เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1274: พลังของเฮายู่ (2)
ตอนที่ 1274: พลังของเฮายู่ (2)
หินหยกเพลิงลุกโชนพุ่งเข้าหาชายชราตัวเตี้ยพร้อมกับพลังที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อใดก็ตามที่มันผ่านไป พื้นที่รอบ ๆ ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนสร้างรอยแตกสีดำ ปริมาณที่เกิดจากหินนั้นน่ากลัวอย่างมาก
ชายชราตัวเตี้ยตกใจกลัว เขาตัวสั่นเมื่อเห็นว่าหินนั้นมีพลังมากแค่ไหน มันเทียบเท่ากับการโจมตีของเซียนราชาขั้นสูงสุด ดังนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะต่อต้านมัน ด้วยความแข็งแกร่งเพียงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 ? แม้ว่าเขาจะต้านทานมันได้ แต่เขาก็จะบาดเจ็บสาหัส
นี่คืออะไร ? เซียนราชาขั้นสูงสุดได้มอบพลังบางอย่างไว้ให้กับเซียนผู้คุมกฏ ? เป็นไปได้อย่างไรที่จะเก็บพลังของเซียนราชาขั้นสูงสุดไว้กับคนอื่น มันน่ากลัวจริง ๆ ชายชราตัวเตี้ยไม่อาจเก็บท่าทางเดิมได้อีกต่อไป เขาพุ่งถอยกลับมาทันทีและขอร้องให้เซียนราชาทั้ง 8 ช่วยเหลือเขาด้วยความกังวล ทุกท่าน ป้องกันการโจมตีนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไม่อาจมีอะไรต่อรองได้อีก
เซียนราชาอีก 8 คนก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน ไม่มีใครคิดว่าไป๋ไฮจะมีของที่ยอดเยี่ยมที่สามารถใช้งานออกมาได้ทันที หนึ่งในพวกเขาจะต้องบาดเจ็บสาหัสหากพวกเขาถูกโจมตี
ก่อนที่ชายชราตัวเตี้ยจะขอความช่วยเหลือ เซียนราชาทั้งแปดคนได้วางแผนที่จะช่วยเหลือกันและกันเพื่อป้องกันการโจมตีของหินหยกเพลิง เพราะชายชราตัวเตี้ยได้อยู่ด้านหน้าของพวกเขา ก่อนที่จะโดนหินจู่โจมในนามพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำเป็นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปได้
พลังงานจำนวนมหาศาลพรั่งพรูออกมาจากเซียนราชาทั้งแปด พวกเขาทั้งเก้าได้ปล่อยฝ่ามือเข้าโจมตีหินหยกเพลิงในเวลาเดียวกัน พลังปราณได้ปะทะกับก้อนหินพร้อมกับทำให้บริเวณรอบ ๆ สั่น
ตูม ! พร้อมกับการระเบิดจนทำให้ผู้คนหูหนวก มันดูราวกับดอกไม้ไฟที่ถูกจุดเหนือเมืองอย่างสวยงาม คลื่นปะทะได้ทำให้บริเวณรอบ ๆ สั่นก่อนที่จะแผ่ไปไกลออกไป พลังปราณส่วนหนึ่งยังแผ่ไปถึงเมืองอัคนี
ไป๋ไฮและเซียนผู้คุมกฏเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากกับคลื่นพลังปราณที่เกิดจากการปะทะของเซียนราชา มันมีพลังอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ตัวเองป้องกันคลื่นพลังจากการปะทะก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปในเมือง หากการปะทะกระทบไปถึงเมืองที่อยู่ด้านล่าง คนที่อ่อนแอกว่าพวกเขาจะบาดเจ็บหรือล้มตาย
โหยวเยว่เข้าใจเรื่องเหล่านี้เหมือนกัน ดวงตาของนางเจือแววเยือกชา ขณะที่คทาเทพจันทราปรากฏอยู่ที่มือของนาง อัญมณีขนาดเท่ากำปั้นที่อยู่บนหัวไม้เท้าส่องแสงสลัว ๆ โหยวเยว่เหวี่ยงคทาและสาดแสงจันทร์บริสุทธิ์ออกไปทันทีหลังจากที่อัญมณีบนหัวไม้เท้าเปล่งแสง มันจะเห็นได้ถึงม่านพลังบาง ๆ ที่กำลังป้องกันเมืองอยู่
