี้ในการเอาโถงศักดิ์สิทธิ์มาจึงเป็นโอกาสที่ดียิ่ง ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้ออกมาและถ้าโถงศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลาย พวกคนของตระกูลผู้พิทักษ์ก็ไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อมันมาถึงจุดนั้นพวกเขาก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้อยู่ดี
เจียงหยางซูหยวนเซียวคิดห้ามปรามพวกเขาทั้งหมด โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มนั้นเป็นสิ่งหายากและสร้างมาจากวัสดุที่หายากอย่างมาก มันถูกสร้างจากแกนดวงจันทร์ อย่างไรก็ตามนางฟ้าเฮายู่ซึ่งผู้สร้างมันก็เป็นเพียงเซียนจักรพรรดิขั้นสุดยอดอีกด้วย นางไม่ได้ไปถึงขอบเขตดั้งเดิม โถงศักดิ์สิทธิ์อาจจะป้องกันการโจมตีของเซียนจักรพรรดิได้ แต่มันจะไร้ประโยชน์ต่อหน้าขอบเขตดั้งเดิม
ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายหยางจิแค่นเสียงเมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเราก็ต้องลองตราบใดที่มีความหวังเพียงเล็กน้อยเพื่อหยุดยั้งผู้เชี่ยวชาญจากต่างโลก เราตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบมีโถงศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่หลัง แต่ทุกอันก็เพียงป้องกันการโจมตีของเซียนราชาได้เท่านั้น พวกมันไร้ประโยชนอย่างมากต่อเซียนจักรพรรดิและจากการมองดูทั่วทั้งทวีป มีเพียงโถงศักดิ์สิทธิ์าจากเมืองทหารรับจ้างและโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเท่านั้นที่สามารถป้องกันการโจมตีจากคนที่อยู่ในขอบเขตดั้งเดิมได้
ถูกต้อง เราไม่อาจพูดคุยเกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตนหรือการสูญเสียของคนคนเดียวได้ในตอนนี้ ทวีปเทียนหยวนของเรากำลังเผชิญอันตรายและทุกคนต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของตัวเอง พี่น้องและข้าจะไปเมืองอัคนีกับเจ้าและยืมโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม หากพวกเขาไม่ยอมทำตาม เราก็เพียงต้องทำให้เขายอม ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายยิหยวนพูดอย่างชอบธรรม ดูผิวเผินเหมือนว่าเขาจะจริงจัง แต่เขาก็เยาะเย้ยอยู่ภายใน เจี้ยนเฉินฆ่าผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนของข้าและทำให้เราอับอายอย่างมาก เราไม่อาจแก้แค้นแทนเจ้าได้ แต่เจ้าก็ไม่อาจหยุดยั้งเราไม่ให้เอาโถงศักดิ์สิทธิ์จากผู้หญิงของเจ้าได้
ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายหยางจิรีบสนับสนุนผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนทันที เขามองไปรอบ ๆ และพูดว่า ทุกท่าน มีใครจะยินดีที่จะไปเมืองอัคนีเพื่อขอยืมโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มและปกป้องทวีปเทียนหยวน ?
เซียนราชาก้าวมาข้างหน้าและพูดอย่างอาจหาญ ข้าปลีกวิเวกและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขัดแย้งใด ๆ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของทวีปเทียนหยวน ดังนั้นข้าจึงไม่อาจอยู่เฉยได้ ให้ข้าไปกับท่านด้วยหากโถงศักดิ์สิทธิ์สามารถป้องกันการรุกรานของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้ เจ้าของโถงก็ต้องได้รับเกียรติที่จะสามารถแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาได้
เซียนราชาอีกหลายคนก็ก้าวเท้าออกมา เกือบทั้งหมดเป็นผู้บ่มเพาะอิสระที่ปลีกวิเวกราวกับฤาษี
สุดท้ายนิกายหยางจิและนิกายยิหยวนก็ส่งเซียนราชา 2 คนเดินทางจากเมืองทหารรับจ้างพร้อมกับเซียนราชาอิสระ 5 คนรวมกันเป็น 9 คน
เจียงหยางซูหยวนเซียวตื่นตระหนกอยู่ภายในเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ เมื่อเขาต้องการพูดอะไรบางอย่างเขาก็หยุดโดยเจียงหยางซูเซียวผ่านข้อความว่า หยวนเซียว นี่ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะไปห้ามพวกเขา คนจากนิกายหยางจิและนิกายยิหยวนนั้นเป็นอริกับเจียนเฉินมาก ดังนั้นหากเจ้าต้องการหยุดพวกเขา ระวังจะโดนหางเลขเข้าไปด้วย กลายเป็นเป้าหมายของการดูถูกเหยียดหยาม
