เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 180 : นี่คือข้อเสนอของข้า
ตอนที่ 180: นี่คือข้อเสนอของข้า
ในตอนนี้ ชายชราที่อยู่ในชุดแดงราคาแพงก็สำรวจไปที่ฝูงชนรอบ ๆ เขาก่อนที่จะยิ้มออกมา “ตรงนี้ช่างมีชีวิตชีวาซะเหลือเกินที่มีคนมีอำนาจมากมายอยู่ขนาดนี้ หาได้ยาก หาได้ยากจริง ๆ ชายแก่คนนี้ไม่ได้เห็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว”
“หืม เจ้าแก่ยูปิง เจ้าควรจะอยู่ที่ด้านหลังตระกูลเฉิงของเจ้านะ ไม่จำเป็นที่เจ้าต้องมาที่เมืองฟีนิกซ์หรอก” ผู้เฒ่าผมดำอีกคนซึ่งยืนอยู่บนยอดหลังคาอีกที่หนึ่ง
ผู้เฒ่าที่ชื่อยูปิงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาในขณะที่เขาจ้องไปที่ผู้เฒ่าที่มีทำผมมวยสูงแล้วพูด “หวงปิงชู การที่เจ้ามาที่เมืองฟีนิกซ์ ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการจะหยุดข้าในการทำสิ่งที่ข้าปรารถนาอย่างนั้นหรือ?”
“หืม เจ้าแก่ปีศาจยูปิง เจ้ายังไม่ลืมเรื่องเมื่อห้าปีที่แล้วใช่ไหม ด้วยโอกาสอันนี้ ทำไมพวกเราไม่มาจบเรื่องนั้นกันซะล่ะ” ฮวงปิงชูจ้องไปที่ผู้เฒ่ายูปิงและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่แสดงให้เห็นได้ชัดถึงจิตสังหารของเขา
“ถูกต้อง มันถึงเวลาแล้วที่ข้าจะให้เจ้าใช้หนี้จากเมื่อห้าปีที่แล้ว” ผู้เฒ่าชุดแดงพูดขึ้นมา พลังเซียนปริมาณมหาศาลรวมอยู่ในมือของเขา และควบแน่นกลายเป็นดาบโค้งยาว 2.33 เมตรอย่างรวดเร็ว
มาถึงจุดนี้ ท่าทางของผู้เฒ่าทั้งสองก็เคร่งเครียด ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างผู้เฒ่าชุดแดงเดินไปหาเขาแล้วพูดว่า “ท่านยูปิง ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ท่านจะสะสางเรื่องในอดีต มันน่าจะดีที่สุดถ้าพวกเราจัดการเรื่องตรงหน้านี้ก่อน ก่อนที่จะสะสางปัญหาความเค้นระหว่างท่านสองคน”
ผู้เฒ่าชุดแดงพนักหน้า “ยังไงก็ช่าง ฮวงปิงชู ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ในตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา พวกเรามารอให้เรื่องตรงหน้าพวกเราจบซะก่อน ก่อนที่พวกเราจะสะสางความแค้นของพวกเรา”
ผู้เฒ่าอีกคนมองไปที่เจี้ยนเฉินเล็กน้อย และรู้ว่าในตอนนี้มันเป็นโอกาสสำหรับทำอย่างอื่นก่อนที่จะพ่นลมออกมา “ถ้างั้นข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อนในตอนนี้”
ในตอนนี้ มีกลุ่มคนที่ก็กำลังเดินทางอยู่สองข้างของถนน จากความเร็วของพวกเขาและการเดินที่สอดคล้องกัน ใครก็ตามที่เห็นก็สามารถบอกได้ว่าพวกเขานั้นเป็นพวกเดียวกัน
ในขณะที่กลุ่มนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ คนกลุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างของงานก็ปล่อยให้กลุ่มผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว
กลุ่มชายหลายคนอยู่ที่อยู่ด้านข้างจ้องไปที่เจี้ยนเฉินที่อยู่ท่ามกลางวงล้อม “นี่ต้องเป็นท่านวู่หยุนแน่”
เจี้ยนเฉินหันหน้าไปเห็นชายวัยกลางคนในชุดขาวที่มีผมยาวเพียงนิ้วเดียวและมีแผลเป็นบนใบหน้าของเขา
เจี้ยนเฉินพูด “ถูกต้อง ข้าคือวู่หยุน อะไรที่ทำให้ทุกคนมารวมกันมากมายขนาดนี้เพื่อหยุดข้า ? ข้าไม่รู้เหตุผลเลย”
“ฮาฮ่า ท่านวู่หยุน ชายชราผู้นี้ต้องการที่จะถามท่านว่า สัตว์อสูรระดับห้าสองร่างนั้น ท่านนำมันมาใช่หรือไม่ ? ” ผู้เฒ่าชุดแดงถาม
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาเบา “ข้าไม่คิดว่าคนไร้ชื่อเสียงอย่างข้าจะดึงดูดผู้คนที่มีอิทธิพลได้มากมายอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของเจ้านั้นถูกต้อง คนที่นำสัตว์อสูรระดับห้าทั้งสองตัวนั้นมาที่งานประมูลคือข้าเอง”
แม้ว่าจะมีคนหลายคนที่มีอำนาจล้อมเขาอยู่ เจี้ยนเฉินก็ไม่แสดงแม้แต่เศษเสี้ยวความกลัวออกมาบนใบหน้าของเขา ต่อหน้าวงล้อมของคนเป็นร้อย เขาก็ยังหัวเราะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ท่านวู่หยุน ข้าคนนี้คือรองเจ้าวิหารดาบเมฆาเลื่อนลอย โจวทง ในเมื่อท่านมีร่างของสัตว์อสูรระดับห้า ถ้างั้นก็เดาได้ว่าท่านก็ต้องมีแกนอสูรระดับห้าด้วย วิหารดาบเมฆาเลื่อยลอยของพวกเราต้องการที่จะเสนอราคาที่ท่านพอใจและซื้อแกนอสูรนั่น ท่านวู่หยุนตกลงหรือไม่ ? “
“แน่นอนว่า ถ้าท่านวู่หยุนขายแกนสัตว์อสูรระดับห้าให้กับพวกเรา วิหารดาบเมฆาเลื่อนลอยก็จะเป็นมิตรกับท่าน ถ้าท่านเจอปัญหาใดใดเข้า วิหารดาบเมฆาเลื่อนลอยจะช่วยท่านแก้ปัญหาแน่ ท่านวู่หยุนตกลงไหม?” โจวทงยืนอยู่บนยอดของหลังคาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
หลังจากที่โจวทงพูดออกไป คนที่กำยำและมีผิวดำอีกคนก็พูดออกมา “ท่านวู่หยุน ข้ามาจากนิกายหยาง ข้าไม่ชอบอ้อมค้อมไปมา ข้าจะพูดตรงตรงเลยแล้วกัน แกนอสูรระดับห้าที่อยู่กับท่าน 2 อัน นิกายหยางต้องการที่จะซื้อหนึ่งในนั้น ราคาที่พวกเราเสนอจะเป็นไปตามที่ท่านพอใจ แต่ท่านวู่หยุนจะตกลงหรือไม่ ? “
เมื่อเห็นตระกูลที่มีอำนาจหลัก 2 ตระกูลถามหาแกนอสูรระดับห้า ผู้มีอิทธิพลคนอื่นก็ไม่ยอมน้อยหน้า
“ท่านวู่หยุน พวกเรามาจากตระกูลยู่หลัน แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่บนทวีปเทียนหยวน แต่ก็ไม่มีคนในเมืองเมฆอัคคีที่ไม่ปรารถนาที่จะเอาใจพวกเราเลย ถ้าท่านวู่หยุนขายแกนอสูรให้กับพวกเรา ตระกูลยู่หลันจะรับรองความปลอดภัยของท่านในการอยู่ที่เมืองเมฆอัคคีโดยไม่ให้ใครมารบกวนท่านเลย” ชายที่ใส่ชุดแพงพูดขึ้นมา
“”ท่านวู่หยุน ข้ามาจากตระกุลมู่เทียน…”
“ท่านวู่หยุน ข้ามาจากตระกูลคาเดียร์…”
ทุกคนเริ่มเอ่ยปากขอซื้ออแกนอสูรระดับห้าจากเจี้ยนเฉิน
เมื่อได้เห็นว่ามีอย่างน้อยสิบกลุ่มที่พูดออกมา เจี้ยนเฉินก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าเกรงว่าจะทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่ข้าไม่มีแกนอสูรระดับห้า แม้ว่าข้าจะนำสัตว์อสูรระดับห้าทั้งสองนั้นมาเพื่อขายจริง แต่ข้าไม่ได้ฆ่าพวกมัน ข้าแค่ไปเจอร่างของพวกมัน”
“ฮ่าฮ่า ท่านวู่หยุนไม่ต้องพยายามที่จะปิดมันอีกต่อไปแล้ว ร่างของสัตว์อสูรระดับห้านั้นมีค่าจนแม้แต่เซียนสวรรค์ก็ยังไม่มองข้าม นอกเหนือไปจากนั้น พวกเราได้ตรวจสองร่างของสัตว์อสูรระดับห้านั้นแล้ว และพบว่าพวกมันสู้กันเองจนตายและถูกพบเจอหลังจากนั้น จากบาดแผล มันง่ายที่จะบอกได้ว่า คนที่สร้างบาดแผลนั้นเป็นคนที่อ่อนแอที่พยายามจะเอาแกนอสูรออกมา นี่หมายความว่า คนนั้นต้องเป็นท่านวู่หยุนอย่างไม่ต้องสงสัย” ผู้เฒ่าหัวเราะออกมา มันเกือบจะดูเหมือนว่าเขากำลังคุยเรื่องสภาพอากาศกับเพื่อนของเขา
“ถูกต้อง ท่านวู่หยุน พวกเราแค่อยากซื้อแกนอสูรระดับห้าจากท่าน ไม่ได้อยากจะขโมย ถ้าท่านขายมันให้กับพวกเรา ท่านก็ไม่เสียหายอะไร แกนอสูรระดับห้าพวกนี้ไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่กับท่าน มันจะนำพาปัญหามาให้กับท่าน ถ้าท่านขายมันให้กับพวกเรา ท่านจะได้เงินไปเป็นจำนวนมากจนถึงระดับท่านไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหารอีกต่อไป และแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น ท่านก็ยังสามารถใช้เงินในการซื้อแกนอสูรเพื่อฝึกฝนได้ ในอนาคต ท่านจะสามารถเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญระดับสูงหรือแม้แต่เซียนปฐพีได้ ท่านจะเสียอะไร ? ” โจวทงจากวิหารดาบเมฆาเลื่อนลอยพูดออกมา