เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1580 : แยกจาก
ตอนที่ 1580 : แยกจาก
” นายน้อยเกาะสุดยอดจริง ๆ แค่ของขวัญให้กับนายหญิงสี่ก็ทำมาจากสมบัติสวรรค์แสนปีมากกว่าสิบชิ้นและยังมีของที่เหนือกว่านั้นอีก ค่าของมันไม่อาจจะวัดได้ ข้าสงสัยว่านายน้อยเกาะจะให้อะไรกับหัวหน้าตระกูล…”
” ข้าคิดว่าของขวัญที่สองคงมีค่ามากกว่าอันแรก เราบอกได้จากสีหน้าของนายน้อยเกาะและหญิงสาวสองคนข้างกาย ข้าสงสัยจริง ๆ ว่ามันคืออะไร…”
แขกหลายคนพึมพำและเริ่มพูดคุยกันด้วยความสนใจ พวกเขาบอกได้จากของขวัญชิ้นแรกที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนให้นั้นมีค่ามากกว่าที่องค์กรใหญ่จะให้ได้ ดังนั้นของขวัญชิ้นที่สองคงต้องทำให้พวกเขาสนใจได้อย่างมากแน่
สุดท้าย เจียงหยางป้า ก็เปิดกล่องที่สองภายใต้สายตาสงสัยของทุกคน พวกนั้นต่างก็เห็นลูกท้อสีม่วงขนาดเท่ากับกำปั้น มันคือลูกท้อเมฆม่วง
มันไม่ใช่แค่สิ่งเดียวในกล่อง นอกจากนี้ก็ยังมีใบไม้ขนาดเท่ากับฝ่ามือและผลึกสีเหลือง 3 ก้อน พลังงานอันบริสุทธิ์แผ่ออกมาจากผลึกอยู่ตลอด
“มันคือลูกท้อเมฆม่วงและใบชาหยั่งรู้…”
“ไม่ มันต่างจากลูกท้ออมตะที่นายน้อยเกาะเอาออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่ใหญ่กว่าแต่สีของมันก็ดูทึบกว่า ชัดแล้วว่ามันดีกว่าลูกท้อที่เขาเอาออกมาก่อนหน้านี้…”
” นายน้อยเกาะมีลูกท้อเมฆม่วง 2 ผล พระเจ้า ทุกคนในโลกคงต้องอิจฉาเขาแน่ ลูกท้อเมฆม่วงเป็นสมบัติแบบไหนกัน ? คิดดูสิ ข้าเคยได้กินแค่ชิ้นเล็ก ๆ การที่ได้กินทั้งผลนี้คือฝันที่เกินจริงของข้า แต่นายน้อยเกาะกลับเอามันออกมาถึง 2 ผลในวันนี้ หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ดูแลนายน้อยเกาะได้ดีจริง ๆ…”
“นอกจากราชันเจี้ยนเฉิน ไม่มีใครที่มีลูกท้อเมฆม่วง นายน้อยเกาะคงได้มันมาจาก ราชันเจี้ยนเฉิน….”
