เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1977: ซีหยูโกรธ
ตอนที่ 1977: ซีหยูโกรธ
เจตนาฆ่าที่รุนแรงมากควบแน่นในจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับพลังแห่งการต่อสู้ เขายกปีกทั้งสองขึ้นสูงแล้วมันก็รวมกันเป็นใบมีด มันเฉือนด้วยเจตนาฆ่าจากจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์
จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่งต่อต้านราชาเทพ พละกำลังทั้งหมดของเขาพุ่งออกมาโดยไม่รั้งอะไรไว้ พลังแห่งการมีอยู่ของเขาล้นหลาม
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงขั้นเหนือเทพช่วงต้น เขาก็เป็นจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ สายเลือดของเขามีพลังมหาศาล เมื่อรวมกับเส้นทางแห่งการสังหารที่เขาเข้าใจ การโจมตีของเขานั้นทรงพลังอย่างยิ่ง มันเกินความแข็งแกร่งที่เขาควรจะสามารถใช้ได้ในตอนนี้
ราชาเทพที่บีบคอของนูบิสกำลังจะดึงวิญญาณของเขาด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมและเย้ยหยัน เมื่อเขารู้สึกถึงการโจมตีของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ เขาพูดจาดูถูกว่า “มดกระจ้อยร่อยบังอาจลุกขึ้นสู้กับเสือรึ ? ตาย” หลังจากนั้นมือของราชาเทพซึ่งแต่เดิมเอื้อมไปที่หัวของนูบิสก็ขยายไปสู่ปีกของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ในทันใด
จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้รวมพลังทั้งหมดไว้ในปีกของเขา พลังของเส้นทางแห่งการสังหารก็ถูกย่อตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อการโจมตีที่เต็มไปด้วยพลังของเขาได้สัมผัสกับมือของราชาเทพ มันก็ถูกจับอย่างแน่นหนา พลังภายในไม่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ของเขาได้เลย
“มันคือเส้นทางแห่งการสังหารจริง ๆ น่าประทับใจ กฎที่เจ้าเข้าใจมีประสิทธิภาพมาก น่าเสียดายที่การบ่มเพาะของเจ้าอ่อนแอเกินไป” ราชาเทพพูดอย่างเยือกเย็น เขามองดูจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างเย็นชาและมือของเขาก็ขยับเล็กน้อย พลังงานทำลายล้างโจมตีจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างไร้ความปราณี
ละอองฝอยของเลือดพุ่งออกมาจากปากของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขาล้มลงอย่างเจ็บปวด ปีกของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ขนสีขาวลอยล่องบนท้องฟ้า
ปีกของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์พังทลายลงอย่างไร้พลัง ไม่เพียงแต่มันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงจากเลือด แต่ร่างกายของเขาก็กลายเป็นสีแดง
การโจมตีของราชาเทพนั้นทรงพลัง แม้ว่าสายเลือดของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถชดเชยความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างขั้นเหนือเทพและราชาเทพได้ การโจมตีเพียงครั้งเดียวทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส
“จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ! ”
รุยจิน,หงเหลียนและเฮยยู่ต่างก็ตะโกนออกมา พวกเขามาถึงด้านข้างของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ภายในก้าวเดียว ความกังวลเต็มใบหน้าของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาป้อนยารักษาให้จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ทันที
“หืมม องค์ชายทรงอนุญาตให้เจ้าช่วยเขาหรือ ? ” ราชาเทพที่อยู่เบื้องหลังองค์ชายเก้าพูดอย่างเย็นชา เขาโบกมือของเขาเบา ๆ และพื้นที่รอบ ๆ ทั้งสามก็แข็งตัวทันที
ราชาเทพคนนี้เข้าใจกฎของมิติ เขาสามารถดักจับมิติทั้งหมดได้ด้วยการใช้ความคิด
รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ต่างขยับตัวไม่ได้ เมื่อเจอกับราชาเทพผู้ซึ่งเข้าใจกฎของมิติ พวกเขาไม่มีพลังแม้จะกระพริบตา
เสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดดังขึ้น ราชาเทพที่จับคอนูบิสได้กดมือขวาของเขาลงบนหัวของนูบิส ใบหน้าของเขาดุร้ายอย่างยิ่งขึ้นเมื่อเขาเริ่มจิกกรงเล็บ มันทิ่มลงไปในผิวหนังของนูบิส ค่อย ๆ เจาะกะโหลกศีรษะของเขา
เลือดที่ส่องแสงสีทองไหลออกมาจากส่วนบนของหัวของนูบิส หยดลงมาบนใบหน้าของเขา
มือของราชาเทพเข้าหาวิญญาณของนูบิสอย่างช้า ๆ
แม้ว่าสายเลือดของนูบิสจะพัฒนาและเสริมกำลังเพราะเขาไม่เต็มใจอย่างยิ่งยวดที่จะตาย แต่มันก็มีพลังพอ ๆ กับสายเลือดของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างมากที่สุด แม้แต่จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากราชาเทพได้แม้แต่ครั้งเดียว นับประสาอะไรกับตัวเขา
แม้ว่าผู้คนในตระกูลเทียนหยวนจะโกรธเมื่อเห็นสถานการณ์ของนูบิส แต่พวกเขาไม่มีอะไรที่สามารถใช้ป้องกันตัวจากราชาเทพได้เลย
ในขณะนั้น ทุกคนรู้สึกหมดหนทาง
สิ่งนี้ทำให้ซีหยูโมโหอย่างรุนแรง นางฉุนเฉียวอย่างเต็มที่ข้างใน ในช่วงเวลาที่ราชาเทพกำลังจะแตะวิญญาณของนูบิส ความมุ่งมั่นก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองอีกต่อไปและพุ่งตัวออกไปอย่างไร้ความกลัวและแน่วแน่
เจี้ยนเฉินมอบโชคลาภและความเมตตาให้นาง ตอนนี้ตระกูลเทียนหยวนประสบกับหายนะและชีวิตของนูบิส สหายสนิทของเจี้ยนเฉินกำลังตกอยู่ในอันตราย นางไม่สามารถยืนดูโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้ นางเผยให้เห็นว่านางไม่สนใจเกี่ยวกับตัวเองเลย
ซีหยูกวัดแกว่งกระบี่ที่ส่องแสงอย่างสวยงาม นางหลอมรวมกับมันและเฉือนแขนของราชาเทพ
“หืมม ตระกูลเทียนหยวนมีคนหลายคนที่ประเมินค่าตัวเองสูงเกินไป” ราชาเทพที่จับตัวนูบิสไว้เย้ยหยัน เขาหันกลับไปมองซีหยูและเป่าลมออกมาเต็มปาก
วูช !
จากนั้นพายุขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นทันที พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมาจากปากของราชาเทพ โจมตีซีหยูด้วยพลังอันน่ากลัว
ซีหยูหยุดชะงัก แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อเจอกับพายุแห่งพลังงาน นางทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องหลบหนี
“บอกข้ามาเถอะ เจี้ยนเฉินอยู่ที่ไหน ? หากเจ้าไม่บอก ข้าจะฆ่าพวกเขาทั้งสี่คนก่อน” ราชาเทพผู้ควบคุมกฏของมิติกล่าวอย่างเย็นชา ขณะที่มือของเขาค่อย ๆ กระชับ มิติรอบ ๆ รุยจินและคนอื่น ๆ ก็มีเสียงแตกดังขึ้น ภายใต้การควบคุมของราชาเทพ มิติถูกบีบอัดอย่างเห็นได้ชัด
รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ที่ถูกขังอยู่ในมิติถูกบีบอัดเช่นกัน เสื้อผ้าของพวกเขารัดแน่นกับร่างกายขณะที่พวกเขาต่อต้านการบีบอัด แรงกดดันจากทุกทิศทุกทางทำให้ร่างกายของพวกเขาหดตัวอย่างชัดเจน ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เลือดไหลออกมาจากรูขุมขนของร่างกาย ย้อมเสื้อผ้าของพวกเขาเป็นสีแดง
หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป พวกเขาทั้งสามจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนตาย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย
“ไม่ มันไม่ควรเป็นแค่ 4 คนนี้ มันควรจะรวมถึงคนเหล่านี้เช่นกัน” ราชาเทพผู้ควบคุมกฎของมิติกล่าวอย่างไม่สนใจ เขายื่นมือไปในระดับที่สูงกว่าของตระกูลเทียนหยวน
ทันใดนั้นมิติด้านหลังซีหยูก็แข็งเช่นกัน สมาชิกที่สำคัญทั้งหมดของตระกูลเทียนหยวนติดอยู่ในมิติ
ในหมู่พวกเขารวมถึงบรรพชนของตระกูลโม่คนก่อน โม่หลิง, พ่อบุญธรรมของซีหยูและแม้กระทั่งโม่หยาน
ตระกูลเทียนหยวนทั้งหมดพูดไม่ออก การมาถึงขององค์ชายเก้าและผู้คนของเขาเป็นเหมือนเงาแห่งความตายปรากฏอยู่เหนือตระกูล
“โอ๊ะ ! ” ร่างกายของซีหยูสั่นไหวเมื่อเห็นสิ่งดังกล่าว ทันใดนั้นนางก็ตะโกนออกมา และเปลวไฟก็แผ่ขยายออกไปจากร่างของนาง เปลวไฟไม่ได้ให้ความร้อนใด ๆ แต่ด้วยการปรากฏตัวของมัน พลังแห่งการมีอยู่ของนางจึงพุ่งสูงขึ้น มันแซงระดับขั้นเหนือเทพช่วงต้นและไปถึงระดับที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพลังแห่งการมีอยู่ของซีหยูจะเพิ่มขึ้น และนางก็แข็งแกร่งขึ้น พลังชีวิตของนางก็อ่อนแอลงในอัตราที่มองเห็นได้ ผมยาวสีดำของนางซีดจางอย่างรวดเร็ว กลายเป็นสีเทา และจากนั้นก็เป็นสีขาวราวหิมะ
สถานการณ์ของตระกูลเทียนหยวนได้กระตุ้นซีหยูโกรธอย่างมากจนถึงจุดที่นางจะต้องเผาผลาญชีวิตและวิญญาณของนางเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
ปัจจุบันเปลวไฟเผาไหม้รอบ ๆ ซีหยู ผมสีขาวราวหิมะของนางพลิ้วไหว นางแสดงพลังแห่งการมีอยู่ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง