เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1915 - เข้าสู่ห้องโถงใหญ่
ตอนที่ 1915 – เข้าสู่ห้องโถงใหญ่
ลั่วหยุนเฟยอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเขาปะทะกับเจี้ยนเฉิน
การโจมตีนั้นสั้นมาก มันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที จากผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ มีเพียงลั่วหยุนเฟยเท่านั้นที่เข้าใจถึงอันตราย
เขาใช้ทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดของเขา ไม่เพียงแต่มันถูกซัดจนกระจัดกระจายไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียวโดยผู้นำตระกูล แต่ปราณกระบี่จากผู้นำตระกูลได้ทำร้ายมเขาเโดยตรงและทิ้งไว้เพียงบาดแผลข้างหลังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าบนคอของเขา
เขาไม่มีพลังที่จะต่อต้านมันเลย หากไม่ใช่เพราะความเมตตาของผู้นำตระกูล เขาก็คงจะถูกตัดหัวไปแล้ว
ในขณะนั้น ประตูห้องของลั่วหยุนเฟยเปิดออก ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างโดดเด่นเดินเข้ามา เขาสวมชุดสีฟ้า
“ผู้นำตระกูลตระกูลเทียนหยวนนั้นทรงพลังจริง ๆ อาจมีเพียงขั้นเหนือเทพเพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อสู้กับเขาได้ แน่นอนว่าเขามีความแข็งแกร่งที่จะจารึกชื่อไว้บนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ”
“หยุนเฟย ข้าหวังว่าเจ้าจะจดจำความพ่ายแพ้ของเจ้าได้ดี แม้ว่าเจ้าจะเป็นอัจฉริยะแห่งสำนักกระบี่ภูษาคราม เจ้าจะต้องไม่เหย่อหยิ่ง ข้าเชื่อในอนาคตเจ้าจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้นำตระกูลเทียนหยวนและชื่อของเจ้าจะถูกบันทึกไว้บนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ” ชายวัยกลางคนกล่าวกับลั่วหยุนเฟยอย่างจริงใจ
“ข้าน้อมรับคำพูดของผู้อาวุโสเฉิงจากใจ” ลั่วหยุนเฟยคำนับชายวัยกลางคนด้วยความเคารพอย่างสูง
แม้ว่าอาจารย์ของเขาจะเป็นบรรพชนของสำนัก แต่ในความเป็นจริง ผู้อาวุโสหลายคนได้ชี้นำเขามาก่อน พวกเขาทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดให้กับตัวเขา
ด้านนอก เจี้ยนเฉินกลับไปที่ยานพาหนะบิน เขายังคงนั่งอยู่ที่ด้านหน้าโดยจากไปพร้อมกับผู้คนจากแคว้นตงอันภายใต้สายตาของทุกคน เขาตรงไปที่ฐานทัพ
คราวนี้ไม่มีใครยืนขวางทางของพวกเขา
ไม่มีใครสามารถเห็นอันตรายที่ซ่อนอยู่ภายในการโจมตีของ เจี้ยนเฉินที่จัดการกับลั่วหยุนเฟย ดังนั้นหลายคนยังเชื่อว่าเจี้ยนเฉินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลั่วหยุนเฟย อย่างไรก็ตาม เขายังคงสามารถรับการโจมตีของลั่วหยุนเฟยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา
มีเพียงขั้นเหนือเทพไม่กี่คนที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจากการที่ลั่วหยุนเฟยหนีไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คิดว่าลั่วหยุนเฟยจะพ่ายแพ้หลุดรุ่ย
เมื่อเจี้ยนเฉินกำลังจะเข้าใกล้ฐานทัพที่ค่ายสำนักทั้งหมดมารวมตัวกันกับผู้คนจากแคว้นตงอัน ขั้นเหนือเทพจำนวนมากจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนบินขึ้นจากด้านล่าง พวกเขาแลกเปลี่ยนการทักทายกับเจี้ยนเฉินในขณะที่เจี้ยนเฉินยิ้ม
เจี้ยนเฉินปล่อยให้ยานบินออกไป เขานำผู้คนจากแคว้นตงอันเข้าไปกับเขา ขณะที่เขาเดินไปรอบ ๆ พร้อมกับ ขั้นเหนือเทพจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน เขาจะมองไปรอบ ๆ เป็นครั้งคราว
ฐานทัพภายในป้อมปราการมีขนาดใหญ่มาก โดยทั่วไปแล้วมันติดอยู่กับกำแพงเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตร เขาไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของมันได้
ไม่เพียงแต่กองทัพขนาดใหญ่ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนรวมตัวกันที่นั่น แต่ยังกองทัพจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฉิงหยาง, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นวดารา, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆแดง, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์บาลาจ, อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต้าเทียนและอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เมฆหอม ได้รวมตัวกันที่นั่นเช่นกัน เป็นผลให้จำนวนทหารในป้อมปราการมีจำนวนถึงร้อยล้านคน
กองทัพทั้งหมดจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มารวมตัวกันในที่เดียว สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ปกติ แต่เพื่อที่จะหยุดยั้งความก้าวหน้าของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า พวกเขาได้ทิ้งความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับดินแดนและผลประโยชน์ส่วนตัว
