เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2014: พลังของเสียงหอน
ตอนที่ 2014: พลังของเสียงหอน
ปราณกระบี่สองเส้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาก มันไม่สนใจระยะทางและไปถึงหน้าผากของสัตว์อสูรเนบิวล่าทั้งสองตัวขณะที่พุ่งออกไป
พรวด ! พรวด !
สัตว์อสูรเนบิวล่าราชาเทพขั้นต้นสองตัวไม่อาจตอบสนองได้ทันต่อปราณกระบี่ทั้งสองเส้นและปล่อยให้มันทะลุหัวกระโหลกที่ใหญ่โตของมันไป
ทันใดนั้น ร่างกายของพวกมันก็แข็งเกร็งและล้มลงอย่างรวดเร็วและดวงตาที่ชั่วร้ายของพวกมันก็กลายเป็นเบิกโพลง สัญญาณชีวิตของมันได้หายไปจากร่างกายของพวกมันแล้ว
หลังจากที่ใช้ปราณกระบี่ทั้งสองเส้นไปแล้ว พลังวิญญาณของเจี้ยนเฉินก็หายไปครึ่งหนึ่ง
โชคดีที่วิญญาณของเขาบรรลุถึงราชาเทพแล้ว มันมีพลังมากกว่าที่เคยเป็นมา การปล่อยปราณกระบี่ลึกซึ้งทั้งสองไม่อาจทำให้พลังวิญญาณของเขาหมดได้อีกแล้ว
มองไปที่สัตว์อสูรเนบิวล่าที่ตายไปสองตัว ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็เบิกกว้าง เขาพบว่าหลังจากที่วิญญาณของเขาบรรลุถึงขั้นราชาเทพแล้ว พลังของปราณกระบี่ของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเมื่อเขาใช้พลังปราณทั้งสองนี้ในระดับเดียวกันเขาต้องใช้พลังวิญญาณไปถึงหนึ่งในสามและพลังทำลายของมันก็ไม่ถึงระดับนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาใช้พลังไปถึงครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือของมันได้เพิ่มความแข็งแกร่งของปราณกระบี่ลึกซึ้ง
เจี้ยนเฉินไม่ได้หยุด เขาใช้ปราณระบี่เพื่อตัดหัวของสัตว์อสูรเนบิวล่าออกเป็นชิ้น ๆ และเอาผลึกพลังงานที่มีขนาดเท่ากำปั้นออกมาจากหัวของพวกมัน ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้ผนึกและใช้กระบี่ต้าหลัวกับสัตว์อสูรเนบิวล่าราชาเทพที่กำลังสู้กับไคยะ
สัตว์อสูรเนบิวล่ากำลังพัวพันอยู่กับไคยะพร้อมกับสัตว์อสูรเนบิวล่าตัวอื่น ๆ ที่มีความแข็งแกร่งพอ ๆ กัน ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลหลายแห่งและถูกเผาด้วยกฏแห่งไฟกับกฏแห่งการทำลายล้าง เห็นได้ชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเจี้ยนเฉินเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยแล้วสัตว์อสูรเนบิวล่าก็ไม่อาจสู้ได้เลย ขณะที่แสงสีทองวาบผ่าน หัวของมันก็หลุดลงอย่างง่ายดาย
ในเวลาเดียวกันมือของไคยะก็จับไปที่หัวของสัตว์อสูรเนบิวล่าราชาเทพสี่หัวในมือเดียว มือที่ขาวเนียนของนางมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ กฎทำลายล้างพุ่งเข้าหาหัวเหล่านั้นและทำให้มันกลายเป็นชิ้น ๆ
พริบตาเดียวเจี้ยนเฉินและไคยะก็สังหารสัตว์อสูรเนบิวล่าขั้นราชาเทพไป 4 ตัว
เจี้ยนเฉินและไคยะเก็บผลึกอสูรออกไป โดยไม่ลังเลใด ๆ เขาเรียกปรมาจารย์เฉินหลงและพุ่งออกไปทันที
