เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1975: การมาถึงขององค์ชายเก้า
ตอนที่ 1975: การมาถึงขององค์ชายเก้า
ในเวลาต่อมา จักรพรรดินีก็ขยับเล็กน้อยและปรากฏตัวต่อหน้าองค์หญิงไทอันเหมือนกับว่านางหายตัวมา ก่อนที่องค์หญิงจะทันรู้สึกตัวอีกครั้ง จักรพรรดินีได้คว้าจี้หยกจากมือองค์หญิงและตรวจสอบอย่างรอบคอบ
แม้ว่าจี้ทำจากสิ่งที่ธรรมดามาก การแกะสลักที่ประณีตบนนั้นทำให้หัวใจเย็นชาของจักรพรรดินีเต้นอย่างแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเห็นคำสองคำที่ถูกสลักไว้บนจี้ ซีหยู มือของนางที่ถือมันเริ่มสั่นเทาโดยไม่ตั้งใจ
ไม่มีใครคุ้นเคยกับจี้มากไปกว่านาง ตามจริงแล้วตัวของจี้ – การแกะสลักที่สวยงามและคำสลักได้สร้างร่องรอยที่ประทับลึกลงไปในวิญญาณของนาง นางจะไม่มีวันลืมมันในชีวิตนี้
เนื่องจากเมื่อนางและซีไซหยุนถูกศัตรูตามล่าและถูกบังคับให้ต้องทิ้งลูกสาว พวกเขาได้ทิ้งจี้หยกที่เหมือนกันนี้ไว้กับนาง พวกเขาทำเช่นนี้เพื่อที่จะสามารถระบุตัวตนของนางในอนาคต
แม้ว่าวัสดุจะแตกต่างกัน ทุกอย่างก็เหมือนจี้ที่นางทิ้งไว้ในอดีต มันเหมือนกันทุกประการ
“เซียนเอ๋อ เจ้าไปเอาจี้หยกนี้มาจากไหน ? ” น้ำตาคลอในดวงตาของจักรพรรดินีในขณะที่น้ำเสียงของนางสั่นเครือและเต็มไปด้วยความเร่งด่วน คนฟังสามารถรับรู้ได้ถึงความความตื่นเต้นในเสียงนั้น.
ในช่วงเวลานั้น หัวใจของจักรพรรดินีที่แข็งกร้าวดูเหมือนจะระเบิดเหมือนภูเขาไฟ ความรู้สึกของนางปั่นป่วนอย่างรุนแรงขณะที่นางพยายามสงบสติอารมณ์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานางและจักรพรรดิซีมีความห่วงใยอย่างลึกซึ้ง พวกเขาคิดเกี่ยวกับลูกสาวของพวกเขาตลอดเวลา พวกเขาส่งคนไปค้นหานางอย่างลับ ๆ ในช่วงสองพันปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาไม่ได้รับข่าวเลย เมื่อเวลาผ่านไป ลูกสาวที่หายไปของพวกเขากลับกลายเป็นความกังวลสำหรับทั้งคู่ ทำให้พวกเขาทนทุกข์ชั่วนิรันดร์
นี่เป็นเพราะพวกเขาล้มเหลวในการหาเบาะแสในช่วงเวลาสองพันปีนี้ ในโลกที่โหดร้ายซึ่งพลังคือทุกอย่าง พวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่าลูกสาวของพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จักรพรรดินีผู้ซึ่งเกือบจะสิ้นหวังเห็นจี้หยกซึ่งคล้ายกับชิ้นที่นางทิ้งไว้กับลูกสาว เปลวไฟแห่งความหวังก็ลุกโชนอีกครั้ง
ทันใดนั้นนางพบว่ามีเบาะแสเกี่ยวกับลูกสาวที่นางสูญเสียไปเป็นเวลาสองพันปี ความประหลาดใจที่ยิ่งใหญ่นี้ทำให้จักรพรรดินีมีความสุขมาก
องค์หญิงไทอันมองดูอารมณ์อ่อนไหวของเสด็จป้าของนางด้วยความงุนงง นางรู้สึกสับสนมาก นางไม่สามารถเข้าใจได้ว่าจี้หยกธรรมดา ๆ สามารถทำให้ป้าที่เย็นชามีท่าทีแบบนี้ได้อย่างไร
สำหรับปิงเอ๋อ นางตกตะลึงอย่างมาก นางจ้องมองจักรพรรดินีอย่างคิดไม่ถึง นางตกใจมาก
ในช่วงเวลานั้น นางเริ่มสงสัยว่าจักรพรรดินีที่นางเห็นนั้นเป็นตัวปลอม
เพราะในความทรงจำของนาง จักรพรรดินีนั้นเย็นชาและถือตัว ทำให้นางไม่สามารถเข้าถึงได้ นางจะปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเย็นชาและนางจะเป็นกันเองกับพี่ไทอันเท่านั้น