ม่านพลังเริ่มสั่นอย่างรุนแรงขณะที่พลังปราณพุ่งเข้าปะทะ แต่โชคดีที่มีม่านพลังป้องกันเศษพลังปราณบางส่วนได้ มันไม่ใช่การโจมตีโดยตรงของเซียนราชา ม่านพลังจึงสามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อพลังงานม้วนกวาดไปทั่วท้องฟ้าได้สงบลง ม่านพลังป้องกันจากพลังดวงจันทร์ก็ได้หายไปอย่างเงียบ ๆเช่นกัน โหยวเยว่มองไปที่คทาที่งดงามเบื้องหน้าด้วยความปวดใจ เห็นได้ชัดว่านางได้เห็นว่ามีพลังเหลืออยู่ในคทาไม่มาก
พลังที่สั่งสมอยู่ในไม้เท้าของอาจารย์ข้าเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ โหยวเยว่ลอบถอนใจอยู่ภายใน แต่ไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวลุกไหม้อย่างรวดเร็ว นางจ้องไปยังเซียนราชาทั้ง 9 ด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร ถ้าหากนางลงมือไม่ทันเวลา เมืองอัคนีของนางคงจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพวกเขาทั้ง 9 คน
เซียนราชาทั้ง 9 ลอยอยู่บนอากาศพร้อมกับใบหน้าที่มืดหม่น ทุกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ครึ่งหนึ่งของพวกเขาอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 5 ในนั้นมีเพียงแค่ชั้นสวรรค์ที่ 7 เพียง 2 ตยเท่านั้นที่หินหยกเพลิงไม่อาจทำความเสียหายได้จากการร่วมมือของพวกเขา
จิตสังหารอย่างรุนแรงของชายชราร่างเตี้ยได้มองมาทางไป๋ไฮ เขามีพลังของเซียนราชา แต่เขาก็เกือบจะได้รับบาดเจ็บจากเซียนผู้คุมกฏเพียงคนเดียว แม้ว่าเขาจะไม่ว่าเซียนผู้คุมกฏเคยใช้การโจมตีที่น่ากลัวนี้มาก่อนหรือไม่ แต่เขาเห็นเพียงแค่ว่าชื่อเสียงของเขาจะเสื่อมเสียลงไปอย่างถาวร
ดีมาก ข้าไม่คิดเลยว่าหลังจากผ่านไปพันกว่าปีจากการจำศีลแล้ว จะมีคนไม่กี่จำพวกที่ไม่กลัวตายเหมือนกับเจ้าในทวีปเทียนหยวน เจ้าเป็นเพียงแค่เซียนผู้คุมกฏ แต่เจ้ากล้าที่จะดูถูกเซียนราชา ? เพียงนิดเดียวก็ไม่อาจส่งผลเช่นนี้ได้ เด็กน้อย ข้าไม่สนใจว่าใครจะอยู่เบื้องหลังของเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอนในวันนี้ ชายชราตัวเตี้ยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักหน่วง เขาไม่คิดว่าไป๋ไฮจะมีพลังมากพอที่จะช่วยเขาด้วยการมีของอย่างหินหยกเพลิง แต่ในคราวนี้เพื้อชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์ในทวีป ตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างได้อยู่ข้างเขา และไม่ใช่แค่นั้นยังมีเซียนราชาแห่งทวีปเทียนหยวนทุกคนที่อยู่ข้างเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีความหวาดกลัวเลย
เจ้าอย่ากล้าให้มาก ! หากเจ้าแตะต้องตัวท่านตาของข้า ไป๋ไฮ พวกเจ้าทั้ง 9 ก็ไม่อาจออกไปจากเมืองอัคนีได้ในวันนี้ เสียงที่เย็นชาดังกึกก้องทันทีที่ชายชราตัวเตี้ยพูดจบ โหยวเยว่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังของแสงจันทร์บินขึ้นมาเหนือจวนเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มก็ลอยเข้ามาอยู่เหนือศรีษะของนาง
การคุกคามของโหยวเยว่ทำให้เซียนราชาทั้ง 9 มองมาที่นางทันที พวกเขาทั้งหมดโกรธอย่างมาก พวกเขาทั้ง 9 มาพร้อมกับพรรคพวกที่ทรงพลังพอที่จะต่อกรกับโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม แต่ก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยปาก ศักดิ์ศรีของเขาที่ถูกเหยียบย่ำโดยเซียนผู้คุมกฎ มันก็เกือบจะทำให้วุ่นวายพอแล้ว ตอนนี้หญิงสาวที่ไม่ได้เป็นเซียนราชายังกล้ามาขู่พวกเขาอีก ทำให้พวกเขาอับอายอย่างมาก