เจี้ยนเฉินและไคยะไม่ได้ออมมือเลย กฎแห่งการทำลายล้างและกฎแห่งไฟและกฎแห่งกระบี่ปะปนอยู่รอบ ๆ และสังหารสัตว์อสูรเนบิวล่าอย่างไร้ความปราณีโดยมันอยู่ในขั้นเหนือเทพเป็นส่วนมากและขั้นศักดิ์สิทธิ์เป็นส่วนน้อย
ด้วยพลังต่อสู้ของพวกเขาที่เทียบเท่ากับราชาเทพ การสังหารอสูรเนบิวล่านั้นง่ายมาก ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนที่นั่นก็เต็มไปด้วยเลือด
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉิน, ไคยะและปรมาจารย์เฉินหลงไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเลย เขากลัวมากขึ้นกว่าเดิม
นี่เป็นเพราะพวกเขาสังเกตเห็นได้ว่าอสูรเนบิวล่าล้อมรอบพวกเขาไว้แล้ว พวกมันล้อมกันเป็นวงกลมขนาดใหญ่และพร้อมเข้าโจมตีจากทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าพวกเขาจะอสูรเนบิวล่าไปกี่ตัว พวกมันก็เข้ามาเติมเต็มและไม่อาจหลุดพ้นได้
เมื่อเวลาผ่านไปและผู้บ่มเพาะจากยานอวกาศตายอย่างต่อเรื่องอสูรเนบิวล่าก็ดูจะมีอิสระมากขึ้นเรื่อย ๆ และเข้ารุมผู้บ่มเพาะที่เหลือ
ทำให้แม้ว่าพวกเขาทั้งสามคนจะฆ่าอสูรเนบิวล่าที่แข็งแกร่งได้เป็นจำนวนมาก แต่จำนวนของสัตว์อสูรก็เพิ่มขึ้นมาทดแทน
เจี้ยนเฉินไม่ได้มีเวลาในการเก็บผลึกอสูรของอสูรเนบิวล่าขั้นเหนือเทพที่พวกเขาฆ่า สิ่งที่เขาทำได้คือเฝ้าดูมันลอยอยู่ตามมิติอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้นมีเสียงคำรามมากมายเกิดขึ้นจากระยะไกล อสูรเนบิวล่าขนาดใหญ่พุ่งเข้าหากลุ่มของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าพวกมันจะได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกัน แต่ความสามารถของมันก็ยังทรงพลังมาก
จากรอบ ๆ สีหน้าของพวกเขาทั้งสามเปลี่ยนไป อสูรเนบิวล่า 7 ตัวที่บาดเจ็บนั้นเป็นราชาเทพทั้งหมด มี 2 ตัวเป็นราชาเทพช่วงกลาง
ก่อนที่พวกเขาจะคิดอะไรมาก อสูรเนบิวล่าราชาเทพทั้งเจ็ดพุ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง พวกมันโจมตีเจี้ยนเฉินอย่างไม่ลังเล อสูรเนบิวล่าราชาเทพช่วงต้น 2 ตัวเข้าหาปรมาจารย์เฉินหลงและปลดปล่อยพลังแห่งการมีอยู่ออกจากร่างกายของพวกมันอย่างกะทันหัน
ปรมาจารย์เฉินหลงดูกลัวเป็นอย่างมาก เขาเป็นปรมาจารย์ค่ายกล หากเขาร่ายอาคมค่ายกลได้ เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถสังหารอสูรเนบิวล่าราชาเทพช่วงต้นได้ง่าย ๆ
อย่างไรก็ตามเขาต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของอสูรเนบิวล่าตัวอื่น ๆ มากมายที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขา เขาไม่มีเวลามากพอที่จะร่ายอาคมค่ายกลที่จะสามารถสังหารราชาเทพได้
จิตใจของเจี้ยนเฉินและไคยะสั่นสะท้านเช่นเดียวกัน อสูรเนบิวล่าราชาเทพมากมายและมีอีก 2 ตัวที่เป็นราชาเทพช่วงกลาง พวกเขารู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหากเขายังเสียเวลาอยู่เช่นนี้ อสูรเนบิวล่าราชาเทพจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
