เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 135 : หนีจากเมืองเวค
ตอนที่ 135: หนีจากเมืองเวค
เมืองเวคเป็นเมืองชั้นที่สามที่มีจำนวนคนอยู่อาศัยถาวรในปริมาณน้อย แต่เพราะว่ามันใกล้กับเทือกเขาสัตว์อสูรและมีดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อยู่รอบ ๆ ทำให้คนที่เข้าออกเมืองนั้นมีจำนวนมาก
มีพ่อค้าและคนหาบเร่พยายามที่จะขายสินค้าบนถนนในเมืองเวค บางร้านขายเกือบทุกอย่างที่จินตนาการได้ แต่ท่ามกลางร้านเหล่านั้น โรงเตี๊ยมก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก ทหารรับจ้างและพ่อค้าในรถม้าก็เดินเข้ามาที่ถนนไม่หยุดหย่อนในขณะที่พวกเขาก็ซุบซิบพูดคุยกัน เสียงอึกทึกครึกโครมบนถนนเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าเมืองเวคนั้นเฟื่องฟูอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เอง ก็มีความวุ่นวายใหญ่เกิดขึ้นที่ถนนบางที่ ทุกคนเห็นร่างคนหนุ่มที่ใส่เสื้อโชกเลือดที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูง หลายคนสังเกตเห็นท่าทางของชายหนุ่มคนนี้ พวกเขาทั้งหมดชี้และเริ่มคุยกัน
“ใครก็ตามที่หยุดชายคนนั้นไว้ จะได้รับรางวัลอย่างงามจากตระกูลเทียนซ่ง ! “
ในเวลาเดียวกัน เสียงคำรามราวกับฟ้าร้องก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ร่างที่ดูกระเซอะกระเซิงบางร่างก็วิ่งตามมาจากด้านหลังในขณะที่เขาไล่ตามชายหนุ่มคนนี้มาด้วยความเร็วที่เท่าเทียมกัน
“ตระกูลเทียนซ่ง พวกเขามาจากตระกูลเทียนซ่ง…”
“ตระกูลเทียนซ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเวค ข้าไม่กล้าที่จะไปยั่วยุคนที่ทำให้ตระกูลเทียนซ่งโกรธหรอก”
หลังจากที่ได้ยินชายวัยกลางคนพูด ทหารรับจ้างหลายคนก็เริ่มซุบซิบกัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสักคนตัดสินใจที่จะไล่ตามเด็กหนุ่มหรือขวางทางเข้าเอาไว้
ชายหนุ่มคนนั้นคือเจี้ยนเฉิน คนที่ฆ่านายน้อยของตระกูลเทียนซ่งไปอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับทหารรับจ้างที่เป็นพวกเดียวกัน
เจี้ยนเฉินรีบไปที่ประตูเมือง ในตอนที่เขาเจอกับอุปสรรคขวางทาง เขาก็จะเหินผ่านมันไปด้วยความเร็วสูงมาก แม้จะเป็นอย่างนี้ แต่ก็ยังมีเซียนผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ยังไล่ตามเขามาติด ๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ย่างก้าวพริบตาของเจี้ยนเฉินทำให้เขาได้เปรียบ ดังนั้นแม้ว่าชายวัยกลางคนพวกนั้นจะแข็งแกร่งกว่าเขา แต่พวกเขาก็ยังไล่ตามไม่ทัน พวกเขาต้องอยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเป็นอย่างน้อยพร้อมด้วยพลังเซียนธาตุลมถึงจะไล่ตามทันเจี้ยนเฉินได้ ไม่เช่นนั้นความเร็วของพวกเขาก็พอทำได้แค่ไล่ตามเจี้ยนเฉินไปอย่างยากลำบาก นอกเหนือไปจากนั้น พวกเขาไม่สามารถข้ามสิ่งกีดขวางไปได้ง่าย ๆ เหมือนเจี้ยนเฉิน
แม้ว่านี่จะเป็นเมืองชั้นสาม พื้นที่ของเมืองเวคก็ใหญ่มาก แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะรีบไปที่ประตูเมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่มันก็ใช้ระยะเวลาระยะเทียนเล่มหนึ่งกว่าที่เขาจะไปถึง
เจี้ยนเฉินทุ่มเทกำลังทั้งหมดไปในการหนี ในตอนนี้เขาจึงหายใจหอบค่อนข้างมาก เขาเพิ่งต่อสู้อย่างดุเดือดที่ใช้พลังเซียนไปค่อนข้างมาก และในตอนนี้เขายังบาดเจ็บอีก ภาระที่เขารู้สึกในการวิ่งอย่างสุดกำลังพร้อมด้วยสภาพแบบนี้นั้นหนักสำหรับเขามาก นอกเหนือไปจากนั้น ร่างของเขายังรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจากบาดแผลทุก ๆ ครั้งที่เขาเคลื่อนไหว ดังนั้นประสาทของเจี้ยนเฉินจึงกำลังได้รับการทดสอบอย่างหนัก
ด้านหน้า หอคอยของเมืองที่ยิ่งใหญ่และใหญ่โตกำลังเข้ามาในระยะสายตา พร้อมด้วยการที่อยู่บนนั้น ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินอยู่ห่าง 5 กิโลเมตรจากประตูเมืองแล้ว ในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญด้านหลังเขาอยู่ห่างจากเขา 50 เมตร
เมื่อเห็นประตูเมืองเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ หัวใจของเจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายออกมาเล็กน้อย แม้ว่าความเร็วของเขาจะไม่ได้ลดลง เจี้ยนเฉินตระหนักดีถึงความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะตระกูลเทียนซ่งซึ่งมีอิทธิพลในเมืองเวคได้ ในตอนนี้ ทั้งหมดที่เจี้ยนเฉินต้องการคือหนีออกจากเมืองเวค ถ้าเป็นแบบนั้นได้ อันตรายก็จะลดลงอย่างมาก
“โฮก!”
