เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1817 : แคว้นค้นกระบี่
ตอนที่ 1817 : แคว้นค้นกระบี่
บรรพชนครอบครัวโม่นั้นไม่ได้มีน้ำมหัศจรรย์มากนัก ตอนที่เขาพบมันในมิติภายนอก เขาก็ได้มันมาแค่เพียง 6 หยด เขาใช้มันไป 1 หยดเพื่อทำการศึกษาการทำงานของมันซ่อมวัตถุเซียน ผลก็คือเขาเหลืออยู่เพียงแค่ 5 หยดเท่านั้น
แม้ว่าบรรพชนครอบครัวโม่จะไม่รู้ว่าน้ำนี่คืออะไรหรือเขาไม่ได้ยินข่าวเรื่องน้ำนี่เลย แต่เขาก็เข้าใจว่ามันมีค่าแค่ไหน เพราะแค่เพียงหยดเดียวก็สามารถซ่อมวัตถุเซียนให้มีสภาพสมบูรณ์ได้
แต่เดิมแล้วเขาไม่ต้องการใช้มันซ่อมวัตถุเทพในวันนี้ เขารู้ว่าหากวัตถุเทพนี้ยังคงเสียหายอยู่ เขาก็จะสามารถเก็บมันไว้ได้ แต่เขาคงต้องดิ้นรนหากต้องการเก็บมันไว้เมื่อมันถูกซ่อมแซมขึ้นมา
สำหรับความจริงเรื่องนี้แล้วคงมีนักสู้นับไม่ถ้วนที่สนใจหากข่าวที่ว่าเขามีวัตถุเทพกับตัวนั้นรั่วไหลออกไป
นักสู้เหล่านั้นคงไม่ใช่ราชาเทพแต่เป็นพวกที่ก้าวข้ามขั้นราชาเทพไปได้และขึ้นถึงขอบเขตตั้งต้น
แต่เมื่อเจี้ยนเฉินได้ทะลวงผ่านไปได้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป ที่เขาทำได้ก็คือต้องซ่อมเกราะนี่เท่านั้น
เมื่อมีเกราะนี้เขาถึงมั่นใจว่าจะสามารถฆ่าเจี้ยนเฉินได้
น้ำทั้งหมดได้ถูกเทลงบนเกราะทำให้ชั้นแสงเข้มข้นขึ้นมามากกว่าเดิม ส่วนที่เสียหายนั้นถูกซ่อมแซมด้วยความเร็วที่มากกว่าเก่า
สายตาของบรรพชนครอบครัวโม่เต็มไปด้วยความกังวล, คาดหวังและยินดีเมื่อมองไปที่เกราะ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะเก็บมันไว้ไปได้ตลอดหรือไม่ แต่เขาก็ยังคงยินดีเมื่อได้เห็นเกราะนี้ฟื้นฟูสภาพของมัน
แสงรอบเกราะคงอยู่หลายชั่วยามก่อนจะหายไป เมื่อแสงนั้นหายไป สภาพของเกราะอันสมบูรณ์ก็ปรากฏขึ้นมา
บรรพชนครอบครัวโม่ตื่นเต้นเมื่อเห็นเกราะที่ถูกซ่อมนั้น เขาพึมพำออกมา “มันถูกซ่อมจนสมบูรณ์ วิเศษ น้ำนี่มหัศจรรย์ มันถึงกับซ่อมแซมวัตถุเทพได้ ข้าไม่ได้มีความสามารถในการสร้างวัตถุเทพในตอนนี้ ข้าไม่อาจจะใช้พลังของวัตถุเทพได้ แต่ตราบใดที่ข้าใส่มันไว้ ข้าก็น่าจะทนรับการโจมตีจากขั้นเหนือเทพด้วยการป้องกันของเกราะเพียงลำพัง แม้แต่ขั้นเหนือเทพช่วงปลายก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของข้า”
เมื่อคิดแบบนั้นบรรพชนครอบครัวโม่ก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่เขาก็ยังเข้าใจว่าเขาต้องเก็บความลับของเกราะนี้เป็นความลับ เขาไม่อาจจะเอามันออกมาได้นอกซะจากว่าเผชิญหน้ากับอันตราย
“หัวหน้าตระกูลเทียนหยวน การที่เจ้ามีกระบี่ปราณสองเล่มแล้วมันยังไง ? ตอนนี้ข้าไม่จำเป็นต้องกลัวเจ้าเลยแม้แต่น้อย” ความมั่นใจของบรรพชนเพิ่มขึ้น ตอนนั้นเขาถึงกับอยากไปที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนเพื่อฆ่าเจี้ยนเฉินด้วยตัวเอง
ยังไงซะเขาก็เอาวัตถุเทพมาจากเจี้ยนเฉิน เขากลัวว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นฝ่ายแพร่ข่าวนี้ออกไป
“ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นเทียบเท่ากับข้าได้และเขาก็เข้าใจกฎแห่งกระบี่ ข้าไม่อาจจะพ่ายแพ้ได้ด้วยวัตถุเทพ แต่การฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องง่าย หากเขาต้องการหนี ข้าคงไม่อาจจะหยุดเขาได้ ข้าไม่อาจจะไปในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนตอนนี้ได้ ยังไงซะ เจี้ยนเฉิน อาจจะไม่แพร่ข่าวนี้ออกไปเนื่องจากเขาเองก็ไม่รู้ว่าข้าซ่อมแซมมันแล้ว ข้าแค่ต้องวางค่ายกลที่ทรงพลังและรอเจี้ยนเฉินอย่างอดทน”
แคว้นค้นกระบี่นั้นคือ 1 ใน 36 แคว้นของอาณาจักรสวรค์ปิงเทียนและมันก็คือแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุด มันเพราะคนที่มีอำนาจในเขตนั้น หลิงเฮ่ากงที่ไม่ใช่แค่ขั้นเหนือเทพที่เข้าใจกฎแห่งกระบี่แต่ยังเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาด้วย
ในเวลาเดียวกัน แคว้นค้นกระบี่ก็มีเมืองหลักที่ไม่เก็บภาษีเพียงแห่งเดียวในอาณาจักร รายได้ทั้งหมดเข้าตรงที่ตระกูลหลิงของหลิงเฮ่ากง
นี่เป็นเกียรติยศที่มีแต่ในตระกูลหลิง
มันมีคฤหาสน์ที่ใหญ่และหรูหราใจกลางเมืองหลัก คฤหาสน์แห่งนี้คือที่ตั้งของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแคว้นอย่างตระกูลหลิงตั้งอยู่
ชายหนุ่มชุดขาวเดินไปที่ทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลหลิงช้า ๆ
“หยุด ! นี่คือเขตของตระกูลหลิง ห้ามเข้า ! ”
ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปถึงทางเข้า ยามก็เข้ามาหยุดเขาไว้ที่ทางเข้า
ชายหนุ่มไม่ได้หยุด ภายใต้สายตาของเหล่ายาม เขากลับเดินไปที่ทางเข้าอย่างสบายใจ เขาบอกกับยามด้วยท่าทีเป็นกันเอง “โปรดส่งต่อข้อความว่า เจี้ยนเฉินของตระกูลเทียนหยวนมาเยี่ยม “
“หัวหน้าตระกูลสั่งว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งหมดจะถูกปฏิเสธ…” ยามคนหนึ่งมองมาที่เจี้ยนเฉินและตอบกลับทันที
แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ เขาก็หยุด สายตาเขาเปลี่ยนไปและมองไปที่ เจี้ยนเฉิน ด้วยท่าทีเหลือเชื่อ “เดี๋ยวนะ…เจ้าว่ายังไงนะตะกี้ ? ตระกูลเทียนหยวน ? ตระกูลเทียนหยวนไหนกัน ? ใช่ตระกูลเทียนหยวนจากแคว้นตงอันหรือไม่….”
เจี้ยนเฉิน ยิ้ม “ถูกต้อง ตระกูลเทียนหยวนจากแคว้นตงอัน “
สีหน้าของพวกยามเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินว่าเขามาจากตระกูลเทียนหยวนแคว้นตงอัน พวกนั้นต่างก็หยุดและมอง เจี้ยนเฉินด้วยความเคารพ
“แขกผู้ทรงเกียรติ รอสักครู่ ข้าจะติดต่อหัวหน้าตระกูลทันที …” ยามคนหนึ่งรีบวิ่งออกไป
หัวหน้าตระกูลหลิง หลิงโม่เจียน ตอนนี้กำลังประชุมภายในห้องโถงอยู่ เขานั่งอยู่บนบัลลังก์หัวหน้าตระกูล เขาดูเคร่งเครียดและดูสูงส่ง
ด้านล่างเขานั้นมีสมาชิกระดับสูงหลายสิบคน
ตอนนั้นยามคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาในห้องโถงโดยไม่สนกฎของตระกูล เขาพูดขึ้นมาอย่างสุภาพว่า “หัวหน้าตระกูล มีคนด้านนอกบอกว่าเขาคือเจี้ยนเฉินจากตระกูลเทียนหยวน เขาบอกว่าเขามาเยี่ยมเยียนตระกูลหลิงของเรา ! ”
“อะไรนะ ? ตระกูลเทียนหยวน ? ใช่ตระกูลเทียนหยวนจากแคว้นตงอันหรือไม่ ? ”
หัวหน้าตระกูลหลิงกำลังจะด่าและลงโทษยามที่ไม่ทำตามกฎ แต่เมื่อได้ยินข่าวนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปและดูเครียดขึ้นมาทันที