เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1654: การรวมตัวกัน
ตอนที่ 1654: การรวมตัวกัน
ถึงแม้จะมีความอดทนทางจิตใจ จิตวิญญาณราชันย์ก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างเมื่อได้รับการยืนยันเรื่องนี้ อัตราการเติบโตของเจี้ยนเฉินทำให้เขาตกใจอย่างมาก ในโลกที่ต่ำกว่าที่ซึ่งมีพลังงานต้นกำเนิดที่บางเบาและค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในคราวหลัง หลังจากที่ทะลวงขอบเขตดั้งเดิมนั้นเป็นเรื่องยากอย่างมาก มันจะต้องใช้พลังงานและเวลาที่เพิ่มมากหลายเท่า ในความเป็นจริงกฎของโลกเบื้องล่างยังคงมีอยู่จำกัดไม่ให้ทะลวงไปถึงขอบเขตเทพ แต่วิถีการบ่มเพาะของเจี้ยนเฉิน ก่อนหน้านี้จิตวิญญาณราชันย์ไม่อาจบอกได้ว่าการบ่มเพาะของเขาอยู่ที่ระดับไหน แต่เขาก็เชื่อว่ามันคงไม่เกินกว่าขั้นแลกเปลี่ยนที่เขาอยู่ไม่ไกลจากมันนัก ความแข็งแกร่งในระดับนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เพราะยังเป็นโลกชั้นต่ำที่ไม่มีทรัพยากรในการสนับสนุนให้เข้าถึงขั้นแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเหล่านี้ เจี้ยนเฉินก็ยังคืบหน้าอย่างมากในช่วงเวลา 20 ปี จิตวิญญาณราชันย์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจจากความแปลกใจกับความเร็วและความสามารถของสหายผู้นี้
ขณะที่จิตวิญญาณราชันย์นั่งลง จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมคนอื่น ๆ ก็ทำตามผู้นำของเขาเช่นกัน พวกเขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเคารพและมีอารมณ์ที่ซับซ้อน ก่อนที่จะนั่งเงียบ ๆ ข้างจิตวิญญาณราชันย์
ก่อนหน้านี้จิตวิญญาณราชันย์ไม่ได้เข้าร่วมการเจรจา ดังนั้นเฉียงซ่งจึงเป็นตัวแทนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทิ้งเพราะเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เฉียงโจวเป็นคนตัดสินทุกอย่าง แต่ตอนนี้จิตวิญญาณราชันย์มาด้วยตัวเอง ผู้พิทักษ์และผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่น ๆ ต่างก็ปิดปากเงียบอย่างเชื่อฟัง
งั้นเรามาคุยเกี่ยวกับเรื่องดินแดน อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในการเจรจาก่อนหน้านี้ โลกของเราได้เสนอดินแดนที่เราต้องให้และแบ่งขนาดของมันตามแต่ส่วนของทั้งสี่เผ่าพันธุ์ เราต้องการหนึ่งในสี่ของดินแดนทวีปเทียนหยวน, อาณาจักรทะเล, สัตว์เทวะและทวีปแห่งความสูญเปล่าดินแดนรกร้าง ด้วยวิธีนี้ดินแดนที่เราครอบครองในโลกนี้ก็จะเป็นเหมือนกับเจ้า เจ้าคิดว่าอย่างไร ? ผู้พูดกล่าวอย่างสงบมากในขณะที่เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉิน เขาไม่สนใจขอบเขตดั้งเดิมคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ข้างเจี้ยนเฉิน
ทุกคนเข้าใจดีว่ามีเพียงสองคนเท่านั้นที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในครั้งนี้ พวกเขาคือเจี้ยนเฉินและจิตวิญญาณราชันย์ จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมคนอื่น ๆไม่มีสิทธิ์เข้าแทรกแซง ในโลกที่คนซึ่งแข็งแกร่งที่สุดและหมัดที่หนักเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ หากโลกนี้ไม่มีเจี้ยนเฉินที่ต่อสู้กับจิตวิญญาณราชันย์ได้ ปัญหาในการเจรจานี้จะไม่เกิดขึ้นเลย
Jian Chen shook his head gently in response to the Spiritking’s words, “Shen Jian, I won’t agree to that.”
