เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 159 : ทะลวงด่าน
ตอนที่ 159: ทะลวงด่าน
หลังจากที่เจี้ยนเฉินเจอแม่น้ำจากความทรงจำของเขาและอาบน้ำ จากนั้นเขาก็หยิบชุดใหม่ออกมาจากเข็มขัดมิติ
เขาสวมใส่เสื้อผ้าที่สกปรกทับด้วยชุดหนังสัตว์มาเป็นเวลานาน ดังนั้นเมื่อเขาได้ใส่ชุดใหม่จึงรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่อ่อนนุ่มและรู้สึกสบายจากเสื้อผ้าเหล่านี้ เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะมีความสุขไปกับเสื้อผ้าที่สบาย ๆ มันทำให้ร่างกายของเขาผ่อนคลาย ในช่วงเวลานั้นสภาพจิตใจของเขาที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักไม่กี่วันก็ได้รับการเยียวยา
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินได้ฆ่าสัตว์อสูรในป่าและเอาขาหลังที่ทั้งใหญ่และน่ากิน จากนั้นเขาก็หาพื้นที่แห้งเพื่อก่อไฟและเริ่มย่างเนื้ออย่างช้า ๆ
หลังจากที่กินอิ่ม เจี้ยนเฉินก็นับผลกำไรที่ได้มาไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อเจี้ยนเฉินเอาแกนอสูรออกมาจากเข็มขัดมิติและวางกองไว้ที่พื้นพวกมันมีความสูงกว่า 1 เมตร แกนอสูรกองใหญ่ที่มีจำนวนมากกำลังส่องแสง พลังอยู่ภายในแต่ละก้อนต่างก็แย่งกันส่องแสง เมื่อเห็นเช่นนี้หัวใจของเจี้ยนเฉินก็เริ่มเต้นรัว
จากการคำนวณอย่างคร่าว ๆ เจี้ยนเฉินก็สรุปได้ว่าแกนอสูรกองนี้มีประมาณอย่างน้อย ๆ 2,000 แกน สำหรับจำนวนที่แน่นอนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกได้อย่างแม่นยำโดยที่ไม่ต้องเอามันออกมานับ สุดท้ายแกนอสูรก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอย่างอื่นเลย
มองไปที่แกนอสูรที่มีอยู่มากมายเจี้ยนเฉินก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ รางวัลที่ได้มาในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ มันมีมากมายเป็นอย่างมากจนยากที่จะเชื่อได้ แกนอสูรจำนวนมากขนาดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เจี้ยนเฉินบ่มเพาะไปอีกสักพัก
ด้วยความตื่นเต้นที่ยังคงคุกกรุ่นอยู่ เจี้ยนเฉินหยิบเข็มขัดมิติ 3 เส้นออกมาและโยนทิ้งไปด้านข้าง เข็มขัดมิติสองสามอันนี้ได้รับมาจากที่เข้าร่วมเป็นเหล่าทหารรับจ้างเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสในอนาคต ไม่นานหลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็จัดแยกแกนอสูรออกเป็นกอง ๆ
หลังจากผ่านไปกว่า 2 ชั่วยาม เจี้ยนเฉินก็ได้จัดกองแกนอสูรเป็น 3 กองตรงหน้าของเขา โดยแต่ละกองได้รวบรวมแกนอสูรระดับเดียวกันไว้ ระดับ 1 ระดับ 2 และระดับ 3
