เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2032 - มรดกขอบเขตตั้งต้น
ตอนที่ 2032 – มรดกขอบเขตตั้งต้น
“จะ- จะ- จะ-” หยุนซินชี้ไปที่เจี้ยนเฉิน นางโมโหจนพูดอะไรไม่ออกเลย เดิมทีนางต้องการให้กลุ่มของเจี้ยนเฉินพบกับปัญหาบางอย่าง เพื่อให้พวกเขาเผชิญความยากลำบากในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน สำหรับนางมันเป็นการดีที่สุดถ้าพวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูในทุกที่ อย่างไรก็ตาม นางไม่เคยคิดเลยว่าประโยคง่าย ๆ จากเจี้ยนเฉินจะเปลี่ยนเส้นทางทั้งหมดไปยังตระกูลของนาง
ในท้ายที่สุด นางไม่เพียงล้มเหลวในการได้รับสิ่งที่นางต้องการ แต่นางยังทำให้ครอบครัวหยุนมีศัตรูเพิ่มขึ้นด้วย
แม้ว่าครอบครัวหยุนไม่จำเป็นต้องกลัวราชาเทพ ด้วยสถานะและอำนาจของพวกเขา แต่ราชาเทพก็ไม่ได้เป็นจุดอ่อนอีกต่อไปในโลกแห่งเซียน แม้แต่ครอบครัวหยุนที่ครอบครองขั้นอสงไขย ก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุคนแบบนี้อย่างง่ายดายและสิ่งนี้ก็ยังไม่ได้พิจารณาถึงภูมิหลังของพวกเขา หากพวกเขายั่วยุราชาเทพที่มีภูมิหลังอันยอดเยี่ยม มันจะเป็นหายนะอย่างแน่นอนสำหรับครอบครัวหยุน
หลังจากพูดติดอ่างอยู่พักหนึ่ง หยุนซินตะโกนใส่เจี้ยนเฉิน “เจี้ยนเฉิน ใครบอกให้เจ้าเล่าประวัติของข้าให้เขาฟัง ? ครอบครัวหยุนของเราให้สิทธิ์เจ้าเข้ามาที่นี่ ดังนั้นเจ้าจะตอบแทนเราเช่นนี้ได้อย่างไร ? เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะรายงานเรื่องนี้แก่ผู้อาวุโสสูงสุดทันทีที่ข้ากลับไป ? ”
เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว เมื่อเขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง ไคยะก็ชิงตัดหน้าเขาออกไปอย่างเยือกเย็นแล้วพูดว่า “แม่นางหยุนซิน เจ้าไม่ได้ดูถูกราชาเทพคนนั้นหรอกหรือ ? เจ้าสาปแช่งเขาอย่างไม่กลัว ดังนั้นทำไมตอนนี้เจ้าถึงกลัว หากเจ้ากลัวคนรู้จักภูมิหลังของเจ้า เจ้าก็ควรจะรู้จักสถานะของเจ้าให้ดีขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งของเรา เราไม่ถือว่าเป็นผู้อ่อนแอในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ในเวลาเดียวกันเจ้าก็ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับพวกเราสามคน หากเจ้าไม่ได้เรียนรู้วิธีรักษาสถานะอันต่ำต้อย เจ้าอาจจะทำให้เกิดปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวหยุน เจ้าอาจออกจากที่นี่ด้วยชีวิตที่ไม่บุบสลาย แต่เจ้าอาจทำลายครอบครัวหยุนด้วยซ้ำ”
“บางทีเจ้าควรรู้สึกโชคดีเพราะเจ้าได้ยั่วยุราชาเทพขั้นต้นก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ราชาเทพที่ยิ่งใหญ่จากบัลลังก์ราชาเทพก็เข้ามาในคราวนี้ หากเจ้ากระตุ้นราชาเทพที่ยิ่งใหญ่โดยไม่ตั้งใจ เจ้าควรจะรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้น”
สีหน้าของหยุนซินแปรเปลี่ยนเป็นไม่สบายใจ นางตะคอกอย่างเย็นชา “เจ้าเหมือนเป็นองครักษ์และปกป้องข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาบอกข้าว่าข้าต้องทำอะไร” หยุนซินไม่ได้สนใจทั้งสามคนอีกต่อไป นางมองไปที่ค่ายกลซึ่งอาจซ่อนมรดกของผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้นและความปรารถนาที่ลุกโชนเปล่งประกายผ่านดวงตาของนาง
แม้ว่านางจะไม่รู้เลยว่ามรดกในนั้นเป็นเช่นไร แต่มันมาจากผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้น มันไม่สำคัญว่ามันเป็นมรดกแบบไหนหรือเหมาะสมกับใครบางคนหรือไม่ มันก็เพียงพอแล้วที่จะล่อลวงราชาเทพจำนวนมาก อย่าว่าแต่เพียงลำพังขั้นเหนือเทพ
เจี้ยนเฉิน, ไคยะ และเฉินหลง ศึกษาค่ายกลทั้งหมด เจี้ยนเฉินลอบถามอย่างลับ ๆ “ เฉินหลง เจ้าสามารถผ่านเข้าไปในค่ายกลได้หรือไม่ ? ”
ปรมาจารย์เฉินหลงขมวดคิ้วอย่างแน่นหนา ในขณะที่เขาตอบอย่างจริงจังว่า“ค่ายกลนี้ถูกทิ้งไว้โดยผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้นและพวกเขามีความเชี่ยวชาญค่อนข้างมากกว่าในวิถีแห่งค่ายกล แม้ว่าข้าจะผ่านค่ายกลนี้ไปได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาสักระยะ” ปรมาจารย์เฉินหลงหยุดชั่วขณะ หลังจากลังเลมาระยะหนึ่งเขาก็กล่าวต่อว่า “ค่ายกลใด ๆ ต้องการพลังงานเพื่อสนับสนุนการทำงานของมัน แม้ว่าค่ายกลนี้จะดูดซับพลังงานของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนอย่างต่อเนื่องสำหรับการขับเคลื่อนค่ายกล แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องความเร็ว หลังจากที่ข้าได้เป็นราชาเทพ ข้าได้เรียนรู้ค่ายกลแบบใหม่ มันเรียกว่าการปิดล้อมของสวรร์ ถ้าข้าสามารถผลักดันมันให้ถึงขีดจำกัด มันก็สามารถแยกโลกออกได้”
“การปิดล้อมของสวรรค์นั้นลึกซึ้งอย่างยิ่ง แม้ว่าข้าจะไม่สามารถแยกโลกออกได้เนื่องจากการบ่มเพาะในปัจจุบันของข้าเมื่อข้าใช้ แต่ข้าสามารถแยกพลังงานดั้งเดิมทั้งหมดได้ทุกที่ แม้แต่ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนมันก็จะมีผล”
“ ถ้าข้าสร้างค่ายกลการปิดล้อมของสวรรค์รอบ ๆ ค่ายกลนี้ ข้าสามารถป้องกันไม่ให้มันดูดซับพลังงานของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนได้ เมื่อหมดพลังงานแล้วมันก็จะพังทลายลงเอง“
“มันเป็นเพียงค่ายกลหลายรูปแบบที่มีเหรียญผลึกเป็นแหล่งพลังงานสำรอง ข้าไม่แน่ใจว่ามีเหรียญผลึกในค่ายกลหรือไม่ หากมีแม้ว่าข้าจะแยกค่ายกลนี้ออกจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ข้าจะพยายามฝ่ามันเข้าไปภายในสิบปีที่เราอยู่ที่นี่”
“ เฉินหลง ทำไมเจ้าไม่ลองมันก่อน ? จะเป็นอย่างไรถ้ามันไม่มีแหล่งพลังงานสำรอง ? ” ไคยะกล่าวว่า
“เอาล่ะ ข้าจะลองแล้ว” ปรมาจารย์เฉินหลงพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็มาถึงตรงหน้าค่ายกลและเขาแผ่ตัวตนที่เป็นราชาเทพให้เป็นอิสระ เขาคำนับกับผู้คนรอบตัวเขา “ทุกคนเพียงแค่จ้องมองที่ค่ายกลจะไม่มีทางเปิดมันได้เลย หากเจ้าต้องการมรดกที่อยู่ภายใน เจ้าต้องหาวิธีที่จะผ่านค่ายกลเข้าไปให้ได้”
ผู้คนมารวมกันที่นั่น ทุกคนกลอกตาเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเฉินหลง พวกเขาทุกคนเข้าใจตรรกะนี้ แต่ใครจะผ่านค่ายกลเข้าไปได้บ้าง
“อิอิ แน่ใจว่าฟังดูดี แต่อย่าลืมว่าค่ายกลนี้ถูกทิ้งไว้โดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น เจ้าก็เพิ่งได้เห็นพลังของมันมาก่อน ดังนั้นเจ้าควรรู้ว่ามันจะไม่ง่าย” หญิงสาวในชุดดำขำ
