เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 173 : การประมูลสัตว์อสูรระดับ 5
ตอนที่ 173: การประมูลสัตว์อสูรระดับ 5
ในพื้นที่มีที่นั่งอยู่สองชั้น และทั้งสองชั้นก็มีที่นั่งรวมกันเกินกว่าหมื่นที่นั่ง ข้าง ๆ ที่นั่งมีห้องส่วนตัวที่มีกำแพงกระจกสีอ่อน ๆ อยู่หลายสิบห้องสำหรับแขกผู้มีเกียรติ จากด้านใน พวกเขาสามารถเห็นด้านนอกได้อย่างชัดเจน แต่ไม่มีใครจากด้านนอกที่จะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นด้านในได้
ข้างหน้ามีแท่นสูง 2 เมตรสำหรับวางของสำหรับการประมูล ในตอนนี้เอง มีผ้าผืนใหญ่ปิดแท่นเอาไว้อยู่ทำให้ทุกคนไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ใต้ผ้า
เมื่อหาที่นั่งที่ค่อนข้างห่างไกลพบ เจี้ยนเฉินก็นั่งลงอย่างสงบและรอให้การประมูลเริ่มขึ้น คนที่อยู่รอบ ๆ เขาก็ค่อย ๆ นั่งลงเช่นกัน
หลังจากที่ผ่านไปซักพัก โถงประมูลก็มีคนเต็มไปหมด พื้นที่ที่ว่างเต็มไปด้วยคนที่ยืนเบียดเสียดกัน
ในตอนที่ที่นั่งสุดท้ายถูกคนนั่งและทุกคนก็พร้อม พลุสีทองก็ระเบิดขึ้นมาเหนือหัว ผ้าสีแดงที่ปิดอยู่ด้านหน้าแท่นค่อย ๆ ถูกยกขึ้นไปช้า ๆ เผยให้เห็นสิ่งของลึกลับต่อสายตาของผู้ชมทุกคนอย่างช้า ๆ
มีชายชราอายุประมาณ 60 ปียืนอยู่บนสุดของแท่นและตรงหน้าเขานั้นมีโต๊ะไม้สีแดงอยู่
ตาของผู้อาวุโสกวาดไปที่ผู้ชมทุกคนในขณะที่เขากระแอมออกมาและประกาศออกมาเสียงดัง “แขกผู้มีเกียรติ ข้าขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมในงานประมูลประจำปีของโรงประมูลฟีนิกซ์สวรรค์ ข้า ซุยเก๋อหรง จะเป็นเจ้าภาพในการประมูลประจำปีนี้ และข้าหวังว่าในวันนี้ทุกคนจะได้เจอของที่ทุกคนต้องการจะซื้อ!”
ผู้อาวุโสหยุดไปซักพักเพื่อกระแอมอีกครั้งก่อนที่จะพูดต่อ “ในปีนี้โรงประมูลฟีนิกซ์สวรรค์เป็นปีที่ยุ่งที่สุด นั้นเป็นเพราะปีนี้นั้น ปีนี้พวกเราจะประมูลของที่มีค่ามาก 2 ชิ้นซึ่งโรงประมูลฟีนิกซ์สวรรค์ของเราได้ประกาศไปแล้ว ของเหล่านั้นคืออะไร ข้ามั่นใจว่าหลายหลายคนคงรู้อยู่แล้ว ดังนั้น ข้า ผู้อาวุโสซุยจะไม่เสียเวลาอธิบายมันไปมากกว่านี้”
“ดีละ ถ้างั้นข้าขอประกาศเริ่มประมูลอย่างเป็นทางการ…”
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าภาพประมูลในปีนี้จะมีความแข็งแกร่งในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญนะ” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง ในตอนที่ผู้อาวุโสพูด เขาใช้พลังเซียนเพื่อที่จะขยายเสียงของเขาเพื่อที่จะให้ทุกคนในโถงประมูลสามารถได้ยินเขาได้
ตอนที่ผู้อาวุโสพูดจบ ชายสิบคนก็เดินไปที่แท่นทันทีและล้อมมันเอาไว้ สายตาของพวกเขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่ผู้ชม เหมือนว่าพวกเขาประกาศตัวเองว่าเป็นผู้คุ้มกัน
หลังจากนั้น หญิงสาวที่สวยงามก็เดิมมาจากด้านหลังแท่นช้า ๆ ถาดที่ถูกคลุมไปด้วยผ้าสีแดงถูกสูงขึ้นในอากาศบนมือของนาง ในขณะที่นางเดินอย่างมีทักษะมาที่คนนำประมูล นางวางถาดลงตรงโต๊ะหน้าคนประมูล
“แขกผู้มีเกียรติ พวกเราจะมาประมูลของชิ้นแรกกัน สิ่งของที่ลึกลับนี้ก็คือ ข้าจะแสดงให้พวกท่านทั้งหมดเห็น” หลังจากนั้น ผู้นำประมูลก็ยื่นมือไปจับที่ผ้าและเปิดมันออกอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะแสดงให้เห็นขวดหยกขนาดเท่าฝ่ามือด้านใน
“ของชิ้นแรกสุดคือยาร้อยสมุนไพรมหัศจรรย์ สำหรับแขกผู้มีเกียรติที่ไม่คุ้นเคยกับของชิ้นนี้ มันยากมากที่จะหายาที่มีคุณสมบัติในการรักษาเหมือนยาร้อยสมุนไพร ในเวลาวิกฤติ ยานี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มเติมได้ ! “
“ขวดนี้มียาร้อยสมุนไพรอยู่ 5 เม็ดและราคาเริ่มต้นคือ 10 เหรียญม่วง! ทุกคนสามารถเพิ่มได้ทีละ 1 เหรียญม่วงเป็นอย่างน้อย การประมูลเริ่มได้!”
“11 เหรียญม่วง ! “
“12 เหรียญม่วง ! “
“13 เหรียญม่วง ! “
“15 เหรียญม่วง ! “
….
ในตอนที่คนนำประมูลพูดจบ คที่ดูอยู่ก็เริ่มแย่งยาร้อยสมุนไพรมหัศจรรรย์กัน ยานี้มีผลการรักษาที่ดีมากที่ไม่เพียงรักษาได้แต่บาดแผลทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้อีกด้วยเช่นกัน เมื่อกินยาเข้าไป บาดแผลจะทรงตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าผลการรักษาของมันจะยังด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงรักษาใครบางคน แต่ของนี้ก็เป็นที่ต้องการของทุกคน เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงนั้นหาได้ยากในทวีปเทียนหยวน และด้วยตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ มีเพียงตระกูลที่มีอิทธิพลไม่กี่ตระกูลเท่านั้นที่จ้างเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงมาไว้ใช้งาน ดังนั้น ยาที่เป็นสมุนไพรนี้จึงเป็นที่ต้องการในทวีปเทียนหยวน ยิ่งมันมีผลในการรักษาเท่าไร ราคาของมันก็แพงมากขึ้นไปเท่านั้น
ในขณะที่เจี้ยนเฉินนั่งและดูผู้คนรอบ ๆ กำลังแข่งกันประมูลยา รอยยิ้มจาง ๆ ก็เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา แม้ว่ายาร้อยสมุนไพรมหัศจรรย์จะมีผลการรักษาที่ดี แต่เขาสามารถควบคุมพลังเซียนธาตุแสงได้เหมือนเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ดังนั้นยานี้จึงไม่ได้มีประโยชน์กับเขาเลย
หลังจากการแข่งขันที่ดุเดือด ขวดยาร้อยสมุนไพรมหัศจรรย์ก็ถูกขายไปให้กับผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 28 เหรียญม่วง
คนเริ่มแข่งกันประมูลของชิ้นแล้วชิ้นเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่หาพบได้ยาก ในสิ่งของพวกนั้น ไม่มีชิ้นไหนที่เจี้ยนเฉินสนใจเลย
เวลาเที่ยงวันก็มาถึงอย่างรวดเร็วในขณะที่คนงานของโรงประมูลก็แจกอาหารกลางวันให้แขกผู้เข้าร่วมทุกคน แต่ว่าการประมูลจะไม่ได้หยุดและสิ่งของก็ยังถูกขายต่อไป
สิ่งของที่แปลกแต่มีค่าถูกขายไปทีละชิ้นให้กับผู้ที่ประมูลสูงสุด และในไม่ช้าการประมูลก็มาถึงช่วงสุดท้ายในที่สุด
“แขกผู้มีเกียรติ ของชิ้นต่อไปจะเป็นของสองชิ้นสุดท้ายของปีนี้ และมันยังเป็นของที่ทุกคนสนใจอีกด้วย” คนนำประมูลหยุดพูดทันทีในขณะที่สายตาของเขากวาดไปที่ผู้ชม เกือบจะเหมือนว่าทุกคนต่างใจจดใจจ่อ ผู้ชมทุกคนมุ่งความสนใจไปที่แท่นที่อยู่ด้านหน้า
ผู้นำประมูลเริ่มยิ้ม “พูดได้ว่าของเหล่านี้นั้นเป็นของที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอมานานมาก ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้า ผู้อาวุโสซุย ก็จะไม่พูดต่อแล้ว นำของนั้นขึ้นมาเลย!”
ในตอนที่เขาพูดจบ คนงานกำยำหลายคนก็ขึ้นมาบนแท่นพร้อมกับแคร่ ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ทุกคนที่ชมอยู่ก็มองไปที่แคร่
มีผ้าสีดำใหญ่คลุมแคร่อยู่ทำให้ไม่มีใครเห็นว่าอะไรอยู่ข้างใต้มัน อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่ใหญ่ยื่นออกมาจากผ้าซึ่งทำให้หลายคนเดาได้ว่าอะไรถูกซ่อนอยู่ข้างใน
ชายเหล่านั้นลดแคร่ลงช้า ๆ บนโต๊ะและออกจากแท่นไป เขาเดินไปทางโต๊ะ เจ้าภาพการประมูลก็เดินออกมาและวางมือลงไปบนผ้าสีดำ