เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1395: กลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี
ตอนที่ 1395: กลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี
“การฝึกฝนผ่านร้อนผ่านหนาว การฝึกฝนที่ยากลำบากมาหลายสิบปีทำให้พวกเจ้าเติบโตจากทหารรับจ้างไร้ชื่อเสียงไปสู่มหาอำนาจที่ปกครองสูงสุดทั่วทั้งทวีป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าสามารถเจิดจ้าจากที่เคยอยู่ในมุมมืดได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทวีปเทียนหยวนจะเปลี่ยนไปเพราะพวกเจ้า ในอนาคตพวกเจ้าจะกลายเป็นกลุ่มที่รุ่งโรจน์และเป็นคนที่มีเกียรติของเหล่าทหารรับจ้างแห่งอัคนี และเป็นผู้พิทักษ์กลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เราจะมีพลังมากขึ้นเพราะมีพวกเจ้าอยู่ ในฐานะหัวหน้าคนที่สองของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ข้าจะให้ชื่อใหม่แก่พวกเจ้า พวกเจ้าจะมีชื่อว่ากลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี ! ” เจี้ยนเฉินพูดด้วยความชื่นชมและยินดี เสียงของเขาดังขึ้นราวกับระฆังก้องกังวานไปทั่วเทือกเขาด้วยอำนาจสูงสุด
“เราขอบคุณท่านหัวหน้าสำหรับชื่อใหม่ที่มอบให้เรา เราจะลืมชื่อเดิมและใช้ชีวิตในโลกนี้ในฐานะกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี เราจะปกป้องความยิ่งใหญ่ของเหล่าทหารรับจ้างอัคนีด้วยความเต็มใจ เราจะทุ่มเทชีวิตของเราเพื่อปกป้องชื่อของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เราจะไม่ยอมแพ้และเราจะไม่ทำให้หัวหน้าผิดหวัง” โม่เทียนตอบอย่างมีพลังเสียงดัง เสียงของเขามีอารมณ์ที่หลากหลายและดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความตั้งใจที่แน่วแน่มาก
โม่เทียนเป็นเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนแอในเมืองเวคแห่งอาณาจักรวายุคราม หนึ่งในจำนวนทหารรับจ้างจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในจุดต่ำสุดของสังคม เขามักจะต่อสู้กับสัตว์อสูรที่โหดร้าย เข้าใกล้ความตายครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อหารายได้และพยามยามมีชีวิตอยู่รอด ในเวลานั้นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือการได้เป็นเซียนปฐพี ในขณะที่การได้เป็นเซียนสวรรค์นั้นเป็นความฝันของเขา
นี่เป็นเพราะเซียนสวรรค์คือจอมยุทธ์ที่น่าประทับใจอย่างมากในอาณาจักรวายุคราม เมื่อเขาเป็นเซียนสวรรค์ เขาจะสามารถเพลิดเพลินไปกับความมั่งคั่งและความรุ่งโรจน์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่เพียงแต่เขาจะทำตามความต้องการของเขาในอดีตเท่านั้น แต่เขายังได้กลายเป็นเซียนราชาที่มีชื่อเสียง ถึงแม้จะมีมุมมองทั้งทวีป แต่ตอนนี้เขาอยู่ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาไม่เคยปรารถนาว่าจะได้มายืนในจุดนี้ในอดีต
ในเวลานี้เขารู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับการตัดสินใจอันชาญฉลาดที่เขาเคยทำมาก่อน หากเขาไม่ได้ปฏิญาณด้วยชีวิตของเขากับเจี้ยนเฉิน มันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมีชื่อเสียงในทุกวันนี้
เซียนราชาที่รวมตัวกันที่ด้านนอกภูเขาต่างถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ เซียนราชาหลายสิบคนเหล่านี้จะหมุนเวียนมาเข้าประจำตำแหน่งผู้พิทักษ์เมืองอัคนีเท่านั้น มันพลิกทุกอย่างที่พวกเขารู้
ทั่วทั้งทวีป เซียนราชาได้รับการเคารพบูชาเหมือนพระเจ้า แม้แต่ในกลุ่มตระกูลผู้พิทักษ์ ใครก็ตามที่ตัดผ่านเป็นเซียนราชาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดทันทีและจะมีอำนาจเด็ดขาด
แม้แต่ในเผ่าพันธุ์ทะเลซึ่งมีเซียนราชามากกว่าทวีปเทียนหยวนมากมาย พวกเขาจะไม่ใช้เซียนราชาให้มาทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ แม้แต่ศาลาทั้งสามก็ยังจำเป็นต้องมอบชีวิตที่หรูหราให้กับเซียนราชา
เมืองอัคนีได้ทำบางสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์ พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่ใช้ เซียนราชาให้เป็นผู้พิทักษ์ในประวัติศาสตร์
เจี้ยนเฉินกลับไปเมืองอัคนีพร้อมผู้พิทักษ์ โหยวเยว่และคนอื่น ๆ และได้รับการต้อนรับจากเสียงโห่ร้องที่กระตือรือร้นที่สุดของเมือง ข่าวการก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเมืองอัคนีเรื่องเซียนราชาแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งทวีป ข่าวไปถึงหูของเผ่าพันธุ์อื่นทั้งสาม มันทำให้พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง โลกถูกครอบงำด้วยความตกใจ . ทุกคนพูดถึงเรื่องนี้ขณะที่ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจไปพร้อมกัน
