เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1377: การตัดผ่านเสร็จสมบูรณ์
ตอนที่ 1377: การตัดผ่านเสร็จสมบูรณ์
ในขณะนี้ พลังแห่งการมีอยู่อันยิ่งใหญ่ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง พลังแห่งการมีอยู่ที่ปะทุพร้อมกันสี่ครั้งทำให้พลังงานในบริเวณโดยรอบวุ่นวาย ลมก็กรรโชกแรงยิ่งขึ้นในทุกทิศทาง
โหยวเยว่ก็ตัดผ่านเป็นเซียนราชาทำให้มีเมฆสีรุ้งมากขึ้น ขณะนี้มีเมฆสี่ชั้นบนท้องฟ้า
เมื่อรวมสี่ชั้น เมฆก็แผ่ขยายไปทั่วพื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน มันเกือบจะห่อหุ้มพื้นที่ห่างออกไปหนึ่งล้านกิโลเมตร แม้จะอยู่ในเมืองทหารรับจ้างเส้นขอบฟ้าก็ส่องแสงสีรุ้งมาไกล ๆ
เซียนราชาที่รวมตัวกันในเมืองทหารรับจ้างต่างก็มองไปในทิศทางของเมืองอัคนี พวกเขาต่างก็ตกใจ
การที่คนสามคนเป็นเซียนราชาพร้อมกัน มันก็เป็นเรื่องน่าตกใจมากพอในทวีปเทียนหยวน มันหายากมากแม้ในสมัยโบราณที่เจริญรุ่งเรือง ตอนนี้มีคนสี่คนกลายเป็นเซียนราชาและพวกเขาทั้งหมดก็อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรู้สึกประหลาดใจ
ดี ดี ยอดเยี่ยม มีเซียนราชาเพิ่มมาอีกคนแล้ว พลังของทวีปของเราเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย คลื่นลูกใหม่มาแรงกว่าคลื่นลูกเก่าจริง ๆ ” เซียนราชาขั้นสูงสุดยกย่อง
“การตัดผ่านเป็นเซียนราชามันง่ายกว่าเดิมอย่างนั้นหรือ ? ” หลายคนเชื่อมโยงการตัดผ่านของทั้งสี่คนในเวลาเดียวกันพร้อมกับคำถามนี้
ย้อนกลับไปที่เทือกเขาใกล้เมืองอัคนี โหยวเยว่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อนางตัดผ่าน แสงสีขาวใสและอ่อนโยนกระพริบบนร่างของนาง ราวกับว่านางเป็นพระจันทร์ในตอนกลางคืน
แสงสีขาวจำนวนมหาศาลมารวมตัวกันอยู่ข้างหลังนางและควบแน่นเป็นดวงจันทร์ทรงกลมขนาดใหญ่ มันสว่างมากและส่องแสงนุ่มนวลออกมา มันเพิ่มความสว่างให้กับสภาพแวดล้อมโดยเพิ่มสีสันให้กับโลกสายรุ้งที่เมฆสร้างขึ้น
เจี้ยนเฉินจ้องมองโหยงเยว่จากระยะไกล เขารู้ว่าวิธีการบ่มเพาะของโหยวเยว่นั้นยอดเยี่ยมมาก มันมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการบ่มเพาะระดับเซียนหรือวิธีการบ่มเพาะของเซียนจักรพรรดิ นี่คือสาเหตุที่ปรากฎการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทันทีที่นางตัดผ่านเป็นเซียนราชา
หลังจากนั้นตู่กูเฟิงและไป๋เหลียนก็ตัดผ่านเป็นเซียนผู้คุมกฏ พลังงานจากลูกท้อเมฆม่วงยังคงอยู่ มันยังคงดำเนินต่อไปเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเขาผ่านระดับการบ่มเพาะเหมือนมีดร้อนที่ตัดผ่านเนย
บนท้องฟ้า เมฆสีรุ้งห้าสีสองชั้นก่อตัวเงียบ ๆ ล้อมรอบพื้นที่หนึ่งร้อยกิโลเมตร อย่างไรก็ตามเนื่องจากเมฆรุ้งเจ็ดสีสี่ชั้นครอบคลุมท้องฟ้าอยู่แล้ว ทั้งสองชั้นจึงถูกมองข้ามไป มีหลายคนที่ไม่สังเกตเห็น
คนแปลกหน้ามาปรากฏตัวขึ้นโดยรอบ เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดเซียนผู้คุมกฏจากตระกูลสันโดษและตระกูลโบราณ แม้แต่เซียนสวรรค์ก็เข้ามาด้วย
“ไม่น่าน่าเชื่อเลย สี่คนที่ตัดผ่านเป็นเซียนราชานั้นจริง ๆ แล้วอยู่ในเทือกเขานี้ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีจอมยุทธ์ผู้ทรงพลัง 4 คนซ่อนตัวอยู่ที่นี่” เซียนผู้คุมกฏจากตระกูลสันโดษพูดเบา ๆ เขาไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ชู่ว อย่าส่งเสียงดังมากเกินไป เราไม่ต้องการรบกวนผู้อาวุโสทั้งสี่ที่กำลังตัดผ่าน ไปดูผู้อาวุโสทั้งสี่กันเถอะ”
