เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 1998: พลังของสายเลือด
ตอนที่ 1998: พลังของสายเลือด
“พลังจากสายเลือดของหมาป่านภาโบราณนั้นทรงพลังอย่างมาก ยกเว้นพลังที่อยู่ในกระบี่กระดูกที่ 9 นั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของมัน หากเขาใช้ให้ดี สามารถบอกได้เลยว่าเขาจะไร้พ่ายในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตามถ้าเขาไม่ได้ทำ….” หงโม่ยิ้มอย่างลึกซึ้ง ด้วยสัมผัสวิญญาณที่ทรงพลังของเขาได้ห่อหุ้มสังเวียนเป็นตายไว้เรียบร้อยแล้ว เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับเจี้ยนเฉินหรือหมาป่ากระบี่
“ดูเหมือนว่าหมาป่ากระบี่จะไม่ได้ทำให้เจ้าชอบนะ หงโม่ งั้นก็มาดูกัน ข้าไม่เชื่อว่าราชาเทพหมาป่ากระบี่ที่มีพลังจากสายเลือดหมาป่านภาโบราณจะแพ้ให้กับขั้นเหนือเทพ….”
…
การต่อสู้ระหว่างเจี้ยนเฉินและหมาป่ากระบี่นั้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในสังเวียนเป็นตาย พวกเขาวูบไปวาบมา พวกเขาปะทะกันอย่างรวดเร็วจนขั้นเหนือเทพหลายคนไม่อาจเห็นร่างของพวกเขาได้ พวกเขาสามารถเข้าใจได้ผ่านสัมผัสวิญญาณของพวกเขา
มีคนรู้ถึงความทรงพลังของราชาหมาป่า แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะสู้กับราชาเทพขั้นต้นหลายครั้งในอดีต พวกเขาก็เทียบประสบการณ์ต่อสู้ของราชาหมาป่าไม่ได้
ในฐานะหัวหน้าของกลุ่มนักผจญภัย ราชาหมาป่ามีประสบการณ์สู้ที่เลวร้ายกว่าสาวกของนิกายขนาดใหญ่หลายแห่ง
เมื่อรวมกับสายเลือดที่พิเศษของราชาหมาป่าและร่างกายของเขาในฐานะสัตว์อสูร ทำให้การต่อสู้นั้นเกินกว่าราชาเทพมนุษย์ซะส่วนใหญ่ ท้ายที่สุดมันก็นำไปสู่การต่อสู้ระหว่างเจี้ยนเฉินและราชาเทพที่ยากเป็นพิเศษ
ในขณะนี้พลังงานจลที่ทรงพลังปรากฏขึ้นในสังเวียนเป็นตาย กระบี่กระดูกที่เหนือ 5-6 เล่มที่ด้านหลังของราชาหมาป่าส่องแสงประกายสีขาวเงิน พลังงานที่รุนแรงมากทำให้กระบี่กระดูกแต่ละเล่มเต็มไปด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
สายตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลง พร้อมกับเสียงกรีดยาว กำปั้นซ้ายก็พุ่งออกไปพร้อมกับกฏของกระบี่และพลังบรรพกาลได้หยุดกระบี่กระดูกที่พุ่งเข้ามาที่หน้าผากของเขา
ทันใดนั้นเลือดก็กระเด็นและมือซ้ายของเขาก็กับมาอยู่ที่เดิม กระดูกในมือของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ
กระบี่กระดูกเหลืออีกเพียงสี่เล่มก็เปล่งประกายคลื่นพลังออกมาพร้อมกับพร่าเลือนเข้าใส่เจี้ยนเฉินทันที
เจี้ยนเฉินไม่ได้พยายามหลบกระบี่เล่มที่ 4 มีความมุ่งมั่นในดวงตาของเขา เขาพุ่งเข้าหาตรง ๆ และปล่อยให้มันโจมตีร่างกายาของเขาโดยตรง กระบี่สายรุ้งในมือขวาของเขาส่องแสงจ้าในขณะที่เขาพุ่งไปยังศีรษะของราชาหมาป่าด้วยความเร็วสูง
เจี้ยนเฉินต้องการปะทะ กระบี่ต่อกระบี่ !
ราชาหมาป่าเข้าใจความตั้งใจของเจี้ยนเฉินอย่างชัดเจน เกิดความบ้าคลั่งปรากฏในดวงตาของเขาเช่นกัน เขาก็พร้อมที่จะแลกด้วยเช่นกัน
พรวด ! พรวด ! พรวด ! พรวด !
กระบี่กระดูกทั้ง 4 เล่มแทงไปยังร่างของเจี้ยนเฉิยในเวลาเดียวกัน มีกระดูกสีขาวโผล่ออกจากด้านหลังพร้อมกับเลือดที่หลั่งไหลกับพลังที่ทรงพลัง
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ เลือดไหลออกมาจากมุมปากขณะที่กระบี่ในมือขวาของเขาแทงไปที่หน้าผากของราชาหมาป่าด้วยความเร็วสูง มันพุ่งเข้าหาหน้าผากของราชาหมาป่าภายในไม่กี่วินาที
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ราชาหมาป่าเอียงหัวเล็กน้อยและหลบการโจมตีที่รุนแรงของเจี้ยนเฉิน ท้ายที่สุดมันก็เขากูถูกแทงคอ ความคมของมันเกือบจะตัดหัวของราชาหมาป่าไปได้ โชคดีที่ยังมีชิ้นเนื้อหลงเหลืออยู่
ในช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินขยับไม่ได้ กระบี่กระดูกทั้งสี่ในร่างกายของเขาก็ระเบิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน ราวกับว่ามันต้องการฉีกร่างของเขาให้เป็นชิ้น ๆ มีเลือดพุ่งออกจากบาดแผลของเขา
พลังบรรพกาลแผ่ออกมาจากร่างกายของเจี้ยนเฉินเพื่อเพิ่มพลังป้องกันของร่างบรรพกาลจนถึงขีดสุดด้วยการอดทนต่อกระบี่กระดูก เขาจึงใช้กระบี่สายรุ้งฟันไปที่หลังของราชาหมาป่า
ติ้ง !
หลังจากสิ้นเสียง กระบี่กระดูกอันที่ 5 ก็ขาดออกจากหลังของราชาหมาป่า
8 ใน 9 อันของกระบี่กระดูกได้แตกหมดแล้ว เหลือเพียงแค่อันเดียว
เจี้ยนเฉินพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วมาก หลังจากทำลายกระบี่กระดูกไป 5 อัน กระบี่สายรุ้งก็พร่าเลือนอีกครั้งขณะที่ฟันไปที่หัวของราชาหมาป่า
“การฆ่าข้าไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแค่เจ้าคนเดียวที่เป็นแค่ขั้นเหนือเทพ ต่อให้เจ้าได้เป็นราชาเทพ เจ้าก็ไม่อาจฆ่าข้าได้ ข้ามีสายเลือดของหมาป่านภา มันเป็นเกียรติแก่เจ้าอย่างยิ่งที่จะตายด้วยพลังนี้” ในขณะนั้นเสียงของราชาหมาป่าก็ดังขึ้น
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
ราชาหมาป่าจำเป็นต้องจ่ายในค่าตอบแทนอย่างสูงมากและสูญเสียพลังชีวิตออกไปมากมายเพื่อใช้พลังจากสายเลือดของหมาป่านภาโบราณ เขาไม่คิดเลยว่าขั้นเหนือเทพเพียงคนเดียวจะทำให้เขาต้องทำเช่นนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางเลือก เหนือเทพคนนี้ยอดเยี่ยมอย่างมาก เขายังสงสัยว่าเขาได้สู้กับขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดและเป็นอันดับหนึ่งของป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ มันไม่ใช่การต่อสู้ง่าย ๆ สำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว
ด้วยพลังทำลายล้างที่ทรงพลังจนน่าหวาดหวั่นปรากฏขึ้นที่แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ผวา กระบี่กระดูกเล่มที่ 9 บนหลังของหมาป่ากระบี่ส่องประกายด้วยแสงสีแดงอย่างฉับพลัน พลังที่น่ากลัวที่หลับใหลอยู่ได้ตื่นขึ้นมาทันที
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่กระบี่กระดูกอันที่ 9 ของราชาหมาป่าและเขาก็เคร่งเครียดอย่างมาก เขารู้สึกถึงความตายจากระดูกอันที่ 9 พลังที่ถูกปลุกขึ้นมานี้นั้นน่าตกใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเจี้ยนเฉินก็กัดฟันและทำสิ่งที่เขาต้องทำต่อไป เขาแทงกระบี่ไปที่หัวของราชาหมาป่า
ตราบใดที่ทำลายวิญญาณราชาหมาป่า ราชาหมาป่าก็ไม่อาจใช้พลังของเขาได้แม้ว่ามันจะทรงพลังขนาดไหน
อย่างไรก็ตามเมื่อกระบี่ของเจี้ยนเฉินแทงลงไปครึ่งนึง เขาก็เห็นแสงสีแดงสดใส แสงนั้นมันทรงพลังมากเสียจนทำลายม่านป้องกันรอบ ๆ ของสังเวียนเป็นตายและย้อมพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสีแดง
แสงสีแดงจากกระบี่กระดูกอันที่ 9 ส่องแสงมาทางเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินตัวแข็งทันที ตอนนี้แสงสีแดงมุ่งเป้ามาที่เขาทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตรึง แม้ว่าเขาจะพยายามอย่าหนักเท่าที่จะทำได้และส่งพลังบรรพกาลของเขาออกไปอย่างดุดันจนเขาไม่อาจฟื้นฟูความอิสระของเขาได้
พลังแห่งการมีอยู่ของความตายได้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เจี้ยนเฉิน ! ”
อีกข้างหนึ่ง ไคยะที่จัดการคู่ต่อสู้ของนางเสร็จแล้ว นางฆ่าผู้อาวุโสราชาเทพด้วยกระบี่ที่ควบด้วยกฏแห่งการทำลายล้าง นางรู้สึกถึงอันตรายที่เจี้ยนเฉินพบเจอและนางก็กรีดร้องทันทีและพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว
ปรมาจารย์เฉินหลงได้สร้างค่ายกลของเขาและขังผู้อาวุโสของนักผจญภัยกระบี่หมาป่า เมื่อเขาเห็นแสงสีแดงที่ตรึงเจี้ยนเฉินอยู่ด้านหน้า ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาโยนแผ่นอาคมสีฟ้าของเขาออกไปทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ไคยะจะเข้าไปถึงเจี้ยนเฉิน นางก็กระแทกกับม่านป้องกันและกระเด็นกลับไป
ม่านกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่ด้านหน้าของนาง ซึ่งดูเหมือนจะแยกสังเวียนออกเป็นสองโลก เพื่อป้องกันไม่ให้นางเข้าใกล้เจี้ยนเฉิน
อีกด้าน ปรมาจารย์เฉินหลงก็เจอม่านกำแพงเช่นกัน มันเป็นแบบเดียวกับของไคยะทำให้เขาไม่อาจเข้าหาเจี้ยนเฉินได้เลย
ในเวลานี้แสงสีแดงจากกระบี่กระดูกเข้ามาใกล้หน้าผากของเจี้ยนเฉิน และมันเป็นสถานการณ์สุดอันตราย