เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1412: เมืองเมฆาล่อง
ตอนที่ 1412: เมืองเมฆาล่อง
นูบิสบินผ่านท้องฟ้าในร่างอสรพิษยาวหลายพันเมตร ในฐานะสัตว์อสูรระดับ 9 เห็นได้ชัดว่าเขาได้เข้าใจความลึกลับของโลกในระดับสูง ร่างของเขาพร่ามัวในขณะที่เขาหลอมรวมกับมิติโดยรอบอย่างรีบเร่งพร้อมกับการใช้พลังมิติ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว บินข้ามท้องฟ้าและหายไปในขอบฟ้า
“ในฐานะที่เป็นอสรพิษทองริ้วเงิน จะมีการต่อสู้ถึงขั้นตายทันทีที่ข้าได้พบกับกลุ่มอื่น แม้ว่าจะมีอสรพิษทองริ้วเงินสองสามตัวในประวัติศาสตร์ ทุกตัวก็มีประสบการณ์การห้ำหั่นเอาชีวิตเมื่อใดก็ตามที่เจอกับอีกตัว ดังที่ข้าเห็นในความทรงจำที่สืบทอดมา ผู้ชนะจะมีเกียรติและกลืนกินแก่นของผู้แพ้ ทำให้ผู้ชนะสามารถพัฒนาและแข็งแกร่งขึ้น มีอสรพิษทองริ้วเงินน้อยมากในโลก ดังนั้นข้าขอปฏิเสธที่จะเชื่อว่างูแก่จะไม่สนใจเมื่อข้าแสดงตัวตน เขาจะตามหาข้าอย่างแน่นอนและทันทีที่เขาปรากฏตัว ข้าจะสามารถกลืนเขาและทำให้แก่นของข้าแข็งแรงขึ้น” นูบิสคิด เขารู้สึกภูมิใจในตนเองที่สามารถคิดสิ่งนี้ได้ เขาไม่ได้คิดมากว่าอสรพิษแก่จะแข็งแกร่งกว่าเขาเลย
ห่างจากนูบิสหมื่นกิโลเมตร มีเมืองหนึ่งตั้งอยู่อย่างเงียบสงบภายในภูเขา ดูเหมือนว่ามันจะถูกสร้างขึ้นบนภูเขา ด้านบนของมันถูกตัดออกและมันถูกล้อมรอบด้วยภูเขาอื่น ๆ นับไม่ถ้วน
เมืองนี้มีการออกแบบที่เรียบง่าย มีกำแพงเมืองต่ำซึ่งมีสีดำสนิทและสร้างขึ้นจากดินที่หายากในทวีปสัตว์เทวะ ดินหายากแข็งยิ่งกว่าหิน ระลอกคลื่นอันทรงพลังของพลังงานที่แผ่ออกมาจากภายในกำแพงเมืองส่งผ่านเข้าไปในกำแพงอย่างชัดเจนด้วยสัตว์เทวะที่ทรงพลัง เสริมกำลังกำแพงให้แข็งแรงกว่าเหล็กหลายเท่า
มีเพียงสัตว์เทวะระดับ 7 ขึ้นไปเท่านั้นที่มีความสามารถนี้
คำสองคำถูกสลักลงบนรอยเอียงบนกำแพงเมืองว่า ‘เมฆาล่อง’ นี่ก็คือชื่อของเมืองนั่นเอง
เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันดีในรัศมีหนึ่งล้านกิโลเมตรเนื่องจากเมืองนี้มีสัตว์อสูรระดับ 7 สองตัว หนึ่งในนั้นมาถึงจุดสูงสุดของระดับ 7 ซึ่งเทียบเท่ากับเซียนสวรรค์ชั้นสวรรค์ที่ 9
ทวีปสัตว์เทวะไม่ได้โหดร้ายน้อยไปกว่าทวีปเทียนหยวน การสังหารระหว่างสมาชิกของเผ่าเดียวกันนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเพราะมันเป็นกระบวนการสำหรับการเติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถทำลายแก่นของผู้อื่นหรือกินเนื้อเพื่อเสริมกำลังตัวเองโดยหวังว่าโอกาสที่การกลายพันธุ์จะเกิดขึ้นภายในร่างกายของพวกเขา
เมื่อการกลายพันธุ์เกิดขึ้น พวกเขาจะได้รับการเกิดใหม่ทันที โดยกลายพันธุ์จากแหล่งกำเนิด มันเป็นกระบวนการที่คล้ายกันเมื่อมนุษย์ที่มีความสามารถที่กลายเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะ
และการกลายพันธุ์เหล่านี้ก็หมายความว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าความกล้าหาญในการต่อสู้ของพวกเขาจะยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก
นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะหาสถานที่ที่ปลอดภัยในทวีปสัตว์เทวะ หากใครไม่แข็งแกร่งพอก็จะถูกตามล่าแม้ในขณะบ่มเพาะและจะตายเนื่องจากความประมาทเลินเล่อที่เล็กน้อยที่สุด ผู้ที่แข็งแกร่งสามารถยึดครองดินแดนและอ้างว่าเป็นผู้ปกครอง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องตระหนักถึงสัตว์อสูรที่มีพลังยิ่งกว่าที่จะมาต่อสู้กับพวกเขา
