เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 198 : เพิ่มความแข็งแกร่ง
ตอนที่ 198:เพิ่มความแข็งแกร่ง
บ้านไม้ค่อนข้างสะอาด เจี้ยนเฉินนั่งอยู่กับครอบครัวของรอสโก้ซึ่งนั่งล้อมรอบโต๊ะไม้เพื่อทานอาหารกลางวัน อาหารค่อนข้างเรียบง่าย มีผัดผักไม่กี่จานและเนื้อสัตว์อสูรจานใหญ่
ครอบครัวรอสโก้มี 4 คน ตัวเขา ฮูหยินและลูกอีก 2 คนซึ่งอายุประมาณ 10 ปี
ที่โต๊ะทานข้าว รอสโก้และฮูหยินของเขายังคงคุยกับเจี้ยนเฉินแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เจี้ยนเฉินได้รับบาดเจ็บ พวกเขาเพียงแค่คุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นภายในทวีปเทียนหยวน ทวีปนี้ค่อนข้างอันตราย ฮูหยินของรอสโก้ ฟางฮุ่ยเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านนี้และไม่เคยออกจากหมู้บ้านมาก่อน แม้ครั้งหนึ่งรอสโก้จะเป็นทหารรับจ้าง แต่หลังจากที่อาวุธเซียนของเขาถูกทำลายและกลายมาเป็นคนพิการ รอสโก้ก็มาอาศัยอยู่อย่างสันโดษภายในหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมา ตั้งแต่ที่เขามาอยู่ในหมู่บ้านนี้ เขาก็ไม่เคยออกไปข้างนอกและไม่เคยได้รับรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกเลย
เจี้ยนเฉินเดินทางในทวีปเทียนหยวนแค่ 1-2 ปีและเขาก็อาศัยอยู่ในเมืองและเมืองที่ห่างไกล อย่างไรก็ตาม เขาสามารถตอบคำถามส่วนใหญ่ของรอสโก้และฮูหยินของเขาได้ มีบางครั้งที่เด็ก ๆ ก็ถามออกมาบ้าง
หลังจากมื้ออาหารแล้ว รอสโก้ก็พาเจี้ยนเฉินไปเดิมชมรอบ ๆ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้เพื่อแนะนำให้เขารู้จักกับคนในหมู่บ้านและทำความคุ้นเคย
หมู่บ้านครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าหมู่บ้านหวางซึ่งมีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี หนึ่งในร้อยปีที่ผ่านมาตระกูลหวางได้มาก่อตั้งหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นโดยมีเพียงไม่กี่คน แม้ว่ามันจะเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้วที่พัฒนาตัวเองมา มันก็มีเพียงไม่ถึง 30 ครัวเรือน คนในหมู่บ้านมีอยู่ประมาณ 100 คนและนอกเหนือจากผู้สูงอายุ, เด็กและผู้หญิง มีเพียง 30-40 คนซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ที่แข็งแรง
หมู่บ้านนี้ดำรงอยู่ด้วยการทำนา ขณะที่ชายฉกรรจ์ที่แข็งแรงบางคนจะตามไปล่าสัตว์ป่าในป่าหรือหาปลาในแม่น้ำมาทำอาหาร นอกเหนือจากนั้นก็จะแยกตัวออกไปทำกิจกรรมของตัวเองด้านนอก
ในบ่ายวันหนึ่ง รอสโก้พาเจี้ยนเฉินไปทั่วทั้งหมู่บ้านและแนะนำให้เขารู้จักเกือบทุกคนในหมู่บ้านในวันเดียว
ในตอนกลางคืนรอสโก้พาเจี้ยนเฉินกลับไปที่บ้านและคนห้าคนนั่งลงที่โต๊ะอีกครั้งเพื่อทานอาหารเย็น เช่นเดียวกันตอนทานอาหารกลางวัน อาหารเย็นก็ค่อนข้างเรียบง่ายโดยมีข้าวและผัก
ในช่วงเวลาอาหารเย็น เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉินก็เงยหน้าพูดอย่างอาย ๆ ว่า พี่เจี้ยนเฉิน ข้าได้ยินท่านพ่อบอกว่าท่านนั้นน่าทึ่งจริง ๆ เมื่อฟังน้องชายของนางพูด เด็กหญิงที่อยู่ข้าง ๆ ฟางฮุ่ยก็เงยหน้ามองมาด้วยดวงตาสีดำกลมโตที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เด็กชายตัวน้อยคนนี้ชื่อโรเจอร์และเด็กหญิงชื่อรั่วจื่อ ทั้งสองเป็นลูกของรอสโก้และฟางฮุ่ย
TL Note: เด็กทั้งสองมีชื่อเหมือนกันในภาษาจีน.
