เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2005: การชุมนุม
ตอนที่ 2005: การชุมนุม
เจี้ยนเฉินต้องการที่จะทำให้ร่างบรรพกาลถึงขั้นที่ 12 โดยเร็ว ในปีนี้มันเป็นอะไรที่สุดถึงที่สุด มากเสียจนมันเป็นดั่งไฟที่แผดเผาใจเขาขึ้นมาเรื่อย ๆ
ร่างบรรพกาลขั้นที่ 12 นั้นเทียบเท่ากับราชาเทพในโลกเซียน ตอนที่ห้วยอันตามล่าเขาในที่ราบเมฆา อย่างน้อยเขาก็จะสามารถต้านทานมันได้ ถ้าเขามีร่างบรรพกาลอยู่ที่ขั้น 12 แน่นอนว่าเขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของห้วยอัน
เขายังคงสามารถต่อสู้กับผู้พิทักษ์ราชาเทพช่วงปลายทั้งสามคนได้
“ไคยะ จะจัดงานเมื่อไหร่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม เขาจะต้องได้รับความเข้าใจในกฎของกระบี่ซึ่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทิ้งไว้
แม้ว่าจะไม่ได้รับประกันว่าเขาจะสามารถบรรลุความสำเร็จขั้นกลางของจิตวิญญาณกระบี่ แต่มันก็ยังมีโอกาส
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินสนใจมากเพียงใด ไคยะยิ้มบาง ๆ “เหลืออีกกว่า 12 ชั่วยามก่อนที่การชุมนุมจะเริ่ม”
“12 ชั่วยาม ? มันก็ไม่นาน ตอนนี้ข้าจะไปรอก่อน” เจี้ยนเฉินคิดก่อนที่จะไปยังที่ ๆ จัดการชุมนุมกับไคยะ
เดิมทีพวกเขาต้องการเรียกปรมาจารย์เฉินหลงเช่นกัน แต่นับตั้งแต่ที่เขาต่อสู้กับราชาเทพของกลุ่มนักผจญภัยหมาป่ากระบี่ ตั้งแต่ที่เขาต้องเก็บตัวรักษา เขาก็ยังไม่ได้ออกมาจากการเก็บตัว
การชุมนุมนี้จัดขึ้นในห้องขนาดใหญ่ของเรือรบมิติ มันมีความยาวและความกว้าง 500 เมตรและสามารถจุคนได้นับหมื่นคน
แม้ว่าการชุมนุมจะยังเปิด ผู้คนกว่าพันคนก็มารวมตัวกันที่นี่ พวกเขาพูดคุยกันและรอการเปิดการชุมนุมอย่างอดทน
ในเวลาเดียวกันผู้บ่มเพาะจำนวนหนึ่งก็ปูผ้าตั้งแผงและจัดของต่าง ๆ ที่จะขายรวมถึงของมีค่า
เจี้ยนเฉินมาถึงที่นี่ภายใต้การนำของไคยะ เขาชำเลืองอย่างผ่าน ๆ ก่อนที่จะพบว่าปกติแล้วคนที่มาที่นี่ทั้งหมดคือขั้นเทพและขั้นเหนือเทพ มีราชาเทพด้วยเหมือนกัน แต่เขาก็มองเห็นแค่ 2 คนเท่านั้น
ในสถานที่อย่างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนยังมีราชาเทพไม่กี่คน แต่บนเรือรบมิติที่มักจะเคลื่อนผ่านที่ราบใหญ่ ๆ พวกเขาก็ค่อนข้างธรรมดา
“นายท่าน มีศิลามังกรฟ้าทมิฬ อยู่ด้านหน้าของท่านหากออกไป 100 เมตร” ทันใดนั้นเสียงของจิตวิญญาณกระบี่ก็ดังภายในหัวของเจี้ยนเฉิน
สายตาของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายขึ้นมา เขารู้เกี่ยวกับศิลามังกรฟ้าทมิฬ มันเป็นหนึ่งในวัสดุที่เขาต้องใช้ในการสร้างกระบี่คู่ ทันใดนั้นเขาก็เดินไปกับไคยะ
เมื่อเจี้ยนเฉินพบศิลามังกรฟ้าทมิฬ เขาก็พบวัสดุชั้นเลิศอื่น ๆ ถูกวางไว้บนแผงของหญิงชราเช่นกัน มีสินค้าทุกประเภทกระจัดกระจายอยู่ แต่มีวัสดุเพียง 3-4 ชิ้นที่อยู่ในระดับสูงสุด
หญิงชราที่ดูสบาย ๆ ผมหงอกและผิวหนังที่หย่อนยานที่กำลังรอคอยความตายไปวัน ๆ มันทำให้คนอื่นรู้สึกว่านางเป็นคนที่พร้อมจะจากไปได้ทุกเมื่อด้วยโรคชรา
“ผู้อาวุโส วัสดุนี้ราคาเท่าไร ? ” เจี้ยนเฉินชี้ไปที่ศิลามังกรฟ้าทมิฬและถามอย่างใจเย็น
“มันเป็นวัสดุระดับสูงสุด ราคาของมันคือเหรียญผลึกระดับสูง 10 ก้อน” หญิงชรายังคงหลับตาขณะนั่งอยู่ที่พื้น น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนแรง
เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว ผลึกศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง 10 ก้อนนั้นเป็นราคาที่สูงมาก เพราะวัสดุระดับสูงสุดที่ถูกประมูลในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนยังมีแค่เหรียญผลึกระดับสูงหลายแสนชิ้น มันยังน้อยกว่าผลึกศักดิ์สิทธิ์ก้อนเดียวด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามหลังจากลังเลเล็กน้อย เจี้ยนเฉินก็นำผลึกศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง 10 ก้อนออกมาเพื่อซื้อวัสดุ มันยากที่จะรวบรวมวัสดุที่จำเป็นสำหรับการหลอมกระบี่คู่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพลาดหลังจากที่เขาเจอพวกมันแล้ว
ยิ่งกว่านั้น เขาไม่ได้ขาดแคลนเหรียญผลึก
“เจี้ยนเฉิน ยายเฒ่าคนนี้ทรงพลังมาก”
เมื่อเจี้ยนเฉินหยิบวัสดุและออกมาจากร้านของหญิงชรา เสียงของไคยะก็ดังขึ้นในหัวของเขา
“ใช่แล้ว แม้ข้าจะไม่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของนาง แต่นางต้องเป็นราชาเทพ” เจี้ยนเฉินพยักหน้า
ไคยะค่อนข้างเครียด นางเหลือบไปทางหญิงชราและพูดว่า”ไม่… ข้ารู้สึกว่ายายเฒ่าคนนี้ไม่ใช่ราชาเทพ ความรู้สึกที่นางมอบให้ข้านั้นน่ากลัวยิ่งกว่าราชาเทพ เพียงแต่ว่านางบาดเจ็บสาหัสและอ่อนแออย่างยิ่ง”
เจี้ยนเฉินตัวแข็งทันที อย่างไรก็ตามเขาก็ฟื้นสติได้อย่างรวดเร็ว เขาคิดถึงหญิงชราอีกครั้งและรู้สึกประหลาดใจอย่างลับ ๆ
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เดินไปรอบ ๆ เพื่อเยี่ยมชมแผงลอยทั้งหมดที่นั้น อย่างไรก็ตามไม่มีวัสดุอื่น ๆ สำหรับการหลอมกระบี่คู่ มันทำให้เขาผิดหวัง
ในพริบตา 12 ชั่วยามก็ผ่านพ้นไป การชุมนุมอย่างเป็นทางการก็เริ่มขึ้น
การชุมนุมคือะไร ? โดยปกติแล้วมันก็คือการรวมตัวกันของผู้บ่มเพาะที่ต้องการสื่อสารและแบ่งปันประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะ นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนสมบัติ
เจี้ยนเฉินไม่ได้มีส่วนร่วมในการสนทนาเกี่ยวกับการบ่มเพาะ เขาไปที่โซนสมบัติเพื่อที่จะซื้อขายทันที เขามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์ในการทำความเข้าใจในกฏของกระบี่จากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น
การซื้อขายที่นี่แตกต่างจากการประมูล สินค้าที่ประมูลจะถูกขายให้กับผู้ที่ประมูลราคาสูงสุดเท่านั้น แต่สินค้าที่จำทำการซื้อขายระหว่างผู้บ่มเพาะอื่น ๆ พวกเขาต้องมาที่นี่
“สิ่งแรกคือสมบัติป้องกันระดับสูงสุด เกราะร้อยวิถี ทุกคนต้องรู้ว่าสมบัติการป้องกันระดับสูงสุดมีค่าเพียงใด ดังนั้นข้าจะไม่อธิบายเกี่ยวกับมัน”
ในบริเวณการซื้อขาย ชายวัยกลางคนเสื้อขาวหยิบเกราะสีดำออกมา พลังแห่งการมีอยู่ของเขานั้นได้อยู่ในระดับราชาเทพ
การปรากฏตัวของเกราะป้องกันระดับสูงสุด ดึงดูดความสนใจทุกคนทันที หลายคนมีความต้องการที่จะได้และครอบครองมัน
สมบัตินี้ดึงดูดแม้กระทั่งความสนใจของเจี้ยนเฉินและไคยะที่เพิ่งมาถึงที่นี่
สมบัติอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพียงแค่ใส่ก็สามารถป้องกันการโจมตีของราชาเทพและทำให้แรงโจมตีเข้ามาอ่อนลง ผู้สวมใส่จะได้รับความเสียกหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในทางกลับกัน วัตถุป้องกันระดับเทพที่เจี้ยนเฉินมีอยู่นั้นมันไม่มีอะไรนอกจากความทนทาน ถ้ามันถูกใช้เพื่อป้องกันการโจมตีที่รุนแรงเกินไป ผู้สวมใส่ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากแรงโจมตีที่เข้ามาอย่างเต็มที่ แม้ว่าเพราะจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยก็ตาม ผู้สวมใส่ก็ยังคงได้รับผลกระทบจนกลายเป็นชิ้น ๆ
ในเวลานี้ ชายกลางคนก็พูดอีกครั้ง “ข้ากำลังมองหาวัสดุระดับเทพที่มีชื่อว่าผ้าไหมเมฆาเจ็ดสี หากใครมีผ้าเมฆาเจ็ดสี เกราะร้อยวิถีจะเป็นของเจ้า”
หลายคนมีความผิดหวังบนใบหน้าเมื่อได้ยินว่าชายกลางคนต้องการวัสดุระดับเทพ
“ข้ามีวัสดุระดับเทพขั้นแรก เหล็กอุกกาบาต มันไร้ประโยชน์สำหรับข้า ดังนั้นข้าจึงต้องการแลกกับวัสดุหรือยาระดับเทพอื่น ๆ ”
“ข้ามีผลไม้กลั่นโลหิตระดับสูงสุด 3 ลูก และข้าต้องการสมบัติสวรรค์ที่สามารถฟื้นฟูวิญญาณในระดับเดียวกัน”
“ข้ามีวิธีบ่มเพาะระดับ 9 ข้าต้องการ….”
หลังจากนั้นผู้คนจำนวนมากก็เอาสมบัติของพวกเขาออกมาซื้อ-ขาย บางคนร้องเร่ บางคนกำลังตั้งแผง พวกเขาวางป้ายไม้เล็ก ๆ เพื่อเน้นถึงสิ่งของที่พวกเขาต้องการ
เจี้ยนเฉินตรวจสอบพื้นที่อย่างระมัดระวัง จะต้องบอกก่อนว่ามีสิ่งของมากมายอยู่ที่นี่และครอบคลุมทุกประเภท มีวัสดุ, สมบัติสวรรค์, วิธีบ่มเพาะ, ทักษะการต่อสู้ระดับสัจจะ, และหนังสือต่าง ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับวิธีบ่มเพาะ
อย่างไรก็ตามมันก็มีความผิดหวังสำหรับการหาของเกี่ยวกับความเข้าใจกฏของกระบี่ซึ่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นได้ทิ้งเอาไว้
ในเวลานี้ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลงเล็กน้อย เขาสังเกตุเห็นหญิงชราคนเดิมที่ขายศิลามังกรฟ้าทมิฬให้กับเขา คนที่ไคยะสงสัยว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นกำลังเดินผ่านฝูงชนอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นนางก็นั่งลงและวางแผงลอยอีกครั้ง
มีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการขายของก่อนหน้า นอกจากวัศดุที่เจี้ยนเฉินเห็นก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีสมบัติสวรรค์อีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อเจี้ยนเฉินเห็นแผ่นศิลาที่หญิงชราค่อย ๆ หยิบออกมาจากแหวนมิติของนาง หัวใจของเขาก็สั่นทันที เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความแหลมคมของกระบี่จากแผ่นศิลา
“ข้ามีศิลาที่มีรอยฟันจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิมที่เข้าใจในกฏของกระบี่ มันมีความเข้าใจมากมายของผู้เชี่ยวชาญ” เสียงที่อ่อนแอของหญิงชราดังขึ้น มันไม่ได้ดังนัก แต่ทุกคนก็ได้ยิน
ทันใดนั้นการชุมนุมทั้งหมดก็เงียบลง
มีรอยฟันจากผู้เชี่ยวชาญของขอบเขตตั้งต้นที่มีความเข้าใจส่วนใหญ่ของเขาอยู่ ข้อมูลชิ้นนี้เปรียบดังระเบิดในหัวของทุกคน