เฉินหลงป้องมือของเขา “ เพราะเจ้าไม่เต็มใจที่จะผ่านมันไป ทำไมไม่ให้ข้าลองล่ะ ? โปรดถอยหลังสักเล็กน้อย ตอนนี้ข้าจะสร้างค่ายกลเพื่อผ่านเข้าไปให้ได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตกลง ราชาผู้นี้ต้องการเห็นว่าเจ้าจะผ่านค่ายกลนี้ได้อย่างไร” ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างอ่อนโยน ทันใดนั้นเขาก็ถอยห่างออกไป เขาก็เป็นราชาเทพเช่นกัน
หญิงสาวสวมชุดสีดำลังเลสักครู่ก่อนจะถอยห่างออกไปเช่นกัน
แม้แต่ราชาเทพรอบ ๆ ก็ยังถอยห่างเช่นกัน ดังนั้นการกระทำของขั้นเหนือเทพคนอื่นก็ชัดเจน พวกเขาถอยห่างออกไปทำให้เหลือพื้นที่จำนวนมากสำหรับเฉินหลง
ปรมาจารย์เฉินหลงเริ่มที่จะสร้างค่ายกลของเขาทันที เขาโยนเหรียญผลึกและธงค่ายกลออกมาอย่างต่อเนื่อง
“สิ่งที่วางคล้ายกับการสร้างค่ายกล บุคคลนี้ควรเป็นปรมาจารย์ค่ายกล” ราชาเทพที่รวมตัวกันต่างก็ประหลาดใจเมื่อพวกเขาเห็นเฉินหลงเริ่มที่จะสร้างค่ายกลของเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีทักษะเรื่องค่ายกล แต่พวกเขาสามารถบอกได้ว่าเฉินหลงมีความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่าพวกเขา
“ฮืม อะไรไม่ว่า ค่ายกลนี้เป็นฝีมือของผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้น เจ้าฝันไปเถอะ ถ้าเจ้าต้องการที่จะผ่านมันเข้าไปในฐานะราชาเทพขั้นต้น” มีเพียงหยุนซินที่เย้ยหยันในหมู่คนที่ดูผลงานของเฉินหลง
เฉินหลงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง เขาได้สร้างค่ายกลหลายรูปแบบเสร็จสมบูรณ์ ค่ายกลการปิดล้อมของสวรรค์ของเฉินหลงได้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างค่ายกลและพระราชวังศักดิ์สิทธิ์โดยแยกมันออกจากแหล่งพลังงาน
ในขณะนี้ ค่ายกลสังหารที่ทรงพลังเริ่มปะทุขึ้นมาด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว ปราณกระบี่ที่อัดแน่นนั้นควบแน่นอย่างต่อเนื่องและโจมตีค่ายกล ปราณกระบี่ไม่ได้มีอำนาจของกฎแห่งกระบี่ พวกมันถูกควบแน่นจากพลังงานล้วน ๆ มีพลังวิถีแห่งค่ายกล
ปราณกระบี่เหล่านี้ไม่ได้โจมตีอย่างสับสน แต่พวกมันกลับโจมตีเข้าจุดเดียว จุดนั้นที่เป็นจุดสำคัญของค่ายกล
แม้ว่าจุดนั้นจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา แต่เฉินหลงก็สามารถหาได้ทุกครั้ง
ค่ายกลของขอบเขตตั้งต้นสามารถสะท้อนการโจมตีได้ทั้งหมดและปราณกระบี่นั้นก็ไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกมันสะท้อนตัวออกมา แนวป้องกันของเฉินหลงก็ปิดกั้นพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถทำร้ายใครก็ตาม
“ค่ายกลที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ ราชาเทพช่วงต้นนั้นต้องตายแน่นอนถ้าพวกเขาตกอยู่ในนั้นและแม้กระทั่งราชาเทพช่วงกลางก็จะต้องดิ้นรนเพื่อปลดปล่อยให้เป็นอิสระ” ดวงตาของราชาเทพที่อยู่บริเวณใกล้เคียงทั้งหมดนั้นหรี่แคบลงเมื่อพวกเขาลอบตกใจ
มีเพียงเจี้ยนเฉินและไคยะเท่านั้นที่เข้าใจว่าค่ายกลของปรมาจารย์เฉินหลงมีอำนาจมากกว่านี้เพราะค่ายกลที่เขาสร้างขึ้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้และพลังของพวกมันจะเพิ่มขึ้น