เมืองและชนเผ่าในทวีปนี้เป็นสถานที่ปลอดภัยกับสัตว์อสูรมากมาย ทุกเมืองหรือทุกเผ่ามีสัตว์อสูรที่ทรงพลัง พวกเขาจะสร้างกฎและระเบียบ รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ตราบใดที่ผู้คนกลายเป็นสมาชิกของกลุ่มเหล่านี้หรือจ่ายสมบัติสวรรค์ให้ได้รับสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นั่น พวกเขาก็จะสามารถบ่มเพาะได้อย่างสงบโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโจมตี
เมืองเมฆาล่องนั้นมีความสดใสเทียบเท่ากับวันอื่น ๆ สัตว์อสูรจำนวนมากย้ายเข้าและออก ทั้งหมดยังคงอยู่ในรูปสัตว์อสูรระหว่างระดับ 3 ถึงระดับ 6 ในด้านความแข็งแกร่ง สัตว์ขนาดใหญ่สูงกว่าสิบเมตรในขณะที่สัตว์ตัวเล็กสูงเพียงหนึ่งหรือสองเมตร มันมีหลากหลายสายพันธุ์
สัตว์อสูรแห่งทวีปสัตว์เทวะพัฒนาสติปัญญาอย่างรวดเร็วกว่าทวีปเทียนหยวน ตราบใดที่พวกเขามาถึงระดับ 2 พวกเขาจะได้รับสติปัญญามากมาย โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่ง สัตว์อสูรทั้งหมดจะทำตัวอย่างเป็นระเบียบเมื่อพวกเขาเข้าไปในเมือง พวกเขาไม่เหลือนิสัยของสัตว์ทั่วไปอีกเลย
ในขณะนี้มีแสงสีทองพุ่งเข้ามาก่อตัวเป็นระยะทางก่อนที่จะหยุดเหนือเมือง มันเป็นอสรพิษตัวบางที่ยาวมาก
อสรพิษก็คือนูบิส เขาลอยอยู่เหนือเมืองขณะที่จ้องมองอย่างเย็นชา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเลือดเย็น
เขาอ้าปากแล้วพ่นพิษออกมาทันที มันปกคลุมเมืองด้านล่างอย่างรวดเร็วราวกับเป็นก้อนเมฆ
พิษมีพลังมาก มันลอยอยู่ในอากาศและในเวลาสั้น ๆ พืชทั้งหมดในรอบสิบกิโลเมตรก็เหี่ยวเฉาด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อก่อนที่จะกลายเป็นฝุ่นละอองกระจายไปในสายลมที่เข้ามา
ละอองพิษลงมาที่เมือง ไม่ว่าสัตว์อสูรจะทรงพลังขนาดไหน สัตว์อสูรที่สัมผัสกับกับมันก็ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างไร้ความสามารถในขณะะที่เลือดดำไหลออกมาจากปาก พวกเขาไม่มีพลังที่จะหนี
สัตว์อสูรในเมืองต่างตกตะลึงเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้อย่างฉับพลัน พวกเขาหันหน้าไปทางที่ซึ่งละอองได้ไหลออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
สัตว์อสูรระดับเจ็ด 2 ตัวรับผิดชอบดูแลเมือง และหนึ่งในนั้นก็มาถึงขั้นสูงสุด มีเพียงก้าวเดียวจะถึงระดับ 8 เมืองนี้กลายเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคโดยรอบหนึ่งล้านกิโลเมตรเพราะทั้งสอง ไม่เคยมีสิ่งมมีชีวิตใดกล้าที่จะยั่วยุพวกเขาตลอดประวัติศาสตร์ พวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งใดคือต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหานี้
อย่างไรก็ตามเมื่อสัตว์อสูรเห็นกลุ่มสัตว์ที่ทรุดตัวลงบนพื้นดินอย่างไร้ความสามารถขณะที่ละอองพิษลอยไป สัตว์ที่เหลือจึงหนีไปทันทีเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาออกจากที่นั่นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
พวกเขาไม่สนใจว่าเมืองจะหยุดผู้รุกรานได้หรือไม่ พวกเขาจำเป็นต้องปกป้องชีวิตของตัวเองก่อน
ในช่วงเวลาเดียวเมืองที่เป็นระเบียบก็ยุ่งเหยิง สัตว์อสูรทั้งหมดหนีไปเพื่อรักษาชีวิต สัตว์อสูรต่างแสดงหวาดหวั่นเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่ากลัวมากแค่ไหน
ในเวลาเดียวกัน พลังแห่งการมีอยู่ทั้งสองที่ยิ่งใหญ่ก็ฉายแสงจากใต้เมือง จอมยุทธที่ทรงพลังที่สุดของเมืองทั้งสองได้ปรากฏตัว ชายอาวุโสที่แข็งแกร่งสองคนปรากฏตัวเงียบ ๆ บนท้องฟ้า พวกเขาทั้งสองมีพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลัง ทั้งสองเป็นเซียนผู้คุมกฎ
พวกเขาเป็นสองจอมยุทธ์ที่เฝ้าดูแลเมือง !