เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1270: แร่ทองคำโลหิต (1)
ตอนที่ 1270: แร่ทองคำโลหิต (1)
ในเวลาเดียวกันขวานทองขนาดใหญ่ในมือของเถี่ยต้าที่อยู่บนสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 นั้นก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกันกับของเจี้ยนเฉิน การโจมตีที่ทรงพลังของเขาก็ไม่อาจทำร้ายสัตว์อสูรหยานหวงได้แม้กระทั่งทำลายเกล็ดของมัน สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงรอยแดงจาง ๆ
เถี่ยต้าขมวดคิ้วทันที่ ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรหยานหวงนั้นเกินกว่าที่เขาจะจินตนการได้ แต่เขายังไม่ท้อถอย ตอนนี้เขาจับขวานด้วยมือทั้งสองขณะที่เงื้อเหนือหัวของเขา มันส่องแสงสีทองสว่างพร้อมกับเจตจำนงที่รวบรวมพลังหลอมรวมเข้ากับขวาน
ความลึกลับของสงคราม ทำลายมฤตยู ! เถี่ยต้าตะโกนออกมาพร้อมกับสับขวานที่ปกคลุมด้วยแสงสีทอง
คราวนี้เถี่ยต้าใช้ความลึกลับของของสงคราม ดังนั้นมันจึงมีพลังโจมตีมากกว่าก่อนหน้านี้ของเขา
ตูมม ! ขวานทองกระทบกับสัตว์อสูรหยานหวงและเกิดกระแสพลังงานอย่างรุนแรงแผ่ออกมาจากทุกทิศทางราวกับพายุไต้ฝุ่น หินและฝุ่นผงปลิวขึ้นไปบนอากาศ ฝุ่นผงส่วนใหญ่ได้ร่วงลงมายังที่เถี่ยต้าและสัตว์อสูรหยานหวงอยู่
ความแข็งแกร่งของเถี่ยต้าเพิ่มขึ้นหลังจากที่ฝฝึกฝนอยู่ในพลังงานน้ำวนอยู่สามปี เขามีพลังมากกว่าตอนที่เขาต่อสู้กับตระกูลเต๋า พลังความลึกลับของสงครามของเขาได้มาถึงชั้นสวรรค์ที่ 8 ของเซียนราชา ซึ่งตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเจี้ยนเฉิน
อย่างไรก็ตามการโจมตีของเขายังคงไม่อาจทะลวงผิวหนังของสัตว์อสูรหยานหวงได้ มีเพียงแค่รอยขีดขาว ๆ ใหญ่กว่าเดิมเพียงเล็กน้อย
กรร ! สัตว์อสูรหยานหวงโกรธและคำรามออกมาอย่างเสียงดัง มันยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาและกดเข้าใส่เถี่ยต้า เห็นได้ชัดว่ามันไม่ให้สิ่งมีชีวิตเหมือนกับมดตัวนี้โจมตีมันครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่ามันจะไม่มีสติปัญญา แต่มันก็รับรู้ถึงพลังที่แข็งแกร่งเข้ามา มันไม่อาจทนให้คนที่อ่อนแอกว่ามันทำแบบนี้ได้
ขาของสัตว์อสูรหยานหวงมีขนาดใหญ่อย่างมากเช่นกัน มันกว้างกว่า 20-30 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าบ้านทั่ว ๆ ไป
สัตว์อสูรหยานหวงกระทืบเท้าอย่างรวดเร็ว มันราวกับตราประทับจากฟ้าที่กดลงมายังพื้นดิน เถี่ยต้ารู้สึกถึงแรงกดดันมากมายปรากฏขั้นตั้งแต่ที่เขาอยู่ใต้ฝ่าเท้าของสัตว์อสูร แม้ว่าสัตว์อสูรหยานหวงจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 9 ที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษใด ๆ แต่มันก็ยังคงทรงพลังเมื่อเทียบกับเซียนจักรพรรดิธรรมดา ๆ เพียงแค่การโจมตีทื่อ ๆ มันก็มีพลังมหาศาลและแรงกดดันที่แผ่ออกมาทำให้เหยื่ออ่อนแอ
