เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 140 : ตระกูลเทียนซ่งล่าถอย
ตอนที่ 140: ตระกูลเทียนซ่งล่าถอย
ในจุดนี้ ทหารรับจ้างที่เหลือก็หายตกใจในที่สุดและเอาอาวุธเซียนของพวกเขาออกมาเพื่อที่จะสู้
มือกระบี่ที่ถือกระบี่อยู่ก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและหลบการโจมตีที่เข้ามาก่อนที่จะหยุดที่พื้นช้า ๆ ปราณกระบี่เปล่งรัศมีออกมาจากกระบี่ของเขาและปกคลุมไปที่อากาศรอบ ๆ ในไม่ช้ามันก็ปกคลุมไปที่ทหารรับจ้างด้วยเช่นกัน
ในตอนที่ปราณกระบี่หายไป คนของตระกูลเทียนซ่งทั้งหมดก็ล้มลงบนพื้นพร้อมกับรูที่คอของพวกเขา เลือดเป็นสายไหลออกมาจากแผลของพวกเขาไปยังพื้นด้านล่าง
เจี้ยนเฉินเก็บกระบี่ของเขาและมองไปที่คนที่อยู่ที่พื้นอย่างสงบก่อนที่จะพูดออกมา “พวกเจ้าบอกข้อมูลที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์กับข้ามาก เซียนผู้เชี่ยวชาญ 30 คน และเซียนระดับสูงมากกว่าสองร้อยคน ตระกูลเทียนซ่งไม่ได้อ่อนแอเลย การที่เขาส่งคนมากมายขนาดนั้นเข้ามาที่เทือกเขาสัตว์อสูรเพื่อที่จะหาข้า ไม่แปลกใจเลยว่าพวกเขาคือตระกูลอันดันหนึ่งในเมืองเวค”
เจี้ยนเฉินเงียบไปสักพักก่อนที่หน้าของเขาจะยิ้มออกมา “ถ้าเจ้าไม่ปล่อยข้าไป ถ้างั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดร้ายล่ะ เช่นนั้นข้าจะเล่นกับพวกเจ้าเอง”
ในพริบตาเดียว หลายวันก็ผ่านไป และในระหว่างวันเหล่านั้น เจี้ยนเฉินก็ไปมาในบริเวณและจัดการคนของตระกูลเทียนซ่ง แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ใช่คนที่แก้แค้น แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่สู้กลับ หลังจากที่ถูกหาเรื่องและรังแกจากตระกูลเทียนซ่งแบบนั้น ถ้าเขาไม่ทำอะไร เขาก็คงไม่เรียกตัวเองว่าเจี้ยนเฉินแล้ว
คนที่เจี้ยนเฉินฆ่าไปนั้นเป็นจำนวนประมาณ 200 คนแล้ว ในระหว่างพวกนั้น มีเซียนผู้เชี่ยวชาญ 10 คน และที่เหลือเป็นเซียนระดับสูง ด้วยการสูญเสียมหาศาลแบบนี้ แม้แต่ตระกูลเทียนซ่งก็คงยากที่จะฟื้นฟูได้เพราะพวกเขาถูกทำลายลึกไปถึงรากของพวกเขา
ตระกูลเทียนซ่งรู้เรื่องนี้ดี แต่พวกเขาก็ไม่ยอม ในทางกลับกัน พวกเขาเอาคนมากกว่าเดิมมาจากตระกูลและให้พวกเขาค้นหารอยเท้าของเจี้ยนเฉินในเทือกเขาสัตว์อสูร เทียนซ่งหลีต้องการที่จะล้างเค้นให้ลูกชายของเขาที่ตายไปไม่ว่าเขาจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม
เหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายวันนี้ได้รู้ไปถึงทุกคนในเมืองเวค ตระกูลเทียนซ่งเป็นผู้มีอำนาจมามากว่าสิบปี ดังนั้นชื่อเสียงของเทียนซ่งหลีจึงเป็นที่เห็นได้ชัด ทหารรับจ้างที่อยู่ที่นี่และพ่อค้าทุกคนรู้ดีว่าเทียนซ่งหลีนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
ข่าวเรื่องทายาทของตระกูลเทียนซ่ง เทียนซ่งคังถูกฆ่า และเรื่องที่เทียนซ่งหลีนำกลุ่มทหารรับจ้างที่ดุร้ายเข้าไปในเทือกเขาสัตว์อสูรเพื่อตามหาฆาตกรได้ทำให้เกิดความโกลาหลใหญ่ในเมืองเวค เรื่องนี้ถูกทหารรับจ้างและพ่อค้าเอาไปพูดทุกขณะ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครรู้ว่าคนที่กล้าฆ่าเทียนซ่งคังอย่างบ้าบิ่นนี้คือใคร สิ่งเดียวที่พวกเขารู้คือ นักฆ่าที่ลึกลับนี้นั้นยังหนุ่มมาก และพวกเขาไม่รู้รายละเอียดอื่น