มีแกนอสูรระดับ 1 ทั้งหมด 700 อัน, ระดับสอง 900 อัน, ระดับสาม 600 อัน ข้าไม่คิดว่าจะได้รับแกนอสูรกว่า 2,300 แกนในช่วงไม่กี่วันมานี้ ฮ่าฮ่า นี่มันดีกว่าที่ข้าคิดไว้มากจริง ๆ ดูเหมือนว่าข้าต้องขอบคุณตระกูลเทียนซ่งเสียแล้ว ข้าต้องขอบคุณพวกเขาที่ได้ให้โอกาสที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ เจี้ยนเฉินหัวเราะกับตัวเองเมื่อมองไปยังแกนอสูรทั้งหมด
เจี้ยนเฉินเก็บแกนอสูรแต่ละระดับลงไปในเข็มขัดมิติแต่ละเส้น จากนั้นเขาก็กลับไปที่ถ้ำที่เขาอยู่มาได้พักหนึ่ง หลังจากที่ปิดปากถ้ำแล้วเขาก็กลับมาบ่มเพาะ
ในถ้ำมืดจนมองไม่เห็นแม้แต่มือของเขา เจี้ยนเฉินนั่งขัดสมาธิราวกับรูปปั้น หากไม่ได้ยินเสียงของลมหายใจเบา ๆ ของเขา ผู้คนอาจจะคิดว่าเขาเป็นรูปปั้นที่ยังมีชีวิตอยู่
เจี้ยนเฉินยังคงดูดซับพลังงานภายในแกนอสูรอย่างต่อเนื่อง พลังเซียนในร่างกายของเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ ความต้องการสำหรับการบ่มเพาะไม่เพียงเพิ่มขึ้น แต่ความเร็วในการดูดซับของเจี้ยนเฉินก็ยังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ก่อนที่จะกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ เขาต้องใช้แกนอสูรระดับ 3 ถึง 3 แกนในคืนเดียวเพื่อไม่ให้การบ่มเพาะของเขาหยุดชะงัก ตอนนี้ความเร็วในการดูดซับของเขาเร็วขึ้นอย่างมากจำนวนแกนอสูรที่เจี้ยนเฉินใช้มากถึง 6-7 อันต่อคืน เพราะเหตุนี้เขาจึงใช้แกนอสูรระดับ 3 ไปถึง 20 กว่าอันในแต่ละวัน
แม้ว่าจำนวนแกนอสูรระดับ 3 ที่เขาใช้นั้นจะน่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้กลัวว่าจะไม่มีแกนอสูรเหล่านี้เลย เขาไม่เพียงแต่ใช้แกนอสูรระดับ 3 ไปหลายร้อยอันจากเข็มขัดมิติของเขาเท่านั้น แต่เขายังใช้แกนที่ได้จากเทือกเขาอสูรเพิ่มเข้าไปด้วย เขาสามารถเข้าไปในพื้นที่ซึ่งลึกกว่านี้ได้และสามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับ 4 ได้ตลอดเวลาที่เขาต้องการ แกนอสูรระดับ 4 นั้นมีพลังมากกว่าระดับ 3 เป็นเท่าตัวหรือหลายเท่า
ในโลกด้านนอก ชื่อเสียงของเจี้ยนเฉินรวมถึงทุกอย่างที่เขาทำในเทือกเขาสัตว์อสูรกำลังแพร่กระจายไปทั่วทุกที่ เมื่อสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น เจี้ยนเฉินเองก็กำลังนั่งสมาธิในถ้ำมืด ๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตา 1 ปีก็ผ่านพ้นไป ภายในปีนี้ความวุ่นวายที่เจี้ยนเฉินได้ทำให้กับโลกภายนอกก็ค่อย ๆ สงบลงจากเมืองเวคนานแล้ว นับตั้งแต่ตามเส้นทางเดิม ไม่มีความแตกต่างมากนักระหว่างปีนี้กับปีที่แล้ว ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือตระกูลเทียนซ่งของเมืองเวคได้หายไปแล้ว
ลึกเข้าไปในเทือกเขาสัตว์อสูร ไม่มีร่องรอยของผู้คน สัตว์อสูรระดับ 4 เดินไปตามทางอย่างนวยนาดและพึงพอใจ มันไม่ใช่ทางที่ทุกคนจะเข้ามาเดินด้วยได้ ในบริเวณเหล่านี้กว่าครึ่งไม่มีร่องรอยของมนุษย์ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ่อยมาก ช่วงเวลานั้นหมอกสีเขียวดำก็ค่อย ๆ ลุกคืบเข้ามาใกล้ กลิ่นเนื้อย่างลอยมากับลมโชยที่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