เจี้ยนเฉินส่ายหัวเบา ๆ เพื่อตอบสนองต่อคำพูดของจิตวิญญาณราชันย์ เฉินเจี้ยน ข้าไม่เห็นด้วย
ถ้าอย่างนั้น ทำไมเจ้าไม่บอกว่าเจ้าคิดอย่างไร ? จิตวิญญาณราชันย์ยังคงสงบและเขาตอบออกมาอย่างสบาย ๆ ราวกับว่าเขาคิดอยู่แล้วว่าเจี้ยนเฉินจะไม่ยอม
จิตวิญญาณราชันย์พูดเสริมว่า เพื่อที่จะหยุดวิกฤติของโลก คนของโลกข้าได้เสียสละครั้งใหญ่ เจ้าต้องจ่ายให้คุ้ม หากไม่อาจตัดสินใจเจรจาเรื่องดินแดนได้อย่างสันติ ข้าก็ไม่รับประกันว่าโลกของข้าจะไม่ใช้กำลังเข้าจัดการ คำพูดของจิตวิญญาณราชันย์เต็มไปด้วยความคุกคาม หากดินแดนที่พวกเขาบอกไม่เป็นที่พอใจของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง พวกเขาจะกลับไปทำสงคราม
ใบหน้าของจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทางฝั่งของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โลกของพวกเขาไม่กล้วการต่อสู้กับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาอีกต่อไป แต่มันจะเป็นการทำลายล้างหากมีการต่อสู้เกิดขึ้น ทวีปเทียนหยวนได้แตกออกเป็นสี่ส่วนแล้ว มันอาจจะไม่เหลืออะไร
นอกจากนี้แค่เพียงคลื่นพลังจากการต่อสู้ของจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมก็เพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อโลก ในอดีตการต่อสู้ของเจี้ยนเฉินและจิตวิญญาณราชันย์ที่อวกาศได้แยกดวงจันทร์ออกเป็นสองส่วน แม้ตอนนี้เมื่อถึงเวลากลางคืน ผู้คนนับไม่ถ้วนก็จะมองเห็นดวงจันทร์ที่แบ่งออกเป็นสองส่วน ไม่มีใครอยากให้โลกถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเหมือนดวงจันทร์
ในทางกลับกัน จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งรู้สึกภาคภูมิใจเพราะความน่ากลัวของจิตวิญญาณราชันย์ พวกเขายืดอกโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากความกลัวของพวกเขาที่มีต่อซ่างกวนมู่เอ๋อ พวกเขาจึงทำทุกอย่างด้วยความกลัวในการเจรจาครั้งก่อนอย่างจนปัญญา พวกเขาทั้งหมดรู้สึกขุ่นเคืองอย่างรุนแรงเพราะสิ่งนั้น ตอนนี้จิตวิญญาณราชันย์พูดออกมาด้วยตัวเอง อีกฝ่ายควรที่จะต้องฝ่ายที่กลัวแทนพวกเขา
การคุกคามของจิตวิญญาณราชันย์ไม่ได้ทำให้เจี้ยนเฉินโกรธเลย เพราะปัจจุบันโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะท้าทายทวีปเทียนหยวนอีกต่อไป หากการต่อสู้เกิดขึ้น โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เพราะร่างบรรพกาลของเขาไปถึงขั้น 9 แล้ว แม้จะมีรอยร้าวในเม็ดพลังบรรพกาลของเขาทำให้เขาลงมือได้แค่แปดส่วนของพลังทั้งหมดของเขา แต่นั่นก็ยังไม่ใช้เรื่องใหญ่ที่พลังทั้งแปดส่วนของเขาไม่อาจรับมือได้
ถูกต้อง โลกของเจ้ามีบทบาทสำคัญในการหลีกเลี่ยงวิกฤติของโลก หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้า เราอาจจะต้องตายในตอนนี้ เมื่อผู้บ่มเพาะของเจ้าสละชีวิตของพวกเขา ข้าสัญญากับพวกเขาแล้วว่าข้าจะทำตามความปรารถนาสุดท้ายของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาจากไปได้อย่างสงบ เจี้ยนเฉินพูดอย่างใจเย็น ในเวลาเดียวกันก็มีม้วนกระดาษปรากฏอยู่ในมือของเขาและกางออกลงบนโต๊ะ มันเป็นดินแดนทั้งหมดของทั้งสี่เผ่าพันธุ์
เจี้ยนเฉินมองไปที่แผนที่สักพักหนึ่งและพูดว่า ถ้าข้าให้ที่ดินกับเจ้าตรง ๆ มันจะขัดแย้งกับคนที่อยู่ที่ดินก่อนหน้านั่นเข้า ท้ายที่สุดดินแดนของพวกเขาก็คือรากเหง้าของพวกเขาและเป็นบ้านบรรพชนของผู้คนมากมาย มันมีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับพวกเขาที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพวกเขา พวกเขายอมตายมากกว่ายอมจำนน มีแม้กระทั่งองค์กรหรือกลุ่มต่าง ๆ ที่รวมตัวกันเพราะเหตุนี้ หากเจ้าต้องการปักหลักในดินแดนนั้น พวกเขาจะเข้าขัดขวางเจ้าด้วยชีวิต ผลก็คือผู้คนหลายล้านคนในโลกของข้าจะตายจากการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดของพวกเขาหากข้าทำตามที่เจ้าบอก ข้าไม่อาจให้เกิดเรื่องเหล่านี้ได้
จิตวิญญาณราชันย์ขมวดคิ้วและถามว่า แล้วแผนของเจ้าคืออะไร ?
