เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2011: สัตว์ร้ายของอวกาศ
ตอนที่ 2011: สัตว์ร้ายของอวกาศ
“ถูกต้อง” ชิเซียงตอบ แม้ว่าเขาจะเป็นขั้นเหนือเทพช่วงปลาย แต่เขาก็ไม่กลัวเลยเมื่อเผชิญหน้ากับราชาปีศาจสามตาที่เป็นราชาเทพช่วงกลาง
หลังจากที่ยืนยันตัวตนของชิเซียง ราชาปีศาจสามตาก็จ้องเขาอย่างหวาดกลัวทันที
ราชาปีศาจสามตาอยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิตะวันโลหิตเพียงไม่นาน เขาจึงเข้าใจถึงสำนักใหญ่และตระกูลสำคัญ ๆ ของจักรวรรดิตะวันโลหิต ครอบครัวชิเป็นหนึ่งในตระกูลขนาดใหญ่และแม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ต้องให้เกียรติ
สำหรับราชาปีศาจสามตาแล้ว ลูกหลานตระกูลใหญ่เหล่านี้ไม่อาจยั่วยุได้
แม้ว่าตอนนี้เขาจะออกมาจากภาคใต้และที่ราบเมฆาแล้ว แต่ความน่ากลัวของตระกูลใหญ่เหล่านี้ยังคงเหมือนเดิม นี่เป็นเพราะเขาเข้าใจว่าเมื่อพวกเขาโมโหแล้ว ตระกูลใหญ่เหล่านี้ก็สามารถสร้างค่ายกลส่งตัวข้ามที่ราบมาเพื่อฆ่าเขาได้อย่างง่าย แม้ว่าเขาจะหนีไปจากที่ราบเมฆา
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ราชาเทพที่ติดตามชิเซียง
นายน้อยที่ได้รับการปกป้องจากราชาเทพจะต้องมีสถานะสำคัญอย่างแน่นอน
เจี้ยนเฉินเดินไปหาราชาปีศาจสามตาอย่างช้า ๆ และพลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็เพิ่มขึ้น เขาส่งเจตจำนงในการต่อสู้ที่ทรงพลังออกไปและกล่าวว่า “ท่านควรคืนสิ่งของให้เด็กสาวคนนั้น ไม่อย่างนั้นข้าต้องเสียมารยาท เราอาจจะต้องไปที่สังเวียนเป็นตาย”
พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินได้กดดันราชาปีศาจสามตาโดยตรง เขารู้สึกถึงความต้องการที่จะต่อสู้กับผู้ทรงพลังที่เข้ามาท้าทายและเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาและพลังจากสายเลือดหมาป่านภาโบราณ
ราชาปีศาจสามตาโมโหอย่างมากจากการคุกคามที่เห็นชัดของเจี้ยนเฉิน มีจิตสังหารเพิ่มขึ้นมากในแววตาของเขา แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินและรู้ว่าเขาสามารถสังหารราชาเทพได้ทั้งที่เป็นขั้นเหนือเทพ แต่พวกเขาก็เป็นราชาเทพช่วงต้นเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้เขากลัว
ความแตกต่างระหว่างราชาเทพช่วงต้นและช่วงกลางนั้นใหญ่หลวงมาก มันสามารถบอกได้ว่างเป็นความต่างระหว่างสวรรค์และโลก
ถ้าเจี้ยนเฉินเป็นราชาเทพช่วงต้น ราชาปีศาจสามตาเชื่อว่าเขาสู้ได้แม้แต่ราชาเทพช่วงปลาย อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินยังเป็นแค่ขั้นเหนือเทพเท่านั้นในตอนนี้
ราชาเทพสามตาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างชั่วร้ายและต้องการสังหาร เมื่อเขากำลังเห็นด้วยกับความท้าทายของเจี้ยนเฉินในสังเวียนเป็นตาย เสียงของชิเซียงก็ดังขึ้น
