เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1779: แยกทางอีกครั้ง
ตอนที่ 1779: แยกทางอีกครั้ง
ในพริบตาสามวันผ่านไปแล้ว ทันใดนั้นใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไป เขาชี้นำทุกคนในโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มหลังจากที่อำลาพวกเขาทุกคนเขา จึงออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มและออกมายังโลกด้านนอก
นางฟ้าเฮายู่ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว นอกอยู่ด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม ผมสีดำของนางเลยพาดหลังลงมาและใบหน้าของนางก็ไร้ที่ติ นางอยู่ด้านนอกโถงและจ้องมองอย่างไม่ละสายตา ขณะที่นางแผ่พลังศักดิ์สิทธิ์
นางดูราวกับนางฟ้าที่มาจากโลกอื่นที่เหนือกว่าโลกมนุษย์ทั้งหลาย
“เจ้าหายดีแล้วหรือ ? ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเฉยเมยขณะที่เขาจ้องมองนางฟ้าเฮายู่อย่างใจเย็น
นางฟ้าเฮายู่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินและไม่ตอบกลับทันที อย่างไรก็ตามหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง นางก็ตอบออกมาด้วยความสงบ “ใช่ ! ข้าหายดีแล้ว เว้นแต่ว่ามันยังไม่เต็มสิบส่วนเท่าไรนัก ข้าได้ใช้ของทุกอย่างในแหวนมิติของราชาเทพต้วนมู่เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังและร่างกายของเขา ของที่เหลือทั้งหมดในนี้ล้วนเป็นของเจ้า ยังมีของล้ำค่าอยู่สองสามชิ้น” ด้วยเหตุนี้นางฟ้าเฮายู่จึงโยนแหวนมิติของราชาเทพต้วนมู่ให้กับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่รอช้า เขายื่นมืออกมาและรับแหวนมิติ มองมันอยู่ในมือของเขา เขาไม่ได้ตรวจสอบสิ่งของด้านในทันที
นางฟ้าเฮายู่กล่าวต่อว่า”มรดกต้วนมู่ไม่ได้อยู่ในนั้น ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวิธีการบ่มเพาะเลย มรดกที่แท้จริงต้องเป็นกระบี่”
“หลิงเฮ่ากงได้รับกระบี่ทองคำไปแล้ว เขาโชคดีจริง ๆ เว้นแต่ว่าเขาต้องสู้กับรองหัวหน้าลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ห้วยอัน” เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบา ๆ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่ามันคุ้มค่ากับหลิงเฮ่ากงหรือไม่สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้
“เจี้ยนเฉิน เจ้าวางแผนที่จะทำอะไรต่อไป ? ” นางฟ้าเฮายู่ถาม
หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เจี้ยนเฉินตอบว่า “ข้าวางแผนที่จะกลับไปยังแคว้นตงอันและอยู่ที่นั่นในตอนนี้ ด้วยวิธีนี้ ข้าจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการบ่มเพาะสำหรับคนที่มาจากโลกเบื้องล่างของข้า” ในขณะนี้ดูเหมือนเจี้ยนเฉินจะคิดถึงบางอย่าง “ใช่แล้ว ข้ารู้แล้วว่าเราอยู่ไหนในตอนนี้ เราอยู่บนที่ราบเมฆาหนึ่งในที่ราบกว้างทั้ง 49 ข้าสงสัยว่าโถงเทพจันทราของเจ้าอยู่ไกลแค่ไหน”
“ที่ราบเมฆา” นางฟ้าเฮายู่พึมพำ นางขมวดคิ้วทันทีและหลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดว่า “โถงเทพจันทราตั้งอยู่บนที่ราบน้ำแข็งขั้วโลกที่เป็นหนึ่งในเจ็ดจอมปราชญ์สูงสุด เทพธิดาน้ำแข็ง มันอยู่ไกลจากที่ราบเมฆามากและข้าต้องเดินทางผ่านที่ราบมากมายกว่าจะไปถึงที่นั่น วิธีเดียวที่จะกลับไปได้คือการไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลระดับที่ราบ ค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายนั้นข้าไม่เคยใช้มาก่อน แต่ตอนนี้มันเป็นราคาที่สูงมากสำหรับพวกเรา”นางฟ้าเฮายู่ขมวดคิ้วของนางอย่างหนัก
เพียงโบกมือ เจี้ยนเฉินหยิบเอาก้อนผลึกระดับสูงที่เหลืออกมาโดยไม่ลังเล เขาพูดกับนางว่า “เอาก้อนผลึกระดับสูงนี้ไป ข้าเอาแค่ชิ้นเล็ก ๆ ไม่กี่ก้อนก็พอ”
นางฟ้าเฮายู่ตกตะลึงทันทีเมื่อนางเห็นก้อนผลึกระดับสูง ก่อนที่จะหัวเราะออกมา นางพูดกับเจี้ยนเฉิน “เจ้าให้มาแค่อันเดียว มันก็ยังไม่พอที่จะไปยังที่ราบที่ใกล้ที่สุด แม้ว่าเจ้าจะเอามามากกว่านี้นับร้อยเท่า มันก็ยังไม่เพียงพอ”
