เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1583 : ความลับของขนสัตว์อสูร (2)
ตอนที่ 1583 : ความลับของขนสัตว์อสูร (2)
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร มันคงเป็นโชคชะตาที่เจ้ามาถึงที่นี่ มิตินี้เกิดขึ้นจากความสามารถของข้าจากเส้นพลังจุดกำเนิดแห่งการสังหาร ตอนที่พวกเจ้าเข้าใจมัน เจ้าจะกลายเป็นศิษย์ในนามของข้า”
ตอนนั้นชายชุดขาวก็ขยับ แค่เพียงก้าวเดียว ดาวรอบ ๆ ก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับจักรวาลที่พลิกกลับ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเดินทางไปได้ไกลแค่ไหน แต่ดูเหมือน่าเขาจะมาถึงอีกด้านของจักรวาล ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา เขาค่อย ๆ ยกมือขึ้นปัดผ่านดาวเคราะห์ด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียว
ตอนที่ปัดนิ้ว ทั้งจักรวาลก็สั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่าพลังที่เกิดขึ้นมาจากโลกนั้นได้อัดแน่นอย่างรวดเร็ว พลังนั้นเต็มไปด้วยการทำลายล้าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็คงต้องถูกกำจัดต่อหน้ามัน
แค่เพียงปัดนิ้ว พลังที่เฉือนไปยังดาวเคราะห์ก็ผ่ามันเป็นสองส่วน
จากนั้นก็ยื่นมือไปยังดาวเคราะห์ที่โดนผ่าเป็นสองส่วน การสั่นของทั้งสองส่วนตรงหน้าก็เปลี่ยนให้มันเป็นผง หลังจากนั้นการสั่นก็หยุดลง แม้แต่ดาวเคราะห์ก็ยังสลายเพราะมือของชายคนนี้
แม้ว่ามันจะเห็นได้ชัดแต่นักสู้ทุกคนต่างก็ตะลึงตอนที่เห็นฉากนี้ด้วยตัวเอง ความแข็งแกร่งของชายขุดขาวนี้เกินกว่าที่พวกเขาจะคาดถึง ดาวเคราะห์ที่เพิ่งจะทำลายไปนั้นใหญ่กว่าดาวเคราะห์ที่พวกเขาอยู่แต่มันกลับโดนผ่าเป็นสองส่วนด้วยการเฉือนเพียงครั้งเดียวและเปลี่ยนเป็นฝุ่น เขาทรงพลังแค่ไหนถึงจะทำแบบนี้ได้ ?
พวกเขาพากันตกตะลึงกันอย่างมาก แม้แต่ หยางลี่, กุยไฮ่ยี่เต่า และ เฟิงเซียวเทียน ที่มาจากโลกที่สูงกว่านั้นรู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขาต่างก็พากันตะลึง
ชายชุดขาวไม่ได้หยุด ทุกครั้งที่เขาขยับ การกระทำของเขานั้นมีพลังทำลายล้างที่สูงซึ่งเพียงพอจะทำให้จักรวาลสั่นไหวได้ เขาทำลายดาวและดาวเคราะห์นับไม่ถ้วน การกระทำของเขานั้นมีพลังของกฎพร้อมกับร่างกายที่สั่นพ้องไปกับโลก เขาแผ่พลังโลกออกมาและในเวลาเดียวกันชายคนนั้นก็อธิบายเส้นทางที่เขาเข้าใจให้กับทุกคนทุกครั้งที่ขยับ
เขาเดินทางผ่านเส้นทางนับสามพันเส้นและกฎของโลก ชายชุดขาวได้แสดงเส้นทางแห่งการสังหารต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจนผ่านวิธีที่โดดเด่น
กฎคือพลังของเหล่าเทพรวมถึงกุญแจที่จะเป็นเทพด้วย ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป มีแค่พวกขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลายที่จะเข้าถึงกฎเหล่านี้ได้และเมื่อพวกเขาเข้าใจกฎ พวกเขาก็จะผ่านประตูไปยังขอบเขตเทพได้
ถ้าคนระดับล่างกว่าขั้นรับมอบช่วงท้ายเข้าใจกฎ พวกเขาก็ไม่อาจจะขึ้นถึงขอบเขตเทพได้ทันที แต่พลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ในหมู่ผู้บ่มเพาะขั้นเดียวกัน พวกเขาจะไร้เทียมทานนอกซะจากว่ามันมีคนอื่นที่เข้าใจกฎของโลกเช่นเดียวกัน
เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, หยางลี่ และนักสู้คนอื่น ๆ รู้ว่าชายชุดขาวได้ส่งต่อเส้นทางให้กับพวกเขา นี่คือโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจจะพลาดได้ ทุกคนต่างก็สงบสติอารมณ์และพยายยามจะทำความเข้าใจถึงแก่นที่แท้จริงของเส้นทาง ทุกคนต่างก็ต้องการทำความเข้าใจเส้นทางแห่งการสังหาร
บางทีคงมีแค่เสือขาวที่ไม่ได้ยกระดับขึ้นมาหลังจากที่ดูดซับมัน เขามองไปที่แผ่นหลังของชายชุดขาวพร้อมกับสายตาที่สั่นไหว
