เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1572 : หัวหน้าตระกูลเจียงหยางคนใหม่ (2)
ตอนที่ 1572 : หัวหน้าตระกูลเจียงหยางคนใหม่ (2)
เจียงหยางป้าคือหัวหน้าตระกูลเจียงหยางและเพราะลูกคนเล็กของเขา เขาจึงโด่งดังและมีฐานะอันสูงส่งในทวีปเทียนหยวน, ทวีปสัตว์เทวะ, อาณาจักรทะเลและทวีปแห่งความสูญเปล่า แต่สิทธิที่เขามีนั้นน้อยนิดหากเทียบกับฐานะของเขา คนที่เขาสั่งได้นั้นมีแค่คนที่เข้าร่วมกับตระกูลเจียงหยางในตอนแรก ๆ รวมถึงเซียนสวรรค์และเซียนผู้คุมกฎที่เข้าร่วมกับตระกูลเพราะชื่อเสียงของเจี้ยนเฉิน พวกนั้นยอมทำตามคำสั่งของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าจะเดิมพันด้วยชีวิต แต่พวกนั้นอย่างมากก็แค่เคารพต่อเจียงหยางป้าในฐานะหัวหน้าตระกูลก็เท่านั้น
เซียนผู้คุมกฎและเซียนราชาจากสาขาซูที่พักอยู่ในพื้นที่หวงห้ามต่างก็มีระดับความอาวุโสที่น่าตกใจ ไม่ว่าใครก็เป็นทวดของเจียงหยางป้าได้ เขาถึงกับต้องโค้งคำนับให้กับพวกนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเห็นพวกนั้นในฐานะผู้เยาว์กว่า ขุมกำลังนี้มันเกินกว่าที่เจียงหยางป้าจะควบคุมได้
ผลก็คือชื่อของเจียงหยางป้าในฐานะหัวหน้าตระกูลจึงเพียงพอที่จะสั่นคลอนทวีป แต่ความแข็งแกร่งที่เขามีในระดับเซียนนั้นอ่อนแอ มันผิดกับฐานะของเขาอย่างลิบลับ
มันเพราะแบบนี้ที่ไป๋เหลียนถึงได้ให้กลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี 5 คนประจำอยู่ที่ตระกูลเจียงหยาง พวกนั้นภักดีต่อเจียงหยางป้า และเป็นกองกำลังที่หัวหน้าตระกูลสามารถควบคุมได้ ในเวลาเดียวกันพวกนั้นก็มีบทบาทที่ทำให้คนต้องตะลึงได้
เจียงหยางป้าได้กลับไปยังตระกูลพร้อมกับผู้คุ้มกันทั้งห้า เขาได้เข้าไปเก็บตัวเพื่อฟื้นฟูพลังเซียนที่เสียไปทันที
ผู้คุ้มกันทั้งห้าเป็นผู้พิทักษ์แค่ในนาม แต่เนื่องจากพวกเขาเป็นเซียนราชา พวกเขาจึงมีฐานะที่สูงส่งในตระกูล แม้แต่ศิษย์โดยตรงของตระกูลก็ต้องแสดงความเคารพให้กับทั้งห้าคน และพวกนี้ก็มีบ้านเล็ก ๆ ในตระกูล บ้านนั้นอยู่ที่ศูนย์กลาง, เหนือ, ใต้, ตะวันออกและตะวันตกของตระกูล คอยคุ้มกันตระกูลจากทุกด้าน หากมองจากมุมหนึ่งแล้วพวกเขาคือผู้คุ้มกันของตระกูล
เมื่อไหร่ก็ตามที่หัวหน้าตระกูลออกไปด้านนอก ทั้งห้าคนจะตามไปด้วย ทั้งห้าเข้าเก็บตัวแต่จะปรากฏตัวออกมาเมื่อหัวหน้าตระกูลต้องการตัว
3 วันต่อมา เจียงหยางป้า ก็ฟื้นฟูพลังเซียนได้บางส่วนและออกมาเพื่อไปพบกับไป๋หยุนเทียน
ตอนที่เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อออกจาทวีปไปเมื่อ 3 ปีก่อน เจี้ยนเฉินได้ทิ้งวัตถุเซียนไว้กับไป๋หยุนเทียน ความแข็งแกร่งของไป๋หยุนเทียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตอนที่บ่มเพาะอยู่ด้านในจนกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 นางเหมือนกับเซียนผู้คุมกฎแล้วโดยมีอายุขัยกว่าสามพันปี ผลก็คือเวลาไม่อาจจะทิ้งร่องรอยใด ๆไว้บนใบหน้าของนางได้ ถึงจะเป็นแบบนั้นนางก็อายุ 60 ปีแล้ว นางดูอ่อนกว่าวัยครึ่งหนึ่งของอายุที่แท้จริง