แต่ตอนนี้นางเห็นน้ำตาในดวงตาของจักรพรรดินีและความสุขบนใบหน้าของจักรพรรดินี. สิ่งนี้ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่งสำหรับปิงเอ๋อ
แม้ว่าองค์หญิงไทอันจะสับสนมาก นางก็ยังถามว่า “เสด็จป้า ท่านจำวันที่ข้าพูดถึงขั้นเหนือเทพที่แข็งแกร่งกับท่านได้หรือไม่ ? ขั้นเหนือเทพคนนั้นมอบกล่องให้ข้าไว้และเขาก็ให้ข้ามอบมันให้ท่านหรือเสด็จลุงด้วยตัวเอง จี้หยกเป็นสิ่งเดียวในกล่อง”
“อะไร ? จี้หยกเป็นของที่อยู่ในกล่องหรือ ? ” ความเสียใจท่วมท้นใบหน้าของจักรพรรดินี.นางจำเรื่องราวนี้ได้เพราะกล่อง
เดิมทีนางไม่สนใจของขวัญของขั้นเหนือเทพเลย แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่อยู่ภายในจะเชื่อมโยงนางกับลูกสาวที่นางสูญเสียไปเมื่อสองพันปีก่อน
“ไม่ ข้าต้องบอกไซหยุน มันสำคัญมาก” จักรพรรดินีหายไปจากด้านหลัง ทิ้งองค์หญิงไทอันและปิงเอ๋อให้ยืนสับสนอยู่ในสวน
ในห้องโถงอันงดงาม จักรพรรดิซีในชุดเสื้อคลุมมังกรนั่งอยู่บนบัลลังก์ของจักรพรรดิในขณะที่เขาจัดการกิจการของจักรวรรดิ ด้านล่างเขามีเหล่าขุนนางและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก พวกเขาทั้งหมดแสดงความเคารพต่อเขา
“ไซหยุน, ไซหยุน …” ในขณะนี้เสียงของจักรพรรดินีก็ดังขึ้น นางถือจี้หยกในมือขณะที่นางพุ่งออกไปเป็นภาพพร่ามัว ดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ทุกคน
“ซวนเอ๋อ ทำไมเจ้าถึงดูตื่นเต้นมาก ? ” จักรพรรดิซีมองดูจักรพรรดินีด้วยความสับสนจากบัลลังก์ของเขา
“ไซหยุน ดูนี่สิ” จักรพรรดินีมอบจี้ให้กับจักรพรรดิหลังจากมาถึงตัวเขา
เมื่อจักรพรรดิซีเห็นจี้หยก นัยน์ตาของเขาก็หรี่แคบลง เขาผุดลุกขึ้นยืนจากบัลลังก์ พลังแห่งการมีอยู่ที่น่ากลัวของเขาปะทุออกมาจากร่างกายของเขาโดยไม่มีการควบคุม เหมือนคลื่นปั่นป่วน มันสร้างหายนะให้กับผู้คนในห้อง ทำให้ขุนนางและเจ้าหน้าทุกคนต้องถอยหลังไป
“จี้หยกนี้มาจากไหน ? ” จักรพรรดิซีถามด้วยน้ำเสียงที่ทั้งตื่นเต้นและสั่นเครือ
เขาคือจักรพรรดิซีผู้ทรงพลัง แต่เขาก็พยายามควบคุมอารมณ์ของเขาในขณะนี้
จักรพรรดินีอธิบายที่มาที่ไปของจี้หยกด้วยประโยคสั้น ๆ
“ไปกัน ไปหาเซียนเอ๋อกันเถอะ” หลังจากเรียนรู้ว่าจี้หยกมาจากไหน จักรพรรดิซีก็รีบเร่งกว่าจักรพรรดินี เขาไม่ได้สนใจที่จะสรุปการประชุมของขุนนางและหายตัวไปจากห้องโถงว่าความพร้อมกับจักรพรรดินี โดยทิ้งให้ขุนนางและเจ้าหน้าที่มองหน้ากัน
องค์หญิงไทอันและปิงเอ๋อยังคงตกตะลึงอยู่ในอุทยานหลวง เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังไม่ได้กลับมารู้สึกตัว
ในเวลานี้มีแสงวูบวาบ จักรพรรดิซีที่สง่างามและจักรพรรดินีปรากฏตัวอยู่ข้างองค์หญิงไทอันเหมือนพวกเขาหายตัวมา
“เซียนเอ๋อ เจี้ยนเฉินที่ให้จี้หยกแก่เจ้าอยู่ที่ไหน ? ” จักรพรรดิซีถามโดยตรง ใบหน้าของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกเร่งด่วน
“อ๊ะ เสด็จลุง ! ” ตอนนี้เองที่องค์หญิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง นางมองไปที่จักรพรรดิที่ปรากฏตัวต่อหน้านางในทันทีและตะลึงอีกครั้ง อย่างไรก็ตามนางตอบอย่างรวดเร็วว่า “เสด็จลุง เสด็จป้า เมื่อเจี้ยนเฉินมอบจี้หยกให้ข้าเขายังคงอยู่ในจักรวรรดิเสิ่นเตา ข้าไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“ไปกันเถอะ จักรวรรดิเสิ่นเตา ! ” จักรพรรดิซีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ออกจากจักรวรรดิซีพร้อมกับองค์หญิงไทอันและจักรพรรดินีเพื่อไปยังจักรวรรดิเสิ่นเตา
กลุ่มของจักรพรรดิซีนั้นค่อนข้างน่าประทับใจตั้งแต่ออกจากจักรวรรดิ ขุนนางที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นสองคนติดตามเขามา
หลังจากพบกับเบาะแสเกี่ยวกับลูกสาวของเขา จักรพรรดิซีก็รู้สึกกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาไปไกลเท่าที่จะเท่าได้ด้วยตัวเอง โดยใช้การบ่มเพาะสูงสุดของเขาในขั้นบรรพกาลเพื่อเร่งให้ทุกคน เขาท่องผ่านโลกโดยที่พวกเขาจะหายตัวไปในแต่ละก้าว เพียงห้าหรือหกก้าว เขาก็ได้ครอบคลุมระยะทางกว้างและมาถึงเหนือเมืองหลวงของจักรวรรดิเสิ่นเตาโดยตรง
การมาถึงของจักรพรรดิซีด้วยตัวเองทำให้ทั้งจักรวรรดิเสิ่นเตาตกตะลึง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทุกคนในจักรวรรดิออกมาจากการทำสมาธิ ต้อนรับเขาอย่างสุภาพ
นอกเหนือจากเทียนซวง มีชายชราหน้าแดง 2 คนในหมู่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นของจักรวรรดิเสิ่นเตา พวกเขาโค้งคำนับต่อจักรพรรดิซี พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จักรพรรดิซีได้สร้างชื่อให้กับตัวเองจากการสังหารทั้งหมดที่เขาทำ ดังนั้นการมาถึงของจักรพรรดิซีได้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น 3 คนรู้สึกไม่สงบ พวกเขานึกถึงอดีตเพื่อคิดว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการไล่ล่าหรือไม่
“เจี้ยนเฉินอยู่ในจักรวรรดิเสิ่นเตาของเจ้าหรือไม่ ? ”
อย่างไรก็ตาม,ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามต้องรู้สึกประหลาดใจ จักรพรรดิซีถามถึงคนที่ชื่อว่าเจี้ยนเฉินตั้งแต่เริ่มต้น
ชายชราหน้าแดง 2 คนสงสัยเมื่อพวกเขาได้ยินชื่อ
แสงไฟเปล่งประกายผ่านตาของเทียนซวง และนางก็พูดหลังจากใช้ความคิดว่า “จักรพรรดิซี เจี้ยนเฉินออกจากจักรวรรดิเสิ่นเตาของเรา ถ้าข้าจำได้ไม่ผิด เขาควรจะอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนในภาคใต้”
“ดินแดนทางใต้ อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน…” จักรพรรดิซีพึมพำก่อนที่จะป้องมือขอบคุณเทียนซวงอย่างซาบซึ้ง ในทันใดนั้น เขาก็ออกเดินทางไปยังภาคใต้กับทุกคน
จักรพรรดิซีไม่ได้ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกล ด้วยการบ่มเพาะของเขาในขั้นบรรพกาล เขาจะยิ่งเร็วกว่าค่ายกลส่งตัวถ้าเขาเคลื่อนตัวผ่านที่ราบเมฆาด้วยตัวเอง
……
มีร่างหลายคนบินผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงเหนือแคว้นตงอันของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน บินตรงไปยังเมืองหลักและหยุดเหนือตระกูลเทียนหยวน
คนที่อยู่ด้านหน้าดูเหมือนจะอยู่ในวัยสี่สิบปี เขาสวมเสื้อคลุมสีม่วงและสีทอง,เขาค่อนข้างสง่างาม เขามองดูตระกูลเทียนหยวนจากเบื้องบนอย่างเยือกเย็น
ชายวัยกลางคนนี้เป็นองค์ชายเก้าแห่งจักรวรรดิตะวันโลหิต !