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็มองไปที่เด็กน้อยและหัวเราะ โรเจอร์น้อย โลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่และมีผู้คนที่น่าทึ่งกว่าพี่เจี้ยนเฉินคนนี้อีก เมื่อเจ้าโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น โรเจอร์ เจ้าควรออกไปเผชิญโลกภายนอกและเห็นมันด้วยตัวเอง
ถ้าอย่างนั้นระหว่างพี่เจี้ยนเฉินและท่านพ่อ ใครแข็งแกร่งกว่ากัน ? เมื่อได้ยินคำพูดนี้ รั่วจื่อบุตรสาวของรอสโก้ก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
รอสโก้เริ่มหัวเราะก่อนที่จะหันมามองลูกสาวของเขา รั่วจื่อ อย่าดูถูกเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าพ่อ แต่เขาก็น่าทึ่งกว่าข้ามาก
ฮูหยินของรอสโก้ ฟางฮุ่ย จู่ ๆ ก็ส่งสายตาเป็นประกายขณะที่นางพูดว่า อ๊ะ เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าไม่รังเกียจชีวิตที่ลำบากของพวกเราที่นี่ ทำไมเจ้าไม่อยู่กับพวกเรา ? ทวีปเทียนหยวนนั้นอันตราย แต่หมู่บ้านที่นี่สงบสุขและปลอดภัยมาก แล้วข้ายังสามารถช่วยเจ้าแนะนำหญิงสาวสวย ๆ ในหมู่บ้านถัดไปให้เจ้า !
เจี้ยนเฉินยิ้มเล็กน้อยขณะที่เขานึงถึงคำพูดของฟางฮุ่ยและตอบปฏิเสธ ข้าต้องขอขอบคุณในความหวังดีของฮุหยิน แต่ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำในโลกภายนอก ดังนั้นด้วยเหตุผลเหล่านี้ ข้าจึงไม่อาจอยู่ที่นี่นานเกินความจำเป็น เขาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น
นั่นไม่เป็นไร พวกหนุ่ม ๆ ทุกคนก็เป็นแบบนี้ พวกเขามีสิ่งที่ต้องทำ สำหรับเด็กน้อยอย่างเจี้ยนเฉิน พวกเขาควรจะออกเดินทางไปทั่วในทวีปเทียนหยวนและสนุกสนานกับโลกนี้ อย่าเดินทางสุ่มสี่สุ่มห้าในพื้นที่เหล่านี้ รอสโก้พูดกับเจี้ยนเฉินเขาเดินทางไปทั่วโลกในฐานะทหารรับจ้าง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเจี้ยนเฉินรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความคิดนี้
ฟางฮุ่ยจ้องมองรอสโก้ด้วยความผิดหวัง ในใจของนางถ้านางสามารถหาหญิงสาวดี ๆ พอที่จะแต่งกับเจี้ยนเฉิน เขาจะคอยค้ำชูหมู่บ้านนี้และช่วยคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านนี้ออกไปล่าสัตว์ ด้วยวิธีนี้ก็สามารถรับประกันความเป็นอยู่ที่ดีในหมู่บ้านได้
หลังมื้อเย็น เจี้ยนเฉินก็กลับไปที่ห้องเล็ก ๆ ของเขาเพื่อพักผ่อนทั้งวัน ในห้องนี้เดิมทีตั้งใจจะเก็บทำเป็นห้องเก็บของ แต่เจี้ยนเฉินเข้ามาอยู่ชั่วคราว รอสโก้จึงทำความสะอาดห้อง จากนั้นเพื่อให้เจี้ยนเฉินได้พักรักษาตัว รอสโก้จึงได้เอาเตียงมาไว้ในนั้น
เจี้ยนเฉินปิดประตูห้อง เขานั่งขัดสมาธิที่เตียงของเขาและหยิบแกนอสูรระดับ 3 ออกมา 3 อันจากเข็มขัดมิติของเขาเพื่อบ่มเพาะ
หลังจากพักมาครึ่งเดือน เจี้ยนเฉินได้พยายามอย่างมากในการขับไล่สิ่งตกค้างอยู่ในร่างกายของเขา หลังจากนั้นตอนนี้เขามีความสามารถพอที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วเกินไปอย่างมากหรือธาตุไฟเข้าแทรกจากการใช้แกนอสูร
เจี้ยนเฉินยังคงดูดซับพลังงานจากแกนอสูรอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่น่ากลัว ทันทีที่มันเข้าสู่ร่างกายของเขา องค์ประกอบที่บ้าคลั่งในพลังงานจะถูกดูดซึมเข้าไปในแสงสีฟ้า-ม่วงในตันเถียนของเขาพร้อมกับส่งพลังงานที่ดีออกมา
บางทีอาจจะเป็นเพราะเจียนเฉินได้ใช้พลังงานในแกนอสูรด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างมากทำให้มันมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม แต่ตันเถียนของเขาก็ดูดซับพลังงานที่มากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน ในขณะนี้เจี้ยนเฉินก็สามารถใช้พลังงานได้ถึง 2 ใน 10 ส่วนของพลังงานทั้งหมดที่อยู่ในแกนอสูรเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราไม่ถึง 1 ส่วนอย่างที่ผ่านมาเมื่อเขาเทียบกับเซียนธรรมดา
ตอนนี้เจี้ยนเฉินต้องการที่จะทำให้ความแข็งแกร่งของเขารวดเร็วขึ้นจนทะลวงไปยังขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สองสามวันต่อมาเจี้ยนเฉินก็ยังคงไม่ได้ออกจากห้องและยังคงฝึกฝนต่อไป แม้ว่าเขาจะกินอาหารกับครอบครัวรอสโก้ทุก 2-3 วัน แต่เนื่องจากที่เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกินทุกวันเหมือนกับคนปกติ