เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2039 - อันดับหนึ่งบนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ

ตอนที่ 2039 – อันดับหนึ่งบนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ

หยุนซินอ้าปากค้างเมื่อนางเห็นหยุนเต๋าไหลรีบจากไปไกล นางต้องการพูดอะไรบางอย่างก่อนที่จะหยุดตัวเอง หลังจากนั้นนางก็จ้องมองไปที่แหวนมิติในมือของนางก่อนที่จะจับมันแน่นราวกับว่านางกลัวว่าจะมีใครบางคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ค้นพบมัน

ร่างหยุนเต๋าไหลเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังต้องการปกป้องแหวนมิติภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าแหวนมิติมีความสำคัญเพียงใด

เจี้ยนเฉินและไคยะสัมผัสได้ถึงการลักลอบกระทำของหยุนเต๋าไหลซึ่งทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หยุนเต๋าไหลเชื่อว่าการกระทำของเขานั้นซ่อนเร้นได้ดีมาก แต่มันก็น่าเสียดายที่เขามีอารมณ์สับสนเกินไปอาจเป็นเพราะเขาต้องการหนีไปเพื่อเอาชีวิตรอด เขาดึงดูดความสนใจของคนบางคนโดยรอบจากปกติด้วยความรีบร้อนของเขาไม่เพียงแต่เจี้ยนเฉินและไคยะที่รู้สึกถึงการกระทำของเขาเท่านั้น แต่ยังมีราชาเทพสองสามคนผู้ซึ่งให้ความสนใจทุกอย่างที่พวกเขาสามารถที่จะเอาสมบัติสวรรค์ออกไปจากสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกได้เช่นกัน

นี่เป็นเพราะหยุนเต๋าไหลเป็นเพียงราชาเทพช่วงต้น มีคนจำนวนมากที่ทรงพลังกว่าหยุนเต๋าไหลในสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นโดยปกติเขาจึงไม่สามารถซ่อนมันได้

ทันใดนั้น มีคนสองสามคนที่ละสายตาจากแหล่งสมบัติสวรรค์และมองไปที่หยุนซิน หลายคนจ้องมองด้วยความโลภ

เห็นได้ชัดว่า พวกเขาตระหนักถึงคุณค่าของแหวนมิติ

ในตอนนี้ ปรมาจารย์เฉินหลงหยุดการเข้าค่ายกล เขารวมตัวกับเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ และสีหน้าของพวกเขาค่อนข้างน่ากลัวอย่างยิ่ง

พวกเขาทั้งสามได้ตระหนักว่าพวกเขากำลังมีปัญหาใหญ่ในขณะนี้

หยุนเต๋าไหลยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตระหนักอย่างชัดเจนว่าสร้างปัญหาให้กับหยุนซิน ขณะนี้เขากำลังหลบหนีออกจากสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์โดยเร็วที่สุด

“ข้าไม่สามารถบอกให้พวกเขารู้ว่าข้าได้ส่งรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ให้กับหยุนซิน เด็กสาวคนนั้นแล้วและข้าไม่สามารถบอกพวกเขาได้ว่ารากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ไม่ได้อยู่กับข้าอีกต่อไปแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะตามหามันและจากนั้นไม่เพียงแต่รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์จะสูญหายไป แม้แต่ชีวิตของหยุนซินก็จะสูญหายไป ผลก็คือข้าต้องล่อพวกเขาออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ข้าจะได้ให้เวลากับหยุนซินได้ออกไป” ความบ้าคลั่งปรากฏอยู่เต็มดวงตาของหยุนเต๋าไหล รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์คือความหวังของครอบครัวหยุนของพวกเขาที่จะรุ่งเรืองขึ้นมา แม้ว่าเขาจะต้องเสียสละชีวิตของเขา เขาก็จะต้องรักษาความปลอดภัยของรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์

“หยุนซิน เจ้าไม่สามารถทำให้ข้าผิดหวังได้ เจ้าต้องนำรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ออกไปกับเจ้า” หยุนเต๋าไหลภาวนาอยู่ข้างใน เขาทำได้เพียงตั้งความหวังไว้กับหยุนซินในขณะนั้น

หยุนเต๋าไหลไม่ได้คิดว่าเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ รอบ ๆ หยินซินมีความน่าเชื่อถือหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ปราณกระบี่ขนาดใหญ่ส่องประกายพุ่งตรงออกมาจากเส้นทางที่คดเคี้ยว

สีหน้าของหยุนเต๋าไหลเปลี่ยนไปในทันใดและเขาก็หยุดชะงัก เมื่อเผชิญหน้ากับปราณกระบี่ หัวใจของเขาก็มืดครึ้มลงทันทีและเขาก็หยิบดาบออกมาทันที

บูม !

ดาบของหยุนเต๋าไหลปะทะเข้ากับปราณกระบี่ ปราณกระบี่แตกกระจายในทันที่ในขณะที่การโจมตีของหยุนเต๋าไหลก็หมดพลังเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อปราณกระบี่แตกกระจายไป มันก็เปิดเผยกฎแห่งการทำลายล้างแทน

กฎแห่งการทำลายล้างถูกซ่อนอยู่ภายในปราณกระบี่ ทันทีที่ปราณกระบี่แตกสลาย กฎของการทำลายล้างก็พุ่งออกมาเหมือนลูกศรพุ่งผ่านร่างของหยุนเต๋าไหลด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

พรวด ! หยุนเต๋าไหลกระอักเลือดขณะที่ร่างกายของเขาถูกกระแทกปลิวไปทางด้านหลัง เขาถูกกระแทกกลับเข้าไปในสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์และหน้าของเขาซีดขาวยิ่งขึ้น