เจียงหยางซูหยวนเซียวเงียบและถอนหายใจภายใน เขาต้องการที่จะช่วยให้โหยวเยว่รักษาโถงศักดิ์สิทธิ์ไว้ แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้
ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างกล่าวว่า ทุกท่าน โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งนั้นไม่ได้เป็นภัยคุกคามแค่ทวีปเทียนหยวนของเราเท่านั้น แม้แต่เผ่าพันธุ์ทะเลและร้อยเผ่าพันธุ์ก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่คล้ายกัน ข้าเชื่อว่าเราควรจะส่งทูตไปยังทั้งสามเผ่าพันธุ์ โดยขอร้องกำลังเสริม แม้ว่าความแข็งแกร่งของเราจะไม่สำคัญมากเมื่อเทียบกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง แต่เราจำเป็นต่องหยุดยั้งพวกเขาไม่ให้เข้ามาด้วยทุกสิ่งที่เรามี
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวได้ถูกต้องแล้ว แต่เราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ เรายังบาดหมางเล็กน้อยกับทวีปสัตว์เทวะและร้อยเผ่าพันธุ์ ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าเราควรคิดที่จะให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลผู้พิทักษ์กล่าว
เชิญเข้ามาบนโลกจิ๋วของเมืองทหารรับจ้าง เราสามารถพูดคุยกันที่นั่นได้…
เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าผนึกใต้เมืองทหารรับจ้างถูกทำลายเพราะเขาอยู่ในโลกจิ๋วหยานหวง ขณะที่เขาเดินทางไปกับเถี่ยต้าไปยังศูนย์กลาง เขาได้เจอพืชพันธุ์บางชนิดในสองสามภูมิภาค ทุกภูมิภาคที่มีพืชผลจะมีน้ำพุแห่งชีวิตเช่นเดียวกับสัตว์อสูรหยานหวง
เจี้ยนเฉินเอาน้ำพุแห่งชีวิตครึ่งหนึ่งจากทุกที่รวมทั้งแก่นที่อยู่ในน้ำพุแห่งชีวิตด้วย แก่นชีวิตคือเป้าหมายที่แท้จริงของเจี้ยนเฉิน มันเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวิญญาณเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เพราะมันคือสิ่งที่เอาไว้สร้างร่างกายใหม่ของนาง
ตลอดระยะทางน้ำพุชีวิตที่เจี้ยนเฉินได้เก็บมาไว้ในวัตถุมิติก็เกินกว่า 40,000 ลิตรเข้าไปแล้ว กว่าครึ่งเป็นของขั้นแรกที่มากกว่าหมื่นลิตรและขั้นที่สองก็มีถึงสองในสามส่วน
น้ำพุแห่งชีวิตขั้นที่สามของระดับอมตะนั้นมีคุณภาพที่สุดเท่าที่เจี้ยนเฉินเจอมา
นอกเหนือจากน้ำพุแห่งชีวิต เจี้ยนเฉินได้เจอสมบัติสวรรค์มากมาย มีโสม, เห็ดหลินจือ, ไผ่และอื่น ๆ ที่เขาจำไม่ได้ ทุกอย่างที่เขามีอายุเกินหนึ่งแสนปีทั้งหมดและพวกมันก็ถูกหล่อเลี้ยงด้วยปราณหยานหวง เนื่องจากมันเกิดและเติบโตที่โลกใบจิ๋วหยานหวง ทำให้พวกมันมีค่ามากขึ้นไปอีก เจี้ยนเฉินเจอกับสมบัติสวรรค์แสนปีที่เขาไม่เคยเจอหรือได้ยินมาก่อย แต่พวกมันก็เป็นอันดับรองเป็นส่วนมาก เจี้ยนเฉินรู้ด้วยว่าจิตวิญญาณกระบี่ไม่ได้สนใจสมบัติสวรรค์เหล่านั้นเลย เหตุผลเดียวที่พวกเขานำพาเขาให้ไปเก็บก็เพราะมันมีประโยชน์ต่อเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินเจอต้นชาหยั่งรู้อีก 3 ต้นและเด็ดใบทั้งหมดออกมา น่าเสียดายที่พวกมันอยู่เพียงแค่ขั้นแรก
นอกจากนี้เจี้ยนเฉินยังได้สังหารสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 7 และ 8 อีกหลายตัวพร้อมกับกับผลึกอสูรที่มีพลังมากกว่าแกนอสูรทั่วไป
แม้ว่าเจี้ยนเฉินใช้เวลาเพียง 7 วันในโลกใบจิ๋วหยานหวงแต่เจี้ยนเฉินก็พึงพอใจอย่างมากกับสิ่งที่เขาได้รับในช่วงนี้ เถี่ยต้าก็เหมือนกัน ในช่วงสองสามวันเขายิ้มแย้มตลอดและไม่อาจปิดปากของเขาได้ เพราะเขาได้แกนอสูรระดับ 7-8 มาหลายอัน
เมื่อเจี้ยนเฉินข้ามเขตแดนที่แห้งแล้งหลายสิบกิโลเมตรและมาถึงอีกหนึ่งภูมิภาคที่เต็มไปด้วยพลังชีวิต เขาพบต้นพีชสูง 3 เมตรโตอยู่ที่นั่น มันเต็มไปด้วยลูกท้อขนาดกำปั้นสีม่วง ความจริงแล้วทั้งหมดมีขนาดแตกต่างกัน
นายท่าน พวกนี้คือลูกท้ออมตะ ลูกท้อเมฆม่วง มันจะออกผลเพียงลูกเดียวทุก ๆ 9,000 ปีและมันจะออกผลเพียง 8 ผลตลอดช่วงชีวิตของมัน การกินมันตรง ๆ จะสามารถเพิ่มระดับการฝึกฝนของคนได้ ลูกท้อที่มีคุณภาพสูงนั้นเป็นอยู่ในขั้น 9 ของระดับอมตะ พวกเขาสามารถเพิ่มการบ่มเพาะได้ถึง 4,500 ปี ลูกท้อที่อยู่ด้านหน้าของท่านเป็นขั้นแรกและการกินมันจะเพิ่มการบ่มเพาะได้แค่ 500 ปีเท่านั้น