เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1696 : ทะเลดอกไม้
ตอนที่ 1696 : ทะเลดอกไม้
เจี้ยนเฉินหยุดและหันกลับมามองโม่หยานที่วิ่งเข้ามาหา
โม่หยานวิ่งเข้ามาหาเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าเศร้า นางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยใบหน้าน่าสงสารและพูดขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน ข้ามีปัญหา เจ้าช่วยข้าได้รึไม่ ? ”
เจี้ยนเฉินยิ้มและมองไปที่นายน้อยด้านหลัง เขาพูดขึ้นมา “แน่นอน บอกข้ามาว่าจะให้ข้าช่วยยังไง เจ้าอยากให้ข้าไล่เขาไปหรือ ? ” เจี้ยนเฉินตกลงทันที ยังไงซะ โม่หยานก็ช่วยเขาและเฉินเจี้ยน ตอนที่พวกเขาอยู่ด้านนอกมาแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงรู้สึกซาบซึ้งต่อนาง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่รึยากอะไรที่เขาจะช่วยนางกับปัญหาตอนนี้
ยิ่งกว่านั้นแค่มองดูก็รู้ว่านายน้อยผู้นี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ดี เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่อยากให้โม่หยานอยู่กับชายผู้นี้
โม่หยานสะดุ้งด้วยความกลัวเมื่อได้ยินว่าเจี้ยนเฉินจะไล่นายน้อยผู้นี้ไป นางได้กระซิบขึ้นมาว่า “ไม่ ไม่ต้อง เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้ เขาเป็นนายน้อยของนิกายจุลกระบี่ เขาค่อนข้างมีฐานะ เจ้าไม่อาจจะคุกคามเขาได้ เขาไม่ใช่คนจิตใจดีแค่เพราะเขาไม่โกรธข้า หาคนอื่นหาเรื่องเขาและไม่ได้มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อะไร เขาก็ไม่มีทางปล่อยคนแบบนั้นไปแน่ ”
” งั้นเจ้าต้องการให้ข้าช่วยเจ้าอย่างไร ? ” เจี้ยนเฉินถามด้วยรอยยิ้ม
โม่หยานเอียงคอคิดและพูดขึ้นมาว่า “ท่านพ่อต้องการให้ข้าต้อนรับเขา ชัดเจนแล้วว่าข้าทิ้งเขาไม่ได้ แต่ข้าไม่ต้องการอยู่กับเขาเพียงลำพัง ทำไมเจ้าไม่มากับข้าด้วยในฐานะสหายของข้าล่ะ ? หากเจ้าทำเช่นนั้น ข้าคิดว่ายู่ฟาน คงเข้าใจและไม่ตัวติดกับข้าไปตลอด ”
“น้องหยานเอ๋อ นี่ใครกัน ? ทำไมเจ้าไม่แนะนำให้ข้ารู้จัก ? ” ตอนนั้นนายน้อยก็เดินเข้ามาหา เขายิ้มออกมาแต่สายตาเขานั้นเย็นชาและค่อนข้างอิจฉาเมื่อมองมาที่เจี้ยนเฉิน
“ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเรื่องเขามาก่อน ? ไม่ใช่แค่เขารูปงามกว่าข้าแต่เขายังมีพลังบางอย่างที่ข้าไม่มี บัดซบ ตัวตนแบบนี้ต้องได้ใจสาวงามไปก่อน ทำไมข้าถึงไม่มีมัน ? ทำไม ? ” นายน้อยบ่นในใจ เขาแอบเอาตัวเองไปเทียบกับ เจี้ยนเฉิน และพบว่าเขาแย่กว่าในทุกด้านนอกจากภูมิหลังที่เขามี
โม่หยานขมวดคิ้ว นางมองไปที่ยู่ฟานด้วยท่าทีหมดความอดทนและพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ยู่ฟาน ข้าต้องบอกเจ้าอีกครั้งกัน ? อย่าเรียกข้าว่า น้องหยานเอ๋อ มีแค่เจี้ยนเฉินที่เรียกข้าแบบนั้นได้ คนอื่นห้ามทำเช่นนั้น” ยู่ฟานกัดฟันแน่นและมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทีอคติมากกว่าเดิม เขาถามขึ้นมาด้วยท่าทีหยิ่งทะนง “นี่คือเจี้ยนเฉินหรือ ? เจี้ยนเฉิน ข้าขอถามหน่อยว่าเจ้ามาจากตระกูลไหนกัน ? และทำไมนิกายข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องเจ้ามาก่อน ? ” ยู่ฟานเอ่ยถึงนิกายของพ่อตนเพื่อข่มขู่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังคงใจเย็นดังเดิม เขายิ้มออกมา “ข้าไร้ชื่อเสียงและบ่มเพาะเพียงลำพัง ดังนั้นเป็นธรรมดาที่นายน้อยจะไม่เคยได้ยินชื่อข้า”