ในตอนนี้เอง เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของสัตว์อสูรก็ดังขึ้นมาด้านหลังเจี้ยนเฉิน ในขณะที่เสียงคำรามจางกายไป เสียงคำรามใหม่ก็ตามมาหลังจากนั้น
“ข้า เทียนซ่งหลี จะตบรางวัลอย่างหนักให้กับคนที่จับชายคนนั้นได้ ! “
เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูจากเสียงแล้ว เขาก็สามารถคาดคะเนถึงความแข็งแกร่งของชายคนนี้ได้ และนี่เป็นคนที่ไม่สามารถจะสู้ด้วยได้
“เทียนซ่งหลี ข้าเดาว่าเขาคงมาจากตระกูลเทียนซ่ง” เจี้ยนเฉินคิดในใจ เจี้ยนเฉินเพิ่มความเร็วและวิ่งให้ไวกว่าเดิม
ทหารรับจ้างและพ่อค้าที่ได้ยินเสีงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของเทียนซ่งหลีก็นิ่งอึ้งไป
“เทียนซ่งหลี นั้นมันหัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเวคหรือเปล่า”
“คนที่กล้าทำให้ตระกูลเทียนซ่งโกรธและถูกไล่ตามมาอีก หมายความว่าคนคนที่ถูกไล่ตามนี้ต้องแข็งแกร่งมาก ลืมมันไปเถอะ ข้าเพิ่งจะตัดผ่านเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษมาหมาด ๆ มันจะดีกว่าถ้าข้าไม่เข้าไปยุ่ง”
“ตระกูลเทียนซ่งแข็งแกร่งที่สุดในเมือง ถ้าข้าช่วยหยุดคนคนนี้ เทียนซ่งหลีคงจะตอบแทนข้าอย่างงาม บางทีข้าอาจจะได้กลายเป็นสหายของตระกูลเทียนซ่งก็ได้ นี่เป็นบางอย่างที่เป็นโชคของข้ามาก”
ทหารรับจ้างบางคนที่คุ้นเคยกับฐานอำนาจของเมืองเวคก็เริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับสถานของเทียนซ่งหลี ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน ชายที่แข็งแกร่งบางคนก็เริ่มชั่งใจในการช่วยตระกูลเทียนซ่ง
เห็นได้ชัดว่าตระกูลเทียนซ่งนั้นค่อยข้างมีชื่อเสียงในเมืองเวค ในตอนที่เขาพูดออกมา ทหารรับจ้างหลายคนก็ถูกโน้มน้าว เมื่อได้เห็นเจี้ยนเฉินที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา ทหารรับจ้างหลายคนก็เอาอาวุธเซียนออกมาและเดินมาขวางทางเจี้ยนเฉิน
ในตอนที่ทหารรับจ้างคนหนึ่งเดินออกมา ทหารรับจ้างคนอื่นทั้งหมดก็ตามออกมาเพื่อที่จะช่วยขวางทางเจี้ยนเฉินเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ถูกล่อลวงโดยรางวัลที่เย้ายวนจากเทียนซ่งหลี เพราะว่า ตระกูลเทียนซ่งนั้นทรงพลังกว่าที่คิด
เมื่อเห็นกลุ่มคนด้านหน้า ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็แข็งทื่อทันที แต่เพราะเขาเคลื่อนไปอย่างเร็วมาก เขาจึงไปถึงที่ข้างหน้ากลุ่มในช่วงเวลาน้อยกว่าห้าวินาที
ในตอนที่เจี้ยนเฉินกำลังจะปะทะ ทหารรับจ้างก็เอาอาวุธเซียนออกมาในขณะที่พวกเขาก็พุ่งเข้ามา
เจี้ยนเฉินไม่ต้องการจะติดอยู่ในการต่อสู้ เขากระโจนไปบนอากาศและหลบกลุ่มที่กำลังเข้ามา เขาลงบนหลังคาของร้านค้าและหายเข้าไปในฝูงชน
“เจ้าคิดจะหนีไปไหน!”
ทันใดนั้นเองกลุ่มของจอมยุทธที่มีปฏิกิริยาที่เร็วกว่าก็บินตามเขาไป และฟันเจี้ยนเฉินไปด้วยอาวุธเซียนของพวกเขา
จิตสังหารปริมาณมากเปล่งประกายออกมาจากเจี้ยนเฉิน ในขณะที่กระบี่วายุโปรยสีเงินก็ปรากฏขึ้นมา เขาหวดมือออกไป และมันก็บินไปทางคนที่ไล่ตามมา
“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”
เสียงอาวุธเซียนปะทะกันดังขึ้นมาในอากาศในขณะที่เลือดก็กระจายออกมาด้านล่าง ทหารรับจ้างบางส่วนที่ไล่ตามเจี้ยนเฉินมาหล่นลงไปที่พื้นเหมือนว่าว หลังจากที่พวกเขาหล่นไปที่พื้น ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวจากพวกเขา ทันใดนั้นเอง เลือดก็ไหลออกมาจากคอและหน้าอกของพวกเขาลงไปยังพื้นเบื้องล่างของพวกเขา