“เรื่องของพี่เจี้ยนเฉิน ก็เป็นเรื่องของข้าเช่นกัน ราชาปีศาจสามตา หากเจ้าไม่ทำสิ่งที่เจี้ยนเฉินบอก ข้าจะท้าเจ้าในสังเวียนเป็นตาย”
คำพูดของชิเซียงราวกับน้ำเย็นที่เทลงมาที่หัวของราชาปีศาจสามตา มันทำให้ร่างกายของเขาหนาวสั่น
เขาไม่อวดเบ่งใด ๆ กับชิเซียงเลย แต่มันไม่มีกฏในสังเวียนเป็นตาย เขามั่นใจว่าเมื่อชิเซียงเข้าไปในสังเวียนเป็นตายจริง ๆ ผู้เชี่ยวชาญจากครอบครัวชิก็ต้องตามเขาเข้าไปเช่นกัน
“ข้าจะไม่สนใจกับเรื่องนี้อีกเพื่อเห็นแก่นายน้อยชิ” ราชาปีศาจสามตาเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาจี้หยกไป เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะโยนจี้กลับไปให้เด็กสาวอย่างไม่เต็มใจ เขาจากไปด้วยสีหน้าย่ำแย่
เด็กสาวคนนี้ดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อนางได้รับจี้คืนมา นางจับมันไว้ในมือของนางอย่างแน่นหนา ขณะที่นางขอบคุณเจี้ยนเฉินอย่างซาบซึ้ง
หญิงที่อายุมากกว่าก็เดินเข้ามาเช่นกัน นางป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินและกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง “ข้าชื่อจื่อหยุน นี่คือเสี่ยวม่าน น้องสาวของข้า ขอบคุณสำหรับที่เอาจี้มาให้น้องสาวของข้า”
“ตูม ! ”
แต่เมื่อเจี้ยนเฉินกำลังจะตอบกลับก็มีเสียงอึกทึกดังขึ้น ยานอวกาศสั่นอย่างรุนแรงและดูเหมือนว่ามันจะหยุดชะงักพร้อมกับเสียงเสียดทานอย่างดัง ทำให้ทุกคนบนดาดฟ้ากระเด็นไปด้านหน้าอย่างไม่อาจควบคุมได้ แม้แต่ราชาเทพก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้ทรงตัวได้
ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง…
ทันทีที่เสียงดังต่อเนื่องหยุดลง ทุกคนบนดาดฟ้าก็กระแทกกับราวบันไดหรือสิ่งกีดขวางรอบ ๆ ยานในขณะนั้น
หลายคนกระอักเลือด การกระแทกนั้นแรงเกินไป แม้แต่ขั้นเหนือเทพก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้ มีคนจำนวนมากที่ต่ำกว่าขั้นเหนือเทพถูกทำลายวิญญาณโดยตรง
เจี้ยนเฉิน,ไคยะและปรมาจารย์เฉินหลงก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ พวกเขากระแทกเข้าหาเรือด้วยเร็วสูง ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ปรมาจารย์เฉินหลงได้ใช้ป้ายอาคมสีฟ้าของเขาโดยตรงเพื่อปกป้องตัวเองในขณะที่กฏแห่งการทำลายล้างอยู่รอบ ๆ สภาพแวดล้อมของไคยะ สำหรับเจี้ยนเฉิน เขาโคจรร่างบรรพกาลทุก ๆ วินาทีเพื่อปลดปล่อยการป้องกันของร่างบรรพกาล
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นเจี้ยนเฉินก็ยังคงเห็นดาวระยิบระยับหลังจากกระแทก เขารู้สึกเหมือนโลกหมุนรอบตัวเขา
การกระแทกนั้นแรงอย่างมาก ทำให้ยานอวกาศหยุดลงกะทันหัน ความเร็วของมันนั้นเร็วมากทำให้แรงเฉื่อยของมันมีมากจนเกินจินตนาการ สิ่งของทั้งหลายต่างเทไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วราวกับดาวหาง
