เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1761: ลัทธิปีศาจชั้นฟ้า (1)
ตอนที่ 1761: ลัทธิปีศาจชั้นฟ้า (1)
แม้ว่าลุงฉินจะหันหลังให้พวกเขาในขณะที่เขาหยุดการบ่มเพาะของเขา แม้ว่าจะหลับตาตงเทียนก็ไม่อาจซ่อนการกระทำที่ผ่านมาของเขาได้
ตงเทียนรู้สึกประหลาดใจมากและเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาไม่บ่งบอกอะไรและยังคงทำตัวสบาย ๆ เขากระพือพัดและถามกลับ “ลุงฉิน ท่านเข้าใจผิดแล้ว มันไม่ได้มีเพียงผู้อาวุโสกู่ที่หลอมยาปรับแต่งเก้าชีวิตได้ มีนักหลอมยาอีกมากมายในโลกเซียนที่สามารถหลอมมันได้ มันเป็นไปไม่ได้หรือเลยที่ข้าจะได้รับมันด้วยสถานะของข้า”
“และมันก็ดูเหมือนว่าท่านจะไม่รู้เกี่ยวกับพลังของค่ายกลรอบ ๆ ห้องยาของผู้อาวุโสกู่ เป็นไปได้อย่างไรที่ข้าจะเข้าไปในนั้นด้วยความแข็งแกร่งของข้า ? ”
ลุงฉินส่ายหน้าอย่างไร้ประโยชน์ ขณะที่ฟังการวิเคราะห์ที่จริงจังของตงเทียน คำพูดของเขานั้นเป็นเรื่องจริงอย่างมาก แต่ลุงฉินเข้าใจว่านายน้อยตรงหน้าอาจจะใช้วิธีการบางอย่างที่เขาไม่รู้และลอบเข้าไปในห้องยาของผู้อาวุโสกู่และขโมยยาจำนวนมาก
สีหน้าของเจี้ยนเฉินค่อนข้างแปลกใจเมื่อเขาฟังทั้งสองคุยกัน เขาตระหนักได้ว่ายาเม็ดที่ตงเทียนให้นั้นอาจจะถูกขโมยมาจากตระกูลของเขา
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในช่วงเวลาต่อมาแสงอ่อน ๆ ก็เริ่มเปล่งประกายออกมาจากตัวของเขา มันห่อหุ้มเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ล้อมรอบเขาราวกับรงไหมพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพียงแค่อึดใจเดียวก็ทำให้เขารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และกลิ่นหอมที่ได้ชำระสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกายของเขา
บาดแผลของเจี้ยนเฉินหายดีหลังจากที่ถูกแสงสีขาวหุ้มในเวลาไม่นาน เขาหายเป็นปกติอย่างรวดเร็วจนตัวเขาเองยังประหลาดใจ เขาตกใจจริง ๆ
ภายในเวลาไม่กี่นาทีแสงสีขาวรอบ ๆ เจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ ลดลงและเผยให้เห็นตัวของเขา อย่างไรก็ตามผิวของเขากลับสู่สภาวะเดิมและเขาก็ฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน
“เป็นยาเม็ดที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้ มันมีพลังการรักษาที่ท่วมท้นกว่าที่ข้าเคยเห็นมาทั้งหมด” เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ เขาเข้าใจว่าบาดแผลของเขารุนแรงแค่ไหน แม้ว่าเขาจะใช้ร่างบรรพกาลและพลังเซียนธาตุแสง แต่เขาก็ต้องการเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์และนั่นก็เป็นความเร็วที่น่าทึ่งอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยาปรับแต่งเก้าชีวิตใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีในการรักษาเขาจนหายดี
เจี้ยนเฉินไม่เคยกินยารักษาอาการบาดเจ็บ เนื่องจากผลของยาไม่ดีนัก พวกมันไม่มีอันไหนที่จะใกล้เคียงกับความเร็วในการรักษาด้วยร่างบรรพกาลของเขา อย่างไรก็ตามยาปรับแต่งเก้าชีวิตมีพลังมากกว่าร่างบรรพกาลของเขาถึงร้อยเท่า
ตงเทียนพูดอย่างภูมิใจเมื่อได้ยินคำชมจากเจี้ยนเฉิน”แน่นอน ทำไมเจ้าไม่มองดูว่ามันคือยาอะไร ? มันเป็นยาปรับแต่งเก้าชีวิต ข้าใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะได้มันมาไว้ในมือและถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นข้าก็มีเพียงแค่ 3 เม็ดเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้าชื่นชมเจ้าเมื่อข้าได้เห็นเจ้าในครั้งแรก ข้าจะไม่ให้เจ้าเลย”
เจี้ยนเฉินยืนขึ้นและขอบคุณตงเทียนอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พูดว่า”นายน้อยตงเทียน สหายของข้าที่อยู่ในสุสานของราชาเทพต้วนมู่ นางกำลังตกอยู่ในอันตรายได้ตลอด ดังนั้นข้าจึงต้องรีบกลับไปช่วยทันที โปรดอภัยในความหยาบคายของข้าด้วย”
“เจี้ยนเฉิน มีขั้นเหนือเทพหลายสิบคนในสุสาน เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะสามารถช่วยสหายของเจ้าได้” ตงเทียนยังไม่หยุดพูด
เจี้ยนเฉินค่อนข้างจริงจัง “ถ้าข้ามีเวลามากพอ ข้าก็มีความมั่นใจว่าจะทำตามเป้าหมายได้” เจี้ยนเฉินนึงถึงเหมืองเหรียญผลึกระดับสูงในแคว้นตงอัน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เขาสามารถยึดครองแคว้นตงอันพร้อมกับตระกูลที่ทรงพลัง มันเป็นเรื่องง่ายที่จะยึดเหมือง