“ค่ายกลหลอมรวม, เก้ากระบี่แหวกมิติ ! ” หลังจากโจมตีเป็นเวลา 1 ชั่วยาม เฉินหลงก็ร้องออกมาและปราณกระบี่ทั้งหมดที่ค่ายกลสร้างออกมาได้รวมตัวเข้าด้วยกัน พวกมันกลายเป็นปราณกระบี่ขนาดใหญ่เก้าอันที่พุ่งเข้าหาค่ายกลขอบเขตตั้งต้น
“กระบี่ทั้งเก้ารวมเป็นหนึ่ง ! ” เฉินหลงผนึกมือของเขาและค่ายกลก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง พลังแห่งการบ่มเพาะของเขาหลอมรวมเข้ากับค่ายกลและแม้กระทั่งแผ่นจานอาคมสีฟ้าขนาดกว้างหนึ่งเมตรบนหัวของเขาก็มีรอยจารึกลึกลับและลึกซึ้ง พวกมันดังก้องพร้อมกับค่ายกลเสริมความแข็งแกร่งของพวกมัน
ในขณะที่ปราณกระบี่ทั้งเก้าถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน พวกมันระเบิดพลังอันทรงพลังยิ่งกว่าเก่า แม้แต่ราชาเทพช่วงกลางก็ยังเซไปมา
บูม ! บูม ! บูม !
หลังจากการโจมตีอีกไม่กี่ครั้งค่ายกลอันทรงพลังจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นก็จางหายไปในที่สุดก่อนที่จะหายไปอย่างช้า ๆ
เห็นได้ชัดว่าเฉินหลงไม่ได้กระแทกผ่านค่ายกลขอบเขตตั้งต้น เขากลับโจมตีจุดสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันสูญเสียพลังงานทั้งหมดในขณะที่มันไม่สามารถเติมเต็มพลังงานได้ มันค่อย ๆ สลายตัวเอง
ทันทีที่ค่ายกลหายไป บรรยากาศภายในค่ายกลก็ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน โครงกระดูกนั่งอยู่บนพื้นดินโดยไม่มีแรงกดดันใด ๆ เลย ดูเหมือนง่ายมาก มีเพียงลูกปัดสีทองที่อยู่ท่ามกลางกองกระดูกที่มองเห็นได้จากภายนอก เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นก่อนที่เขาจะตาย
พวกเขารู้เรื่องนี้เพราะลูกปัดนี้ควบแน่นจากพลังของกฎ มันถูกเรียกว่าแกนสีทองของกฎ บางสิ่งที่แสดงถึงขอบเขตตั้งต้น
“เป็นไปได้อย่างไร ? ค่ายกลถูกทำลายได้อย่างไร ? ”
“ นั่นไม่จริงเลย ค่ายกลที่ทรงพลังนี้สร้างปัญหาให้กับราชาเทพนับไม่ถ้วนถูกทำลายโดยใครบางคนในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามหรือ ? ”
ทุกคนตกตะลึงอย่างมากในขณะที่ความไม่เชื่อปรากฏอยู่เต็มใบหน้าของพวกเขา เห็นได้ชัดว่ามันยากแค่ไหนที่จะรับมือกับค่ายกลนี้เมื่อเห็นว่ามันยังคงสภาพเดิมหลังจากผ่านมาหลายปี พวกเขาไม่เคยคิดว่ามันจะถูกทำลายได้อย่างง่ายดายในวันนี้ ซึ่งมันดูเหมือนจะไม่จริง
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของทุกคนหรี่แคบลงในไม่ช้า พวกเขาเปิดเผยความโลภและความปรารถนาอย่างแรงกล้าในขณะที่มีความตื่นเต้นความสุขเช่นกัน
ไม่มีใครประหลาดใจในสิ่งที่เฉินหลงทำ ในขณะนั้นดวงตาของทุกคนถูกตรึงเข้ากับโครงกระดูก หรืออย่างให้แม่นยำยิ่งขึ้นก็คือแหวนมิติบนนิ้วของโครงกระดูก
ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว เฉินหลงได้เข้าสู่ค่ายกลแล้ว เขามาถึงตรงหน้าโครงกระดูกของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นในพริบตา
“ เจ้ากล้า ! ” เมื่อเห็นว่าเฉินหลงกำลังจะเอาแหวนมิติ ใครบางคนตะโกนออกมาทันทีและพุ่งเข้าใส่พร้อมกับระเบิดตัวตนออกมา