ตระกูลอื่นในเมืองเวคก็สังเกตเหตุการณ์เรื่องตระกูลเทียนซ่งอยู่อย่างลับ ๆ ในตอนที่พวกเขารู้ว่าตระกูลเทียนซ่งได้รับความเสียหายเพียงใดในขณะที่อยู่ในเทือกเขาสัตว์อสูร แต่ละตระกูลก็เตรียมตัวที่จะเข้ายึดและแบ่งส่วนที่ตระกูลเทียนซ่งมีอยู่
ตระกูลเทียนซ่งควบคุมส่วนใหญ่ของเมืองเวคซึ่งทำให้ตระกูลอื่นทุกตระกูลอิจฉามาก แต่ตระกูลนั้นกลัวอำนาจของตระกูลเทียนซ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงคอยอยู่อย่างอดทน อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ตระกูลเทียนซ่งก็เจอกับอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง พลังอำนาจของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หลายตระกูลไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปอีกแล้ว และเริ่มที่จะยื่นมือเข้าไปในผลกำไรของตระกูลเทียนซ่ง
ในเทือกเขาสัตว์อสูร มีกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นกังวลที่มีอายุ 20-40 ปีนั่งล้อมวงกันอยู่
“ผู้นำตระกูล สถานการณ์ที่นี่ไม่ดีเท่าไร เจ้าหนูนั้นไม่น่าไว้ใจเหมือนปีศาจและยังมีประสบการณ์มากในการล่าในป่า พวกเราเสียเปรียบเพราะเขาได้เปรียบในภูมิประเทศและเขาก็สลัดพวกเราหลุดไปหลายครั้ง ไม่เพียงแค่นั้น เจ้าหนูนี่ยังแข็งแกร่งมาก กลุ่มเล็กหลายกลุ่มไม่มีกำลังพอที่จะฆ่าเขาได้เลยและยังถูกฆ่าอีก แม้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะเป็นจอมยุทธที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ แต่เขายังสามารถต่อกรได้เหมือนเดิม ดังนั้นจนถึงตอนนี้ปริมาณของคนที่พวกเราพามาที่เทือกเขาสัตว์อสูรได้ลดลงไปกว่าครึ่งแล้ว ข้าเกรงว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ปริมาณคนที่เหลือต้องเหลือแค่เพียงนับนิ้วได้เท่านั้นแน่” ชายวัยกลางคนพูดออกมาอย่างห่วงใย
“ถูกต้อง หัวหน้าตระกูล เจ้าหนูนี่มันฉลาดแกมโกงมาก ถ้าพวกเรารวมกลุ่มกัน มันก็จะซุ่มโจมตีในแบบที่พวกเราจะไม่ได้เห็นหน้ามันเลย และในตอนที่พวกเราแยกกัน มันก็จะเก็บพวกเราทีละคน ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าหนูนี่ยังว่องไวยังกับลิง ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถที่จะไล่ตามเขาทัน พวกเราจะทำอะไรได้ ? ในกลุ่มของพวกเราตอนนี้ มีเพียงนายท่านเท่านั้นที่สามารถสู้กับมันได้” ทหารรับจ้างอีกคนพูดออกมาด้วยความกังวลเช่นกัน
“หัวหน้าตระกูล ในตอนนี้พวกเรากำลังเสียเปรียบ มันจะดีที่สุดถ้าพวกเราถอยไปคิดหาแผนการก่อน” คนที่ดูอ่อนแอพูดขึ้นมา
“หัวหน้าตระกูล ในตอนนี้เมื่อพวกเราเสียคนไปเป็นจำนวนมากในเทือกเขาสัตว์อสูรนี้ การพัฒนาของพวกเราในเมืองก็ต้องถูกหยุด พวกเราจะให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้”
เทียนซ่งหลีกำหมัดอย่างขัดข้องในขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงท่าทางลังเลออกมา ในใจของเขายากที่จะตัดสินใจได้
หลังจากสักพัก เทียนซ่งหลีก็กัดริมฝีปากแล้วพูดออกมา “ไปบอกทุกคนให้ถอย”
“ขอรับ หัวหน้าตระกูล!”