ตอนนั้นเซียนกว่าครึ่งที่มารวมตัวกันได้มองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนด้วยความอิจฉา ลูกท้อเมฆม่วงนั้นเป็นสมบัติที่แม้แต่เซียนจักรพรรดิยังอยากได้ แม้แต่ราชันขอบเขตดั้งเดิมก็หามันได้ยาก เพราะแค่ผลเดียวก็เท่ากับการบ่มเพาะหลายร้อยปีรึหลายหมื่นปี มันเป็นสมบัติสวรรค์ที่ทำให้คนเพิ่มพลังขึ้นมาอย่างมากในเวลาอันสั้น หลายคนที่นี่ไม่เคยกินลูกท้อทั้งผล แต่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนกลับเอามันออกมาถึง 2 ผล พวกเขาต่างก็พากันอิจฉา
เจียงหยางซูเองก็ด้วย ตอนที่เขาเห็นซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเอาลูกท้อเมฆม่วงและชาหยั่งรู้ออกมา เขาก็อิจฉายิ่งกว่าเดิม ในเวลาเดียวกันเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจกับน้าของตัวเอง
“น้าของข้าลำเอียง นายน้อยเกาะน่ะไม่ใช่แม้แต่ครอบครัวเขา แต่ทำไมถึงให้นายน้อยเกาะมากมายถึงเพียงนี้ ? น้าถึงกับให้ใบชาหยั่งรู้แต่ข้ากลับไม่ได้อะไรเลยแม้แต่น้อย” เจียงหยางซูมองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนราวกับว่ากำลังจะคลั่ง ตอนนั้นเขาเพิ่งจะรู้ว่าเขาด้อยกว่านายน้อยเกาะ เขามักจะเย่อหยิ่งกับการมีสมบัติสวรรค์หมื่นปีใช้ได้ตามใจและเขาก็สามารถศึกษาทักษะทั้งหมดที่มีในตระกูลได้ ความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของเขานั้นก็ยอดเยี่ยมที่ขึ้นเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้ในวัย 20 ปี หากมองจากมุมมองภายนอกแล้ว จำนวนคนที่ประสบความสำเร็จได้ในวัยเท่าเขานั้นมีเพียงแค่หยิบมือ หรือบางทีอาจจะไม่มีคนที่ทัดเทียมเขาได้
แค่ตอนที่นายน้อยเกาะมาปรากฏตัวตรงหน้าเขา เขาถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกว่ายิ่งใหญ่นั้นไม่ได้มีค่าใด ๆ เลย
“มันเป็นเพราะท่านน้า มันเป็นความผิดของเขา” เจียงหยางซูโทษเจี้ยนเฉินและไม่ยอมรับว่าตัวเองแย่กว่านายน้อยเกาะ เขาโทษเจี้ยนเฉินเพราะเขาเป็นนายน้อยของตระกูลเจียงหยาง ดังนั้นฐานะของเขาจึงถือว่ายอดเยี่ยม เขาไม่ให้ตัวเองแย่กว่าใครอื่น เขามีความคิดว่าตัวเองนั้นดีกว่าคนอื่น ๆ
“ข้าคิดว่าทุกคนคงรู้จักลูกท้อเมฆม่วงและใบชาหยั่งรู้ แต่ข้าไม่คิดว่าท่านจะเคยเห็นผลึกพวกนี้ ผลึก 1 ชิ้นเท่ากับแก่นอสูรระดับ 9 แต่พวกมันดีกว่า นี่คือของขวัญเล็กน้อยที่มอบให้กับหัวหน้าตระกูล หากท่านใช้ผลึกทั้งสามในการบ่มเพาะ ความแข็งแกร่งของท่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในเวลาอันสั้น แล้วท่านค่อยกินลูกท้อหลังจากผ่านไปหลายสิบปีและท่านก็จะกลายเป็นเซียนจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน” ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนพูดขึ้นมาดัง ๆ
“ดี ! ดี ! ดี ! ข้ารับของขวัญทั้งหมดจากนายน้อยเกาะละกัน ฮาฮา นี่คือของขวัญที่มีค่ามากที่สุดที่ข้าเคยได้รับมาในชีวิต” เจียงหยางป้าหัวเราะและไม่ปฏิเสธ เขาปิดกล่องแล้วส่งมันให้กับลุงเจียงต่อ
ในเวลาเดียวกันตาของเจียงหยางซูก็เป็นประกายขึ้นมา เขาตัดสินใจแล้วและมองไปที่กล่องที่มีลูกท้อเมฆม่วง หลังจากที่พิธีนี้จบลง เขาจะไปหาปู่และขอลูกท้อมา เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่อาจเอาชนะนายน้อยเกาะได้หลังจากที่กินลูกท้อเข้าไป
ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเห็นสายตาของเจียงหยางซู เขาหัวเราะในใจและเดินเข้าไปหาก่อนจะพูดขึ้น “น้องชาย เจ้าแพ้แล้ว เจ้ายังต้องเรียกข้าว่าท่านพี่อยู่”
ใบหน้าของเจียงหยางซูหม่นลง เขามองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนอย่างเย็นชาและพูดขึ้นมาว่า “เจ้าชนะเพราะกินลูกท้อเมฆม่วง การต่อสู้ระหว่างเรานั้นไม่ยุติธรรม ดังนั้นข้าจึงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ข้าจะท้าประลองกับเจ้าอีกครั้งในครึ่งปี”
“ได้ งั้นข้าจะรอละกัน” ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนไม่ได้คิดเรื่องนี้มาใส่ใจ เขาหันกลับและเดินจากไปหลังจากที่พูดจบแต่เขาเหมือนกับคิดบางอย่างออกหลังจากที่เดินไปไม่กี่ก้าว เขาหันกลับมาแล้วหัวเราะเยาะเจียงหยางซู “น้องชาย บางทีเจ้าคงต้องรอให้น้าของเจ้ากลับมาและให้ลูกท้อกับเจ้าสินะ ? ข้าแนะนำว่าเจ้าเลิกคิดแบบนั้นซะ หากเจ้าไม่เปลี่ยนความคิด น้าของเจ้าคงไม่มีทางสนับสนุนเจ้าเพราะน้าเจ้าไม่ชอบใช้ของเสียเปล่า”
เจียงหยางป้ามองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนด้วยสายตาที่แฝงด้วยความหมายเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาเข้าใจคำพูดของ ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนว่ากำลังพูดถึงตัวเองอยู่
แต่เจียงหยางป้าไม่ได้พูดอะไร เขาเห็นว่าหลานเพียงคนเดียวนั้นมีหลายจุดที่ต้องแก้ไขหลังจากที่เห็นพฤติกรรมของนายน้อยแห่งเกาะสามเซียน
ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนอยู่ที่ตระกูลเจียงหยางต่ออีกหลายวัน เพราะฐานะนายน้อยแห่งเกาะสามเซียนและเนื่องจากเขาพาเสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ยมาด้วย เขาจึงมีฐานะที่ถือว่ายิ่งใหญ่ในตระกูลเจียงหยาง แม้แต่บรรพชนจากสาขาซูก็ยังต้องมาทักทาเขาด้วยตัวเอง
ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนนั้นสุภาพอย่างมาก เขาถึงกับปฏิบัติต่อคนรับใช้อย่างใจกว้าง ตอนที่เห็นสมาชิกระดับสูงของตระกูล เขาก็จะโค้งให้กับพวกนั้นโดยไม่โอ้อวดตัวเอง ดังนั้นทุกคนในตระกูลจึงชอบนายน้อยผู้นี้ ไป๋หยุนเทียน ทำราวกับว่าซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนเป็นญาติของตัวเอง นางน่ะชอบเขามาก
ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนไม่ได้บอกความจริงว่าตนเป็นลูกของเจี้ยนเฉิน ดังนั้นทุกคนในตระกูลจึงไม่รู้เรื่องนี้ เขาแค่วางตัวไว้ในฐานะนายน้อยแห่งเกาะสามเซียน
ตอนที่เขาอยู่ในตระกูลเจียงหยาง ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนได้รู้เรื่องในอดีตของพ่อตัวเองหลายอย่าง แน่นอนว่าไม่มีใครอื่นรู้ว่าไป๋หยุนเทียนบอกเล่าเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดกับเขา
หลายวันต่อมา ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนก็ร่ำลาเจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียน เขาได้ออกจากตระกูลเจียงหยางกับพี่สาวทั้งสองและยังทำตัวไม่โดดเด่นแต่อย่างใด
“เสี่ยวเป่า เจ้าต้องการจะไปไหนต่อ ? ” เสี่ยวเหยียนถามซ่างกวนเอ๋อเจี้ยน
“ข้าอยากไปที่สำนักหัวหยุนเพื่อพบกับหัวหน้าสำนักพวกนั้น เฉิงหมิงเซียง….”