เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 179 : ล้อมจับ
ตอนที่ 179: ล้อมจับ
มีแววแห่งความยินดีในสายตาของชายคนนั้นเมื่อเขาได้ยินที่เจี้ยนเฉินตอบกลับ วลีนี้เป็นอะไรที่เขารอมานานที่จะได้ยิน เขาต้องการที่จะให้เจี้ยนเฉินตามเขากลับไปที่ตระกูลเฮมมิ่งอย่างเชื่อฟัง แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความต้องการนี้ออกมาบนใบหน้า “กลับไปกับพวกเราที่ตระกูลเฮมมิ่งทันที ไม่เช่นนั้นจอมยุทธทั้งหมดจะมาถึงยามค่ำ และแม้แต่ตระกูลเฮมมิ่งก็จะไม่สามารถช่วยท่านได้”
สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายเยาะเย้ยที่เกือบจับไม่ได้ออกมาในขณะที่เขาตอบกลับไป “เป็นไปได้หรือที่ข้ากลับไปกับพวกเจ้าที่ตระกูลเฮมมิ่ง แล้วตระกูลเฮมมิ่งจะช่วยข้า? ไม่ใช่พวกเจ้าเพิ่งพูดว่ามีคนที่ทรงอิทธิพลหลายคนกำลังติดตามข้าอยู่หรือ ตระกูลเฮมมิ่งจะสามารถทนการจู่โจมที่มาจากทุกทางได้อย่างนั้นหรือ ? “
ชายคนนี้หัวเราะออกมาอย่างมั่นใจ “แน่นอน ข้ายอมรับว่าคนมีอำนาจที่ติดตามเจ้าอยู่นั้นแข็งแกร่งจริงและอยู่ในระดับเดียวกันกับตระกูลเฮมมิ่ง แต่เจ้าอย่าลืมว่าตระกูลเฮมมิ่งนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดเป็นผู้มีอำนาจของเมืองฟีนิกซ์ อีกทั้ง ตระกูลเฮมมิ่งยังเข้าร่วมกับตระกูลอื่นบางตระกูลอย่างลับ ๆ ดังนั้นถ้าเจ้าตกลงที่จะร่วมมือกับพวกเรา เจ้าก็ปลอดภัยจากคนพวกนั้น”
“โอ้ เป็นแบบนั้นเองหรือ ? ” เจี้ยนเฉินพยักหน้าในขณะที่เขาก็ตระหนักอะไรออกมาอย่างกะทันหัน
“มากับข้าเร็วถ้างั้น ยามค่ำใกล้จะมาถึงเร็ว ๆ นี้แล้ว คนของพวกเราต้านพวกนั้นไว้ได้ครู่เดียวเท่านั้น ถ้าพวกเราอยู่นานก็นี้ สถานการณ์จะร้ายแรง” เขาเชื่อว่าเจี้ยนเฉินได้ตกลงที่จะกลับไปที่ตระกูลเฮมมิ่ง แล้วชายคนนั้นก็วิ่งออกไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะออกไปได้ไกล เขาก็หยุดและขมวดคิ้วหันไปมองเจี้ยนเฉินที่ไม่ออกวิ่ง “ทำไมเจ้าไม่ขยับ ? “
เจี้ยนเฉินแสดงความสงสัยออกมาบนใบหน้า “ไปไหน ? “
เมื่อได้ยินเจี้ยนเฉิน ชายคนนั้นก็รู้สึกกลัวในใจว่ามันจะไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิด “จะมีที่ไหนอีกล่ะ ? แน่นอนว่าพวกเรากำลังจะไปที่ตระกูลเฮมมิ่ง หรือเจ้าต้องการที่จะตายที่อื่น ? “
“แต่ ข้าไม่ได้เคยบอกว่าข้าจะไปกับพวกเจ้านะ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างไร้อารมณ์
ใบหน้าของทุกคนในตระกูลเฮมมิ่งเปลี่ยนไปอย่างรวกเร็วในขณะที่หัวหน้ากลุ่มมีท่าทางมืดมนบนใบหน้าของเขา แล้วเขาก็จ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเย็นชา “วู่หยุน เจ้ากำลังล้อพวกเราเล่นอย่างนั้นหรือ ? “
เจี้ยนเฉินหัวเราะ “ข้าไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเจ้า เจ้าได้ยินข้าพูดหรือว่าข้าจะกลับไปที่ตระกูลเฮมมิ่งกับพวกเจ้า ? “
ชายวัยกลางคนถอนหายใจออกมาก่อนจะสูดลึกเข้าไปในขณะที่สายตาของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นชั่วร้าย เขาหัวเราะออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วพูด “ดี ดีมาก วูหยุน เจ้าปฏิเสธที่จะไปกับพวกเรา ดังนั้นเจ้าก็ยอมรับซะ อย่าโทษพวกเราที่หยาบคายล่ะ ! “
หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนก็พุ่งเข้าไปที่เจี้ยนเฉิน
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายเย็นชาในขณะที่เขาเอาอาวุธเซียนของเขาออกมา กระบี่สีเงินที่เพรียวบางก็ปรากฎขึ้นมาในมือขวาของเขาอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินสามารถบอกได้ถึงระดับความแข็งแกร่งของพวกนี้ได้อย่างชัดแจ้ง ชายวัยกลางคนที่พูดกับเขาในตอนแรกเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษขั้นต้น และชายคนที่เหลือเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดเท่านั้น ความแข็งแกร่งของพวกเขาในระดับนี้ไม่เป็นอันตรายกับเจี้ยนเฉิน
เมื่อได้เห็นว่ามีคนพุ่งมาทางเขา กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินก็เริ่มเปล่งแสงราง ๆ ออกมาจากขอบกระบี่เหมือนว่ามันเป็นสัญญาณแสดงถึงปราณกระบี่ที่แหลมคม จากนั้น ด้วยการแทงเพียงครั้งเดียว เสียงดังมากก็สะท้อนไปทั้งถนนที่แม้แต่อาคารยังสั่นไหว
“ฮ่าฮ่า ตระกูลเฮมมิ่ง การเคลื่อนที่ของพวกเจ้านั้นรวดเร็วจริงจริง” ทันนั้นเอง ปราณกระบี่ปริมาณมหาศาลมากก็พุ่งขึ้นและยิงไปที่ชายวัยกลางคนคนนั้น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ใบหน้าของชายคนนั้นก็เคร่งเครียดมากเพราะเขารู้สึกได้ถึงปรานกระบี่ปริมาณมหาศาลที่เปล่งออกมาจากวัตถุที่ลอยมาที่เขา เขาถอนหายใจในใจ หัวใจของเขารู้ว่าโอกาสในการที่จะจับเจี้ยนเฉินได้นั้นไม่มีแล้ว เขาคำรามออกมาแล้วพลังงานเซียนปริมาณมหาศาลก็เต็มอยู่ที่มือของเขาในขณะที่ดาบสองมือก็ปรากฎขึ้นมา เขาใช้มันเหวี่ยงลงไปที่ปราณกระบี่ที่พุ่งมาทางเขาอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นดาบนั้น ขาของเขาก็กระทืบไปที่พื้นเพื่อที่จะถอยกลับหลัง
“ปัง ! “
ในตอนที่เจี้ยนเฉินถอยกลับ พลังงานปริมาณมหาศาลก็กระแทกลงบนพื้นด้านล่างและทำให้ฝุ่นผงลอยกระจายขึ้นมา เสียงการทำลายล้างสะท้อนไปทุกที่ ในขณะที่แม้แต่ร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ ยังถูกปะทะด้วยคลื่นกระแทก
คนที่อยู่ใกล้ ๆ ถนนที่โชคดีไม่ถูกลูกหลงก็กระโดดออกไปจากที่นั้นอย่างไม่ลังเล สงครามเกิดขึ้นเป็นปกติในทวีปเทียนหยวน เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับทุกคน ดังนั้นคนที่อยู่ใกล้ ๆ จึงไม่ได้ดูกลัวหรือตกใจเลย
หลังจาที่คลื่นกระแทกกระจายไปแล้ว ชายวัยกลางคนจากตระกูลเฮมมิ่งก็ยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมโดยไม่มีท่าทางเคร่งเครียดเลย
ในเวลาเดียวกัน คนกลุ่มใหญ่ก็กำลังเข้ามาใกล้เจี้ยนเฉินจากทางด้านหลัง แม้แต่ยอดของอาคารที่อยู่ใกล้ ๆ ยังมีคนหลายคนกระโจนลงมาอย่างโกลาหลเพื่อที่จะจับเจี้ยนเฉิน
มันแค่สักพักเท่านั้น ก่อนที่คนหลายร้อยจะอยู่เต็มถนนเป็นกลุ่มแน่น แม้แต่หลังคาใกล้ ๆ ยังเต็มไปด้วยผู้คน
“ใครที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ออกไปทันที”
จู่ ๆ ก็มีเสียงร้องออกมาทำให้คนที่ดูอยู่ใกล้ ๆ ทุกคนรู้ตัวว่าพวกเขาจำเป็นที่จะต้องออกไปจากบริเวณนี้ หลังจากนั้น หลังจากฝูงชนก็หลีกทางให้คนที่กำลังดูอยู่ออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเจี้ยนเฉินเห็นว่ามีคนรายล้อมเขาอย่างน้อยเป็นร้อยคน ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดมากกว่าเดิม ในกลุ่มเหล่านั้น เขาสัมผัสได้ว่ามีหลายคนค่อนข้างแข็งแกร่ง ในขณะที่คนอื่น ๆ เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเป็นอย่างน้อย