เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1995: สังหารเหนือเทพทันที

ตอนที่ 1995: สังหารเหนือเทพทันที

สังเวียนเป็นตายตั้งอยู่ที่กลางยานรบมิติ นี่เป็นพื้นที่ที่คึกคักที่สุดของยานลำนี้ โรงเตี้ยมและความบันเทิงทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทำให้มองเห็นราวกับเมืองเล็ก ๆ

ไม่เพียงแต่จะให้ค้าขายกันอย่างเสรี เช่น วิถีการบ่มเพาะ, ทักษะการต่อสู้, สมบัติและอื่น ๆ แต่มันยังมีอาหารอร่อย ๆ ที่ทำจากเนื้อสัตว์อวกาศ มันจึงดึงดูดนักชิมจำนวนมากมาทุกวัน ๆ

เจี้ยนเฉิน ไคยะและเฉินหลง เดินทางผ่านย่านการค้าที่คึกคักพร้อมกับคนจากกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่า พวกเขามุ่งตรงไปยังสังเวียนเป็นตาย

สังเวียนเป็นตายเป็นเวทีทรงกลมที่กว้าง 1,000 เมตร มีสิ่งกีดขวางรอบ ๆ สถานที่และมันมีพลังมากจนแม้แต่ราชาเทพก็ยังต้องออกแรงเต็มที่เพื่อให้มันสั่นสะเทือน

ทันทีที่พวกเขามาถึงที่นี่ ชายหนุ่มที่ดูมืดหม่นที่เยาะเย้ยไคยะกระโดดขึ้นไปบนเวทีตรง ๆ สำหรับเหนือเทพอีกคนของกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าได้เข้าล้อมเจี้ยนเฉิน, ไคยะและเฉินหลงเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนีกะทันหัน

“ข้าอยู่บนสังเวียนเป็นตายแล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้อวดดีงั้นหรือ ? เจ้าโอหังว่าจะฆ่าพวกเรา ตอนนี้โอกาสของเจ้าได้มาถึงแล้ว” ชายหนุ่มผู้มืดหม่นที่ยืนอยู่บนเวทีได้พูดพร้อมกับมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างยั่วยุ

“เจ้าสามคนพร้อมรึยัง พวกเจ้าคงไม่คิดจะหลบหนีหรอกนะ ? ”

“ฮ่าฮ่า เจ้าไม่กลัวที่ต่อสู้กับกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่างั้นหรือ ? ดูพวกเจ้าทั้งสาม ข้าสามารถบอกได้เลยว่าพวกเจ้าขี้ขลาดมาก”

หกคนที่ล้อมเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่พากันเย้ยหยัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวพวกเจี้ยนเฉินหนีไป

พวกเขาไม่ได้สนใจกับไคยะหรือเฉินหลง เป้าหมายหลักของเขาอยู่ที่เจี้ยนเฉินเท่านั้น

มีแสงเย็นชาและกระหายเลือดวาบผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉินเมื่อเขาได้ยินคำพูดจากคนอื่น ๆ เขากระโดดขึ้นสังเวียนเป็นตายอย่างแผ่วเบา ตอนนี้เขายืนในสังเวียนแล้ว

ไม่มีข้อจำกัดสำหรับคนที่มาใช้สังเวียนเป็นตายในยานอวกาศ มันไม่สำคัญว่าจะมีคนต่อสู้กันอยู่แล้วหรือไม่ เพราะคนจากข้างนอกสามารถเข้าไปตอนไหนก็ได้ หากต้องการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น มันจะต้องต่อสู้กันจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง และมีเพียงผู้ชนะเท่านั้นที่จะสามารถออกจากเวทีนี้ได้

การพ่ายแพ้ หมายถึง ความตาย !

เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินเข้ามาในสังเวียนเป็นตายแล้ว ดวงตาของกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าก็เบิกกว้างขึ้น พวกเขาดีใจ ขณะที่เขาเข้าสู่สังเวียนเป็นตาย มันหมายความว่าเวลาแห่งการเข่นฆ่าได้เริ่มขึ้นแล้ว หากพวกเขาไม่ได้รับชัยชนะ พวกเขาก็ไม่อาจจากไปได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านี่น่าประทับใจจริง ๆ ! ” คนจากกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าหัวเราะเสียงดังหลังจากเหนือเทพอีกหกคนกระโดดเข้าสู่สังเวียนเป็นตาย

พวกเขาไม่เคยคิดแม้ว่าจะสู้กับเจี้ยนเฉินเพียงคนเดียว พวกเขาพร้อมที่จะรีบทำให้เรื่องมันจบลงในทันทีที่เจี้ยนเฉินเข้าสู่สังเวียนเป็นตาย พวกเขาล้อมกรอบให้เขาค่อย ๆ ตาย

เมื่อเจี้ยนเฉินตาย ความมั่งคั่งของเขาจะตกเป็นของพวกเขา

“เจี้ยนเฉิน ปล่อยคนนั้นให้ข้า ข้าต้องการสั่งสอนเขาด้วยตัวเอง” ไคยะพูดกับเจี้ยนเฉินอย่างลับ ๆ นางและปรมาจารย์เฉินหลงขณะที่เดินเข้าสังเวียนมาด้วยกัน นางจ้องชายที่เยาะเย้ยนางพร้อมด้วยจิตสังหารที่พวยพุ่งออกมา