“ห๊า ? ! ค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลมีราคาแพงขนาดนั้นเลย ? ” เจี้ยนเฉินในตอนนี้ตกใจมากแล้ว ก้อนผลึกระดับสูงเป็นสิ่งของที่มีค่าที่สุดสำหรับเขาแล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะจ่ายเป็นค่าใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล
“การใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลระดับที่ราบนั้นต้องใช้ผลึก 1 สี ผลึกเทพของเจ้าก้อนหนึ่งเท่ากับเหรียญผลึก 1 ล้านชิ้น หากเจ้าต้องต้องการหาผลึกระดับสูงสุดก้อนนึง มันต้องใช้ผลึกเทพทั่ว ๆ ไป 10,000 ก้อน แต่ผลึก 1 สีก้อนเดียวมีค่าเท่ากับผลึกเทพระดับสูงนับร้อยเท่า ด้วยเหตุนี้ก้อนผลึกของเจ้าจึงมีค่าเท่ากับผลึกหนึ่งสี เพียง 100 ก้อน”
“จากผลึก 1 สีไปจนถึง ผลึก 5 สี มันจะเพิ่มขึ้นสีละสิบเท่า ก้อนผลึกของเจ้ามีค่าเท่ากับผลึก 3 สี”
เจี้ยนเฉินยังขมวดคิ้ว ตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วมันแพงมากที่จะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลระดับที่ราบ
นางฟ้าเฮายู่ก็เป็นห่วงอีกว่า “มีเพียงจอมยุทธขอบเขตตั้งต้นเท่านั้นที่จะมีก้อนผลึกแบบมีสีอยู่ในการครอบครอง ดูเหมือนว่าข้าจะยังไม่อาจกลับไปยังที่ราบน้ำแข็งขั้วโลกได้ทันที ข้าสงสัยว่าท่านพ่อจะเป็นไงบ้าง”
“เจ้ายังไม่จำเป็นต้องกังวลตอนนี้ แม้ว่าข้าจะรู้ว่าสิ่งที่ท่านพ่อของเจ้ากำลังเผชิญอยู่ก็คงไม่อาจช่วยอะไรได้ แม้ว่าเจ้าจะรีบกลับไปด้วยพลังของเจ้าตอนนี้” เจี้ยนเฉินกล่าว
นางฟ้าเฮายู่พยักหน้า “เจ้าพูดถูก ข้ายังอ่อนแอเกินไป ข้าอาจตายได้ระหว่างทางที่กลับไป ความสำคัญของข้าตอนนี้คือการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของข้า” หลังจากที่ตัดสินใจแล้วสายตาของนางฟ้าเฮายู่เปลี่ยนไป ในตอนนี้ตัวตนของนางก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน
ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่แคบลง ขณะที่จ้องมองนางฟ้าเฮายู่ด้วยความประหลาดใจ ในตอนนี้เขารู้สึกถึงความหนาวเหน็บจากนางฟ้าเฮายู่ มันทำให้เขาประทับใจ แม้ว่านางฟ้าเฮายู่จะเป็นเพียงขั้นเทพช่วงปลาย แต่นางก็สามารถบดขยี้เขาได้ราวกับมด ซึ่งเขาไม่อาจต่อต้านนางได้เลย
“นางเป็นจอมยุทธขอบเขตตั้งต้นจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินคิดขณะที่เขาจ้องมองไปยังนางฟ้าเฮายู่ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
“ข้าต้องฟื้นฟูพลังของข้าก่อน เจี้ยนเฉินเอายันต์หยกนี้ติดตัวไปด้วย เมื่อใดก็ตามที่เจ้าเจอกับอันตราย เพียงขยี้มันและข้าจะไปหาโดยเร็วที่สุด แน่นอนว่ามันจะดีที่สุดที่เจ้าจะใช้มันหลังจากที่ผ่านไปห้าปีแล้ว” นางฟ้าเฮายู่ส่งยันต์หยกสีขาวบริสุทธิ์ให้กับเจี้ยนเฉินก่อนที่จะจากไป
นางต้องการจะลองเสี่ยงโชคในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของนางให้กลับไปอยู่ในจุดสูงสุดของนางโดยเร็วที่สุด
เจี้ยนเฉินมองนางฟ้าเฮายู่จากไป ในที่สุดเขาก็มองไปที่หยกในมือของเขาหลังจากที่นางหายลับไปแล้ว ตราหยกขาวราวกับหิมะและทำมาจากหยกที่ล้ำค่า มีดวงจันทร์ขนาดเล็กถูกแกะสลักลงไป เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงวิญญาณของนางฟ้าเฮายู่อยู่ภายในดวงจันทร์เล็ก ๆ ในนี้
เจี้ยนเฉินหยิบตราหยกและออกจากที่นั่นพร้อมกับโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มหลังจากที่เขารู้ตำแหน่ง เขาก็บินกลับไปยังแคว้นตงอัน
เมื่อสมบัติทั้งหมดในสุสานของราชาเทพตวนมู่ถูกนำออกไป ความไม่สงบที่ปรากฏซึ่งเป็นสาเหตุการตายมากมายได้สงบลง ขั้นเหนือเทพที่อยู่ในสุสานต่างก็ทยอยออกไปกันทีละคนทีละคน
อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มคนจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในสุสานเมื่อพวกเขาค้นหาด้วยความมุ่งมั่น มีขอบเขตดั้งเดิมหลายคน รวมถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์และขั้นเทพ พวกเขาต่างก็ค้นหาทุกระเบียดนิ้วเพื่อหวังว่าจะได้รับโชคอย่างไม่คาดฝัน
นอกจากนี้ยังมีคนไม่กี่คนที่เข้าใจกฏของกระบี่ที่อยู่ในกระท่อมหินที่สอง นอกเหนือจากรอยฟันกระบี่ของราชาเทพต้วนมู่
ผู้คนหลั่งไหลเข้าและออกจากประตูเมืองใหญ่ของแคว้นตงอัน รถม้าสุดหรูที่ถูกลากโดยสัตว์หายากต่างก็วิ่งกันไปมาอย่างเร่งรีบ