เจียงหยางป้าได้สั่งให้คนใช้ทุกคนออกไปแล้วไปนั่งในศาลาหยกขาวกับไป๋หยุนเทียน ทั้งศาลานั้นห่อหุ้มด้วยชั้นพลัง
” สามีข้า มีเรื่องสำคัญอะไรที่เจ้าต้องการจะพูดคุยกับข้าและทำไมเจ้าต้องระวังตัวแบบนี้ด้วย ? ” ไป๋หยุนเทียน สนใจขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเจียงหยางป้าใช้พลังห่อหุ้มรอบศาลาเอาไว้
เจียงหยางป้านั่งอยู่ที่เก้าอี้หินแล้วจิบชา “ไม่ใช่แค่สมบัติสวรรค์ที่เซียงเอ๋อทิ้งเอาไว้ที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับข้าอย่างมาก แต่พรสวรรค์ของข้าก็ตื่นตัวไปด้วยจนทำให้ข้าขึ้นเป็นเซียนราชาได้ในเวลาไม่กี่สิบปีรวมถึงมีความหวังที่จะเป็นเซียนจักรพรรดิ ในเวลาเดียวกันโลกรอบตัวเราก็อยู่ในการเปลี่ยนแปลงจนไม่มีใครเข้าใจมันได้ ราชันในโถงศักดิ์สิทธิ์บอกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้กฎของโลกสมบูรณ์ยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นจึงไม่ใช่เราที่บ่มเพาะได้ง่ายขึ้นแต่การก้าวข้ามจุดคอขวดเองก็ยากน้อยลงไปด้วย และการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อเซียนราชาและเซียนจักรพรรดิเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นด้วยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ข้าต้องการจะทิ้งตำแหน่งในฐานะหัวหน้าตระกูลและเพ่งสมาธิไปที่การบ่มเพาะ”
“เจ้าคิดจะให้ใครรับตำแหน่งนี้ไป ? ” ไป๋หยุนเทียนยังคงใจเย็น หลายสิบปีก่อนความหวังของนางคือการที่เจี้ยนเฉินจะรับตำแหน่งนี้ไป แต่ตำแหน่งนี้ไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาของไป๋หยุนเทียนแล้ว
เจียงหยางป้าเงยหน้าขึ้นถอนหายใจ “คนที่เหมาะที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้คงเป็นเซียงเอ๋อ แต่แม้ว่าข้าจะมองข้ามว่าเขาจะสนใจมันหรือไม่นั้น แต่แค่ความสำเร็จของเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่เขาจะไม่สนใจตำแหน่งนี้แล้ว คนต่อมาที่เหมาะคงเป็นอาหู่ แต่เขาตัดขาดอารมณ์และความปรารถนาของตัวเองรวมถึงตัดตัวเองออกจากครอบครัวเพื่อบ่มเพาะในอารามจิตพิสุทธิ์ มันก็มีแค่เค่อเอ๋อที่เหลืออยู่ในบรรดาลูกชายและลูกสาวทั้งสี่ของข้า”
ไป่หยุนเทียน ยิ้มออกมา “ในบรรดาลูกของเจ้าทั้งสี่คน อาหู่, หมิงเยว่, เซียงเอ๋อ ต่างก็มีความสามารถล้นหลาม พวกเขาต่างก็มีเรื่องของตัวเอง มีแค่เค่อเอ๋อที่ยังไม่มีผลงานใหญ่ ๆ ใด ๆ ข้าไม่รังเกียจหากเจ้าจะส่งมอบตำแหน่งนี้ให้กับเขา”