ตราบใดที่เขายกไปถึงร่างบรรพกาลขั้นที่ 10 พลังการต่อสู้ของเขาต้องพุ่งขึ้นสูงอย่างแน่นอน เขามีความมั่นใจว่าเขาสามารถรับมือกับขั้นเหนือเทพช่วงกลางได้ด้วยพลังของร่างบรรพกาลของเขา แม้ว่าเขาจะไม่อาจรับมือกับขั้นเหนือเทพช่วงปลายได้ แต่เขาก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้
ฉินเจิ้งเดินเข้ามาและมองเจี้ยนเฉินด้วยความชื่นชม เขาพูดว่า”เจ้ากำลังพูดถึงวิญญาณนั่นใช่หรือไม่ ? เจ้าไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้น สหายของเจ้าซับซ้อนกว่าที่คิด นางเป็นจอมยุทธระดับสูงสุดที่เข้าถึงขั้นอสงไขยแล้ว ตอนนี้ด้วยทรัพย์สินของตวนมู่ทำให้นางฟื้นฟูไปได้ ดังนั้นเหล่าขั้นเหนือเทพพวกนั้นไม่อาจคุกคามนางได้”
ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น อย่างไรก็ตามเขาตกใจเมื่อเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของนางฟ้าเฮายู่ จริง ๆ แล้วนางเป็นมีพลังขั้นอสงไขย
อย่าไงก็ตามเจี้ยนเฉินดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางอย่างไม่นานหลังจากนั้น เขาจ้องไปที่ฉินเจิ้งด้วยความตกใจ ฉินเจิ้งบอกได้ถึงความแข็งแกร่งในอดีตของนางฟ้าเฮายู่ได้จริง ๆ หรือ ? และเขารู้ว่านางใช้สมบัติของราชาเทพต้วนมู่เพื่อฟื้นฟู ? เขาเห็นมันผ่านชั้นพลังของกฏที่ปกป้องร่างราชาเทพตวนมู่ได้ ?
“เจี้ยนเฉิน เนื่องจากสหายของเจ้าปลอดภัยแล้ว เจ้าจึงไม่ต้องรีบร้อน มาดื่มกับข้าสิ” ตงเทียนหัวเราะ เพียงโบกมืออาหารโอชะทั้งหลายก็ปรากฏบนโต๊ะและเขาก็พูดอย่างภูมิใจ “ข้าเอาอาหารอร่อย ๆ มาด้วยตลอด มันเพียงพอที่เราจะกินอย่างมากมายถึง 300 ปี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งมีค่าในโลก เจี้ยนเฉินมานั่งกินและพูดคุยกัน”
เจี้ยนเฉินลังเลเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นอาหารเต็มโต๊ะ เขาไม่ต้องการที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงนั่งลงและเริ่มพูดคุยกับตงเทียน
“น้องเจี้ยนเฉิน เกราะของเจ้าดูเหมือนจะถูกเอาไปโดยั้นเหนือเทพจากครอบครัวโม่หรืออะไรสักอย่าง เจ้าไม่ต้องการเอามันคืนหรอกหรือ ? ” ตงเทียนถาม เขานั่งไขว่ห้างอยู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนคนโง่
มีแสงเย็นชาวาบในดวงตาของเจี้ยนเฉินและเขาก็พูดว่า “เกราะของข้าไม่อาจเอามันไปได้ง่ายนัก อีกไม่นานข้าจะไปเยี่ยมครอบครัวโม่แห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉินหยาง”
“ครอบครัวโม่ไม่มีอะไรดี ข้าพบว่าพวกเขาขัดตาเช่นกัน เมื่อเจ้าไปเยี่ยมครอบครัวโม่ โปรดอย่าลืมเรียกข้าด้วย ข้าจะไปกับเจ้า” ตงเทียนกล่าวอย่างมั่นใจ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงขั้นเหนือเทพช่วงกลาง เขาก็ดูถูกครอบครัวโม่
“ขอบคุณพี่เทียน แต่ข้าพอจะรับมือกับครอบครัวโม่ได้” เจี้ยนเฉินป้องมือตอบ จากนั้นเขาก็คิดถึงบางสิ่งและถามว่า “พี่ตงเทียน ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าสุดท้ายแล้วใครได้รับกระบี่บินของราชาเทพต้วนมู่ ? ” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ตงเทียนด้วยความสนใจ ตอนนี้เขาสูญเสียกระบี่หิมะบินแล้ว เขากำลังหากระบี่ที่มีคุณภาพสูงกว่านี้
“กระบี่บินทองคำเล่มนี้ดูเหมือนจะถูกชายชราที่เข้าใจกฏของกระบี่เอาไป แม้ว่าข้าจะบอกว่าเขาเป็นคนชรา แต่เขาก็กล้าหาญมาก เขาเป็นศัตรูกับลัทธิปีศาจชั้นฟ้า มีองค์กรไม่กี่แห่งที่จะยอมยั่วยุพวกเขา แม้กระทั่งในหมู่เมฆทั้งหมด เขาไม่ได้คิดถึงอำนาจของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าเลยขณะที่ได้ครอบครอง” ตงเทียนค่อนข้างขึงขังขณะพูดถึงลัทธิปีศาจชั้นฟ้า
“ลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ? ” เจี้ยนเฉินแปลกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้ยินเกี่ยวกับลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น เขาถามว่า”พี่ตงเทียน ท่านช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับลัทธิปีศาจชั้นฟ้าให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่ ? “