ทันใดนั้นมีแสงวาบผ่านดวงตาของไคยะ ในวินาทีต่อมาพลังแห่งการมีอยู่ของนางก็เปลี่ยนและนางยกมือทั้งสองขึ้น กฎแห่งการทำลายล้างได้รวมตัวกันอยู่ในมือขวา ขณะที่มือซ้ายเป็นกฏแห่งไฟที่มารวมตัวกัน ระหว่างมือของนางเหนือศรีษะของนางไปสามนิ้วมีกฏแห่งการสร้างสรรค์ได้มารวมตัวกัน
ในเวลานั้นกฏแห่งการสร้างสรรค์, ทำลายล้างและไฟได้หลอมรวมกับไคยะรอบ ๆ ทันทีกฏทั้งสามปรากฏตัวของพวกเขา มันดูเหมือนจะสร้างสะพานเชื่อมต่อกับจักรวาลทำให้ไคยะหลุดพ้นจากการปรากฏของจักรวาล มันลึกซึ้งมาก
อย่างไรก็ตามคนธรรมดาไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้ เฉพาะสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่เข้าใจความลึกลับของโลกเท่านั้นที่จะสัมผัสได้
ทำให้แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่อาจรู้สึกได้ แม้เขาจะยืนอยู่ข้าง ๆ ไคยะ
ทันใดนั้นไคยะก็ยื่นมือทั้งสองออก ด้วยพลังของกฏทำลายล้าง, ไฟและสร้างสรรค์ต่างก็พุ่งออกไปยังอสูรเนบิวล่าราชาเทพช่วงกลางพร้อมกับพลังแห่งการมีอยู่ของจักรวาล
ท่าทางที่ดูเรียบง่ายของนางนั้นมีพลังอย่างเหลือเชื่อ ร่างกายขนาดใหญ่ของราชาเทพช่วงกลางแตกสลายอย่างเงียบ ๆ ในความเป็นจริง แม้กระทั่งผลึกอสูรของมันก็ไม่อาจเหลืออยู่
ไคยะสั่นเทาอย่างหนักหลังจากการโจมตีและใบหน้าของนางก็ซีดเซียวอย่างรวดเร็ว
“อาวู้ ! ”
ปกติแล้วในเวลานี้ไคยะที่ส่งการโจมตีที่น่ากลัวของนางออกไป เจี้ยนเฉินก็ปลดปล่อยเสียงหอนออกมา มันฟังดูเหมือนเสียงหอนของหมาป่า
เสียงหอนนี้มาจากสายเลือดหมาป่านภาโบราณในร่างกายของเจี้ยนเฉินที่ยังไม่หมดไปอย่างสมบูรณ์
คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นได้ทำให้สัตว์อสูรเนบิวล่านับไม่ถ้วนในภูมิภาคได้รับบาดเจ็บและคลื่นเสียงแพร่ขยายไปทั่วทุกทิศทาง
ไม่ว่าคลื่นเสียงจะผ่านไปที่ใด สัตว์อสูรเนบิวล่านับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมา สัตว์อสูรเนบิวล่าที่ต่ำว่าราชาเทพต่างก็มีเลือดไหลออกจากใบหน้าและร่างกายของพวกมัน ขณะที่หลงเหลือแต่ซากเท่านั้น
พริบตาเดียวที่เจี้ยนเฉินหอนออกไป สัตว์อสูรเนบิวล่านับไม่ถ้วนที่ล้อมทั้งสามต่างก็ตายลงไป แม้แต่สัตว์อสูรเนบิวล่าราชาเทพช่วงต้นก็หยุดโจมตีพวกเขาทั้งสามและร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
มีเพียงสัตว์อสูรเนบิวล่าราชาเทพช่วงกลางเท่านั้นที่ยังคงสับสนและเหลืออยู่ มันมึนงงชั่วคราว
เสียงคำรามเพียงครั้งเดียวก็เอาชีวิตของสัตว์อสูรเนบิวล่านับไม่ถ้วน ภาพนี้ทำให้เจี้ยนเฉินตกตะลึงเช่นกัน
ในที่ห่างออกไป ผู้เชียวชาญขอบเขตตั้งต้นที่ต่อสู้กับจักรพรรดิสัตว์อสูรเนบิวล่าก็หยุดเช่นกัน ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง ขณะที่เขามองไปยังที่เจี้ยนเฉินอยู่