เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1293: ขอบเขต
ตอนที่ 1293: ขอบเขต
เจี้ยนเฉินใช้วัตถุวิญญาณที่สามารถซ่อนอยู่ในพื้นที่ ก่อนที่จะเข้าวัตถุมิติพร้อมกับเถี่ยต้าเพื่อรักษาตัวเอง หากเขาจะฟื้นฟูร่างบรรพกาลเพียงอย่างเดียว เขาต้องใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมาอยู่ในช่วงที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด เขาต้องการความช่วยเหลือจากวัตถุจิตวิญญาณเพื่อช่วยในการฟื้นฟู
เถี่ยต้าก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันหลังจากใช้ท่าแหลกลาญ เขาเสียพลังไปถึงครึ่งหนึ่ง เขาก็ต้องการใช้เวลาฟื้นฟูเช่นกัน
ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วยาม เจี้ยนเฉินก็ฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ด้วยความสามารถของวัตถุจิตวิญญาณ ด้วยการที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 8 เขาได้กลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด เถี่ยต้าก็เช่นกัน อย่างไรก็ตามขณะที่เขาขยายขอบเขตของตัวเองออกไป เขาก็ถือแกนอสูรหยานหวงระดับ 8 เพื่อฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสีย
เจี้ยนเฉินไม่รบกวนเถี่ยต้าและออกจากวัตถุมิติอย่างเงียบ ๆ สัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ที่พวกเขาร่วมมือกันต่อสู้ยังคงหลั่งเลือดอยู่เต็มพื้น
เจี้ยนเฉินเก็บผลึกอสูรระดับ 10 มาหลังจากนั้นเขาก็พบว่ามันมีขนาดเท่ากับไข่ไก่และพลังงานที่อยู่ภายในก็มากมายอย่างมาก จนเขาได้แสดงท่าทางออกมา มันมากกว่าแกนอสูรระดับ 9 อย่างชัดเจน
สิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่รู้ก็คือพลังงานที่อยู่ในแกนอสูรนั้นมากเกินกว่าที่สัตว์อสูรระดับ 10 จะมี อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นแกนอสูรระดับ 10 เขาจึงยังไม่รู้ถึงความแตกต่างเพราะไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบ
เจี้ยนเฉิยเก็บผลึกอสูร เขารับรู้ได้ว่าเขาไม่ควรทิ้งศพของมัน เขาเก็บไว้ในวัตถุมิติและให้วัตถุจิตวิญญาณคงสภาพมัน เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะให้ผลึกอสูรกับเถี่ยต้าและเก็บซากของมันไว้เพื่อตัวเอง
เจี้ยนเฉินเดินทางมาถึงด้านหน้าผลอมตะและเอากล่องไม้ที่กว่า 360 กล่องออกมา เขาเก็บผลไม้ใส่กล่องไม้เหล่านั้นก่อนที่จะเอาไผ่จิตวิญญาณม่วงไปด้วย
น้ำหล่อเลี้ยงไผ่เป็นสมบัติมหัศจรรย์สำหรับการฟื้นฟูวิญญาณ ในเวลาเดียวกันก็สามารถกลั่นและเสริมสร้างวิญญาณได้เช่นกัน ดังนั้นมันจึงมีค่ามากกว่าผลอมตะ สิ่งที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวคือมันมีไผ่ไม่เยอะ มันมีเพียงแค่ 100 ต้นเท่านั้นและกลั่นน้ำของมันออกมาได้เพียงหยดเดียวจากไผ่แต่ละต้น ในขณะที่การฟื้นฟูวิญญาณของเขาต้องใช้น้ำไผ่ถึง 3-4 หยดไม่มากไปกว่านี้ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะได้รับน้ำไผ่กว่าร้อยหยด แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาเขาได้บ่อยครั้ง
เจี้ยนเฉินยังพบสมบัติสวรรค์ที่อยู่ใกล้ ๆ และมีระดับที่ต่ำกว่า แต่มันก็ยังเป็นระดับอมตะทั้งหมด
เจี้ยนเฉินยังคงทำต่อ เขาเดินไปตามรอยเท้าของสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ที่พวกเขาเพิ่งฆ่าและหาซากศพของสัตว์อสูรหยานหวงอีกตัวที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร มันเต็มไปด้วยบาดแผลที่ร้ายแรงและเลือดที่แห้งกรัง ผิวของมันถูกเผาจนไหม้เกรียมและยังคงมองเห็นประกายไฟฟ้าและอากาศก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้
เจี้ยนเฉินรู้สึกยินดีอย่างมากเพราะสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 และผลึกอสูรของมันยังคงอยู่
