เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1414: ล่ออสรพิษออกมาจากรู
ตอนที่ 1414: ล่ออสรพิษออกมาจากรู
” เขาคือนูบิสผู้ยิ่งใหญ่ นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ได้ทำลายเมืองเมฆาล่อง ที่นี่คือดินแดนของเขาแล้วตอนนี้..”
ในขณะนั้น สัตว์อสูรที่หนีไปก็จดจำชื่อของนูบิส
ภายในพริบตา เมืองก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ทั้งเมืองถูกห้อมล้อมด้วยละอองพิษทำให้สัตว์อสูรจำนวนมากทรุดตัวลงบนพื้น
นูบิสมองดูสัตว์อสูรที่หนีไปและลังเลอย่างลับ ๆ เขาบ่นกับตัวเองว่า “ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ การกวาดล้างเมืองดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดชื่ออันยิ่งใหญ่ของข้าไปทั่วทั้งทวีป ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเดินหน้าต่อไป” ด้วยเหตุนี้นูบิสจึงอ้าปากแล้วดูดละอองทั่วทั้งเมืองที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทันที ละอองถูกดูดกลับเข้าไปในปากของนูบิสในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ไม่มีร่องรอยของละอองเหลืออยู่เลย มีเพียงพืชพรรณที่กลายเป็นฝุ่นและต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาเพียงไม่กี่ต้นเท่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ราวกับว่ามันกำลังบรรยายสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องพูดออกมา
นูบิสออกไป ไม่นานหลังจากที่เขาออกจากพื้นที่นั้น สัตว์อสูรสองสามตัวบนพื้นตัวสั่นเบา ๆ ก่อนที่จะยืนขึ้นด้วยความยากลำบาก ไม่มีข้อยกเว้นกับสัตว์อสูรระดับ 6
สัตว์อสูรหลายตัวค่อย ๆ ยืนขึ้น แม้ว่าพวกมันจะยืนขึ้นด้วยความยากลำบากมาก แต่พวกมันก็ยังไม่ตาย
นูบิสได้กลายเป็นเซียนจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงสามารถควบคุมพิษของตัวเองได้ เขาสามารถใช้มันได้ตามที่เขาพอใจ พิษจากเมื่อก่อนดูเหมือนจะมีพลังขึ้นมาก เปลี่ยนพืชให้เป็นฝุ่นในช่วงเวลาเดียวและแม้กระทั่งต้นไม้เหี่ยวเฉา แต่พิษยังไม่ได้ฆ่าสัตว์อสูรตัวใดในเมือง มันทำให้สัตว์อสูรหมดสติไป
สัตว์อสูรไม่ได้อยู่ในเมืองหลังจากตื่นขึ้นมา สัตว์อสูรจ้องมองไปที่ท้องฟ้าด้วยความกลัว แม้ว่าจะไม่เห็นนูบิสอีก แต่ความกลัวที่มีต่อเขาได้ครอบงำสัตว์ทั้งหมดไปแล้ว ทั้งหมดออกจากเมืองทีละตัว เมืองนี้กลายเป็นเมืองร้างอย่างแท้จริงโดยไม่มีการปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตเลย
ในไม่ช้าสัตว์อสูรที่หนีไปก็แพร่กระจายข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น โดยแพร่กระจายไปบริเวณโดยรอบหลายหมื่นกิโลเมตรอย่างน่าตกใจ ข่าวก็ค่อย ๆ แพร่กระจายออกไปอีกเช่นกัน การล่มสลายของเมืองที่ถูกพิทักษ์โดยสัตว์อสูรระดับ 7 เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากภายในรัศมีรอบหนึ่งล้านกิโลเมตร
ชื่อเสียงของนูบิสก็ค่อย ๆ แพร่กระจายเช่นกัน
นูบิสไม่ได้ให้ความสนใจกับความตกใจที่เกิดขึ้นในเมืองเมฆาล่อง เพราะเขาเชื่อว่าการทำลายเมืองที่ได้รับการคุ้มครองโดยสัตว์อสูรระดับ 7 เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะสั่นคลอนทวีป มันคงไม่เพียงพอที่จะดึงอสรพิษที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับ ดังนั้นเขาจึงหันไปมองกลุ่มที่ทรงพลังที่มีสัตว์อสูรระดับ 8 คอยคุ้มกันแทน
สัตว์อสูรระดับ 8 เหลืออยู่ไม่มากในทวีปนี้ ส่วนใหญ่เสียชีวิตในสงครามการต่อสู้กับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง มีเพียงส่วนน้อยที่รอดชีวิตมาได้
เผ่านกกระจอกเพลิงเป็นกลุ่มใหญ่หากมองทั่วทั้งทวีป, กลุ่มนกกระจอกเพลิงก็เป็นเจ้าของพื้นที่จำนวนมาก