มันเพราะวิธีที่ชายชุดขาวส่งต่อเส้นทางนั้นเหมือนกับการสืบทอดที่เขาได้รับมาในหอคอยสัตว์เทวะ ความต่างเพียงอย่างเดียวคือการสืบทอดที่เขาได้รับนั้นมีแก่นพลังงานการสังหาร หลังจากที่เข้าใจสภาวะเป็นและตาย เขาก็ดูดซับแก่นพลังงานดั้งเดิมแห่งการสังหารและมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังของเขา แต่ชายวัยกลางคนนี้ทำให้ทุกคนเข้าใจเส้นทางแห่งการสังหารผ่านการแสดงพลังมันออกมา หากพวกเขาเข้าใจมัน พวกเขาก็จะถือว่าสำเร็จแต่หากทำไม่ได้ก็ถือว่าล้มเหลว
เขาได้รับการส่งต่อเส้นทางเดียวกันแต่การปฏิบัติที่พวกนี้ได้รับต่างกันออกไป
“ไม่ มันไม่ใช่เส้นทางแห่งการสังหารที่สมบูรณ์ เส้นทางแห่งการสังหารนั้นมีภาวะเป็นและตาย สิ่งที่มันส่งต่อนี้มีแต่ความตาย มันยังขาดภาวะที่อยู่รอดอยู่ แม้ว่าเจ้าจะเข้าใจมันแต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์” สายตาของเสือขาวเป็นประกายขึ้นมา เขาไม่ได้สงสัยว่าชายวัยกลางสคนเป็นใคร เนื่องจากพวกเขาอยู่ในขนสัตว์อสูรและชายคนนี้ก็ได้แสดงเส้นทางแห่งการสังหารออกมาเหมือนกับพยัคฆ์ปีกเทวะ ชายวัยกลางคนตรงหน้าพวกเขาแน่นอนว่าเป็นพยัคฆ์ปีกเทวะในอดีต
เวลาผ่านไปช้า ๆ และสุดท้ายชายคนนั้นก็ได้หยุดแสดงเส้นทางแห่งการสังหาร จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมต่างก็ตื่นขึ้นจากการทำความเข้าใจ แต่ทุกคนต่างก็สลด ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาล้มเหลวที่จะได้ประโยชน์จากการสั่งสอนนี้
การทำความเข้าใจกฎนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าชายชุดขาวจะคอยแสดงกฎออกมา แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะทำความเข้าใจมันได้ในเวลาอันสั้น เนื่องจากพวกเขายังอยู่ห่างไกลจากขั้นแลกเปลี่ยนช่วงปลาย
ตอนนั้นชายชุดขาวค่อยๆหันหลักบมาเผยหน้าตาให้เห็น ตอนนั้นเองทุกคนถึงได้รู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร
ตาของทุกคนหรี่ลงเมื่อเห็นหน้าตาของชายชุดขาวและพวกเขาก็ต้องเบิกตากว้าง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“โมเทียนหยุน….”
“ท่านเจ้าเมือง…”
เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและเทียนเจี้ยนต่างก็ร้องออกมาพร้อมใจที่เต้นรัว นี่เพราะชายชุดขาวที่ส่งต่อเส้นทางแห่งการสังหารนี้เหมือนกับจอมยุทธมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ในอดีต โมเทียนหยุน โดยพื้นฐานแล้วนี่คือคนเดียวกัน
เสือขาวอึ้งไปเช่นกัน ตาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นด้วยความเหลือเชื่อ
ชายชุดขาวเหมือนกับไม่ได้ยินเสียงร้องของพวกเขา แม้ว่าเขาจะหันหน้ามาหาทุกคนแต่สายตาของเขาก็ยังจ้องไปที่ดวงดาว เขาเริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เส้นทางแห่งการสังหารมีสองภาวะ แค่ตอนที่พวกเจ้าเข้าใจภาวะความเป็นและตาย พวกเจ้าถึงจะเข้าถึงขั้นที่สมบูรณ์ได้…”
” ข้าทิ้งแค่ภาวะความตายไว้ที่นี่ ข้าจะส่งต่อภาวะความเป็นให้กับเจ้าในโลกเซียนหากเจ้าเข้าใจมันแล้ว…”
เมื่อพูดจบชายชุดขาวก็หายตัวไปและทุกคนก็รับรู้ได้ถึงแรงที่มองไม่เห็นผลักพวกเขาออกมาจากทะเลดวงดาว
แม้ว่าพวกเขารู้สึกว่าใช้เวลาไปนานในทะเลดวงดาวแต่มันก็ผ่านไปไม่กี่วินาทีในโลกภายนอก เสี่ยวหลิงยังคงสะอื้นอยู่แต่ไม่มีใครสนใจนางอีกต่อไปแล้ว สีหน้าของทุกคนต่างกันออกไป พวกเขาต่างก็คิดถึงใบหน้าของชายชุดขาวซึ่งเผยให้เห็นในตอนท้าย
“คนที่ส่งต่อเส้นทางคือโมเทียนหยุน แต่ขนนี้ชัดแล้วว่าถูกทิ้งไว้โดยพยัคฆ์ปีกเทวะ ตามบันทึกโบราณแล้ว พยัคฆ์ปีกเทวะได้ทิ้งขนนี้ไว้หลังจากที่ผนึกเอ่อหยิน มันคือกุญแจเพื่อลบผนึก จากนั้นขนนี้ก็แยกเป็น 18 ชิ้นก่อนจะกระจายไปในหมู่ร้อยเผ่าพันธุ์, มนุษย์และสัตว์อสูร โมเทียนหยุนทิ้งการสืบทอดไว้ในขนสัตว์อสูรได้ยังไง ? และทำไมการสืบทอดต้องใช้ขนทั้ง 18 ชิ้นรวมกันเพื่อปลดผนึกมัน ? ” ฮุสตันขมวดคิ้ว เขาสับสน เขายอมเชื่อมากกว่าหากชายชุดขาวนี้คือพยัคฆ์ปีกเทวะ ไม่ใช่โมเทียนหยุน
มันมีเรื่องที่อธิบายไม่ได้มากมายหากมันเป็นโมเทียนหยุนจริง ๆ