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเดินไปยังซากศพอย่างรวดเร็วหลังจากที่ยืนยันได้ว่าไม่มีอันตรายใด ๆ เขาได้ใช้ความพยายามอย่างมากอีกครั้งเพื่อที่จะเก็บผลึกอสูรที่เล็กกว่าไข่ไก่
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะที่เขาต้องมองพลังงานที่อยู่ภายในผลึกอสูรในมือของเขา แม้ว่าพลังงานภายในจะไม่มากเท่ากับผลึกอสูรก่อนหน้า แต่มันก็ยังคงเป็นผลึกอสูรระดับ 10 พลังที่อยู่ด้านในมากพอที่จะทำให้เจี้ยนเฉินตกใจ
ที่สำคัญกว่านั้นเขาได้เจอกับผลึกอสูรระดับ 10 นั้น มันเป็นโชคอย่างแท้จริง
เจี้ยนเฉินเก็บผลึกอสูรและซากศพไปอย่างยินดี เขามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบสมบัติสวรรค์
นี่ต้องไม่ใช่อาณาเขตของสัตว์อสูรหยานหวงตัวนี้ ข้าสงสัยว่ามันมาจากไหนและพยายามที่จะครอบครองพื้นที่ที่มีผลอมตะและไผ่จิตวิญญาณม่วง น่าเสียดายที่มันอ่อนแอและถูกฆ่าจากสัตว์อสูรหยานหวงที่มีพลังมากกว่า เจี้ยนเฉินคิด เขามองไปรอบ ๆ และพบร่องรอยอื่นอย่างรวดเร็ว
นี่ควรจะเป็นทางที่สัตว์อสูรหยานที่ตายเมื่อกี้ ข้าสามารถกลับไปยังดินแดนของมันได้หากข้าเดินตามไปยังเส้นทางเหล่านี้ ข้าสงสัยเหลือเกินกว่ามันจะมีของล้ำค่าหรือไม่ ? เจี้ยนเฉินคิด หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็รีบเดินตามรอยไปทันที
เจี้ยนเฉินเดินผ่านป่าอย่างระมัดระวังพร้อมกับลบตัวตนของเขา เขาเดินทางไปกว่าพันกิโลเมตรและหลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ระหว่างทาง ในที่สุดก็มาถึงดินแดนของสัตว์อสูรหยานหวงตัวนั้น
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินก็หยุดอยู่ห่างออกไปไม่มากและไม่ได้เข้าใกล้อย่างระมัดระวัง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ท่วมท้นจากระยะไกล ดินแดนนี้ถูกครอบครองโดยสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 อีกตัว
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรหยานหวง แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่อาจไปยั่วยุมันได้ แม้ว่ามันจะอ่อนแอที่สุดในระดับ 10 ก็ตาม เขาเกือบจะตายจากสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ที่บาดเจ็บสาหัสก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ทรงพลังเหมือนแต่ก่อน เพียงแค่เขาและเถี่ยต้าไม่อาจจัดการมันได้หากว่ามันปกติดีพอ
ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นไปได้ว่าสัตว์อสูรหยานหวงตัวนี้ได้ไล่ตัวก่อนและทำให้มันต้องต่อสู้กับช้างเจ้าถิ่น
ไม่กี่วันต่อมา เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าก็เดินอยู่ในป่าและพบสมบัติสวรรค์มากมาย ไม่เพียงแต่มีผลไม้หลากหลายทั้ง 5 ธาตุ แต่เขายังพบชาหยั่งรู้และต้นท้อเมฆม่วง ที่ทำให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากขึ้น เจี้ยนเฉินได้พบวัตถุดิบบางอย่างที่ใช้ในการหลอมอาวุธ เขาไม่รู้จักมัน ดังนั้นพวกมันจึงถูกพบโดยจิตวิญญาณกระบี่ แม้ว่าพวกมันจะไม่จำเป็นสำหรับการหลอมกระบี่ม่วงฟ้า มันก็ยังมีวัสดุที่สำคัญสำหรับวัตถุอมตะอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามระดับสูงที่สุดที่เขาได้พบลูกท้อคือระดับ 5 ไม่ใช่ว่าเขาไม่เจออันที่มันสูงกว่า ระดับที่สูงกว่าเหล่านั้นถูกปกป้องโดยสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ทำให้เจี้ยนเฉินได้แต่มองจากระยะไกล ๆ
เจี้ยนเฉินพักอยู่สองเดือนเต็มในโลกจิ๋วหยานหวง เขาเหลือเวลาเพียง 1 เดือนก่อนที่เขาต้องจากไป เขาจะคำนวนเวลาทุกวันเพียงเพื่อที่เขาจะไม่พลาดช่วงเวลาใด ๆ
ข้าอยู่ที่นี่ได้อีกเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น ข้าต้องเริ่มเดินทางกลับหลังจากนั้น ครึ่งเดือนนี่น่าจะพอสำหรับข้าแล้ว เจี้ยนเฉินคำนวนอย่างระมัดระวัง