เถี่ยต้ารู้สึกว่าร่างกายของเขาหนักขึ้นและหนักขึ้น เท้าของเขาจมลงพื้นขึ้นเรื่อย ๆ เท้าของสัตว์อสูรขนาดใหญ่ของสัตว์อสูรหยานหวงก็เหยียบลงไปเรื่อย ๆ จากด้านบน ทุกคนครั้งมันได้กดเถี่ยต้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ความลึกลับของสงคราม เคลื่อนสวรรค์ ! เถี่ยต้าตะโกนออกมาก่อนที่จะใช้ความลึกลับของสงครามอีกครั้ง แสงสีทองอาบไล้เถี่ยต้าสว่างวาบขึ้นมาพร้อมกับประกายแสงแว่บและปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของสัตว์อสูรหยานหวงราวกับหายตัวไป
ความลึกลับของสงคราม ทำลาย ! เถี่ยต้าตะโกนออกมาและถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง เจตจำนงต่อสู้เพิ่มขึ้นถึงขีดสุดและอบอวนอยู่รอบตัวเขาอีกครั้ง มันรวมเข้ากับขวานทองและพลังงานที่มองไม่เห็นได้เสริมให้มันแกร่งขึ้น พลังทำลายล้างปะทุออกมาจากขวานทำให้ดูว่ามันสามารถทำลายได้ทุกสิ่งอย่าง
พลังทำลายนั้นรุนแรงกว่าหนึ่งในการโจมตีที่เรียบง่ายของทำลายมฤตยู แต่ทรงพลังเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นและมีรัศมีการทำลายที่มากกว่า มันทำลายทุกสิ่ง
เมื่อขวานทองฟันเข้าไปที่ด้านหลังของสัตว์อสูรหยานหวง กลิ่นอายทำลายล้างที่แท้จริงก็ระเบิดออกมาพร้อมกับทิ้งรอยบากยาวกว่าสองเมตร ท่าทำลายของเถี่ยต้าสามารถฟันเข้าถึงเนื้อของสัตว์อสูรหยานหวงได้ แม้ว่าจะเป็นบาดแผลที่ลึกเพียง 1 นิ้ว แต่ก็ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบหนังของมัน แต่มันก็ยังคงน่าตะลึง
สัตว์อสูรหยานหวงสะบัดตัวไปมาอย่างรุนแรงขณะที่พยายามที่จะเหวี่ยงเถี่ยต้าที่จับโหนกของมันอย่างแน่นหนาออกไปจากด้านหลังของมัน เขาเหวี่ยงขวานด้วยมือเพียงข้างเดียวและยังคงใช้ท่าทำลายอย่างต่อเนื่อง แผลกว่า 2 เมตรได้ยาวขึ้นและขยายอย่างรวดเร็ว จนถึงเนื้อด้านในสัตว์อสูรหยานหวง เขาสามารถทำลายมันได้
สัตว์อสูรหยานหวงเริ่มคำรามด้วยความโมโหทันทีและกระทืบพื้นอย่างแต่เนื่องแม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ ไม่ว่ามันจะสะบัดตัวมากแค่ไหนก็ยังคงมีคนอยู่ด้านหลังของมัน มันเสริมแรงที่มีขนาดใหญ่เท่ากับคูน้ำด้วยพลังวิญญาณไปยังหางที่แข็งแกร่งของมันและฟาดไปที่เถี่ยต้าราวกับแส้ อย่างไรก็ตามเถี่ยต้าก็เลือกที่จะหลบหลีกด้วยท่าเคลื่อนสวรรค์ ก่อนที่จะกลับมายังที่จุดเดิมและซ้ำบาดแผลให้ลึกลงไปอีก
1 ครั้ง..
2 ครั้ง..
3 ครั้ง..