หลังจากที่ได้ยิงคำสั่ง ทหารรับจ้างแต่ละคนก็แสดงท่าทางมีความสุขออกมาในขณะที่พวกเขาถอนหายใจโล่งในใจ หลังจากที่เผชิญหน้ากับเจี้ยนเฉินในสองสามวันที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครต้องการที่จะเอาชีวิตไปทิ้ง โชคยังดีที่เทียนซ่งหลีมากับพวกเขาด้วย ในสายตาของพวกเขา พวกเขากลัวมากที่จะต้องไปเจอเจี้ยนเฉินโดยที่ไม่มีเทียนซ่งหลี
คนหนึ่งเก็บใบไผ่ที่หล่นลงมาก่อนที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงก่อไป เสียงหวีดหวิวดังแหลมขึ้นมา ใบไผ่ก็ลอยขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะแตกออกเสียงดังและเปลี่ยนไปเป็นหมอกควันสีแดงที่กระจายไปทุกที่
ในส่วนลึกของเทือกเขาสัตว์อสูร มีกลุ่มทหารรับจ้างที่นั่งล้อมวงกันกินอาหารอยู่
“เฮ้อ เมื่อไรนักฆ่าคนนี้จะถูกจับก็ไม่รู้ ปริมาณคนตายของตระกูลเทียนซ่งนั้นมากมายแล้ว เซียนผู้เชี่ยวชาญตายไปถึง 10 คน”
“เขาสามารถฆ่าเซียนผู้เชี่ยวชาญได้อย่างสบาย การที่พวกเรามีความแข็งแกร่งในระดับเซียนขั้นสูง ข้าไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนก่อนที่พวกเราจะกลายเป็นเป้าหมายของเขา”
“ตราบใดที่พวกเราไม่ไปเจอกับเขาเข้า พวกเราก็ไม่เป็นไร ไม่อย่างนั้น พวกเราต้องไม่รอดชีวิตกลับบ้านไปแน่นอน”
ทหารรับจ้างนั่งอยู่รอบรอบกองไฟและพูดคุยกับตัวเองด้วยความกังวล
ในตอนนี้เองเสียงโหยหวนก็ดังไปบนท้องฟ้า เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทหารรับจ้างทุกคนก็มองผ่านหมู่ไม้ขึ้นไปและเห็นดอกไม้ไฟที่แบ่งบานอยู่ในท้องฟ้า ซึ่งทำให้ทหารรับจ้างบางคนร้องออกมาอย่างโล่งใจ
“นั่นเป็นสัญญาณถอนตัวของตระกูลเทียนซ่ง ! ” หนึ่งในทหารรับจ้างร้องออกมาอย่างยินดี
“พวกเรากลับบ้านได้แล้วในที่สุด พวกเราทำอะไรกันอยู่? รีบกลับบ้านกับเถอะ พวกเจ้าอยากจะอยู่ที่นี่ต่อหรือยังไง ? นักฆ่านั่นมาฆ่าพวกเราได้ทุกเมื่อเหมือนผักปลา”
“เอาล่ะ เอาล่ะ พวกเรารีบไปเร็วเข้า นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเราควรอยู่นาน”
ไม่มีใครมีอารมณ์ที่จะกินอาหารต่อและออกไปจากที่นั่นทันที ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป เงาหนึ่งก็ลงมาจากต้นไม้ ร่างนี้สวมใส่หนังของสัตว์อสูร และเริ่มมีหนวดขึ้นที่ใบหน้าของเขา
เมื่อเห็นกลุ่มทหารรับจ้างค่อย ๆ หายไปจากสายตา ร่างนั่นก็เหยียดออกมา “พวกเจ้าจะถอนตัวอย่างนั้นหรือ ? ได้ แต่ครั้งสุดท้ายนี้ ข้าหวังให้พวกเจ้าสูญเสียเลือดเนื้ออีกเป็นครั้งสุดท้าย ใครก็ตามที่มาหาเรื่องข้า เจี้ยนเฉิน จะไม่หนีรอดไปได้ง่าย ๆ หรอก”