ไม่เพียงแต่มีสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ในป่าที่ไม่รู้ขนาด แต่ก็ยังมีสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 เพียงไม่กี่ตัวอีกด้วย เจี้ยนเฉินต้องระวังอยู่เสมอ เขาสังหารสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 เมื่อพวกเขาเจอและหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ไปให้ไกลเมื่อเขาเจอพวกมัน
แม้ว่าเขาจะไม่อาจตรวจจับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ตัวใดก็ตามที่ซ่อนความแข็งแกร่งของมัน แต่เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณกระบี่ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ที่จะมาปรากฏตรงหน้าของเขาอย่างฉับพลัน
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้ายังคงเดินทางต่อไปกว่าหมื่นกิโลเมตรก่อนที่จะหยุดเพราะมีสิ่งขวางกันจากปราณหยานหวง สิ่งที่ขวางกั้นนั้นสูงขึ้นไปบนฟ้าและยังลึกลงไปในดิน มันราวกับเป็นกำแพงธรรมชาติที่แยกให้สองดินแดนออกจากกัน
ปราณหยานหวงยังคงโคจรอยู่ภายในทำให้มันดูราวกับเป็นหมอก บางครั้งมันก็หนาทึบ บางครั้งมันก็เบาบาง มันยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ด้านใน พวกมันทั้งมัวและพร่าเลือนราวกับว่าถูกบดบังจากหมอก
ตาของเจี้ยนเฉินก็เบิกกว้างทันทีจากการที่เห็นเพียงครั้งเดียว เขาไม่อาจทำอะไรได้ แต่หัวใจของเขาเต้นแรง ลูกท้อเมฆม่วงอยู่ด้านหน้าของเขาและด้วยความเข้าใจของเขา เขาสามารถบอกได้เลยว่ามันสูงกกว่าระดับที่เขาได้รับมาก่อน
จือหยิง,ฉิงโซว นั่นเป็นลูกท้อเมฆม่วงระดับสูง ลมหายใจของเจี้ยนเฉินติดขัด เขาสามารถรับรู้ถึงสมบัติสวรรค์จนถึงระดับ 6 ในตอนนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เกินกว่าระดับนั้น เนื่องจากเขาไม่อาจแยกแยะระดับของลูกท้อเมฆม่วงภายในกำแพงนั้นได้ แสดงว่ามันเกินกว่าระดับ 6
จิตวิญญาณกระบี่ปรากฏขึ้นเหนือเจี้ยนเฉิน พวกเขายังเห็นการป้องกันที่ขวางเส้นทางของพวกเขาและพวกเขาก็ตกใจพร้อมกับเต็มไปด้วยความยินดี จากนั้นเขาก็มองไปยังต้นท้อเมฆม่วงภายในกำแพง ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง แต่ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็บอกว่า นายท่าน ลูกท้อเมฆม่วงนั้นอยู่ในระดับ 9 เพียงแค่ผลเดียวก็สามารถเพิ่มพลังได้เท่ากับการบ่มเพาะ 4,500 ปี แค่ผลเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้มนุษย์กลายเป็นอมตะ แต่เราไม่อาจได้รับมันได้ จือหยิงกล่าวด้วยความเสียใจ
เจี้ยนเฉินทั้งตะลึงและยินดีที่ได้รู้ว่ามันเป็นระดับ 9 แต่เขาก็ตกตะลึงถึงสิ่งที่จือหยิงพูดในตอนท้ายว่า เราไม่อาจเอามันมาได้ ? ทำไม ?
นายท่าน สิ่งที่กำลังกีดขวางพวกคือปราณหยานหวง สิ่งกีดขวางนี้เรียกกันว่าขอบเขต โลกจิ๋วหยานหวงที่ปรากฏส่วนใหญ่แต่ก่อนนั้นจะไม่มีขอบเขตและมีน้อยมากที่จะมี แต่ก็ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ สิ่งที่โลกจิ๋วหยานหวงมีนั้นเป็นขอบเขตขั้นสูง ในโลกอมตะของเราอธิบายว่าโลกจิ๋วหยานหวงเป็นสิ่งที่มนุษย์ที่เข้าไปด้านในและกลับออกมาเป็นอมตะ เนื่องจากของที่อยู่ภายในเป็นของในระดับสูงและอยู่ในระดับเดียวกับโลกอมตะ สัตว์อสูรหยานหวงภายในมีพลังมากจนเกือบจะเข้าขั้นอมตะทั้งหมด ซึ่งเทียบไม่ได้กับด้านนอก ราชาสัตว์อสูรหยานหวงบางตัวถึงขั้นราชันย์อมตะหรือจักรพรรดิอมตะ จือหยิงอธิบายอย่างโหดร้าย
เจี้ยนเฉินอ้าปากค้างหลังจากที่รู้เรื่องและตกใจอยู่ภายใน เขาไม่อาจแม้กระทั่งจัดการกับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 ยิ่งสัตว์อสูรระดับราชันย์อมตะหรือจักรพรรดิอมตะหยานหวง เพียงแค่มันพ่นลมหายใจใส่เขาสักครั้ง เขาคงอาจจะสลายกลายเป็นผง