เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1342: วิญญาณชั่วร้ายของหมอก (2)
ตอนที่ 1342: วิญญาณชั่วร้ายของหมอก (2)
มีเพียงสายตา 2-3 ดวงในตอนแรกก่อนที่มันจะเพิ่มเป็น 10 พวกมันตามหลังเจี้ยนเฉินและยาดริมอย่างรวดเร็วตามทางที่พวกเขาเดินทางไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อดวงตามีจำนวนกว่า 20 ดวง พวกมันทนไม่ไหวอีกต่อไปและเริ่มโจมตีเจี้ยนเฉินและยาดริม มือกว่า 20 มือแทงเข้าไปที่หัวของเจี้ยนเฉินและยาดริมอย่างรวดเร็ว พวกมันดูเหมือนจะถูกบีบอัดจากหมอกและดูเหมือนรอบ ๆ ตัวทำให้มันเป็นไม่ได้ที่จะหาตัวพบถ้าไม่มองเข้าไปใกล้ๆ
เจี้ยนเฉินและยาดริมถูกกระตุ้นในตอนที่ดวงตาเริ่มโจมตีเข้าหาพวกเขา โดยไม่มองหันหลังกลับไป เจี้ยนเฉินบีบอัดปราณกระบี่ในมือของเขาและแกว่งมันกลับไป ส่งปราณกระบี่ที่ทรงพลังกระจัดกระจายออกไป มือเกาะเริ่มกระจายตัวออกทันทีเมื่อพวกมันชนเข้ากับปราณกระบี่ ในขณะที่ปราณกระบี่เริ่มพุ่งไปที่ดวงตาเหล่านั้นโดยไม่ได้ลดพลังลงเลยแม้แต่น้อย
เสียงร้องแหลมดังออกมาทันทีจากข้างหลัง ปราณกระบี่ได้พุ่งไปที่หมอก และมีรูปร่างไม่ชัด 2-3 ตัวปรากฏออกมาก่อนที่มันจะหายไป รูปร่างนั้นไม่เหมือนกัน บางกลุ่มเป็นรูปร่างมนุษย์ บางกลุ่มเป็นรูปร่างสัตว์อสูร และมีกลุ่มที่รูปร่างแปลกประหลาดอีกด้วย ทุก ๆ รูปร่างต่างมีดวงตา
ดวงตามากมายเริ่มกระจายตัวออกไป
ในเวลาเดียวกัน พลังงานที่พุ่งออกไปทันที ยาดริมโจมตีออกไปเช่นกัน พลังตรีศูลได้ถูกบีบอัดในมือของนางเรียบร้อยแล้ว และนางขว้างมันออกไปเหมือนกับหอก ตรีศูลได้แยกตัวเป็น 2 และ 4 และ 8 ยิงออกไปอย่างรวดเร็วไปที่ดวงตาที่อยู่ข้างหลังพวกเขา
ตรีศูลทั้ง 8 ดูเหมือนจะแกว่งไปด้วยกันในขณะที่พลังงานที่ทรงพลังพุ่งออกมาจากมัน ทำให้หมอกที่อยู่รอบ ๆ ปั่นป่วนอย่างร้ายแรง พวกมันฉีกมือเกาะง่าย ๆ ก่อนที่จะโจมตีไปที่ดวงตาเหล่านั้น
ทุก ๆ ตรีศูลมีความแม่นยำอย่างเฉียบคม แต่ละการโจมตีไปที่หมอกนั้นทำให้เกิดเสียงร้องโหยหวนออกไป รูปร่างพวกนั้นที่โดนโจมตีไปได้กระจายหายไปทันที
ดวงตาพวกนั้นดูเหมือนจะมีความฉลาด หลังจากเสียพรรคพวกไปนับโหล พวกมันก็ดูเหมือนจะเข้าใจความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินและยาดริม พวกถอยกลับอย่างรวดเร็วและหายเข้าไปในหมอกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดโดยไม่ลังเล
เจี้ยนเฉินและยาดริมมองไปที่ทิศทางที่สายตาหายไป พวกเขาขมวดคิ้วและหลังจากนั้นก็คิดไปสักครู่
เจี้ยนเฉินพูด ” ช่างเป็นอะไรที่แปลกจริง ๆ ไม่เพียงแต่พวกมันเคลื่อนที่อย่างเงียบ ๆ แล้ว พวกมันยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก ที่จริงข้าไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่ามีตัวตามเรามา ถ้าข้าไม่รับรู้การโจมตีของพวกมัน เราก็คงจะอยู่ในสถานการณ์ลำบากก่อนที่เราจะรู้มันเสียอีก”