เซียนผู้คุมกฏและเซียนสวรรค์เริ่มก้าวไปสู่เทือกเขาลึกอย่างระมัดระวัง พวกเขาต้องการเห็นเซียนราชาทั้งสี่คนด้วยตาตัวเอง
ในท้ายที่สุด กลุ่มของพวกเขาก็หยุดห่างออกไป 10 กิโลเมตร พวกเขามองเห็นเซียนราชาจากที่ไกลมาก
1, 2, 3, 4, 5 , 6 จริง ๆ แล้วมี 6 คนกำลังฝึกฝนอยู่ที่นั่น พวกเขาทั้งหมดถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีขาว เราไม่สามารถมองเห็นได้ว่าพวกเขาเป็นใคร และมีคนอื่นอยู่ใกล้ ๆ คอยคุ้มกันพวกเขา อืม ? ชายคนนั้นประหลาดมาก เขามีกระบี่สองเล่มที่หลังของเขา”
“นั่นไม่ใช่หมอก มันถูกสร้างขึ้นจากพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก พระเจ้า ข้าตาฝาดไปหรือไม่ ? พลังงานบริสุทธิ์ของโลกนี้กำลังล่องลอยมาจากร่างกายของพวกเขา ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกว่าพลังงานในเทือกเขานี้แข็งแกร่งมากกว่าที่อื่นหลายเท่า … ”
“นั่นดูเหมือนจะไม่ใช่พลังงานของโลก มันหนาแน่นและบริสุทธิ์กว่าพลังงานของโลกที่เรารู้จัก พวกเขาเป็นใครกัน ?
เซียนผู้คุมกฏและเซียนสวรรค์พูดคุยกันและรู้สึกตกใจ พวกเขาพูดเบา ๆ หรือใช้ทักษะการสื่อสารเพื่อหารือ พวกเขากลัวที่จะรบกวนผู้คนที่นั่น
“ทุกคน,ข้าคือหัวหน้ากลุ่มทหารับจ้างอัคนี เจี้ยนเฉิน สหายของข้ากำลังบ่มเพาะที่นี่ โปรดอย่าเข้าไปใกล้พวกเขา มันจะเป็นการรบกวนสมาธิ มิฉะนั้นข้าคงต้องขัดขวางพวกเจ้า” เจียนเฉินพูดกับพวกเขาทั้งหมดผ่านทักษะการสื่อสาร
อะไรนะ ! หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ! ข้าได้เจอกับหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจริงหรือนี่”
“เขาคือคนที่มีกระบี่สองเล่ม ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจี้ยนเฉิน. ผู้คนเหล่านั้นได้รับการคุ้มกันจากเซียนจักรพรรดิเจี้ยนเฉินจริง ๆ ..”
“ทุกคนถอย เราไม่ควรเข้าใกล้เกินไป..”
“ข้าได้เห็นเซียนจักรพรรดิเจี้ยนเฉินด้วยตาเปล่าจริง ๆ รึ ? หรือข้ากำลังฝัน … ”
เจี้ยนเฉินเปิดเผยตัวตนของเขา มันทำให้ผู้คนในบริเวณใกล้เคียงประหลาดใจทันที หากพวกเขาไม่รู้สึกตื่นเต้นด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว สายตาของพวกเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความกลัวหรือความตื่นเต้นที่ผิดปกติ
ชื่อของเจี้ยนเฉินเป็นที่กล่าวขานไปทั่วทั้งทวีปมานานแล้ว ไม่เพียงแค่ว่าเพราะเขาเป็นเซียนจักรพรรดิคนที่สี่ของทวีป แต่เขาก็เป็นคนที่มีอำนาจมากเช่นกัน หลังจากที่เอาชนะเซียนจักรพรรดิทั้งสองจากทวีปสัตว์เทวะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เจี้ยนเฉินกลายเป็นตำนานไปทั่วทั้งทวีป เขาเป็นที่รู้จักเหมือนกับโมเทียนหยุนในตำนาน หรืออาจมีชื่อเสียงมากกว่า เพราะเขาฝึกฝนมาไม่ถึงหนึ่งศตวรรษ
แม้แต่ในสมัยโบราณก็ไม่เคยมีใครที่เป็นเซียนจักรพรรดิโดยที่อายุยังไม่ถึงหนึ่งร้อยปี
ผู้คนที่ถูกชักให้เข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เชื่อฟังอย่างว่านอนสอนง่ายหลังจากที่ได้รู้ถึงตัวตนของเจี้ยนเฉิน พวกเขาทั้งหมดถอยห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรด้วยตนเอง พวกเขาเฝ้าดูจากที่ไกลและยังหายใจเข้าออกอย่างแผ่วเบา พวกเขากลัวว่าจะรบกวนผู้คนที่ทำการบ่มเพาะหากพวกเขาหายใจเสียงดังเกินไป
เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนก็ปรากฏตัวขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีเซียนราชาคนใดถูกชักนำเข้ามา แต่มีเซียนผู้คุมกฏและเซียนสวรรค์มากหน้าหลายตา อย่างไรก็ตามไม่มีใครที่กล้ามาใกล้กว่านี้หลังจากที่ถูกเตือนอย่างจริงจังจากผู้คนที่เข้ามาเฝ้าดูก่อนหน้านี้ เหมือนกับว่าพวกคนที่มาก่อนทำหน้าที่คุ้มกันผู้คนที่กำลังบ่มเพาะ
มีผู้คนของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีอยู่ด้วย พวกเขาภาคภูมิใจอย่างมากเมื่อได้ยินว่าหัวหน้าของพวกเขาอยู่ที่นี่
กลุ่มคนที่กำลังตัดผ่านใช้เวลาประมาณ 10 วันจึงจะเสร็จสิ้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมากคราวนี้โดยเฉพาะหมิงตง เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เขากลายเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8, ตามมาด้วยหวงหลวนและโหยวเยว่ที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ในทางตรงกันข้ามไป๋ไฮกลับช้าที่สุด ในฐานะคนที่เป็นเซียนผู้คุมกฏมาหลายปี ตอนนี้เขาเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6
ตู่กูเฟิงได้กลายเป็นเซียนราชาพร้อมกับพวกเขาทั้งสี่คน ในตอนแรกเขาอยู่ในระดับเซียนสวรรค์ชั้นสวรรค์ที่4 ไป๋เหลียนคือคนที่อ่อนแอที่สุด แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น นางก็มาถึงขั้นสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 9 ในฐานะเซียนผู้คุมกฎ นางใกล้จะได้เป็นเซียนราชา
พวกเขาทั้งหมดมีความสุขเมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาจากการบ่มเพาะโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมิงตง
เขามาถึงระดับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 ก้าวกระโดดจากระดับเซียนผู้คุมกฎ ทำให้เขาแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด
“ชาหยั่งรู้นี้ช่างน่าประหลาดใจมาก มันสามารถช่วยให้ข้าเข้าใจความลึกลับของโลกได้อย่างง่ายดาย มันทำให้ง่ายกว่าการเข้าใจความลึกลับที่อยู่ใต้เมืองทหารรับจ้างหลายร้อยเท่า” หมิงตงกล่าวอย่างตื่นเต้น
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างแผ่วเบา เขามีความสุขกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของพวกเขา
ลูกท้อเมฆม่วงระดับ 5 เพียงพอสำหรับมนุษย์ที่จะกลายเป็นอมตะในหนึ่งร้อยวันและเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิได้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมลูกท้ออมตะจึงเป็นทรัพยากรล้ำค่าแม้ในโลกอมตะก็ตาม มันมีค่ามาก อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถดูดซับพลังงานทั้งหมดจากลูกท้ออมตะได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านความแข็งแกร่งและความสามารถ มันสิ้นเปลืองไปมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมลูกท้อเพียงลูกเดียวสามารถทำให้พวกเขากลายเป็นเซียนราชาได้
หลายคนที่รวมตัวกันรอบ ๆ ในที่สุดก็กล้าพอที่จะเข้าใกล้พวกเขา พวกเขาแสดงความยินดีกับพวกเขาอย่างจริงใจ แต่เมื่อพวกเขาค้นพบว่าผู้คนที่ตัดผ่านเป็นส่วนหนึ่งของบุคคลระดับบนของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ปากของพวกเขาก็อ้าค้างอีกครั้ง
พวกเขาตะลึงกับไป๋เหลียนเป็นพิเศษ นางเคยเป็นเซียนปฐพีมาก่อน และภายในไม่กี่วันนางได้กลายเป็นเซียนผู้คุมกฏชั้นสวรรค์ที่ 9 ไปแล้ว นางมีพลังยิ่งกว่าพวกเขา ดังนั้นผู้คนที่แสดงด้วยความยินดีจึงรู้สึกงุนงง พวกเขาพยายามยอมรับความเป็นจริง
ในขณะนั้นพวกเขายังคิดว่าการฝึกฝนเป็นเวลาหลายพันปีของพวกเขานั้นสูญเปล่า