ยู่ฟานแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังจากที่รู้เรื่องเจี้ยนเฉิน เขาไม่คิดจะสนใจพวกไร้หัวนอนปลายเท้า เขาไม่ชื่อว่าคนแบบนี้จะมาแย่งชิงผู้หญิงตระกูลโม่ไปจากเขาได้
” แต่น้องหยานเอ๋อนั้นดูสนิทกับเจี้ยนเฉิน ไม่งั้นแล้วทำไมนางถึงได้บอกว่ามีแค่เขาที่เรียกนางว่าน้องหยานเอ๋อ ได้ ? ฮึ่ม เจ้ามันแค่คนไร้หัวนอนปลายเท้า แต่กลับกล้ามาแข่งกับข้า ข้าจะจัดการเจ้าในอีกไม่กี่วัน” ยู่ฟานฮึดฮัดในใจและแสดงสายตาอคติออกมา รอยยิ้มของเขายังดังเดิมและได้บอกกับโม่หยานข้างกาย “น้องโม่หยาน ไปดูทะเลดอกไม้ของเจ้ากันเถอะ”
มีความรังเกียจแสดงออกมาในสายตาของโม่หยาน นางมองไปที่เจี้ยนเฉินก่อนจะฝืนยิ้มออกมา “ไปกันเถอะ เจี้ยนเฉิน ไปดูทะเลดอกไม้กัน ทะเลดอกไม้นั้นงดงามและสวยที่สุดในตระกูลโม่ของเรา ว่ากันว่าแม่ข้าปลูกมันด้วยตัวเอง” สีหน้าของโม่หยานสลดลงทันทีที่พูดถึงแม่ของนาง มันแฝงไปด้วยความเศร้าและความเจ็บปวด
โม่หยาน, เจี้ยนเฉิน และยู่ฟาน ได้ไปยังทะเลดอกไม้ในตระกูลโม่ ก็ตามชื่อของมัน ทะเลดอกไม้นี้มีคำว่าทะเลอยู่ด้วยซึ่งมีดอกไม้ที่หายากต่าง ๆ กลิ่นหอมปะทุออกมาจากดอกไม้ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปที่ไหนก็ตาม เพราะดอกไม้ที่ปลูกเหลานี้ล้วนแต่โดดเด่น กลิ่นที่ผสมรวมกันนี้ก็โดดเด่นเช่นเดียวกัน แค่เพียงดมครั้งเดียวก็ทำให้วิญญาณของคนสงบและรู้สึกสบายได้
“ดูนั่นสิ เจี้ยนเฉิน พวกนั้นคือดอกจิตวิญญาณขาว พวกนั้นคือดอกจันทร์แดง พวกนั้นคือดอกแสงตะวัน ส่วนพวกนั้นคือดอกทูราด ข้าได้ยินจากท่านพ่อว่าพวกมันถูกนำมาที่นี่โดยท่านแม่ที่ปลูกมันด้วยตัวเอง” ระหว่างทาง โม่หยานก็คอยชี้ชวนให้ดูดอกไม้ต่าง ๆ ด้วยท่าทีตื่นเต้น นางยิ้มออกมาอย่างสดใสยกเว้นเพียงความเศร้าที่แฝงอยู่ในแววตานาง
สำหรับยู่ฟานที่ถูกมองข้ามแล้ว แต่เดิมแล้วเขาคิดจะให้โม่หยานพาเขาดูทะเลดอกไม้ แต่โม่หยานกลับหันไปสนใจเจี้ยนเฉิน ไม่ว่าจะจงใจรึไม่ก็ตาม แต่นางก็ไม่ชายตามองเขาเลยแม้แต่น้อย
ตอนแรกเขาคิดว่าเจี้ยนเฉินเป็นแค่ผู้ติดตามของโม่หยาน แต่กลับกันแล้ว เขานี่แหละที่กลายเป็นผู้ติดตามแทน ใบหน้าของยู่ฟานหม่นลง สายตาที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉินนั้นเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงกับเผยความอาฆาตออกมา
ความอาฆาตของยู่ฟานไม่อาจจะปกปิดจากเจี้ยนเฉินได้ เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น โม่หยานยังคงไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย แม้ว่านางจะมีความคิดแปลก ๆ มากมายแต่นางก็ไม่อาจจะคิดทุกสิ่งในหัวได้ แม้ว่านางจะอยากหาแพะรับบาปแต่นางก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วน โชคดีที่นางเลือกเขา ไม่งั้นแล้วหากนางเลือกคนอื่นที่ไม่ได้มีฐานะสำคัญเท่ากับนายน้อย การกระทำของนางจะนำไปสู่ความตายต่อคนผู้นั้น
ยู่ฟานอดทนไม่ไหวอีกต่อไป แม้ว่าเขาจะหงุดหงิดและแค้นเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็ยังคงรักษาหน้าตาของนายน้อยเอาไว้ต่อหน้าโม่หยานและฝืนใจกักเก็บความไม่พอใจเอาไว้ เขาได้พูดขึ้นมา “น้องโม่หยาน ข้าได้เห็นทะเลดอกไม้มามากพอแล้ว ทำไมเราไม่ประลองกระบี่กันหน่อยล่ะ ? มาดูกันว่าเพลงกระบี่ของตระกูลโม่กับเพลงกระบี่ของนิกายจุลกระบี่อะไรจะดีกว่ากัน ข้าได้ยินมาว่าในอดีตนั้นพ่อข้ากับพ่อเจ้าได้ประมือกันมาหลายครั้งด้วยการใช้เพลงกระบี่ของตน พวกเขาอยากเห็นว่าอันไหนแข็งแกร่งกว่ากันแต่สุดท้ายก็จบลงด้วยผลเสมอ โชคร้ายจริง ๆ ”