ผู้คนเริ่มมารวมตัวกันรอบ ๆ สังเวียนแล้ว พวกเขาชี้ไปที่คนด้านในและพูดกันเบา ๆ

ในขณะที่การต่อสู้เป็น 7:3 หลายคนก็รู้สึกว่ากลุ่มของเจี้ยนเฉินยังเป็นรองกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าที่ค่อนข้างโด่งดังมากในที่นี้ หลายคนรู้ว่าพวกเขามีท่าประสานการโจมตี ทำให้พวกเขาเอาชนะคนที่มีพลังมากกว่าพวกเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้มีแค่กลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าทั้งหมด ยังมีราชาเทพอีก 3 คนที่สนับสนุนพวกเขา

แม้ว่ากลุ่มประเภทนี้จะใกล้เคียงจุดสูงสุด แต่ก็ถือว่าทรงพลังอย่างมากในยานอวกาศ

“หลอมรวมจิตวิญญาณและร่างกาย ! ”

ในเวลานี้ผู้คนจากกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาต่างตะโกนออกมาพร้อมกันและเหนือเทพทั้งเจ็ดก็เข้าประจำตำแหน่งอย่างรวดเร็ว พวกเขาพร้อมที่จะรวมกันโจมตีแล้ว

“เมื่อเราใช้ทักษะนี้ เจ้าทั้งสามก็ต้องตายแน่นอน แม้ว่าเราจะโชคไม่ดีและเราได้เจอกับเหนือเทพขั้นสูงสุดที่อยู่ในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ เราก็สามารถจัดการกับพวกเขาได้ สิ่งที่เราต้องทำคือให้พวกเขาวุ่นวายจนกว่าหัวหน้าจะมาที่นี่ ถึงตอนนั้น เหนือเทพขั้นสูงสุดก็จะต้องถูกทำลายแล้ว”

“ก้อนผลึกระดับสูงสุดเหล่านั้นจะเป็นของกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าของเราและข้าได้ยินมาเจ้าเด็กนั้นดูเหมือนจะมีมากมาย ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเราจะได้รับเงินมหาศาล ! ”

เหนือเทพทั้งเจ็ดตื่นเต้นอยู่ภายในราวกับทรัพย์สินของเจี้ยนเฉินเป็นของพวกเขาแล้ว

ขณะที่พวกเขากำลังฝันว่าจะได้ก้อนผลึกระดับสูงสุดมากมายแค่ไหน ความกระหายก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไคยะยื่นมือขวาออกมาและกระบี่ที่เต็มไปด้วยกฏแห่งการทำลายล้างก็ปรากฏ มันทำให้เกิดความกลัวเป็นอย่างมากก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งออกไปยังชายหนุ่มที่ดูถูกนางด้วยความเร็วปานสายฟ้า

แม้ว่าไคยะจะเข้าใจถึงกฏเมื่อไม่นานนี้ แต่นางก็เข้าใจวิธีการใช้งาน การใช้งานของนางเหนือกว่ากฏกระบี่ที่เจี้ยนเฉินใช้ ไม่มีใครทำได้เทียบเท่านาง

ผลลัพธ์ไม่เพียงแต่มันจะทำให้นางตัดอะไรก็ตามได้อย่างง่ายดายราวกับเต้าหู้ในการใช้กฏแห่งการทำลายล้างอย่างเป็นธรรมชาติ แต่พลังของทุกกฏที่นางใช้ไม่ว่าจะเป็น กฏแห่งไฟ, กฏแห่งการทำลายล้าง, หรือกฏแห่งการสร้างสรรค์ พลังของมันก็เกินกว่ากฏแบบเดียวกันที่คนอื่นใช้จากผู้ที่มีระดับบ่มเพาะเดียวกัน

กฏแห่งการทำลายล้างเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมาก ในมิติเล็ก ๆ ของสังเวียน กฏแห่งการทำลายล้างก็เข้าโจมตีชายหนุ่มคนนั้นอย่างรวดเร็ว

ปัง !

ด้วยเหตุนี้กฎแห่งการทำลายล้างได้เจาะทะลุหัวของชายหนุ่มก่อนที่ตัวเขาจะตอบสนองและมันก็ระเบิดทันที หัวของชายหนุ่มก็ระเบิดออกพร้อมกับน้ำสีขาวสีแดงกระเด็นกระจายไปทั่ว

ก่อนที่พวกเขาจะใช้การร่วมพลังโจมตี พวกเขาก็ตายไปแล้วหนึ่งคน เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก พวกยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย พวกเขามองไปที่ศพไร้หัวของชายหนุ่มพร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวก็เอาชีวิตเพือนของเขาไปได้แล้ว มันจะแข็งแกร่งอะไรขนาดนี้ ?

ทุกคนมองไปที่ไคยะอย่างตกใจมาก ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาได้เข้าไปยั่วยุคนที่น่ากลัวแค่ไหน

นางได้สังหารเพื่อนของพวกเขาด้วยการโจมตีครั้งเดียวและพวกเขาก็ไม่อาจตอบโต้อะไรได้เลย แม้แต่เหนือเทพช่วงสูงสุดที่อยู่ในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพก็ไม่อาจทำได้เช่นนี้

ขณะที่พวกเขาตกตะลึง เกิดเสียงชักกระบี่ดังขึ้น เจี้ยนเฉินได้พุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระบี่สายรุ้ง เขาแทงออกไปราวกับสายฟ้า

พรวด !

ด้วยการเผชิญหน้ากับการโจมตีของเจี้ยนเฉิน พวกเขาก็ไม่อาจป้องกันได้เลย เพียงการแทงออกไปครั้งเดียว หัวของพวกเขาก็หลุดลอย เจี้ยนเฉินได้ฆ่าเพื่อนของเขาอีกหนึ่งคนด้วยความเร็วดุจสายฟ้าของเขา