“พวกนั้นต้องเป็นวิญญาณร้ายที่ฝ่าพระบาทกล่าวถึงแน่ ๆ เลย พวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตในหมอก พวกมันยากที่จะต่อกรด้วยแต่โชคดีที่พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งมากมาย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าเราไล่มันกลับไปได้อย่างง่ายดาย เราต้องระมัดระวังทุกฝีก้าวต่อไป ถ้าเราไปเจอกับวิญญาณระดับจักรพรรดิ มันจะยากในการรับมือ แม้เราจะอยู่ด้วยกันก็ตาม” ยาดริมพูด นางค่อนข้างเครียด
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเงียบๆ แม้ว่าเขาจะมีพลังการต่อสู้ระดับเซียนจักรพรรดิตอนนี้ เขาก็ยังไม่ใช่คู่ที่เหมาะสม เซียนจักรพรรดิสามารถตายได้ที่นี่ และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมยังต้องเคลื่อนที่ไปอย่างระมัดระวัง ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเตรียมการและระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา
ยาดริมได้สูญเสียการเชื่อมต่อกับนกอเวจีไปอีกครั้ง นางดึงผลึกอเวจีออกมาและใช้ทักษะลับเพื่อเรียกนกอเวจีโดยการใช้พลังที่อยู่ในผลึกเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้เดินทางต่อไปได้
ขณะที่พวกเขาเคลื่อนที่ไป เจี้ยนเฉิน และ ยาดริม เผชิญหน้ากับการโจมตีลับ ๆ อย่างต่อเนื่องจากวิญญาณที่อยู่ในหมอก แต่ภายใต้การระมัดระวังของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาพบมันก่อนที่จะกำจัดมันออกไปด้วยความเร็วแสง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาเดินทางไปข้างหน้าในทะเลแห่งความสิ้นหวังอย่างต่อเนื่อง วิญญาณชั่วร้ายที่พวกเขาไปเจอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้พวกเขาได้เจอกับวิญญาณระดับเซียนราชาและยังไปเจอกับขั้นสูงสุดอีกด้วย
พวกเขาไม่รู้ว่ามันมีจำนวนเท่าไหร่ในหมอก เจี้ยนเฉินและยาดริมได้กำจัดไปหลายพันตัวแต่จำนวนพวกมันดูเหมือนจะไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว พวกมันยังปรับเปลี่ยนเส้นทางอย่างต่อเนื่องตามการบิดเบือนของมิติอีกด้วย
ตามตลอดเส้นทาง พวกเขาถูกซุ่มโจมตีโดยวิญญาณชั่วร้ายขั้นสูงสุดกว่า 10 ตัว วิญญาณพวกนี้ไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายได้ การโจมตีของพวกมันส่งผลต่อวิญญาณดังนั้น พวกเขาจึงทนทุกข์กับมัน อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่ใช่คนธรรมดาๆ ในขณะที่ยาดริมก็มีความแข็งแกร่งสูงสุดเช่นกัน ดังนั้นการโจมตีทางวิญญาณจึงไม่กระทบกับพวกเขามากมายอะไร
ทันใดนั้นเสียงเกรียดร้องแสบหูได้ดังขึ้นมาจากข้างหน้า มันแฝงไปด้วยการโจมตีเข้าไปในวิญญาณ
เจี้ยนเฉินและยาดริมหยุดพร้อมกัน พวกเขาจ้องไปข้างหน้าอย่างเคร่งเครียดและป้องกันตนเอง ที่จริงแล้ววิญญาณของพวกเขาสั่นเล็กน้อยเนื่องจากเสียงกรีดร้องของวิญญาณ
“ระวังด้วย ที่นั่นอาจจะมีวิญญาณชั่วร้ายที่ทรงพลังมาก ๆ อยู่ข้างหน้าก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นระดับจักรพรรดิ” ยาดริมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราวกับว่านางกำลังจะเจอกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่เทพเจ้าแห่งท้องทะเลก็ยังพูดว่าพวกมันยากที่จะต่อกรด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถประมาทได้เลย
เจี้ยนเฉินก็เครียดเช่นกัน เขามองไปรอบ ๆ และพูดขึ้น ” เราควรอ้อมไปหรือไม่ ? ”
ทันทีที่เจี้ยนเฉินพูดจบ หมอกก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาและปั่นป่วนอย่างรุนแรง รูปร่างสีขาวค่อย ๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาทั้งสองคน มันดูเหมือนกับหมอกอย่างสิ้นเชิง มันเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่มีรูปร่างมนุษย์พร้อมกับหางที่ยาว มันไม่มีใบหน้า มีเพียงแต่ดวงตาที่เปล่งแสง 4 ดวง
ด้วยการปรากฏตัวของวิญญาณที่ชั่วร้าย ทำให้มีดวงตาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ รอบ ๆ มันมีจำนวนนับโหลได้
พวกเขาทั้งสองคนถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มของวิญญาณ พวกมันทุก ๆ ตัวทรงพลังอย่างมาก ซึ่งตัวที่อ่อนแอที่สุดเป็นเซียนราชา
“ดูเหมือนว่าเราออกไปไม่ได้แล้วแหละ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเสียใจ เขารู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้
“ข้าจะไปจัดการกับวิญญาณชั่วร้ายระดับจักรพรรดิ เจ้าไปจัดการกับตัวอื่นที่เหลือ” ยาดริมพูดอย่างหนักแน่นก่อนที่จะเคลื่อนที่ออกไปอย่างแน่วแน่ นางพุ่งเข้าไปหาวิญญาณระดับจักรพรรดิและเริ่มปะทะการต่อสู้ด้วยตรีศูลของนาง
วิญญาณชั่วร้ายดูเหมือนจะมีร่างกายที่สัมผัสได้ เมื่อมันปะทะกับ ยาดริมครั้งแรง มันสร้างคลื่นพลังและทำให้หมอกรอบ ๆ ปั่นป่วนอย่างร้ายแรง
ยาดริมตัวสั่นอยู่ในใจ นางไม่ได้เปรียบเลยด้วยซ้ำในการโจมตีครั้งแรก อย่างไรก็ตาม วิญญาณชั่วร้ายไม่ได้สนใจเป็นพิเศษในการต่อสู้แต่มันมุ่งไปที่วิญญาณของผู้คนแทน การต่อสู้แบบเปิดเป็นเพียงความอ่อนแอ ยาดริมถูกเติมเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีนักเนื่องจากความแข็งแกร่งของนางเท่ากับกับการต่อสู้แบบเปิด นางไม่กล้าระงับอารมณ์ของนางอีกต่อไป โจมตีด้วยวิญญาณอาฆาตทั้งหมดที่นางมี
ทางฝั่งตรงข้าม เจี้ยนเฉินเริ่มต่อสู้กับวิญญาณรอบ ๆ เช่นกัน ปราณกระบี่ที่ทรงพลังของเขาถูกบีบอัดในมือขวาของเขาขณะที่เขายิ่งมันผ่านหมอกด้วยทักาะมายาพริบตา ทำให้วิญญาณเหล่านั้นแตกกระจายทีละตัว ๆ เนื่องจากความแตกต่างของความแข็งแกร่งมันมากเกินไป บวกกับความจริงที่ว่าปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินถูกบีบอัดจากกฎ วิญญาณจึงไม่สามารถทำให้เขาได้เลย พวกมันหายไปในทันทีที่พวกมันถูกแทงโดยปราณกระบี่
เมื่อเห็นว่าลูกน้องของมันถูกทำลายโดยเจี้ยนเฉินอย่างง่ายดาย วิญญาณระดับจักรพรรดิก็โมโหมาก มันส่งเสียงกรีดแหลมดังและวิญญาณรอบ ๆ ทั้งหมดก็เริ่มพุ่งเข้าไปหาเจี้ยนเฉิน ราวกับว่ามันได้รับคำสั่ง
เจี้ยนเฉินจัดการกับเหล่าวิญญาณในการโจมตีเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะหลบโดยใช้ทักษะมายาพริบตา อย่างไรก็ตาม วิญญาณเหล่านี้กำเนิดมาจากหมอก ดังนั้นแล้วพวกมันจึงอยู่ในสภาพแวดล้อมของพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้ช้าไปกว่าเจี้ยนเฉินเลย พวกมันล้อมรอบเข้าไว้ทันทีอีกครั้งภายในพริบตาก่อนที่จะพุ่งใส่เขา
เจี้ยนเฉินป้องกันด้วยร่างบรรพกาลด้วยขีดจำกัดสูงสุดของมันและมีแสงสีขาวห่อหุ้มตัวเขาไว้ เขาปกป้องตัวเองโดยใช้กฎ