เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1997: สายเลือดหมาป่านภาโบราณ
ตอนที่ 1997: สายเลือดหมาป่านภาโบราณ
จากหัวหน้าทั้งหมด มีราชาเทพเพียง 3 คนในกลุ่มนักผจญภัยหมาป่ากระบี่ เมื่อหัวหน้าเริ่มต่อสู้กับเจี้ยนเฉินอีกครั้ง ราชาเทพอีกสองคนก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
เป็นธรรมดาที่ไคยะและเฉินหลงจะไม่อยู่เฉย พวกเขาก็ออกมาพัวพันทำให้ราชาเทพตึงมือเช่นกัน
แม้ว่าไคยะจะเป็นเพียงขั้นเหนือเทพและนางก็พึ่งจะทะลวงเป็นขอบเขตเทพเมื่อไม่นานนี้ พลังต่อสู้ของนางก็ยังไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเจี้ยนเฉิน การควบคุมและการใช้กฏของนางยังทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจอีกด้วย
ทำให้ไคยะที่เพิ่งเริ่มต่อสู้กับราชาเทพ นางก็สามารถประมือกับเขาได้อย่างสูสีและนางยังคงเหนือกว่าเล็กน้อยในบางครั้ง
ราชาเทพจากกลุ่มนักผจญภัยกระบี่หมาป่าทั้งสามคนนั้นไม่ได้มีพลังมากนัก พวกเขาไม่ใช่เหล่าอัจฉริยะและพวกเขาก็เป็นแค่ราคาเทพช่วงต้น ทำให้เมื่อเจี้ยนเฉินและไคยะเผชิญหน้ากับพวกเขา มันก็แตกต่างจากตอนที่พวกเขาถูกตามล่าโดยผู้พิทักษ์ลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ในเวลานั้นพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะโต้กลับเลย
เมื่อเทียบกับความสบาย ๆ ของเจี้ยนเฉินและไคยะแล้ว ปรมาจารย์เฉินหลงต้องลำบากอย่างมาก เขาจะเสียมือไปทันที ถ้าไม่ใช่เพราะวิญญาณในกับดักได้กลายเป็นงูหลามยักษ์ด้วยพลังของค่ายกล ปรมาจารย์เฉินหลงอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของราชาเทพ
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นปรมาจารย์ค่ายกล เขาเชี่ยวชาญด้านค่ายกลและโจมตีผู้คนด้วยวิธีนั้น
ปรมาจารย์เฉินหลงถือจานค่ายกลสีฟ้าเรียบง่าย เขาร่วมมือกับวิญญาณในกับดักเพื่อรับมือกับราชาเทพ ในขณะที่อีกมือของเขาเปลี่ยนผนึกไปมา เขาโยนธงอาคมออกไปทันทีหลังจากที่สร้างค่ายกลเรียบร้อยแล้ว
ในเมื่อเป็นการต่อสู้แบบเปิด ปรมาจารย์เฉินหลงยังคงออกไปต่อสู้กับคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ถ้าเขาสามารถใช้ค่ายกลได้ เขาก็สามารถสังหารราชาเทพได้อย่างง่ายดาย
เมื่อพวกเขาต่อสู้ในสังเวียนเป็นตาย ความรุนแรงก็เริ่มส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่อง พลังงานที่ทรงพลังก็ทำลายสังเวียนภายใน ทำให้หลาย ๆ คนรอบ ๆ รู้สึกประหลาดใจ
เมื่อได้ข่าวว่าราชาเทพกำลังต่อสู้ในสังเวียนเป็นตายแพร่ออกไป ผู้คนก็เริ่มมารวมตัวกันรอบ ๆ
