เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1692 : ตรวจสอบ
ตอนที่ 1692 : ตรวจสอบ
หัวหน้าตระกูลไม่ได้จบการประชุมหลังจากที่ผู้อาวุโสหยุนนั้นออกเดินทางไปยังเมืองเฟิงเย่ เขาบอกกับผู้อาวุโสทั้งเจ็ดที่ยังอยู่ในห้องว่า “ผู้อาวุโส อยู่กับข้ารอฟังข่าวจากผู้อาวุโสหยุน หากไม่มีข้อสงสัยอะไรตัวตนของชายลึกลับที่โจมตีเหมืองของเขานั้นสำคัญต่อเราอย่างมาก” หัวหน้าตระกูลพูดขึ้นมาอย่างสุภาพ ผู้อาวุโสพวกี้ต่างก็มีฐานะที่สูงส่งในตระกูลลู่ แม้แต่เขาที่เป็นหัวหน้าตระกูลนั้นก็ต้องสุภาพต่อพวกนี้ เขาไม่อาจจะสั่งให้พวกนี้ทำอะไรตามใจได้
ผู้อาวุโสเองก็เข้าใความหนักหนาของเรื่องนี้ หลังจากที่พูดคุยกันอย่างสุภาพกับหัวหน้าตระกูล พวกเขาก็หลับตาลงและรอการกลับมาของผู้อาวุโสหยุน
วันต่อมาผู้อาวุโสหยุนก็กลับมาที่ตระกูลลู่ การกลับมาของเขาทำให้หัวหน้าตระกูลและผู้อาวุโสอีก 7 คนสนใจ พวกนั้นต่างก็มองไปที่เขาและหัวหน้าตระกูลได้ถามขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโสหยุน ท่านได้ตรวจสอบรึยัง ? กระบี่หิมะบินจากเมืองเฟิงเย่ถูกชายลึกลับจากตระกูลโม่ซื้อไปหรือไม่ ? ”
ข่าวนี้สำคัญต่อตระกูลลู่อย่างมาก หากกระบี่หิมะบินนั้นตกไปอยู่ในมือของตระกูลโม่จริง พวกเขาก็ยืนยันได้ว่าขั้นเทพลึกลับที่โจมตีภูเขาเมฆดำนั้นมาจากตระกูลโม่ ไม่งั้นแล้วมันก็หมายความว่าตระกูลโม่นั้นมีขั้นเทพคนที่สามในตระกูล
ผู้อาวุโสหยุน นั่งลงที่นั่งของตน จากนั้นเขาก็ได้พูดขึ้น – ” ข้าได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว กระบี่หิมะบินนั้นถูกซื้อไปจริงและคนซื้อก็คือคนจากตระกูลโม่ ”
หัวหน้าตระกูลโล่งใจตอนที่ได้ยินข่าวนี้ เขาพูดขึ้นมา “ดูเหมือนว่าจะเป็นขั้นเทพลึกลับจากตระกูลโม่ที่โจมตีเหมืองของเรา เขาเป็นคนที่บอกว่าตระกูลของเราจะคงอยู่ไม่นาน โชคดีที่เราไม่ได้คุกคามขั้นเทพคนอื่น”
หัวหน้าตระกูลมองไปที่ผู้อาวุโสทั้งแปดและพูดต่อ – ” แม้ว่าตระกูลโม่จะมีขั้นเทพ 2 คนและพวกเขาก็สามารถบดขยี้ตระกูลโม่ของเราได้ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าจะลงมือกับเราเพราะพวกเขากลัวว่าเราจะบอกข่าวเรื่องสุสานของ ราชาเทพตวนมู่ หากพวกเขาทำให้เราไม่มีทางเลือก พวกเขาไม่อาจจะได้อะไรกลับไปหากสถานการณ์เป็นเช่นนั้น แต่ไม่ต้องกังวลไป ผู้อาวุโส เมื่อบรรพชนกลับมา มันคงยากสำหรับตระกูลโม่ที่จะหลีกเลี่ยงการถูกทำลายแม้ว่าพวกนั้นจะมีขั้นเทพ 2 คนก็ตาม ”
หลังจากที่จบการประชุม หัวหน้าตระกูลก็ได้รายงานเรื่องตัวตนของชายลึกลับที่โจมตีภูเขาเมฆดำไปยังบรรพชนทันที
