เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1400: ผู้บงการ
ตอนที่ 1400: ผู้บงการ
เจี้ยนเฉินแอบเข้าไปข้างในอย่างลับ ๆ เขาไม่ทราบว่าใครเป็นคนที่ได้ปิดผนึกเพื่อป้องกันไม่ให้เซียนจักรพรรดิตัดผ่านไปยังขอบเขตดั้งเดิม แต่เขารู้ว่าอะไรที่กำลังปิดผนึกพลังงานดั้งเดิมไว้ในจักรวาลลึก
แน่นอนว่าไม่ใช่จอมยุทธ์ลึกลับที่พยายามป้องกันไม่ให้ผู้คนไปถึงระดับเซียนจักรพรรดิ การขาดพลังงานดั้งเดิมนี้เกิดจากศิลาเซียนหยินหยาง หินหล่นลงมาจากนอกมิติและตกสู่เกาะมังกร ซึ่งมันถูกค้นพบโดยโมเทียนหยุน ผู้ซึ่งย้ายมันออกไปสู่มิติโดยใช้ความสามารถอันยิ่งใหญ่ของเขา เขาสร้างผนึกอันทรงพลังรอบ ๆ หินเพื่อผนึกและล็อคให้เข้าที่ อย่างไรก็ตาม หินเกิดจากการกำเนิดของจักรวาลและถูกควบแน่นจากปราณหยินและหยางจากพลังบรรพกาล พลังของมันเห็นได้ชัดเจน ดังนั้นแม้หลังจากถูกโมเทียนหยุนผนึก มันก็ยังสามารถรบกวนบัญญัติของโลกและดูดซับพลังงานดั้งเดิมที่ไหลเวียนอยู่ได้
เจี้ยนเฉินเดาว่าเป็นเพราะกุยไอ๋ยี่เเต่าและหยางลี่ไม่มีพลังมากพอ หรืออาจเป็นเพราะผนึกของโมเทียนหยุนที่ทรงพลังเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นภายในผนึกและเข้าใจความจริง นี่คือสาเหตุที่พวกเขานำมันไปเชื่อมโยงกับจอมยุทธ์ลึกลับผู้ที่สิ้นสุดยุคโบราณ
อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงได้รับความชื่นชมจากเจี้ยนเฉินที่สามารถบรรลุข้อสรุปดังกล่าวได้ อย่างน้อยที่สุด พวกเขาทั้งสองสามารถสัมผัสตำแหน่งของศิลาเซียนหยินหยางที่ถูกผนึกไว้ในจักรวาลลึก เขาไม่สามารถมองได้ไกลแม้ว่าเขาจะใช้กำลังทั้งหมดของเขา
“ดูเหมือนว่าข้ายังขาดในหลาย ๆ ทักษะเมื่อเปรียบเทียบกับจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิมตัวจริง ถึงแม้ว่าข้าจะมีพลังในการต่อสู้เทียบเท่ากับจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิม” เจี้ยนเฉินลอบถอนใจ เขาได้รับความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างเขาและจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิมตัวจริงเช่นกุยไฮ่ยี่เต่าและหยางลี่
แม้ว่ากุยไฮ่ยี่เต่าและหยางลี่จะยังไม่ฟื้นพลังได้ทั้งหมด แต่พวกเขาได้เอาชนะเขาไปมากในบางแง่มุมแล้ว
ทันใดนั้นหยางลี่ก็มาถึงข้างหน้าเจี้ยนเฉินในไม่กี่ย่างก้าว เขาจ้องมองเขาอย่างเคร่งขรึมและถามว่า “หลานชาย ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเคยไปสำรวจศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกและเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ถูกพาไปที่นั่น นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ ? ”
” นั่นเคยเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนหน้านี้ข้าไปที่นั่นพร้อมกับผู้อาวุโสรุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่” เจี้ยนเฉินตอบตามความจริง
“บอกข้าทุกสิ่งที่เจ้ารู้ ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกสามารถอธิบายได้ว่าเป็นองค์กรที่ลึกลับที่สุดในโลกนี้ ข้าสงสัยว่าจอมยุทธ์ลึกลับผู้ผนึกโลกนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา” หยางลี่กล่าว เขาเข้มงวดมาก
มันเป็นผลให้เจี้ยนเฉินบอกเขาเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบังสิ่งใดเลย อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่แน่ใจว่าผู้พิทักษ์ซุยแข็งแกร่งแค่ไหน เขามั่นใจเพียงว่าอย่างน้อยที่สุดนางก็เป็นจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิม
แสงแวววับส่องประกายผ่านดวงตาของหยางลี่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เหมือนที่ข้าเคยสงสัย ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกมีจอมยุทธ์ลึกลับจริง ๆ ”
กุยไฮ่ยี่เต่าเข้าร่วมในการสนทนา “โลกนี้ถูกผนึกเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งล้านปี ทำให้ไม่สามารถตัดผ่านไปยังขอบเขตดั้งเดิมได้ จอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิมมีอายุขัยเพียงแสนปีเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้พิทักษ์ซุยคนนี้จะตัดผ่านในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา แม้ว่าเราจะย้อนกลับไปหนึ่งก้าวและแม้ว่าผู้พิทักษ์ซุยจะมาจากยุคโบราณและยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้เพราะนางเป็นเหมือนกับเรา นางกลับชาติมาเกิดนับไม่ถ้วน มันคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะตัดผ่านไปยังขอบเขตดั้งเดิมในชีวิตนี้”
มีแนวคิดผ่านหัวของเจี้ยนเฉินเมื่อเขานึกถึงประเด็นนั้น เขาพูดพึมพำว่า “หากเป็นเช่นนั้น มันก็มีความเป็นไปได้เพียงสองประการเกี่ยวกับตัวตนของผู้พิทักษ์ซุย สิ่งแรกคือนางคล้ายกับเสี่ยวจินและเสี่ยวหลิงซึ่งจะทำให้นางเป็นจิตวิญญาณธรรมชาติ”
“ความเป็นไปได้ที่สองคือนางเป็นจอมยุทธ์ลึกลับผู้ปิดผนึกโลกนี้และผู้บงการที่ลบอดีต ! ” หยางลี่จบประโยคของเจี้ยนเฉิน เขามีสีหน้ากังวลมาก
เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าความเป็นไปได้ที่สองเป็นเรื่องจริง ผู้พิทักษ์ซุยคงมีพลังมากเกินไป จริง ๆ นางสามารถอยู่รอดมาได้ตั้งแต่สมัยโบราณและแม้กระทั่งฆ่าจอมยุทธ์หลายคนในสมัยโบราณ. างฆ่าคนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำไมนางถึงไม่ได้รับโทษจากทัณฑ์สวรรค์ ? ”
“หากความเป็นไปได้ที่สองเป็นจริง พลังของผู้พิทักษ์ซุยก็เหนือกว่าระดับขอบเขตดั้งเดิมและไปถึงขอบเขตเทพ เทพช่วยให้ผู้คนหลุดพ้นจากพันธนาการของโลกและอยู่รอดไปพร้อมกับโลก มันเป็นที่รู้จักกันว่าชีวิตอมตะ ดังนั้นทัณฑ์สวรรค์จึงไม่ส่งผลกระทบต่อนาง และจากพลังและความซับซ้อนของผนึกที่ถูกกำหนดไว้ ผู้พิทักษ์ซุยก็ดูเหมือนจะไม่ได้มาถึงขอบเขตเทพ ดูเหมือนจะอยู่ในขอบเขตที่สูงกว่าของขอบเขตการบ่มเพาะ” กุยไฮ่ยี่เต่ากล่าว เขาจ้องมองไปยังทะเลลึกทางตอนเหนือและเกิดความหวาดกลัว
ขอบเขตเทพเป็นระดับการบ่มเพาะในฝันของพวกเขา การทำงานหนักและความพยายามทั้งหมดที่พวกเขาทำย้อนกลับไปในโลกแห่งเซียนนั้นล้วนแต่เป็นการเข้าถึงขอบเขตเทพ ระดับสูงสุดของการบ่มเพาะ นี่เป็นเพราะแนวคิดเรื่องอายุขัยยังคงมีอยู่ในขอบเขตดั้งเดิม แม้แต่คนที่มีความสัมพันธ์กันก็ไม่สามารถเปลี่ยนอายุขัยสุดท้ายของพวกเขาได้ แต่เมื่อพวกเขาตัดผ่านไปสู่ขอบเขตเทพ พวกเขาก็จะมีชีวิตอมตะ
อย่างไรก็ตาม มีช่องว่างขนาดใหญ่มากระหว่างสองขอบเขตการบ่มเพาะ ความแตกต่างนั้นเทียบเท่ากับอมตะและเซียนจักรพรรดิในทวีปเทียนหยวน แม้จะเป็นเพียงอีกก้าวเดียวในการตัดผ่าน แต่มันก็ยากเกินไปที่จะทำตามขั้นตอนนี้
