เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2010: ราชาปีศาจสามตา
ตอนที่ 2010: ราชาปีศาจสามตา
ความสงบอย่างฉับพลันของเจี้ยนเฉินเกิดขึ้นในขณะที่เขาทำความเข้าใจและสัมผัสของไคยะได้ทำให้เขารู้สึกถึงลางร้าย เขาไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มกับชิเซียง แต่เมื่อเขากำลังจะนั่งลง ก็มีเสียงอึกทึกเกิดขึ้น
“อ่า ขอโทษหรือ ? ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหนีไปจากราชาแล้วและเจ้าทำเพียงแค่ขอโทษ ? เจ้าสองสองคนดูถูกข้าใช่หรือไม่ ? ข้ายังคงมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่อีกหรือ หากข้ายังปล่อยให้ทำต่อไป ? ”
“ขอโทษด้วยผู้อาวุโส มันเป็นความผิดของน้องสาวข้า ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะสามารถให้อภัยกับน้องสาวที่ยังเล็กของข้าได้ในการที่น้องสาวข้าปากพล่อยไปก่อนหน้านี้”
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะมองไปทางต้นเสียง หญิงสาวทั้งสองเป็นคนที่เขาพบที่ดาดฟ้ายานอวกาศที่กำลังพูดคุยกับชายร่างสูงที่มีตาที่สามอยู่ที่หน้าผาก
พลังแห่งการมีอยู่ที่ห่อหุ้มชายกำยำคนนั้นได้กดลงมาอย่างหนักหน่วง สายตาของเขาดูร้ายกาจอย่างมากขณะที่จ้องมองผู้หญิงทั้งสองคนอย่างชั่วร้าย
หญิงสาวที่มีอายุมากกว่าสับสนเล็กน้อย นางขอโทษชายสามตาร่างกำยำตลอดเวลา
สำหรับเด็กหญิง นางรู้ได้ทันทีว่านางได้ก่อปัญหาอย่างไม่ตั้งใจ ใบหน้าของนางซีดเซียวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่นางกุมมือหญิงสาวคนข้างและตัวสั่นอย่างน่าสงสาร
ในเวลานี้ชามสามตากำลังเยาะเย้ย ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่หน้าอกของหญิงสาวก่อนที่เขาจะเห็นจี้ที่คอของหญิงสาว เขาศึกษาอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “เมื่อเจ้าต้องการขอโทษ ก็เอาจี้นี้มาให้ข้าแล้วกัน ข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไป เห็นแก่ที่เจ้ายังเด็กอยู่” ในขณะที่อย่างนั้นชายสามตาก็จับไปที่จี้อย่างแน่นหนา
“อ๊า ! แม่ข้าได้ให้ไว้ก่อนที่นางจะจากไป คืนมาให้ข้า คืนมา คืนให้ข้าเถอะได้โปรด ข้าขอร้อง นี่คือสิ่งที่ท่านแม่ได้ให้ข้าก่อนที่นางจะจากไป” ราวกับแมวที่ถูกเหยียบหาง เด็กหญิงตัวน้อยกระโจนเข้าหาจี้ที่ถูกจับของนาง นางลืมเกี่ยวกับความกลัวและความหวั่นของนาง นางพุ่งเข้าหาชายกำยำอย่างโกรธแค้น นางต้องการเอาจี้หยกของนางกลับมา
อย่างไรก็ตามเด็กหญิงเพิ่งเริ่มบ่มเพาะ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเข้าถึงตัวชายคนนั้น ชั้นพลังงานดั้งเดิมรอบ ๆ ชายคนนั้นได้ผลักนางออกไป
“ผู้อาวุโส จี้นี่เป็นสิ่งเดียวที่พ่อแม่ของเสี่ยวม่านทิ้งไว้ให้นาง มันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเสี่ยวม่าน ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ได้เป็นจี้ที่มีค่าอะไร ข้าขอให้คืนจี้ให้กับเสียวม่าน” หญิงสาวเก็บความโกรธของนางไว้และพูดอย่างท้อแท้
สายตาของชายกำยำเย็นชา ขณะที่เขาเห็นคนเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ให้ความสนใจกับเขาอย่างช่วยไม่ได้ มีเจตนาฆ่าแว่บผ่านดวงตาของเขา เขาพูดอย่างเย็นชา “เจ้าวิ่งมาชนราชา และราชาก็ไม่ได้ลงโทษเจ้าเพราะเห็นแต่ศักดิ์ศรีของราชา ราชาผู้นี้ต้องการจี้เท่านั้นที่เป็นเพียงวัตถุเซียนระดับต่ำสำหรับการขออภัยของเจ้า แต่เจ้าสองคนไม่รู้ว่าอะไรดีกับตัวเอง เจ้าคิดว่าข้าสามารถถูกยั่วยุได้ ? ราชาผู้นี้จะให้ทางเลือกแก่เจ้าในตอนนี้ จะมอบจี้หรือชีวิตของเจ้า ? เลือกมา”
ชายร่างกำยำจะไม่คืนจี้อย่างแน่นอน ตาที่สามของเขามีความสามารถพิเศษที่สามารถทำให้เขาเห็นความจริงของหลาย ๆ สิ่ง จี้หยกนั้นดูเรียบง่าย แต่เขาก็รู้ว่ามันไม่ธรรมดาสำหรับตาที่สามของเขา
เขาตัดสินได้เลยว่าจี้หยกนี้เป็นสมบัติอย่างแน่นอน
เพื่อที่จะทำให้คนที่เกิดความสนใจเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาแทรกแซง ชายคนนั้นจึงสำแดงพลังของเขา เขาเป็นราชาเทพช่วงกลาง