พลังจากท่าทำลายลดลงอย่างมากตั้งแต่ที่เขาใช้มือเดียว แต่สัตว์อสูรหยานหวงไม่อาจทนการโจมตีของเขาได้ รอยแผลเริ่มลึกขึ้นและลึกขึ้นที่ด้านหลังของมัน แต่มันยังไม่มีเลือด สัตว์อสูรหยานหวงมีเนื้อที่หนาอย่างมาก เถี่ยต้ายังผ่าไม่ได้ถึงครึ่งนึงของมัน
เถี่ยต้าราวกับหมากฝรั่งที่ติดหนึบอยู่กับหลังของสัตว์ร้ายที่ไม่อาจเอาออกได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าสัตว์อสูรจะไม่อาจทำอันตรายต่อเถี่ยต้าได้ แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องยากที่เขาจะสังหารสัตว์อสูรได้เพราะเขายังไม่อาจทำมันได้ลึกลงไป
อีกด้าน เจี้ยนเฉินใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของสัตว์อสูร หลังจากช่วงเวลาหลบหลีกและพริ้วไหว เจี้ยนเฉินก็เข้าใจวิธีการโจมตีของสัตว์อสูรอย่างสมบูรณ์ มันไม่ได้มีอุบายใด ๆ และวิธีการใช้ก็เป็นวิธีดั้งเดิมของสัตว์อสูร แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งเท่ากับเซียนจักรพรรดิ แต่มันก็ไม่ได้ต่างไปจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 นอกจากผิวหนังของมัน
เจี้ยนเฉินซ่อนตัวจากการมองเห็นของสัตว์อสูร เมื่อการปรากฏตัวของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ เขาจึงเดินอย่างเงียบ ๆ ไปอยู่ใต้ตัวของสัตว์อสูรและแทงไปที่ท้องสีขาวราวกับหิมะของมันด้วยความแข็งแกร่งสูงที่สุด
อย่างไรก็ตามการโจมตีไม่อาจทำร้ายสัตว์อสูรหยานหวงได้เลย เจี้ยนเฉินรู้สึกว่ากระบี่ของเขากระทบเข้ากับอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาไม่อาจใช้กำลังใด ๆ ได้
ท้องเป็นจุดอ่อนที่สุดของสัตว์อสูรจำนวนมากและเป็นที่สำคัญที่เชื่อมเข้ากับอวัยวะต่าง ๆ ของมัน น่าเสียดายที่จุดอ่อนของสัตว์อสูรเหล่านี้แข็งแกร่งอย่างมากสำหรับสัตว์อสูรหยานหวง
ดูเหมือนว่าข้าจะต้องโจมตีดวงตา, ปาก, หูและจมูกของมันเท่านั้น เจี้ยนเฉินถอนหายใจอยู่ภายใน ตลอดระยะเวลาในการต่อสู้เขารู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์อย่างมาก ไม่ใช่ว่าคู่ต่อสู้มีพลังมากกว่า แต่เป็นเพราะมันถูกซ่อนมากกว่าที่เขาคิด
เจี้ยนเฉินโผล่ออกมาจากใต้ร่างกายสัตว์อสูรหยานหวงและพริบตาก็มาอยู่ด้านหน้าบริเวณหัวของสัตว์อสูรโดยไม่มีการหลบซ่อนใด ๆ เขาเหวี่ยงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิลงไปที่พื้นทันที ทันทีที่มันถึงพื้นมันก็มุ่งไปทางสัตว์อสูรหยานหวงทันที
ดินถูกตะกุยขึ้นไปบนอากาศ ไม่ว่าปราณกระบี่จะเคลื่อนไปทางไหมันก็จะเต็มไปด้วยฝุ่นทรายและทะยานขึ้นไปบนอากาศ ท้องฟ้ากลายเป็นความยุ่งเหยิง ทั้งเจี้ยนเฉินและสัตว์อสูรหยานหวงก็มีการมองที่เห็นชัด ในสถานการณ์เหล่านี้ก็ไม่อาจมองเห็นกันและกันได้
เจี้ยนเฉินหลับตาและพุ่งฝ่ายเข้าไปในฝุ่นทราย ในขณะที่เขาไม่สนใจว่าพลังวิญญาณจะถูกใช้ไปมากแค่ไหน เขาขยายความรู้สึกของวิญญาณกว่า 1,000 เมตรและใช้มันเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ในขณะที่เขาเข้าใกล้สัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันเขาก็ลบการมีอยู่ของตัวตนของเขาอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรหยานหวงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