“หากผนึกไม่ได้ถูกปล่อยออกมา เราจะยังคงอยู่ในระดับการบ่มเพาะปัจจุบันของเราตลอดไป และเราจะไม่สามารถไปถึงขอบเขตดั้งเดิมได้ ในหนึ่งหมื่นปีเราจะต้องตายไป เรามีวิธีการกลับชาติมาเกิดแต่ต้องใช้พลังงานดั้งเดิมในการทำ แม้ว่าเราจะเก็บพลังงานดั้งเดิมไว้ในวัตถุเซียนแต่ตอนนี้ยังไม่เหลืออีกมาก” หยางลี่ถอนหายใจเบา ๆ เขาขมวดคิ้วด้วยความกังวล การคืนความทรงจำทำให้พวกเขาฟื้นการบ่มเพาะครั้งก่อนเท่านั้น โดยพื้นฐานแล้วพวกเขารู้ความสามารถทั้งหมดของจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิม ยกเว้นว่าพลังของพวกเขาจะยังคงอยู่ที่จุดสูงสุดของเซียนจักรพรรดิและจะไม่เพิ่มอีกต่อไป
หากพวกเขาไม่ได้กู้คืนความทรงจำ พวกเขาสามารถดำเนินการเกิดใหม่ แต่เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาใหม่ การกลับมาเกิดก็จะหยุดเช่นกัน
“ท่านปู่ทวด, ท่านผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ ผนึกนี้จะถูกทำลายในไม่ช้าเพราะข้าอยู่บนเส้นทางการบ่มเพาะที่แตกต่างกัน ผนึกสามารถหยุดทุกคนในโลกได้ยกเว้นข้า” เจี้ยนเฉินแจ้งให้พวกเขาทราบอย่างหนักแน่น เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เขามั่นใจเพราะเขาฝึกฝนพลังบรรพกาล เขาไม่ต้องการพลังงานดั้งเดิมเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและเขาก็ไม่ต้องการความลึกลับของโลกในการตัดผ่าน ตราบใดที่มีพลังงานมากพอ เขาก็สามารถผ่านเข้าไปในร่างบรรพกาลหกขั้นแรกได้อย่างราบรื่น ขณะนี้เขาอยู่ที่ขั้นที่ 4 และมีพลังในการต่อสู้เสมือนจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิม ถ้าเขาไปถึงขั้นที่ 5 หรือขั้นที่ 6 เขาจะมีพลังความแข็งแกร่งมากเพียงใด ?
เจี้ยนเฉินยังคงมีสมบัติสวรรค์จำนวนมากและลูกท้อเมฆม่วงในแหวนมิติของเขา ตราบใดที่เขามีเวลาเพียงพอ การไปถึงขั้นที่ 5 จากนั้นขั้นที่ 6 จะไม่เป็นปัญหา บวกกับชาหยั่งรู้ การทำความเข้าใจเส้นทางแห่งกระบี่จะเป็นเพียงขนมชิ้นหนึ่งสำหรับเขา เขาเชื่อว่าผนึกจะไม่สามารถหยุดเขาได้หากเขายังคงเพิ่มกำลังของเขาต่อไป
” เมื่อข้าไปถึงร่างบรรพกาลขั้นที่ 6 และได้บรรลุเส้นทางแห่งกระบี่ ข้าคิดว่าข้าจะสามารถต่อสู้กับจอมยุทธ์ขอบเขตเทพได้ ไม่จำเป็นต้องไปถึงระดับจิตวิญญาณกระบี่ เพียงขั้นสมบูรณ์แบบของต้นกำเนิดกระบี่ก็เพียงพอแล้ว” เจี้ยนเฉินคิดในใจและรู้สึกเชื่อมั่น เขาอยากจะตัดผ่านไปถึงขั้นที่ 6 ให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่าการตัดผ่านเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ แม้จะมีสมบัติสวรรค์จำนวนมาก แต่การไปถึงขั้นที่ 5 จากนั้นก็ขั้นที่ 6 ต้องการเวลาค่อนข้างมาก เขาบริโภคลูกท้อเมฆม่วงไปแล้ว เขาจึงต้องรอเป็นร้อยปีก่อนที่จะบริโภคลูกที่สอง มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้สมบัติสวรรค์อย่างไม่รู้จบ ถ้าเขากินมากเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ ร่างกายของเขาจะพัฒนาและต้านทานต่อคุณสมบัติทางยา ทำให้ผลลัพธ์ลดลงอย่างมากหรือทั้งหมดจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์
ผลึกอสูรของสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ กับเขาเช่นกัน มันจะดีกว่าหากเขามอบมันให้กับคนที่อยู่รอบตัวเขาแทนที่ปล่อยให้มันต้องสิ้นเปลืองไปกับตัวเขาเอง