“อย่าลนลาน เราจะทวงหนี้แค้นกับตระกูลโม่ทันทีที่ข้ากลับไป ในเวลาเดียวกันก็จับตาดูคนจากตระกูลโม่ที่ประจำอยู่ในเมือง ข้าไม่คิดว่าข่าวเรื่องสุสานราชาเทพตวนมู่จะรั่วไหลโดยคนที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลัก เมื่อเราใช้ความพยายามมากมายเพื่อทำลายตระกูลโม่” บรรพชนสั่งการ ในเวลาเดียวกันเขาก็คิด “ฮึ่ม ตระกูลโม่ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าให้คนประจำอยู่ที่เมืองหลักในอดีต ? น่าเสียดายที่ตระกูลลู่นั้นรู้ถึงตัวตนของทุกคนที่เจ้าให้ประจำอยู่ในเมือง เจ้าคิดจะขู่เราด้วยการบอกข่าวเรื่องสุสานราชาเทพตวนมู่งั้นหรือ”
…
มีคฤหาสน์ใหญ่ในเมืองหลักของแคว้นตงอัน ชายวัยกลางคนในชุดหรูหรานั่งอยู่ในห้องหนังสือและกำลังอ่านหนังสืออยู่ เขาคิ้วขมวดอยู่แทบตลอดเวลา
“หัวหน้าตระกูล ซานยี่มาขอพบท่าน” ตอนนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านนอก
ชายวัยกลางคนได้สติกลับมาเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาปิดหนังสือและพูดขึ้นทันที “เข้ามา”
ประตูห้องเปิดออกและมีชายในชุดดำเดินเข้ามา ทันทีที่เขาเข้ามาในห้องเขา ชายวัยกลางคนก็ได้กางโล่พลังรอบห้องเอาไว้ด้วยการโบกมือ เขามองไปที่ซานยี่ด้วยความสนใจและถามขึ้นมา “ซานยี่ มีข่าวสำคัญอะไร ? ”
ซานยี่คำนับและพูดว่า “หัวหน้าตระกูล เรารู้ถึงตัวตนของสองคนที่ตระกูลลู่ได้ค้นหาแล้ว เฉินเจี้ยนได้ทะลวงผ่านขึ้นไปขอบเขตเทพเมื่อไม่นานมานี้และทั้งสองคนก็พักอยู่ในตระกูลโม่ ”
“เขาทะลวงผ่านขึ้นขอบเขตเทพเมื่อไม่นานมานี้รึ ? ไม่ใช่มันหมายความว่าเฉินเจี้ยนผู้นี้เป็นแค่ขั้นแลกเปลี่ยนหรอกรึ ? ข้าไม่เชื่อว่าตระกูลลู่จะสนใจจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมโดยไม่มีเหตุผล ซานยี่ เจ้าเข้าใจหรือไม่ว่าทำไมตระกูลลู่ถึงได้ตามหาสองคนนี้” ชายวัยกลางคนถามขึ้นมา
ซานยี่ได้พูดขึ้น “เรายังไม่รู้เป้าหมายที่ตระกูลลู่ตามหาสองคนนี้ แต่พวกนั้นถูกช่วยโดยคุณหนูตระกูลโม่ โม่หยาน ตอนที่พวกนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก หัวหน้าตระกูลถึงให้พวกเขาพักในที่พักของผู้อาวุโส”
“ทั้งสองคนถูกคุณหนูตระกูลโม่ช่วยเอาไว้ตอนที่รับบาดเจ็บหนักงั้นหรือ ? พวกนั้นไปสร้างความเสียหายอะไรให้กับตระกูลลู่รึไม่ ? ” ชายวัยกลางคนพึมพำและสงสัย
“หัวหน้าตระกูล ข้าเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ เจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยนได้ไปที่เมืองเฟิงเย่และสนใจในกระบี่หิมะบิน แต่พวกเขาไม่ได้ซื้อมันในตอนนั้น เมื่อพวกเขาออกจากเมืองไป กระบี่นั้นถูกซื้อโดยตระกูลโม่และเมื่อวานนี้ภูเขาเมฆดำของตระกูลลู่โดนโจมตีโดยคนลึกลับที่เชื่อว่าเป็นขั้นเทพ ชายลึกลับผู้นี้เข้าใจกฎแห่งกระบี่และตอนที่เขาสู้นั้นก็มีหิมะโปรยปราย ข้าได้ตรวจสอบเรื่องนี้และพบว่าไม่มีจอมยุทธคนไหนที่เข้าใจกฎแห่งกระบี่ที่จะสร้างหิมะขึ้นมาตอนที่สู้ ผลก็คือเรามั่นใจว่ามันเกิดขึ้นเพราะกระบี่หิมะบิน” ซานยี่พูดขึ้น