เจี้ยนเฉินเคาะโต๊ะและพูดหลังจากคิดว่า ข้ามีความคิดที่จะจัดการกับปัญหานี้และนั่นคือการรวมกันของทั้งสองโลกรวมถึงเผ่าพันธุ์ทั้งสี่อย่างเป็นทางการ
การรวมกันของทั้งสองโลก จิตวิญญาณราชันย์พูดเบา ๆ เขารู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอของเจี้ยนเฉินที่เกินความคาดหมายอย่างสมบูรณ์ ท้ายที่สุดพวกเขาคือคนที่มาจากโลกที่แตกต่างกัน และโลกของพวกเขาก็เริ่มทำสงครามกัน ยังมีความเป็นศัตรูกันระหว่างทั้งสองโลก ในความจริงที่ดินแดนทวีปเทียนหยวนพังทลายก็เพราะความขัดแย้งเหล่านี้
ถูกต้อง รวมกัน โลกของเราจะไม่ให้ดินแดนใด ๆ กับเจ้า หากเจ้าต้องการดินแดน ให้ซื้อมันจากคนอื่น แม้ว่าเงินทองจะไม่มีค่าในสายตาของเรา แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่เต็มใจที่จะขายที่ดินของพวกเขาในโลกนี้ เจี้ยนเฉินพูดเสียงเหี้ยม นี่เป็นความคิดเดียวที่เขาสามารถสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้และยังคงรักษาผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ได้
หลังจากที่ทุกอย่างในโลกมนุษย์ ความมั่งคั่งเป็นสิ่งชอบธรรม เห็นได้ชัดว่าการซื้อที่ดินจะไม่มีปัญหาใด ๆ และด้วยวิธีนี้โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะสามารถได้รับดินแดนที่พวกเขาต้องการหรือแม้กระทั่งมากกว่าที่พวกเขาอยากจะได้ในตอนแรก
มีแสงวาบในดวงตาของจิตวิญญาณราชันย์ เขาพบว่าคำแนะนำของเจี้ยนเฉินน่าดึงดูดใจอย่างมาก แม้ว่ามันจะหมายความว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างมากเพื่อที่จะได้ที่ดิน แต่โลกของพวกเขาก็ดำรงอยู่มาหลายปีนับไม่ถ้วนและมันก็ยังคงเป็นระบอบกษัตริย์ ความร่ำรวยที่ได้รับจากภาษีเป็นเพียงดวงดาวบนฟากฟ้าซึ่งมีมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นโถงจิตวิญญาณลับจึงมีความมั่งคั่งอย่างมากมานานแล้ว การสูญเสียทรัพยากรบางส่วนจะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาเลย ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็สามารถใช้ทรัพยากรเหล่านั้นเพื่อซื้อที่ดินจากผู้คนทั้งสี่เผ่าพันธุ์ได้ ดังนั้นจำนวนที่ดินของพวกเขาจะมากยิ่งกว่าที่พวกเขาต้องการในเจรจาที่พวกเขาต้องการในครั้งแรก
การแบ่งดินแดนจะมีต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้คนนับพันล้านคน ดังนั้นจิตวิญญาณราชันย์จึงเข้าใจว่าหากเขายังคงยืนยันที่จะแบ่งดินแดนต่อไป มันจะไม่ราบรื่นอย่างนี้ เจี้ยนเฉินไม่คิดที่จะตัดสินแทนคนหลายพันล้านคน เป็นเหตุให้การรวมกันทั้งสองโลกนี้จะช่วยซึ่งกันและกันกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง การซื้อที่ดินดูเหมือนจะเป็นวิธีการที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาเรื่องที่ดินและชีวิตของคนหลายพันล้านคน