เซียนราชาอิสระที่สวมเสื้อคลุมสีแดง ในขณะที่เขากำลังจะก้าวไปเขาก็ถูกหยุดโดยผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายหยางจิ เขาพูดผ่านทักษะสื่อสารว่า พี่ฮวาหลู่ ครั้งนี้เรามายืมโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหา อย่าเสียเวลาเกินไป ปล่อยเรื่องนี้ให้ข้า ในตอนแรกผู้อาวุโสสูงสุดเต็มใจอย่างมากที่จะทำให้เซียนราชาอิสระทั้ง 5 สอนบทเรียนกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี แต่เขากังวลว่าจะถูกลากเข้าไปด้วย เขาจึงละทิ้งความคิดเหล่านั้นเพียงตอนนี้ ในขณะเดียวกันเรื่องการยืมโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มก็เพื่อปกป้องผนึกที่อยู่ภายในเมืองทหารรับจ้าง มันเป็นสิ่งที่ทำเพื่อโลกทั้งใบ ดังนั้นจึงไม่อาจหักหาญได้ เป็นผลทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดต้องทำให้ดีโดยไม่ต้องมีเรื่องให้กังวล แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะตามหาเขาในภายหลัก เขาก็เชื่อว่าเขาจะได้การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดทั่วทวีปเทียนหยวน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่กลัว
ฮึ่ม เจี้ยนเฉิน นิกายของเราไม่อาจมีพลังที่จะจัดการกับเจ้า แต่เราสามารถทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มได้ เมื่อโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทอดทิ้งบุกเข้ามาในทวีปเทียบนหยวน ตราบใดที่เราสามารถทำให้เจ้าอ่อนแอลงเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหาอะไร แม้ว่าเราจะต้องทนแรงกดดันบ้าง หากเจ้ากล้าที่จะใช้สิ่งนี้เพื่อก่อให้เกิดปัญหากับเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งทวีปจะกลายเป็นศัตรูของเจ้า เขาเยาะเย้ยอยู่ภายในใจ
เขาถูกล่อลวงให้ไปเอาโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มและออกไปทันทีเมื่อเขาได้มันมา เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเก็บความโกรธของเขาที่มีต่อโหยวเยว่และพูดอย่างเยือกเย็นและไม่มีอารมณ์ใด ๆ เจ้าต้องเป็นโหยวเยว่ ทวีปเทียนหยวนกำลังเผชิญหน้ากับอันตรายที่ส่งผลต่อชะตากรรมของมัน มีอุโมงค์มิติไปยังต่างโลกที่ถูกผนึกไว้ภายใต้เมืองทหารรับจ้างและผนึกได้ถูกทำลายไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญโลกอื่นสามารถรุกรานเราได้ทุกเมื่อ พวกเราเก้าคนมาเพื่อขอยืมโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มของเจ้าเพื่อช่วยปกป้องอุโมงค์มิติใต้เมือง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะส่งมอบโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มมาให้เราทันที เราจะได้นำมันกลับไปที่เมืองทหารรับจ้างพร้อมพวกเรา
โหยวเยว่แค่นเสียง โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มไม่ได้เป็นของข้า มันเป็นของอาจารย์ข้า หากเจ้าต้องการยืม เจ้าต้องถามอาจารย์ของข้าแทน
ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายหยางจิก็พูดไม่ออกทันที ในความเป็นจริงแล้วเขาคิดว่าโหยวเยว่จะปฏิเสธ ดังนั้นจึงมีหลายเหตุผลและข้อแก้ตัวมากมายเพื่อนำมาต่อสู้กัน เขาบังคับจิตใจที่จะไม่ใช้กำลัง แต่เขาไม่คิดเลยว่าโหยวเยว่จะตอบสนองโดยการให้เขาไปถามนางฟ้าเฮายู่โดยตรงสำหรับโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม
เซียนราชา 4 คนจากตระกูลผู้พิทักษ์รู้ว่านางฟ้าเฮายู่ยังไม่ตาย วิญญาณของนางยังคงอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเสมอ นอกเหนือจากศักดิ์ศรีที่นางเหลือไว้ในอดีตแล้ว นางก็เป็นไปได้แค่เพียงเสือกระดาษที่พึ่งพาเพียงโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มในการปกป้องวิญญาณของนาง
อย่างไรก็ตามเซียนราชาอิสระทั้งห้าไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับวิญญาณนางฟ้าเฮายู่ ชายชราตัวเตี้ยเอ่ยว่า นางฟ้าเฮายู่ตายไปกว่าหมื่นปีแล้ว เจ้าต้องการให้เราไปถามนางฟ้าเฮายู่ที่ตายไปแล้ว ? นี่มันเรื่องตลกอย่างมาก ทุกคนต้องการปกป้องอุโมงค์มิติ มันเป็นเรื่องกดดันเป็นอย่างมาก เราไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อไป เอาโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มมาให้พวกเรา และเราจะกลับไป
ทันทีที่ชายชราพูดจบ โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มที่อยู่เหนือโหยวเยว่ก็เปล่งประกายแสงจันทร์สีเงินอย่างเข้มข้น มันขยายตัวอย่างรวดเร็วและกลายเป็นโถงขนาดใหญ่และสง่างาม เพียงชั่วครู่เดียวก็ปรากฏอยู่เหนือหัวพวกเขาราวกับเมฆฝน
ฮึ่ม ใครพูดว่าข้าตายแล้ว ? เสียงที่เย็นชาดังขึ้นจากโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม ปรากฏภาพขนาดใหญ่ของคนเรืองรางขึ้นด้านบน เสื้อผ้าของนางกระพือเบา ๆ อย่างรวดเร็วพร้อมกับที่นางอารมณ์ไม่ดี นางคือนางฟ้าโหยวเยว่ แต่ใบหน้าของนางพร่ามัวและมองไม่ชัด
ชายชราที่พูดว่านางตายไปแล้วก่อนหน้าเผยให้เห็นท่าทางประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกถึงวิญญาณที่ทรงพลังอย่างมากจากเทพธิดาเฮายู่ที่กดดันวิญญาณของเขาทำให้เขารู้สึกว่าไม่อาจขยับไปไหนได้
จะ-จะ-เจ้าคือนางฟ้าเฮายู่… ชายชราตัวเตี้ยตกใจอย่างมากพร้อมกับการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
วิญญาณของนางฟ้าเฮายู่นี้ทรงพลังอย่างมาก ไม่น่าแปลกใจเลยว่านางสามารถรอดมาได้จนถึงตอนนี้โดยที่วิญญาณของนางยังไม่สลาย เซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสองตระกูลต่างตกใจอยู่ภายใน แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกกลัว ด้วยพลังของนางฟ้าเฮายู่ไม่เพียงพอที่จะคุกคามพวกเขา พวกเขาเดาว่านางอาจจะไม่อาจเอาวิญญาณออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ได้
นางฟ้าเฮายู่ต้องมองทั้ง 9 อย่างเย็นชาและพูดอย่างหนักแน่นอนว่า ข้ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจในเมืองทหารรับจ้างแล้ว จิตวิญญาณปฐพีของเมืองทหารรับจ้างแข็งแกร่งขึ้นแล้ว แม้แต่นางจะไม่อาจขับไล่พวกเขาได้ แต่มันก็ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าเจ้าเอาโถงศักดิ์สิทธิ์ของข้าไป
ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายยิหยวนพูดว่า โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเป็นโถงศักดิ์สิทธิ์เดียวที่สามารถต้านทานการโจมตีจากเซียนจักรพรรดินอกจากเมืองจักรพรรดิ มันไม่สำคัญว่าโถงศักดิ์สิทธิ์จะปิดผนึกตราประทับได้หรือไม่ เราก็ต้องลองดู นางฟ้าเฮายู่ โปรดให้เรายืมมันด้วย พร้อมกับพลังกดดันออกจากร่างของเขา มันแผ่พุ่งไปยังโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม