เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 189 : เฉียดตาย
ตอนที่ 189:เฉียดตาย
เมื่อเจี้ยนเฉินมาถึงทางเข้า จู่ ๆ แสงสีขาวก็พุ่งพรวดจากชั้นสองไปทางเจี้ยนเฉิน
แขนที่ถือกระบี่แทงเข้าไปในวัตถุสีขาว ทันใดนั้นวัตถุชิ้นนั้นก็ระเบิดออกมาเมื่อถูกสัมผัสและถล่มลงมาใส่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่ได้เป็นกังวลเลยและปล่อยให้ผงแป้งสีขาวหล่นลงบนเขา เขามีหมื่นต้านพิษในร่างกาย เขาจึงไม่กลัวพิษอันตรายใด ๆ
เจี้ยนเฉินยกแขนขึ้นเหนือแผ่นหินก่อนที่จะกระแทกมันลง แผ่นหินแยกออกเป็นชิ้น ๆ เผยให้เห็นทางเข้าด้านล่าง เจี้ยนเฉินกระโดดลงไปทันทีโดยไม่ลังเล
ภายในลานของโรงเตี๊ยม เริ่มมีคนมารวมตัวกันจากทุกทิศทุกทางโดยนับรวมได้ถึง 27 คน
จากเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 30 คนเหลือเพียง 27 คนเท่านั้น
“ช่างเป็นคนเจ้าเล่ห์เหลือเกิน ตอนนี้ที่เขากระโดดเข้าไปที่นั่น เราไม่มีทางจับเขาได้” เมื่อมองไปที่ทางเข้า ผู้อาวุโสพูดด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด
“บ่อน้ำทั้งหมดในเมืองฟีนิกซ์ถูกเชื่อมต่อถึงกัน บ่อน้ำเหล่านี้ทุกแห่งล้วนนำไปสู่ถ้ำใต้ดินที่เก็บน้ำไว้ซึ่งเขาสามารถหลบหนีไปในทิศทางใดก็ได้ที่เขาต้องการ” ชายผิวดำพูดขึ้นมา เขาเป็นคนของตระกูลเฮมมิ่งซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลของเมืองฟีนิกซ์ ดังนั้นนี่จึงเป็นหัวข้อที่เขาคุ้นเคย
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำเช่นไรต่อ เราควรจะตามเขาเข้าไปในบ่อน้ำหรือไม่ ? ” ผู้อาวุโสถามด้วยน้ำเสียงลังเล
“ข้าไม่คิดอย่างนั้น วู่หยุนเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญที่มีพละกำลังมากอย่างที่เราเห็น เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 3 คนต่อสู้ร่วมกันและนั่นยังไม่เพียงพอที่จะเอาชนะเขา หากเราต้องลงไปในบ่อน้ำนี้ ความสามารถในการต่อสู้เป็นกลุ่มของเราจะถูกขัดขวางอย่างมากรวมถึงสายตาของเราที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นการเข้าไปในบ่อน้ำนี้ไม่เพียงทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เราจะจับตัวเขา แต่เราจะสูญเสียคนอีกหลายคนด้วย” ชายวัยกลางคนกล่าว เขาสวมชุดที่ดูแพงปักดิ้นทองซึ่งแสดงว่าเขาเป็นคนชั้นสูง
ชายผู้มีจมูกแหลมถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อเขาพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจว่า “แล้วเราจะปล่อยเขาไปเช่นนั้นหรือ ? เขามีทักษะการต่อสู้ระดับสูงด้วย ทักษะการต่อสู้นั้นเพียงพอที่จะให้เซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงต่อสู้กับกลุ่มของเราโดยที่เราจะไม่สามารถจับเขาได้”
“ใช่แล้ว คนธรรมดาที่มีทักษะการต่อสู้นี่เป็นสิ่งที่หายากในทวีปเทียนหยวน เราจะไม่ได้เจอเป้าหมายที่ง่ายเช่นนี้อีก ไม่ว่าในกรณีใดเราจะสามารถเข้าใจความลับที่อยู่เบื้องหลังทักษะการต่อสู้นี้ได้ เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลของเราหลังจากที่เรานำมันไปพร้อมกับแกนอสูรระดับ 5 แม้ว่าแกนอสูรนั้นมีค่า แต่เมื่อเทียบกับทักษะการต่อสู้ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองอย่างนั้นสูงเกินไป ทักษะการต่อสู้ขั้นสูงเช่นนี้เป็นสิ่งที่คนร่ำรวยไม่สามารถซื้อได้ ชายวัยกลางคนผิวขาวคนหนึ่งกล่าว เขาเป็นตัวแทนจากตระกูลมู่เทียน
“ถูกต้อง ทักษะการต่อสู้นี้เป็นสิ่งที่เราไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ แต่วู่หยุนหลบหนีจากเราไปแล้ว เขาอาจอยู่ที่ไหนก็ได้ในเมืองฟีนิกซ์ จากขนาดของเมืองนี้ หากเราต้องค้นหาเขาในพื้นที่กว้างมันจะทำให้เรื่องนี้ยุ่งยากมากขึ้น ในสายตาของข้า เราควรใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าเขายังไม่ได้ไปไหนไกลและไล่ตามเขา
“สภาพด้านล่างบ่อน้ำไม่ชัดเจนทำให้แทบจะมองไม่เห็นอะไร เราจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวู่หยุนอาจรอให้เราเข้ามาซุ่มโจมตี ดังนั้นถ้าเราตกหลุมพราง เราจะได้รับอันตราย … “
ผู้คนเริ่มถกเถียงกัน ทักษะการต่อสู้นี้เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาและต้องการอย่างยิ่ง ทุกคนรู้ตัวว่าตัวเองโลภแต่พวกเขาก็กลัวตาย พวกเขากลัวสิ่งที่พวกเขาอาจพบในบ่อน้ำและพวกเขาไม่ใช่คนโง่ แม้จะสิ่งที่พวกเขาตามหาจะหายาก หากพวกเขาต้องทิ้งชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย พวกเขาก็จะไม่สามารถใช้ทักษะการต่อสู้ขั้นสูงได้หลังจากตาย
เมื่อเห็นทุกคนพูดคุยกัน ผู้อาวุโสที่สวมเสื้อคลุมธรรมดาก็ยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขายกมือซ้ายขึ้นเผยให้เห็นอสรพิษขนาดเท่านิ้วมือที่ขดรอบแขนเสื้อคลุมของเขา ผู้อาวุโสจับหัวอสรพิษอย่างอ่อนโยนและพูดอย่างมั่นใจว่า “ไม่ต้องกังวล วู่หยุนหนีพวกเราไม่พ้นหรอก”
บ่อเก็บน้ำที่อยู่ด้านล่างของเมืองฟีนิกซ์เป็นบ่อน้ำธรรมชาติที่ระบายน้ำสำหรับทุกบ่อในเมือง
ในขณะนี้ภายในบ่อเก็บน้ำนี้มีชายคนหนึ่งกำลังว่ายน้ำผ่านลำธารน้ำพร้อมกับปลามากมาย ชายคนนี้คือเจี้ยนเฉิน เขากำลังโล่งใจมากที่หนีออกมาจากโรงเตี๊ยมได้
ตอนนี้เขาอยู่ใต้ดิน พื้นที่ทั้งหมดเป็นสีดำสนิท บวกกับน้ำที่ปิดกั้นการมองเห็น มันทำให้เขาเหมือนคนตาบอด
จากแผนที่ในหัว เจี้ยนเฉินก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วความมืดไปตามทางซึ่งเขาคาดว่าจะอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร
ในช่วงกลางวันที่เจี้ยนเฉินอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ เขาก็ได้ศึกษาสภาพแวดล้อมของเมือง เขาวางแผนที่จะหลบหนีมานาน เขาคิดเผื่อไว้ในกรณีที่เขาต้องการหลบหนีจากสถานการณ์เช่นเดียวกับที่เขาเพิ่งเจอ เขาจึงใช้แผนนี้ให้เป็นประโยชน์ เขาสามารถหลบหนีไปในทิศทางใดก็ได้โดยใช้เส้นทางเชื่อมต่อจากบ่อน้ำเพื่อที่เขาจะได้ปรากฏตัวอีกครั้งในสถานที่ต่าง ๆ ของเมือง
จากข้อเท็จจริงที่ว่าเจี้ยนเฉินเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดตอนนี้ ระยะเวลาที่เขาสามารถกลั้นหายใจได้จึงนานกว่าและง่ายราวปอกกล้วยเข้าปาก ดังนั้นการกลั้นหายใจในน้ำจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา
เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ในบ่อเก็บน้ำเป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วยามก่อนถึงพื้นที่ห่างออกไป 20 กิโลเมตรจากจุดเริ่มต้น เมื่อหันหน้าไปอีกทิศหนึ่ง เขาเริ่มว่ายน้ำไปยังทางเดินที่กว้างและเตรียมตัวขึ้นบก
เจี้ยนเฉินสูดอากาศอีกครั้งขณะที่เส้นผมเปียกชุ่ม หลังจากใช้เวลาว่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง 3 ชั่วยาม เขาก็เหนื่อยเล็กน้อย หลังจากได้สูดลมหายใจ เจี้ยนเฉินก็ตบฝ่ามือทั้งสองลงบนผิวน้ำและทะยานขึ้นมาจากบ่อเหมือนกระสุน
เจียนเฉินบินไปกลางอากาศลงไปที่ด้านข้างของลำธารในขณะที่เขาพยายามสลัดหยดน้ำที่เหลืออยู่ให้หมดไป ทันใดนั้นเขาก็เริ่มมองไปรอบ ๆ ตัวเองอย่างระมัดระวัง
พื้นที่ที่เขาโผล่เข้ามาดูเหมือนจะเป็นลานเล็ก ๆ ที่มีเสื้อผ้ากระจายอยู่รอบ ๆ เสาทุกแห่ง ไม่ว่าเขาจะมองที่ไหน เขาก็ไม่เห็นใครเลยสักคนเดียว
“ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่านี่คือบ้านของครอบครัวเล็ก ๆ” เจี้ยนเฉินพยายามทำให้ผมของตัวเองแห้ง เขาตัดผมใหม่อีกครั้งด้วยกระบี่ คราวนี้ผมของเขาจึงสั้นลงมาก
“ข้าไม่รู้เลยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรในตอนนี้ แต่ข้าเกรงว่าผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นที่นี่ได้จ้างกลุ่มคนมาสองสามกลุ่มเพื่อค้นหาข้า ระยะทางระหว่างที่นี่และโรงเตี๊ยมก็ไม่ไกลนัก ข้าควรรีบออกไปทันที เจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ภายในบ่อเก็บน้ำ เขาลบล้างตัวตนปลอมและจากเจี้ยนเฉินตัวปลอมก็กลายเป็นเจี้ยนเฉินคนเดิม ผมที่เปียกของเขายิ่งขับเน้นให้เห็นถึงใบหน้าที่หล่อเหลามากขึ้น.
เจี้ยนเฉินเริ่มใช้พลังเซียนเพื่อทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นและระเหยน้ำก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่จากเข็มขัดมิติ ไม่มีเวลาทำความสะอาดบาดแผลนอกจากพันบาดแผลไว้ ถึงอย่างไรนี่คือบ้านของคนอื่น ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อใดที่เจ้าของบ้านจะกลับมา ถ้าเจ้าของบ้านต้องพบกับคนแปลกหน้าที่ด้านหลังบ้าน มันจะทำให้เขาเดือดร้อนมาก
เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว จะเป็นการดีที่สุดที่จะออกจากที่นี่ทันที
หลังจากเตรียมการทั้งหมดและมองดูอย่างแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาจึงรีบออกจากพื้นที่และเข้าสู่ตรอกเล็ก ๆ จากนั้นเขาเข้าไปในถนนที่มีผู้คนหนาแน่นและพยายามคิดว่าเขาอยู่ที่ไหน ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังประตูเมือง
รูปลักษณ์หน้าตาในปัจจุบันของเขาไม่ใช่วู่หยุน ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่กังวลเลยว่าเขาจะถูกจับ