ในที่สุด เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ก็ถูกพาไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ หลังจากซวนเตาและคนอื่น ๆ อธิบายให้เขาฟัง เจี้ยนเฉินก็เข้าใจว่ามีโถงศักดิ์สิทธิ์อยู่สองสามแห่งอยู่ในค่ายทหาร
ความสัมพันธ์ระหว่างค่ายสำนักที่สำคัญ ๆ ที่มาในครั้งนี้มีความซับซ้อน มีความคับข้องใจและมิตรภาพระหว่างพวกเขาหลายคน โดยปกติแล้วพวกเขาไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ พวกเขาทั้งหมดมีโถงศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง
โถงศักดิ์สิทธิ์ที่เจี้ยนเฉินอยู่ในขณะนี้เป็นของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน ทุกคนที่มีสถานะในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้มารวมตัวกันที่นี่
ไม่ต้องแปลกใจเลยที่หยางไคและผู้อาวุโสจากตระกูลหยางก็มาที่นี่เช่นกัน
เจี้ยนเฉินเป็นคนที่มีอิทธิพลอยู่แล้ว ดังนั้นขั้นเหนือเทพที่อยู่ในโถงอันศักดิ์สิทธิ์จึงลุกขึ้นและต้อนรับเขาเมื่อเขามาถึง มีเพียงคนในตระกูลหยางเท่านั้นที่ยังคงอยู่กับที่
จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์, ฮุสตัน, รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ ล้วนมากับเจี้ยนเฉินนั้นซึ่งต่างได้รับความสนใจเช่นกัน
พวกเขาเข้าใจความแข็งแกร่งของตระกูลเทียนหยวนอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นจึงไม่มีความลับใด ๆ เกี่ยวกับระดับผู้อาวุโสของตระกูลเทียนหยวนที่ได้รับการฝึกฝน ตอนนี้ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยทั้งห้าปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน หลายคนเริ่มสงสัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์และฮุสตันแตกต่างออกไปจากขั้นเหนือเทพ หลายคนในที่นั้นลอบประหลาดใจกับตัวตนที่คลุมเครือของพวกเขา
ในขณะนั้น ผู้พิทักษ์จักรพรรดิสูงสุดแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนเดินเข้ามาจากด้านนอกและทุกคนก็คำนับเขา
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขามองเจี้ยนเฉินและพูดว่า “เจี้ยนเฉิน ฝ่าบาทต้องการให้เจ้าไปพบที่ห้องโถงใหญ่ โปรดมากับข้า”
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ติดตามผู้พิทักษ์ขั้นสูงสุดไป พวกเขามุ่งหน้าไปยังใจกลางค่ายผ่านโถงศักดิ์สิทธิ์หลังแล้วหลังเล่าในที่สุดเขาก็มาถึง โถงที่ตั้งอยู่ในใจกลางค่ายภายใต้การนำของผู้พิทักษ์จักรพรรดิสูงสุด
ที่เรียกว่าห้องโถงหลักนั้นเทียบเท่ากับกระโจมของผู้บัญชาการ มันเป็นที่ที่ผู้บังคับบัญชาและพวกระดับสูงมารวมตัวกัน
ราชาศักดิ์สิทธิ์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชาศักดิ์สิทธิ์ภายในห้องโถงใหญ่อย่างสงบ มีหญิงและชายมากกว่ายี่สิบคนที่มีอายุต่างกันนั่งอยู่ที่ด้านล่างทั้งสองข้างของเขา พวกเขาทุกคนปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมามากมาย พวกเขาแข็งแกร่งมาก
การมาถึงของเจี้ยนเฉินดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที ในขณะนั้นทุกคนนั่งดูเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินรู้สึกอึดอัดขึ้นมาในทันที สายตาคนของทุกคนที่จ้องมองเขายี่สิบคนนั้นมีพลังอำนาจมากซึ่งทำให้เขากดดันอย่างมาก
“มีราชาเทพมากมายจริง ๆ ! ” เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจอย่างลับ ๆ เมื่อเขาเห็นคนนั่งอยู่ทั้งสองด้าน
นับเป็นภาพที่น่าตกตะลึงที่ราชาเทพยี่สิบกว่าคนจะได้มานั่งด้วยกัน จิตใจของเจี้ยนปั่นป่วนเพราะสายตานี้และเขาพยายามที่จะสงบสติอารมณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นราชาศักดิ์สิทธิ์ผู้ซึ่งยังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์ของเขา เขาก็งุนงงเล็กน้อย เขารู้สึกสับสนภายในเล็กน้อย
แน่นอนว่าราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นราชาเทพแต่คนอื่น ๆ ก็ไม่ใช่ราชาเทพเช่นกันหรือ ? ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามาจากสำนักและตระกูลอันยิ่งใหญ่หรือตระกูลราชวงศ์ของจักรวรรดิ สถานะทั้งหมดของพวกเขาดีกว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
ไม่ได้มีการพูดเกินจริงใด ๆ ราชาเทพใด ๆ ที่มีสถานะที่ยิ่งใหญ่กว่าราชาศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ราชาศักดิ์สิทธิ์จะต้องปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างสุภาพและด้วยความนอบน้อม
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ราชาศักดิ์สิทธิ์ได้นั่งสูงขึ้นราวกับว่าเขายิ่งใหญ่กว่าคนอื่น ราชาเทพคนอื่น ๆ จากอาณาจักรต่าง ๆ ควรมีสถานะสูงสุด แต่พวกเขาก็นั่งอยู่ข้างล่างของราชาอย่างเชื่อฟัง จะเห็นว่าพวกเขาสงบสติอารมณ์ของพวกเขาอย่างไรราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่สมควรจะเป็น