เจี้ยนเฉินมาเข้ามาอยู่ในระยะ 20 เมตรจากสัตว์อสูรหยานหวงอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นความเร็วของเขาก็ระเบิดขึ้นภายในพริบตาด้วยทักษะมายาพริบตาและมาถึงด้านหน้าของสัตว์อสูร เขาปล่อยเจตจำนงกระบี่ที่ทรงพลังจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ขณะที่มันเปล่งประกายสีดำและยาวออกไปหลายเมตร พลังที่รุนแรงและทำลายล้างได้พุ่งเข้ามาที่ตาของสัตว์อสูรหยานหวง ทำให้มันเกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ก่อนที่สัตว์อสูรจะหลับตา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้กลายเป็นริ้วสีดำและแทงไปที่ดวงตาของสัตว์อสูรหยานหวงที่มีดวงตาขนาดครึ่งคน พลังบรรพกาลที่ซ่อนอยู่ภายในอาวุธปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงและลามไปยังสมองของสัตว์อสูรหยานหวงเพื่อทำลายประสาทส่วนกลางของมัน
สัตว์อสูรหยานหวงส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดขณะที่มันบิดตัวไปมากับพื้นดิน ฝุ่นและทรายฝุ้งมากขึ้น จนบดบังการมองเห็นที่แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่อาจมองเห็นภาพด้านหน้าของเขาได้
เจี้ยนเฉินแต่เดิมวางแผนที่จะโจมตีดวงตาอีกข้างของสัตว์อสูรให้ตาบอด แต่เมื่อเห็นว่ามันบิดตัวไปมาโดยไม่อาจคาดเดาได้ของมัน เขาทำได้เพียงแค่ปล่อยมันไปโดยไม่มีทางเลือกและถอยออกมาดูสถานการณ์
ความเจ็บปวดของสัตว์อสูรหยานหวงไม่เพียงแต่มาจากที่ดวงตาเท่านั้น มันยังเกิดจากพลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉิน เมื่อใดก็ตามที่พลังเหล่านี้เคลื่อนไหวไปมันจะทำให้เลือดและเนื้อหายไป พลังบรรพกาลเข้ามาในหัวของสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว
สัตว์อสูรหยานหวงรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่วิ่งเข้าสู่สมองของมัน พลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วดุจสายน้ำที่ไหลออกมาจากเขื่อนที่แตก หลังจากนั้นมันก็ถูกพลังบรรพกาลที่มีขนาดเล็กทำลายอย่างช้า ๆ
เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ว่าพลังบรรพกาลหายไป เขาคิดว่า สัตว์อสูรหยานหวงเติบโตอยู่ในโลกจิ๋วหยานหวง ดังนั้นมันต้องมีปราณหยานหวง ปราณหยานหวงนั้นเป็นพลังที่เทียบเท่ากับพลังบรรพกาล ดังนั้นมันจึงมีพลังมากเพียงพอที่จะขับพลังบรรพกาลออกมา การคุกคามด้วยพลังบรรพกาลของข้าที่มีผลต่อสัตว์อสูรได้ลดลงอย่างมาก ผลกระทบที่มากขึ้นจะปรากฏขึ้นเมื่อข้าเจอกับสัตว์อสูรที่อ่อนแอกว่าข้า
พลังบรรพกาลของข้าจะหายไปเมื่อมันไปถึงระบบประสาทส่วนกลางของสัตว์อสูร ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้าจะเป็นเรื่องยากมากที่จะข้าจะฆ่าสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 แม้ว่าจะโจมตีไปที่จุดอ่อนของมันก็ตาม เจี้ยนเฉินมองไปที่สัตว์อสูรหยานหวงอย่างโกรธเคืองเบื้องหน้า แสงในดวงตาของเขาสั่นไหว แต่ราวกับว่าเขาคิดถึงบางสิ่งบางอย่างออก แสงในดวงตาของเขาพลันเป็นวาวโรจน์ วินาทีต่อมาวัตถุเซียนก็บิดออกมาจากกลางหว่างคิ้วของเขาและเคลื่อนไหวตามมือ เขานำบางสิ่งบางอย่างออกมาจากวัตถุเซียน
ในเวลานั้นพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมากก็กระจายตัวออกมาจนแม้แต่สัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ก็ยังต้องหยุดชั่วคราว