มีร่างของชายหนุ่มในชุดผ้าฝ้ายกำลังนั่งสมาธิอยู่หน้ากองไฟ ด้านหน้าของเขากำลังมีเนื้อย่างที่กำลังส่งเสียงและกลิ่นถูกเผาอยู่ มันเป็นเนื้อของสัตว์อสูรที่กำลังย่างไฟ
เด็กหนุ่มคนนี้ดูอายุไม่ถึง 20 ปีเขาไว้ผมยาวและถูกผูกไว้เป็นหางม้าพร้อมกับใช้หญ้าก้านหนึ่งปักแทนปิ่น เด็กหนุ่มคนนี้รูปงามอย่างมาก ใบหน้าของเขาก็ไร้ที่ติและผิวที่ละเอียดละอ่อน ใบหน้าของเขาที่นิ่งเฉยเหล่านี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่สามารถฆ่าหญิงสาวทุกคนในหล้าได้
เด็กหนุ่มคนนี้คือเจี้ยนเฉิน
ในหนึ่งปีมานี้เจี้ยนเฉินไม่ได้ออกมาจากเทือกเขาสัตว์อสูรเลย หลังจากผ่านไป 1 ปี เขาได้ใช้แกนระดับ 3 ที่ได้มาจากเหล่าทหารรับจ้างจนหมด เหลือไว้เพียงแกนระดับ 1 และ 2 เท่านั้น ในหนึ่งปีแกนระดับ 3 ทั้งหมดถูกใช้และเจี้ยนเฉินก็ทำได้เพียงใช้แกนระดับ 4 เพียงเท่านั้น ไม่นานแกนระดับ 4 ก็หมดลง ทำให้เจี้ยนเฉินต้องเข้าไปในเทือกเขาลึกเพื่อตามหาสัตว์อสูรระดับ 4 ก่อนที่จะกลับมาบ่มเพาะอีก
เวลาผ่านไป เจี้ยนเฉินได้บ่มเพาะอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นต้นอีกต่อไปและบรรลุถึงขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอด ความแข็งแกร่งของเขาทำให้เขาสามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับ 4 ได้โดยแทบจะไม่ต้องออกแรงเลยด้วยซ้ำ
1 ปีได้ผ่านมาแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก ดูเหมือนว่าข้าควรจะออกไปเดินเล่นรอบ ๆ ให้พลังของข้าคงที่ เฮ้อ หลังจากใช้แกนอสูรไปมากมาย ข้าเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นเรื่องปกติที่ข้าจะต้องปวดหัวไปกันแกนอสูรที่ลดน้อยลงเต็มที เจี้ยนเฉินพึมพำอยู่หน้ากองไฟ
เจี้ยนเฉินดับไฟก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกของเทือกเขา เขาวางแผนไว้แล้วว่าจะออกจากเทือกเขาอีกไม่นาน ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมแกนอสูรระดับสี่ไว้ 2-3 อันเพื่อที่จะบ่มเพาะในภายหลัง
สัตว์อสูรระดับ 4 มักจะไม่ได้อยู่ในใจกลางภูเขาแห่งนี้ ดังนั้นมันจึงเงียบสงบกว่าเนื่องจากสัตว์อสูรระดับ 4 ไม่เหมือนกับสัตว์อสูรระดับ 1 หรือ 2 การที่จะเจอสัตว์อสูรระดับ 4 มันไม่ใช่เรื่องง่าย การที่จะพบเจอสัตว์อสูรระดับ 3 นั้นง่ายยิ่งกว่า
“โอ้ว ! “
เจี้ยนเฉินเดินไปตามป่าอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นเสียงคำรามก็เกิดขึ้นอยู่ด้านหลังเขา เมื่อเขามองไปยังทิศทางนั้น หูของเขาก็กระดิก เจี้ยนเฉินสังเกตเห็นอีกว่าแม้กระทั่งพื้นดินก็เริ่มสั่นน้อย ๆ