อย่างไรก็ตามผู้คนที่มาสังเกตการณ์ต่างก็ตะลึงทั้งหมด
ขั้นเหนือเทพ 3 คนต่อสู้กับราชาเทพ 3 คน และสองในสามคนนั้นต่อสู้กับราชาเทพได้อย่างเท่าเทียม ภาพเหล่านี้ทำให้ทุกคนดูประหลาดใจอย่างเหลือเชื่อ
“หากจะกำจัดราชาเทพด้วยพลังของเหนือเทพ ทั้งสามคนต้องเป็นเหนือเทพช่วงสูงสุดซึ่งอยู่ในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ”
“ชายหนุ่มและหญิงสาวคนนี้น่าประทับใจนัก ข้ายังสงสัยว่าเขาจะถูกจัดให้เป็นอันดับแรก ๆ ในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ”
“เราไม่รู้ว่าใครที่เป็นที่หนึ่งนั้นมีพลังเพียงใด แต่ข้ามั่นใจว่าชายหนุ่มและหญิงสาวคนนี้จะต้องอยู่ในสิบอันดับแรก ไม่! น่าจะเป็นสามอันดับแรก”
หลายคนประหลาดใจพร้อมกับถอนหายใจรอบ ๆ สังเวียน
ในช่วงเวลานี้หมาป่าตัวใหญ่ได้หอนขึ้นมา การต่อสู้ของราชาเทพและเจี้ยนเฉินเริ่มรุนแรงมากขึ้น
ราชาหมาป่าถูกฟันจนเลือดอาบ มีรอยฟันที่ร้ายแรงมากมายบนร่างกายของเขาและกระดูกกระบี่ที่อยู่บนหลังก็เหลือเพียง 6 จาก 9 เจี้ยนเฉินตัดมันไป 3 แล้ว
อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าของเจี้ยนเฉินก็ขาดและเปื้อนเลือด มันไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเลือดของเขาหรือของราชาหมาป่า
ในเวลานี้ที่ด้านบนสุดของเรือรบมิติ มีชายชราสามคนนั่งอยู่ในห้องที่ได้รับการตกแต่งอย่างดี
ชายชราทั้งสามดูสบาย ๆ พลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขาถูกปกปิดเอาไว้ ทำให้พวกเขาดูเหมือนกับคนธรรมดา ๆ อย่างไรก็ตามดวงตาของเขานั้นพิเศษอย่างมาก มีพลังปราณบางอย่างที่ดูราวกับเป็นศูนย์กลางจักรวาลที่ใหญ่และลึกซึ้งแว่บไปมาเป็นครั้งคราว
“สามขั้นเหนือเทพสู้กับสามราชาเทพ นี่มันหายากจริง ๆ ข้าไม่คิดว่าจะเจออะไรที่น่าสนใจเช่นนี้ในยานอวกาศอรุณฉายแสงของเรา” ชายชราเสื้อขาวหัวเราะเบา ๆ
นอกจากชายชราเสื้อขาวแล้วยังมีชายชราอีก 2 คนที่สวมเสื้อลินิน พวกเขาพยักหน้าพลางถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ “ขั้นเหนือเทพทั้งสามที่พวกเขาบังเอิญเจอนั้นทรงพลังมากจริง ๆ ไม่เพียงเท่านั้น แต่การใช้กฏแห่งการทำลายล้างและกฏแห่งไฟของหญิงสาวเท่านั้นที่ทำให้ข้าชื่มชมนางเป็นอย่างมาก แต่ชายหนุ่มที่ใช้กระบี่นั้นก็มีความโดดเด่นอย่างยิ่ง ข้าสงสัยว่าวิถีการบ่มเพาะของเขาจะเป็นอย่างไร สำหรับตาเฒ่านั้นถึงแม้จะไม่มีความโดดเด่นมากนัก แต่ค่ายกลที่เขาวางนั้นก็น่าประทับใจอย่างมาก เฮ้อ~ มันก็นานมาแล้วตั้งแต่ที่ข้าเดินทางไปทั่วโลก คนรุ่นหลังนั้นน่าประทับใจขนาดนี้เลยหรือ ? ”
“ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะโดดเด่นอย่างนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ในระดับเดียวกัน”ชายชราคนสุดท้ายที่สวมเสื้อแดงกล่าว เขาเป็นชายชราที่ขับไล่ห้วยอันให้กับเจี้ยนเฉินและทำลายแขนข้างหนึ่งของห้วยอัน
“ฮิฮิ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นการกระทำที่น่าทึ่งของขั้นเหนือเทพทั้งสามที่สู้กับราชาเทพสามคนในเวลาเดียวกัน หงโม่, มู่เหอ ถ้าเราไม่หาอะไรสนุก ๆ ทำละก็ มันจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย ทำไมเราไม่เดิมพันกัน ? ” ชายเสื้อขาวหัวเราะหน้าแดงขณะที่เขาพูดต่อ “พวกเขาดูเหมือนจะเป็นกลุ่มนักผจญภัยหมาป่ากระบี่ ในบรรดาราชาเทพทั้งสามมีเพียงหมาป่ากระบี่เท่านั้นที่เข้าตา เขามีสายเลือดของหมาป่านภาโบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบี่เล่มสุดท้ายของเขา มันเป็นการรวมสายเลือดทั้งหมดและหากว่าเขาใช้มัน จะทำให้เขาอายุสั้นลง เมื่อทำให้มันระเบิด เขาจะสามารถสังหารราชาเทพช่วงต้นได้ง่าย ๆ มีเพียงอัจฉริยะเท่านั้นที่จะสามารถหยุดมันได้ มาเดิมพันกันว่าใครจะชนะระหว่างหมาป่ากระบี่หรือเด็กน้อยถือกระบี่”
“เรายังต้องเดิมพันกันอีกหรือ ? ชายหนุ่มที่ถือกระบี่มีพลังที่เท่าเทียมแถมยังเหนือกว่าบางครั้ง แต่เพราะราชาหมาป่าไม่ได้ใช้พลังของสายเลือดของเขา เมื่อเขาใช้สิ่งนั้น แม้ว่าเด็กนั้นจะรอดตายแต่ก็ยังเหลือเพียงครึ่งชีวิตเท่านั้น แน่นอนว่าหากเป็นหญิงสาวที่มีกฏแห่งไฟและการทำลายล้างและตาเฒ่าที่เชี่ยวชาญค่ายกลไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือ” มู่เหอในชุดลินินพูดด้วยใบหน้ายับย่นอย่างไม่พอใจ
ชายชุดแดงอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยเจี้ยนเฉิน เขายิ้มให้กับหงโม่บาง ๆ และพูด “เนื่องจากการต่อสู้ยังคงดำเนินการต่อ เรายังไม่รู้ว่าใครจะชนะ งั้นก็มาเดิมพันกันเถอะ มาดูกันว่าใครจะชนะ ข้าจะแยกพวกเขาทั้งสามคนออกจากกัน ดังนั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถร่วมมือกันต่อสู้กับหมาป่ากระบี่ได้ วางเดิมพันได้เลย”
“ข้าเดิมพันข้างหมาป่ากระบี่ด้วยโลหะแท้ของพุทธะ”
“ข้าเดิมพันยารักษาขั้นเทพระดับหนึ่งข้างหมาป่ากระบี่เช่นกัน”
ชายชราทั้งสองวางเดิมพันในไม่ช้า เขาเลือกหมาป่ากระบี่ทั้งคู่
หงโม่ยิ้วน้อย ๆ และพูดว่า “เนื่องจากพวกเจ้าทั้งคู่เลือกหมาป่ากระบี่ ข้าจึงไม่อาจตามเจ้าได้ ข้าเลือกชายหนุ่มถือกระบี่ ข้าพนันได้เลยว่าเขาจะชนะ”
“ฮ่าฮ่า หงโม่ เจ้าต้องแพ้เดิมพันในครั้งนี้แน่ พลังจากสายเลือดของหมาป่านภาโบราณไม่อาจประเมิณได้”