ตามข้อมูลที่บรรพบุรุษของสำนักจิตวิญญาณปฐพีให้มา เขาจึงรีบมายังตระกูลเทียนหยวนโดยตรง
“องค์ชายเก้า ตระกูลเทียนหยวนเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ พวกเขาเกี่ยวข้องกับการสูญเสียดอกไม้แห่งวิถีจริง หรือไม่?” ราชาเทพถามอย่างระมัดระวังจากด้านหลังองค์ชายเก้า.
องค์ชายเก้าลอยอยู่ในอากาศและจ้องมองตระกูลเทียนหยวนอย่างไร้อารมณ์ เขากล่าวว่า “คนจากสำนักจิตวิญญาณปฐพีบอกข้าโดยไม่ระบุชื่อผ่านแผ่นหยกที่ผ่านมาหลายทศวรรษว่า เจี้ยนเฉินช่วยเหลือวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเพื่อรับมรดกที่ต้วนมู่ทิ้งไว้ในสุสานของเขา ซึ่งทำให้นางกู้คืนร่างของนางได้ ในเวลานั้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเป็นเพียงขั้นเหนือเทพหลังจากฟื้นร่างกายของนาง”
“และเมื่อเร็ว ๆ นี้ เจี้ยนเฉินมีเรื่องบาดหมางกับผู้บัญชาการกองทัพที่เจ็ดจากลัทธิปีศาจชั้นฟ้า หย่าซีเหลียน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นช่วยเขาในท้ายที่สุดและแม้แต่หย่าซีเหลียนก็ถูกจับ เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นคนนั้นจะเป็นคนที่ฟื้นสภาพร่างกายของนางภายใต้ความช่วยเหลือของเจี้ยนเฉินในสุสานของราชาเทพต้วนมู่”
องค์ชายเก้ายืนกอดอกและพูดช้า ๆ “แม้ว่าวิญญาณที่เพิ่งสร้างร่างใหม่นั้นเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เว้นแต่พวกเขาจะใช้สมบัติสวรรค์ล้ำค่า”
“ดอกไม้แห่งวิถีเป็นสมบัติสวรรค์ล้ำค่า ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงสามารถสรุปได้ว่าผู้ที่ขโมยดอกไม้แห่งวิถีเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่อยู่เบื้องหลังเจี้ยนเฉิน”
ด้วยสิ่งนั้นใบหน้าขององค์ชายเก้าจึงมืดลงและมีเจตนาฆ่าปรากฏในแววตาของเขา เขารู้แล้วว่าดอกไม้แห่งวิถีนั้นอาจจะถูกกินเข้าไปแล้ว แต่เขาต้องการให้ใครบางคนต้องชดใช้
นี่เป็นเพราะหากไม่มีดอกไม้แห่งวิถี เขาจะต้องใช้เวลาตลอดกาลเพื่อไปถึงขอบเขตตั้งต้นแม้จะมีความสามารถพิเศษ ความยากลำบากระหว่างขอบเขตเทพกับขอบเขตตั้งต้นก็ยังคงเป็นเรื่องยาก
องค์ชายเก้าก็ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ในท้ายที่สุด มันกลับกลายเป็นความตั้งใจฆ่า และเขาก็พุ่งเข้าชนตระกูลเทียนหยวนโดยตรง
ปัง !
เมืองทั้งเมืองดังก้องกังวานด้วยเสียงดังสนั่น ค่ายกลป้องกันระดับราชาเทพที่เพิ่งวางไว้ในตระกูลเทียนหยวนทรุดตัวลงจากหมัดขององค์ชายเก้า
ค่ายกลนี้เพียงพอที่จะหยุดการโจมตีจากราชาเทพช่วงต้นได้ ในขณะที่องค์ชายเก้าได้มาถึงจุดสูงสุดของราชาเทพแล้ว เขากำลังเตรียมที่จะตัดผ่านขอบเขตตั้งต้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ค่ายกลจะหยุดเขา