เด็กหญิงตัวเล็กปลิวออกไปราวกับว่าวจากพลังที่ปะทุของชายคนนั้น นางไม่อาจต้านได้เลย
ถ้านี่ไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าห้ามทำการต่อสู้บนยานอวกาศนอกจากสังเวียนเป็นตาย ทำให้ชายร่างกำยำทำได้เพียงแสดงสถานะของเขาเพื่อบดขยี้หญิงสาวคนนี้ราวกับคนธรรมดา
หญิงสาวที่มีอายุมากกว่าเป็นเพียงแค่ขั้นเหนือเทพช่วงปลาย ภายใต้แรงกดดันของราชาเทพ นางต้องพยายามอย่างมาเพื่อปกป้องตัวนางเองโดยไม่มีโอกาสที่จะปกป้องเด็กหญิง
เพียงเมื่อเด็กหญิงกำลังจะตกถึงพื้น เจี้ยนเฉินก็ก้าวไปด้านหน้าทันทีจากระยะไกล เขาร่นเข้ามาได้หลายร้อยเมตรราวกับว่าเขาหายตัวไปและมาถึงด้านหลังเด็กหญิงโดยตรง เขาจับนางเบา ๆ
เจี้ยนเฉินวางนางลงบนพื้นอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่า “น้องสาว เจ้าสบายดีหรือไม่ ? ”
ดวงตาเด็กสาวแดงก่ำและมีน้ำตานอง นางดูน่าสงสารและพูดออกมาว่า “ข้าสบายดี ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้า พี่ชาย” เด็กสาวมองไปที่ชายกำยำและดวงตาที่ไร้เดียงสาของนางก็เต็มไปด้วยความท้อแท้ มันเป็นภาพที่เจ็บปวดใจอย่างมาก นางสะอื้น “นั่นคือสิ่งที่แม่ของข้าทิ้งไว้ให้ก่อนที่นางจะจากไป….”
“ไม่ต้องห่วง พี่ชายจะเอาคืนให้เจ้าเอง” เจี้ยนเฉินปลอบโยนเด็กหญิงก่อนที่จะมองไปที่ชายสามตาพลางเอ่ยว่า “เจ้าอาจจะเป็นราชาเทพ แต่เจ้ากับทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเด็กสาวอย่างเปิดเผย มันไม่เหมาะกับเจ้าเลย ทำไมเจ้าไม่คืนจี้ล่ะ ? ”
แม้ว่าราชาปีศาจสามตาจะเป็นราชาเทพช่วงกลาง เจี้ยนเฉินก็ไม่รู้สึกกลัวเลย ในช่วงเวลาสามปีแห่งความเข้าใจ ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่าเขาไม่อาจจะบรรลุความสำเร็จขั้นกลางของจิตวิญญาณกระบี่
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเข้าใจถึงสายเลือดหมาป่านภาโบราณ
เจี้ยนเฉินรู้เพียงว่าเสียงหอนที่มาจากพลังสายเลือดนั้นมีความประหลาดใจอย่างมาก แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
ทำให้เขาต้องการใช้ราชาเทพช่วงกลางเป็นคนทดสอบความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา
เจี้ยนเฉินหันไปมองชายร่างกำยำ มีแรงกดดันเปล่งประกายออกมาจากเขาขณะที่เขามองเจี้ยนเฉินอย่างเย็นชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร “เด็กน้อย เจ้าเป็นใคร ? เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วหรือ ? หลีกทางไปซะ”
“เขาดูเหมือนเจี้ยนเฉินที่ฆ่าหัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยหมาป่ากระบี่ขณะที่เป็นขั้นเหนือเทพช่วงปลายในสังเวียนเป็นตาย”
“หืม ? นั่นคือเจี้ยนเฉินจริง ๆ มันเป็นเวลาสามปีแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่าจะเจอเขาที่บนดาดฟ้ายานจริง ๆ ”
หลายคนรู้จักเจี้ยนเฉินบริเวณรอบ ๆ ต่างก็พูดถึงชื่อของเขา
“เจ้าคือเจี้ยนเฉินเองงั้นรึ ? ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเป็นอันดับหนึ่งของป้ายทำเนียบเหนือเทพ แต่ราชาคนนี้ก็ไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ ถ้าเจ้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของข้า หากเจ้าฉลาดก็ออกไปซะ ข้าสามารถยกโทษให้เจ้าที่หยาบคายก่อนหน้านี้ได้” ราชาปีศาจสามตากล่าว
“หืม เจ้าพูดจาใหญ่โตจริง ๆ ข้าอยากจะเห็นความสามารถของราชาปีศาจสามตาเสียจริง” มีผู้ที่หัวเราะเยาะเดินเข้ามา เขาคือชิเซียงที่มาพร้อมกับราชาเทพที่ติดตามเขาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
“เจ้าเป็นใคร ? “ใบหน้าของราชาปีศาจดูหมองลง จิตสังหารพร้อมกับสายตาที่เย็นชา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นราชาเทพอยู่ข้าง ๆ ชิเซียง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเคร่งเครียดขึ้น
“ข้าชิเซียง”
ใบหน้าของราชาปีศาจสามตาเปลี่ยนไปทันที เขาพูดอย่างประหลาดใจ “ชิเซียง ? เจ้ามาจากครอบครัวชิของจักรวรรดิตะวันโลหิตของที่ราบเมฆาภาคใต้ ? “