“ดี เพราะเจ้าพูดแบบนั้น ข้าจะให้ลุงเจียงประกาศเรื่องนี้ ภายในหนึ่งอาทิตย์ เค่อเอ๋อจะรับตำแหน่งนี้อย่างเป็นทางการ” เจียงหยางป้ายิ้มออกมาอย่างพอใจ เขาไม่ต้องถามใครอื่น เขาไม่ต้องถามความเห็นจากสมาชิกตระกูลคนสำคัญที่เหลือ ผู้สืบทอดนั้นตัดสินโดยไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้า
ข่าวที่ว่าหัวหน้าตระกูลกำลังจะส่งต่อตำแหน่งให้กับเจียงหยางเค่อได้กระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงวันมันก็แผ่ไปทั่วทวีปเทียนหยวน, ทวีปสัตว์เทวะ, อาณาจักรแห่งท้องทะเลและทวีปแห่งความสูญเปล่า มันเป็นเรื่องใหญ่ที่แม้แต่สามอาณาจักรในทวีปไม่อาจจะเอาข่าวจักรพรรดิคนใหม่ของตนมาเทียบได้เลย
นี่เพราะตระกูลเจียงหยางตอนนี้คือตระกูลมนุษย์ที่แข็งแก่รงที่สุด หัวหน้าตอนนี้คือพ่อของเจี้ยนเฉิน และคนที่กำลังจะรับตำแหน่งนี้ต่อคือน้องชายของเจี้ยนเฉิน เพราะการที่เจี้ยนเฉินเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ เรื่องธรรมดาทั่วไปจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ของทวีป
ในหมู่ 4 เผ่าพันธุ์ มีเซียนราชาและเซียนจักรพรรดิหลายคนรวมไปถึงพวกคนที่รับหน้าที่ดูแลองค์กรใหญ่ที่ต่างก็ได้รับช่วยเหลือจากเจี้ยนเฉิน ทันทีที่พวกเขาได้รับข่าวนี้ พวกเขาก็พากันเริ่มเตรียมของขวัญไปยังตระกูลเจียงหยางภายใน 7 วันเพื่อแสดงความยินดีกับเจียงหยางเค่อ
ในเวลาเดียวกัน เจียงหยางเค่อและภรรยานั้นดีใจอย่างมากกับเรื่องนี้
“ในอีกไม่กี่วัน เจ้าจะเป็นหัวหน้าตระกูล ตอนนั้นชื่อของเจ้าจะโด่งดังไปทั่วทวีป สามเผ่าพันธุ์อาจจะรู้ชื่อของเจ้าด้วยซ้ำ” คนพูดคือผู้หญิงในวัย 30 ปี นางค่อนข้างสวยและท่าทีของนางก็บ่งบอกว่านางมาจากตระกูลที่ดี บนใบหน้าแฝงด้วยความหยิ่งทะนงซึ่งทำให้ง่ายที่จะรู้ว่านางเป็นธิดาคนโปรดที่เติบโตมาในตระกูลใหญ่
ผู้หญิงคนนี้คือภรรยาของเจียงหยางเค่อ ชื่อของนางคือ ซี่หยาน และพวกเขาก็แต่งงานกันมาหลายปีแล้ว ตอนนี้พวกเขามีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนที่ซึ่งเพิ่งจะอายุ 20 ปี
ในฐานะภรรยาเพียงคนเดียว ซี่หยานจึงมีฐานะที่โดดเด่นในตระกูล นางได้รับสมบัติสวรรค์แสนปีเพื่อเปลี่ยนพื้นฐานของตัวเองทำให้นางมีพรสวรรค์ ดังนั้นตอนนี้นางจึงเป็นเซียนสวรรค์แล้วแม้ว่าจะอายุน้อยก็ตาม
แน่นอนว่าสมบัติสวรรค์นั้นมาจากเจี้ยนเฉิน
เจียงหยางเค่อเหมือนจะโตขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนนี้เขาเป็นชายวัยกลางคนอายุ 30 ปีได้และมีท่าทีเหมือนกับนักปราชญ์ ความแข็งแกร่งของเขาขึ้นมาถึงเซียนผู้คุมกฎได้เพราะเจี้ยนเฉินเช่นเดียวกัน
เจียงหยางเค่อยินดีอย่างมากในตอนนี้ เขาไม่คิดว่าพ่อจะส่งต่อตำแหน่งนี้ให้กับเขา มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดถึงมาก่อน ในหมู่ลูกสี่คน เขาคือคนที่มีความสามารถน้อยที่สุด บางทีเขาอาจจะเป็นได้แค่เซียนปฐพี ถ้าไม่ใช่เพราะ เจี้ยนเฉิน เขาไม่มีทางขึ้นเป็นเซียนผู้คุมกฎได้แน่
แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนผู้คุมกฎแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า น้องสาวและน้องชายของเขานั้นโดดเด่นเกินไป ทั้งสองเป็นจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมแล้ว เพราะความโดดเด่นของทั้งคู่ จึงทำให้การที่เขาขึ้นเป็นเซียนผู้คุมกฎนั้นจึงดูเป็นเรื่องเล็กไป นี่ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่เซียนผู้คุมกฎนั้นไม่อาจจะปกปิดตัวเองจากสาธารณะ เซียนราชามักจะปรากฏตัวอยู่ตลอดและเซียนจักรพรรดิก็แทบจะไม่มี ในฐานะเซียนผู้คุมกฎในยุคที่เซียนโผล่มามากมายแบบนี้ เขายิ่งดูด้อยค่าไปกว่าเดิม
แต่ฐานะหัวหน้าตระกูลเจียงหยางนั้นต่างไปอย่างสิ้นเชิง ในหมู่ 4 เผ่าพันธุ์ มีใครไม่รู้เกี่ยวกับตระกูลเจียงหยางบ้าง ? มีหรือไม่ ? ตราบใดที่เขาเป็นหัวหน้าตระกูล เขาก็จะมีฐานะที่โดดเด่นแม้ว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งมากก็ตาม ฐานะนี้จะทำให้เขาเชิดหน้าได้อย่างมีเกียรติ
ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะสั่งการผู้คุ้มกันทั้งห้าได้ในฐานะหัวหน้าตระกูล มันเป็นเกียรติสูงส่งที่ควบคุมเซียนราชาที่ซึ่งเหนือกว่าชั้นสวรรค์ที่ 5 ได้ เขาอาจจะควบคุมกองกำลังจากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้หากมีเรื่องจำเป็น เจียงหยางเค่อไม่เคยคิดว่าเขาจะมีสิทธิแบบนี้ได้
“ท่านพ่อ ยินดีด้วยกับการที่ได้รับเลือกตำแหน่งหัวหน้าตระกูล” ชายหนุ่มรูปหล่อคุกเข่าอยู่ที่พื้นและยินดีกับพ่อตัวเอง เขาดูคล้ายกับเจียงหยางเค่อและสีหน้าเขาก็แสดงให้เห็นถึงความยินดีที่ไม่อาจจะปกปิดได้
เขาคือลูกของเจียงหยางเค่อกับซี่หยาน เจียงหยางซู เขาคือลูกเพียงคนเดียวของเจียงหยางเค่อ
ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเป็นลูกของเจี้ยนเฉิน นอกจากซ่างกวนมู่เอ๋อ, เสี่ยวเหยียน, เสี่ยวเยี่ย, ฉินฉิน, โหยวเยว่ ผลก็คือเจียงหยางซูจึงเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเจียงหยางป้า ดังนั้นเขาจึงโดนเจียงหยางป้าเอาใจ ตอนที่เจียงหยางซูยังเด็ก เจียงหยางป้านั้นใช้สมบัติสวรรค์ในการสร้างบ่อยาให้กับเจียงหยางซู เขาใช้สมบัติสวรรค์เพื่อชำระร่างกายของเจียงหยางซูให้บริสุทธิ์ขึ้นโดยใช้สมบัติสวรรค์พันปี, หมื่นปีและแสนปีไปนับไม่ถ้วน มันก็คงไม่เกินไปที่จะบอกว่าเขาเติบโตมาด้วยการอาบยา แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ยังไม่เคยได้รับการดูแลแบบนี้ตอนยังเด็ก
ผลก็คือเขามีร่างกายที่ดี การบ่มเพาะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เขายังดูและศึกษาทักษะต่อสู้ใด ๆ ในตระกูลได้ด้วย ยังไงซะฐานะในตระกูลตอนนี้ก็ไม่จำเป็นที่ต้องมาคอยดูแลทักษะและวิธีการบ่มเพาะอีกต่อไป
เจียงหยางซูไม่ได้ทำให้เจียงหยางป้าผิดหวัง เขาได้กลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้ในวัย 20 ปี ตอนอายุเท่านี้มีหลายคนที่เพิ่งจะควบกลั่นอาวุธเซียนของตัวเองได้ แม้แต่ลูกหลานโดยตรงของหลายตระกูลโบราณก็ไม่ได้ทำสำเร็จได้อย่างเจียงหยางซู
ในรุ่นเขาแล้ว เจียงหยางซูเป็นคนที่โดดเด่นทั้งในนามและความเป็นจริง เมื่อรวมกับภูมิหลังของเขาแล้ว เขาก็สามารถดูถูกทุกคนได้
เจียงหยางเค่อแสดงสีหน้ายินดีขึ้นมาแล้วมองไปที่เจียงหยางซู เขายอมรับว่าเขาเป็นลูกที่มีความสามารถน้อยที่สุด แต่เขาเชื่อว่าเขาจะก้าวข้ามพี่และน้องในเรื่องลูกได้
“ซูเอ๋อ เจ้าต้องขยันในการบ่มเพาะ เจ้าจะต้องเป็นเหมือนน้ารองของเจ้าและทำให้พ่อภูมิใจ” เจียงหยางเค่อพูดขึ้นมาด้วยความหนักใจ เขารู้สึกคาดหวังอย่างมากกับลูกชาย
“ท่านพ่อ เป้าหมายในอนาคตของข้านั้นคือก้าวข้ามน้ารองและแทนที่เขาในฐานะจอมยุทธมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” เจียงหยางซูพูดด้วยความทะเยอทะยาน
เจียงหยางเค่อขมวดคิ้วเมื่อได้ยินว่าลูกต้องการแทนที่เจี้ยนเฉิน เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังขึ้นมา “ซูเอ๋อ มันเพราะน้าของเจ้าที่ทำให้เจ้าประสบความสำเร็จได้แบบนี้ เจ้าต้องเคารพน้าของเจ้า เข้าใจหรือไม่ ? ”
“ได้ ท่านพ่อ ข้าจะเคารพท่านน้า” เจียงหยางซูตอบกลับด้วยน้ำเสียงดูผิดหวัง เขาเคยเห็นน้าชายในตำนานนี้ไม่กี่ครั้งตอนที่ยังเด็ก
ซี่หยานมองไปที่เจียงหยางเค่อแล้วพูดขึ้นมาว่า “ทำไมเจ้าถึงต้องดุลูก ? เราควรยินดีที่ซูเอ๋อตั้งเป้าหมายในการก้าวข้ามน้าของเขา และเราก็ไม่ควรจะดุเขาเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากเห็นลูกยืนอยู่จุดสูงสุดของทวีปรึไง ? ”
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินอยู่ในเมืองแห่งเทพเจ้า ข้างกายเขามีผู้หญิงชุดขาว 2 คน พวกนางทำให้คนมากมายหันมาสนใจ
ตอนนั้นข่าวที่ว่าเจียงหยางเค่อกำลังจะสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลได้มาถึงแล้ว ทุกครอบครัวได้ยินข่าวนี้และมันก็ทำให้ทั้งเมืองต้องตกตะลึง
“เจียงหยางเค่อ ? ไม่ใช่ลุงของข้ารึไง ? ” หน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินข่าวนี้
“เสี่ยวเป่า ทวดเจ้ากำลังจะวางมือและลุงของเจ้าจะรับตำแหน่ง ด้วยชื่อเสียงของตระกูลเจียงหยางตอนนี้ พิธีคงต้องยิ่งใหญ่อย่างมาก มันต้องมีจอมยุทธหลายคนที่เข้าร่วมงานในวันนั้น เจ้าอยากไปดูรึเปล่าล่ะ ? ” ผู้หญิงคนหนึ่งข้างกายเขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ
“พี่เสี่ยวเหยียน พี่เสี่ยวเยี่ย ไปดูกันเถอะ ยังไงเขาก็เป็นลุงของข้า ข้าควรไปพบกับปู่ทวดและย่าทวดตอนที่ลุงของข้ารับตำแหน่ง” ชายหนุ่มพูดด้วยอารมณ์ซับซ้อน
ชายหนุ่มคนนี้คือซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน ผู้หญิงสองคนข้างกายเขาคือเซียนหญิงจากเกาะสามเซียนรวมถึงศิษย์ของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ย