ดาดฟ้ายานเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างหนัก หลายคนตายทันทีพร้อมกับร่างกายที่ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เลือดได้ย้อมให้ทุกอย่างเป็นสีแดง
เจี้ยนเฉินฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่อยู่ที่เดิมอีกครั้งและพบว่าไคยะและปรมาจารย์เฉินหลงสบายดี พวกเขาพอจะขยับตัวได้เล็กน้อยอย่างไม่อาจช่วยได้ แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจ เขามองไปรอบ ๆ และพบว่าราชาเทพบางคนก็คลานอยู่กับพื้นและด้วยท่าทางย่ำแย่ไปตาม ๆ กัน ขั้นเหนือเทพหลายคนก็มีท่าทางประหลาดแตกต่างกัน
ชิเซียงมีวัตถุเซียนคุณภาพสูงสุดในการป้องกัน เขาจึงสบายดี
จื่อหยุนก็ไม่ได้บาดเจ็บเช่นกัน นางกอดน้องสาวของนางทันทีในขณะที่ถูกกระแทกกระทันหัน ดังนั้นเสี่ยวม่านจึงไม่ได้บาดเจ็บใด ๆ เช่นกัน นางเพียงแต่หมดสติจากแรงกระแทก
“เกิดอะไรขึ้น ? ”
“เกิดอะไรขึ้น ? มีบางอย่างเกิดขึ้นกับยานอวกาศ ? ”
ความวุ่นวายจากผู้โดยสารเริ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาคนสามคนที่ทรงพลังที่น่ากลัวก็ออกมาจากยานรบอวกาศ พวกเขาทะลุผ่านม่านพลังป้องกันและลงมาใกล้ ๆ พร้อมกับคลื่นกระเพื่อมของน้ำ
ชายชราสามคนปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ บนดาดฟ้า พวกเขาเงยหน้ามองพวกมันอย่างหวาดกลัว
ทั้งสามคนเป็นผู้อาวุโสที่เจี้ยนเฉินได้พบกันด้านบนของยานอวกาศ
“สัตว์อวกาศโจมตี ทุกคนระวัง ! ”
หงโม่ที่ยืนอยู่ตรงกลางคำราม เสียงของเขาชรา แต่ก็เต็มไปด้วยพลังงาน ด้วยการส่งเสริมจากค่ายกลของยานอวกาศทำให้เสียงของเขาดังไปทั่วทุกซอกทุกมุมไม่เว้นแม้แต่ซอกเล็กซอกน้อย
“สัตว์อวกาศ ! ” เจี้ยนเฉินมึนงง เขาเงยหน้ามองอย่างตะลึง ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็หรี่ลง
เกิดเงาที่ใหญ่โตวนเวียนอยู่เหนือเรือรบมิติ มันเป็นดังเมฆทมิฬที่บดบังทั้งแสงดวงอาทิตย์และแสงดาว
เนื่องจากตัวมันเองก็เป็นสีดำและอยู่ใกล้กับสีสันของมิติด้านนอก มันจึงยากที่จะพบการคงอยู่ของมันโดยมองอย่างไม่ระมัดระวัง
“นี่เป็นสัตว์อวกาศงั้นหรือ ? มันใหญ่มาก ! ” เจี้ยนเฉินตกใจอย่างมาก ยานอวกาศมีความยาวหลายสิบกิโลเมตร มันใหญ่มากในสายตาของเขา แต่เมื่อเทียบกับสัตว์อวกาศที่บินวนเวียนอยู่ด้านบน มันก็เหมือนกับมดเจอช้าง
สัตว์อวกาศนั้นมัขนาดเท่ากับดาวเคราะห์อย่างแท้จริง
ในเวลาเดียวกัน หญิงชราที่มีผมสีเทาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากห้องโดยสารขั้นสูง มีอาการเหนื่อยอ่อนปรากฏในดวงตาของนาง ขณะที่นางถอนหายใจเบา ๆ “ข้าไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิสัตว์อสูรเนบิวล่าจะมาปรากฏที่นี่ ข้าไม่อาจอยู่บนยานอวกาศได้อีกต่อไป เฮ้อ~ ข้าหนีมาหลายปีแล้ว ข้าสงสัยว่าจะต้องหนีอีกนานแค่ไหน”
หญิงชราค่อย ๆ วางชุดเกราะที่ชำรุดข้าง ๆ นาง ขณะที่นางพูดอย่างนั้น นางเปิดประตูห้องโดยสารและเดินไปที่ดาดฟ้าอย่างมั่นคง