ชายวัยกลางคนหรี่ตาลงและพูดขึ้น “ซานยี่ เจ้าบอกว่าชายลึกลับที่โจมตีภูเขาเมฆดำนั้นคือเจี้ยนเฉินที่ถูกช่วยไว้โดยตระกูลโม่งั้นหรือ ? ”
“นั่นแค่ความคิดของข้า” ซานยี่พูดขึ้นมา เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “หัวหน้าตระกูล มันมีเรื่องอื่นที่สำคัญซึ่งข้าต้องรายงานให้ท่านฟัง เหรียญผลึกระดับสูงได้ปรากฏขึ้นมาในภูเขาเมฆดำของตระกูลลู่”
“เหรียญผลึกระดับสูงหรือ ? ” ชายวัยกลางคนตะลึงก่อนที่จะแปลกใจขึ้นมา เหมืองผลึกระดับต่ำนั้นสามารถผลิตเหรียญผลึกระดับต่ำได้ มันอาจจะมีผลึกระดับกลางปรากฏขึ้นมาได้บ้างแต่จำนวนมันน้อยอย่างมาก หากผลึกระดับถูกพบ มันก็หมายความว่าเหมืองนั้นขึ้นมาถึงระดับกลางรึอย่างน้อยก็อาจจะเป็นระดับสูงได้
“ข่าวนี้รั่วไหลออกไปรึยัง ? ” ชายวัยกลางคนถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“คนเหมืองจากภูเขาต่างก็โดนฆ่ารวมถึงพวกยามส่วนใหญ่ด้วย คนที่เหลือต่างก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลลู่ ไม่มีใครน่าจะรู้นอกจากพวกระดับสูงของตระกูลลู่และขั้นเทพลึกลับผู้นั้น” ซานยี่พูดขึ้น
“ดี ดี ดี ! ซานยี่ เจ้าทำได้ดีแต่เราไม่อาจจะปล่อยข่าวเรื่องผลึกระดับสูงนี้รั่วไหลได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม แม้ว่าตระกูลลู่จะปิดข่าวนี้แต่มันก็อาจจะรั่วไหลได้ ดังนั้น ซานยี่ ข้าต้องการให้เจ้าเรียกรวมขุมกำลังทั้งหมดที่ช่วยให้ตระกูลลู่ปิดข่าวนี้ เจ้าต้องมั่นใจว่าข่าวนี้จะไม่แพร่ไปทั่วทั้งแคว้น” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องกังวล หัวหน้าตระกูล ข้าเข้าใจเรื่องนี้ดี ข้าได้จัดเตรียมการมานานแล้ว” ซานยี่พูดขึ้น หลังจากที่ลังเลไปเล็กน้อยเขาก็พูดขึ้นต่อ “หัวหน้าตระกูล ตามข้อมูลที่ข้ามี ข้าสงสัยว่าบรรพชนตระกูลลู่นั้นไม่อาจจะทวงคืนสมบัติตระกูลลู่ที่โดนลู่เฟยขโมยไปกลับมาได้ กลับกันแล้ว ข้าเชื่อว่ามันตกอยู่ในเมื่อเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยน พวกนั้นน่าจะสู้กับบรรพชน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกช่วยโดยคุณหนูตระกูลโม่ นี่อธิบายได้ว่าทำไมตระกูลลู่ถึงได้แอบค้นหาสองคนนั้น”
“หากคนที่โจมตีภูเขาเมฆดำนั้นคือเจี้ยนเฉินจริง ๆ ข้อสงสัยนี้ก็มีเหตุผล เขานั้นแข็งแกร่งจริง” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา ตาของเขาสั่นไหวและหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ไม่นาน เขาก็ได้สั่งการซานยี่ “ซานยี่ จับตาดูตระกูลโม่เป็นพิเศษ หากสมบัติตระกูลลู่นั้นอยู่ในมือพวกเขาจริง ๆ ตระกูลโม่ก็น่าจะมีมัน 2 ชิ้น พวกนั้นขาดอีกเพียงชิ้นเดียวจากตระกูลอันโด “