กลุ่มนกกระจอกเพลิงเดิมทีเป็นกลุ่มนิรนามในทวีปและเพิ่งเริ่มโด่งดังขึ้นในรอบพันปีที่ผ่านมา. กลุ่มเริ่มโดดเด่นในทวีปเนื่องจากมีนกกระจอกเพลิงกลายพันธุ์ 3 ตัวปรากฏตัวพร้อมกันในรุ่นเดียว สองตัวมาถึงระดับ 8 เมื่อหนึ่งพันปีก่อนทำให้เผ่าเป็นกลุ่มระดับสูงสุดในทวีปทันที นกกระจอกเพลิงกลายพันธุ์ที่เหลือได้ไปถึงจุดสูงสุดของระดับ 7 และใกล้จะถึงระดับ 8 เช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้ ชนเผ่าถูกครอบงำด้วยความโศกเศร้าอย่างหนักเพราะหนึ่งในผู้พิทักษ์ได้เสียชีวิตในการต่อสู้กับโลกต่างแดนในทวีปเทียนหยวน พวกมันล้มเหลวในการค้นหาศพซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ชนเผ่าสะเทือนใจอย่างมาก
ในขณะที่กลุ่มยังคงอาศัยอยู่ด้วยความเศร้าโศก ริ้วสีทองก็ยิงออกจากที่ไกลออกไป มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมากเหนือชนเผ่าในพริบตา
ในระยะใกล้ริ้วสีทองคืออสรพิษตัวใหญ่ยาวหลายพันเมตร แต่มันหนาพอ ๆ กับต้นไม้ มันคือนูบิสในร่างสัตว์อสูร
” ในที่สุดข้าก็เจอสัตว์อสูรระดับ 8 หลังจากการค้นหามานาน ! ” นูบิสหายใจสูงขึ้นไปในอากาศ ในการค้นหาสัตว์อสูรระดับ 8 เขาได้ข้ามภูเขาและป่านับไม่ถ้วน เดินทางไกลมากตลอดทาง ในที่สุดเขาก็พบที่นี่หลังจากความยากลำบากมากมาย
แน่นอนว่ามีหลายกลุ่มที่มีสัตว์อสูรระดับ 7 ที่เขาพบเจอตลอดทางที่ประสบภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม นูบิสก็ยั้งมือไว้ เขาฆ่าสัตว์อสูรระดับ 7 ก็ต่อเมื่อในกลุ่มนั้นมีสองตัวขึ้นไป เขามักจะปล่อยให้ตัวหนึ่งหนีไปเพื่อไปถ่ายทอดพลังของเขาในฐานะอสรพิษทองริ้วเงิน เขากังวลว่าสัตว์ตัวอื่นจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
นูบิสลบพลังแห่งการมีอยู่ของตัวเอง ซึ่งทำให้สัตว์อสูรระดับ 7 ในเผ่าค้นพบ อย่างไรก็ตาม ส่วนสัตว์อสูรระดับ 8 ได้ค้นพบนูบิสตั้งแต่วินาทีแรกที่เขามาถึง
พื้นตรงหน้านูบิสกระเพื่อมเบา ๆ ชายวัยกลางคนที่มีผมยาวสีแดงปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ผิวของเขาเป็นสีแดงเข้มและแม้กระทั่งดวงตาของเขาเป็นสีแดง
“สัตว์อสูรแห่งยุคโบราณ อสรพิษทองริ้วเงิน ! ” ชายวัยกลางคนคือสัตว์อสูรระดับ 8 ที่เหลืออยู่ในเผ่านกกระจอกเพลิง เขาจำนูบิสได้ด้วยการมองเพียงแวบเดียวและแววตาของเขาประหลาดใจพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข
นูบิสจ้องมองชายคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชาและไร้ความปราณีก่อนที่จะหันหลังกลับและหนีไปโดยไม่ลังเลเลย เขาบินไปไกลอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาบินออกไปอย่างสิ้นหวัง
ชายวัยกลางคนหัวเราะเยาะและพึมพำว่า “สัตว์อสูรแห่งยุคโบราณนั้นหายากมาก แม้จะมีไม่มากทั่วทั้งทวีป ในขณะที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าข้าคืออสรพิษทองริ้วเงิน พวกเขาเป็นสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ พวกเขามีความเกลียดชังที่รุนแรงสำหรับกลุ่มของตัวเองและจะไม่ยอมแพ้ต่อการต่อสู้เว้นแต่ว่าจะตายหากต้องพบเจอกัน ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับจอมยุทธ์ที่สนับสนุนเขา สัตว์ยุคโบราณนี้อ่อนแอ ข้าสามารถฆ่าเขาได้ด้วยมือเดียว แม้ว่าข้าจะมาถึงระดับที่ 8 แล้ว แต่การได้กลืนกินสัตว์โบราณยังคงมีประโยชน์อย่างมากและแม้ว่าข้าจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากแก่นที่กลุ่มอื่นสามารถกลืนกินมันได้เท่านั้น
ชายวัยกลางคนติดตามอสรพิษไปทันที ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในฐานะสัตว์อสูรระดับ 8 การตามหานูบิสไปจึงเป็นเหมือนการปอกกล้วยเข้าปาก ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองสั้นมาก
นูบิสไม่ได้ตกใจเลยเมื่อเห็นชายวัยกลางคนเข้ามาใกล้ชิดเขามากขึ้น เขาหัวเราะเยาะและคิดว่า “เจ้าตามข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ทัน เพียงเพราะข้าต้องการทำตามแผนการเท่านั้น ข้าแกล้งให้เจ้าตามทันซักพักนึงเพื่อล่อเจ้าออกมาก็เท่านั้นแหละ เจ้าอสรพิษแก่ ข้าไม่สามารถเปิดเผยความแข็งแกร่งของตัวเอง เพราะข้าเกรงว่าเจ้าอสรพิษแก่จะไม่ออกมา เมื่อข้าเปิดเผยพลังเพียงระดับ 7 อสรพิษแก่ก็รีบออกมาฆ่าข้าโดยไม่ลังเลเลย”