วันรุ่งขึ้นเซียนราชานับไม่ถ้วนเยี่ยมชมเมืองอัคนีรวมคนจากทั้งสี่เผ่าพันธุ์ พวกเขามาเพื่อแสดงความยินดีกับเมืองอัคนี
แม้แต่เจ้าศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ยาดริมก็มาด้วยตัวเอง
เจี้ยนเฉินปล่อยให้ไป๋เหลียนและโหยวเยว่ต้อนรับแขกผู้มาเยือน ส่วนเขาเองต้อนรับแขกเพียงไม่กี่คนที่เขาคุ้นเคยเช่น ยาดริม, เจียงหยางซูเซียวและคนอื่น ๆ
ในช่วงระยะเวลาอันสั้น การพบปะกับเจี้ยนเฉินมันเป็นไปไม่ได้สำหรับเซียนราชาที่ไม่มีความผูกพันกับเขามาก่อน ไม่ใช่เพราะเจี้ยนเฉินถือตัวหรือหยิ่งยโส แต่มีจำนวนแขกมากเกินไป เขาไม่ต้องการสิ้นเปลืองพลังงานไปกับการทักทายพวกเขาทั้งหมด
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของอาณาจักรฉินหวงก็มาด้วยเช่นกัน พวกเขาได้รับการปฎิบัติอันเป็นกันเองในเมืองอัคนีต่างจากเซียนราชาคนอื่น ในฐานะที่เป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎ พวกเขาได้รับเชิญให้ไปพบเจี้ยนเฉินโดยไม่มีใครมาขัดขวาง
คารา ลี่เว่ย ไปเยือนเมืองอัคนีพร้อมกับบรรพชนของนาง คาราลอท เช่นกัน พวกเขาได้รับเชิญไปทางด้านหลัง
นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว เทียนมู่หลิงก็มาพบกับเจี้ยนเฉินพร้อมกับ จุนโมเห่าและหวังหยานหง
“น้องเจี้ยนเฉิน ข้าจะยังเรียกเช่นนั้นได้หรือไม่ตอนนี้ ? ” เทียนมู่หลิงถามอย่างระมัดระวังทันทีที่นางเห็นเจี้ยนเฉิน นางทำท่าน่าเวทนาและแสดงสีหน้าหวาดกลัว
เจี้ยนเฉินมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นสหายเก่า เขาหัวเราะเสียงดัง “ทำไมล่ะ ? แม่นางเทียนมู่หลิงได้ช่วยข้าไว้มากมายในอดีต ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร ? สถานะของข้าแตกต่างจากอดีตมาก แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงศีลธรรมของข้าในฐานะคนคนหนึ่งได้”
เทียนมู่หลิงรู้สึกไม่สบายใจกับวิธีที่นางเคยพูดถึงเจี้ยนเฉินในอดีต นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งเพราะกลัวว่าจะทำให้เจี้ยนเฉินโกรธ แต่ในที่สุดนางก็รู้สึกผ่อนคลายหลังจากได้ยินสิ่งที่เจี้ยนเฉินพูด นางเข้าใจว่าแม้ว่าเจี้ยนเฉินจะกลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับราชัน แต่เขาก็ไม่ลืมมิตรภาพเก่า สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกมีความสุขในทันที
จุนโมเห่าและหวังหยานหงอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและยิ้มอย่างรู้เท่าทันเมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินปฏิบัติกับเทียนมู่หลิงอย่างไรขณะที่พวกเขาเดินตามนางไป
“ย้อนกลับไปในงานชุมนุมกลุ่มทหารรับจ้าง น้องเจี้ยนเฉิน, หมิงตง, ตู่กูเฟิง และข้าเป็นเพียงเซียนปฐพี มันเพียงไม่กี่สิบปีหลังจากนั้น น้องเจี้ยนเฉินก็แซงหน้าเซียนจักรพรรดิไปเสียแล้ว แม้แต่หมิงตงและตู่กูเฟิงก็กลายเป็นเซียนราชา มีเพียงข้าเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนเมื่อก่อน ข้ายังไม่ได้เป็นเซียนสวรรค์เลยด้วยซ้ำ” เทียนมู่หลิงถอนหายใจอย่างเศร้าสลด สายตาที่นางจ้องมองเจี้ยนเฉิน, หมิงตงและตู่กูเฟิงเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด
เจี้ยนเฉินอดไม่ไที่จะคิดย้อนกลับไปเมื่อเขามีส่วนร่วมในงานชุมนุมทหารรับจ้างกับหมิงตง เพราะสิ่งที่เทียนมู่หลิงพูด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความทรงจำในทันทีและเขาก็พูดว่า “เทียนมู่หลิง เจ้าช่วยข้าไว้มากในอดีต ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าหลังจากนี้และทำให้เจ้าได้เป็นเซียนราชา ! ”
“จริงหรือ ? ” ดวงตาของเทียนมู่หลิงเป็นประกายขึ้นทันที และนางก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
จุนโมเห่าและหวังหยานหงต่างก็ตกตะลึงก่อนที่จะชื่นชมด้วยความดีใจ สถานะของเจี้ยนเฉินตอนนี้พิเศษมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยในคำพูดของเขาเลย เขาช่วยให้ผู้คนมากมายหลายสิบคนกลายเป็นเซียนราชา ดังนั้นพวกเขาจึงมั่นใจมากว่าเขาสามารถทำให้เซียนปฐพีกลายเป็นเซียนราชาได้ในระยะเวลาอันสั้น
“เจี้ยนเฉิน อย่าลืมว่าเจ้าให้สัญญากับข้าไว้เช่นกัน ไม่ว่าข้าจะสามารถเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ได้หรือไม่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจ้า” คารา ลี่เว่ย แทรกตัวเข้ามาและจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่สวยงาม
หลังจากเข้าใจเจตนารมณ์ของเจี้ยนเฉินแล้ว คารา ลี่เว่ย ก็ยิ่งกล้าหาญขึ้นมาก