“ท่านลุงไหล ! ” หยุนซินร้องออกมา นางต้องการที่จะพุ่งไปหาโดยไม่คำนึงถึงอันตราย แต่เจี้ยนเฉินบังคับให้นางหยุด

ในสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ มีคนสองสามคนที่ค่อย ๆ เขยิบเข้าใกล้หยุนซินได้หยุดจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน พวกเขามองไปที่ทางเข้าสวนสวรรค์ที่มีเพียงทางเดียวเท่านั้น

เจี้ยนเฉินก็จ้องมองไปที่นั่นอย่างเคร่งเครียด

ชายหนุ่มที่หล่อเหลาในชุดสีขาว สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ซึ่งดูเหมือนจะอยู่ในวัยราว ๆ ยี่สิบ เข้ามาในสวนสมุนไพรอันศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับกระบี่ในมือของเขา

ด้านหลังชายหนุ่มเป็นชายชราในเสื้อคลุมสีคราม

ตัวตนของชายชราถูกปกปิดอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงดูเหมือนชายชราที่เรียบง่าย

“จริง ๆ แล้วเขาเป็นเพียงขั้นเหนือเทพ”

“ขั้นเหนือเทพทำร้ายราชาเทพช่วงต้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้ว่าราชาเทพช่วงต้นจะได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว ความสามารถในการต่อสู้ครั้งนี้ก็น่าตกใจพอ ”

“กฎแห่งกระบี่และกฎแห่งการทำลายล้าง ขั้นเหนือเทพคนนี้เข้าใจกฎของการโจมตีที่ดีที่สุดสองกฎ เขาช่างน่ากลัวจริง ๆ ”

“ เขาจะต้องโด่งดังในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพและเขาจะต้องติดอันดับสูงมาก”

การสนทนาเริ่มต้นขึ้นในสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ หลายคนสื่อสารกันอย่างลับ ๆ ในขณะที่ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ

ชายหนุ่มผู้แกว่งกระบี่อย่างไร้อารมณ์และเยือกเย็น เขาก้าวไปหาหยุนเต๋าไหล เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาเดินเหมือนคนธรรมดา อย่างไรก็ตามเขาแสดงตัวตนที่ยอดเยี่ยม

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สายตาที่เย็นชาของชายหนุ่มที่มองหยุนเต๋าไหลเหมือนเจ้านายที่ยิ่งใหญ่มองไปที่มด มันเย็นชาและถือตัว

มันคงไม่แปลกมากถ้าราชาเทพกำลังทำเช่นนั้น แต่ชายหนุ่มเพิ่งจะเป็นขั้นเหนือเทพ

เห็นได้ชัดว่าหยุนเต๋าไหลกลัวชายหนุ่มคนนี้มาก ขณะที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเขา เขาก็ถอยออกไปเช่นกันในขณะที่ใบหน้าของเขาซีดเผือด

“ไม่มีใครสามารถเอาอะไรไปได้ถ้าเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ มอบรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์มา เจ้าไม่สามารถเก็บมันไว้ได้” ชายหนุ่มพูดอย่างเยือกเย็น

“อะไรนะ ? รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ ? ”

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครบางคนได้รับรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์อย่างแท้จริง นั่นเป็นสมบัติที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้นก็ยังยอมตายเพื่อมัน”

เสียงร้องดังขึ้นทันทีในบริเวณโดยรอบ

“รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ จริง ๆ แล้วมันเป็นรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์” เสี่ยวเจิ้งก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาเอ่ยออกมาว่า “มีคนกล่าวกันว่ารากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์นั้นบรรจุวิถีของขั้นอสงไขย ไม่เพียงแต่จะเพิ่มการฝึกฝนจากชั้นสวรรค์ที่หนึ่งถึงชั้นสวรรค์ที่สามในระยะเวลาอันสั้น แต่มันยังเพิ่มโอกาสในการกลายเป็นขั้นบรรพกาลด้วยเช่นกัน มีข่าวลือในโลกแห่งเซียนว่าทุกคนที่ได้รับดูดซับรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์จะกลายเป็นขั้นบรรพกาลด้วยเช่นกัน เว้นเสียแต่คนที่เสียชีวิตระหว่างทาง”

เซียวเจิ้งเป็นราชาเทพแห่งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เล็ก ๆ บนที่ราบเหอหนิว เขาไม่มีพลัง ไม่มีที่ไหนที่ใกล้เคียงกับขอบเขตตั้งต้น แต่เขารู้ค่อนข้างมาก

เจี้ยนเฉินก็แปลกใจรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์สามารถสร้างขั้นบรรพกาลได้ คุณค่าของมันจะค่อนข้างน่ากลัว

หยุนซินก็ตกตะลึงเช่นกัน นางคิดว่า “ แหวนมิติที่ลุงเต๋าได้มอบให้ข้ามีรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์จริง ๆ หรือ ? ” แม้ว่านั่นคือสิ่งที่นางคิด หยุนซินไม่กล้าที่จะมองเข้าไป

“โม่เฉิง ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า เจ้าไม่ได้ต้องการรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ ทำไมเจ้าต้องต่อสู้กับเรา ? ” หยุนเต๋าไหล คำรามออกมาด้วยความไม่เต็มใจอย่างมาก สำหรับรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ พวกเขาจ่ายค่าตอบแทนไปมาก หกในสิบหกราชาเทพของพวกเขาได้ตายไปแล้ว

ทั้งนี้เป็นเพราะรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์มันเกี่ยวพันกับอนาคตโดยตรงของครอบครัวหยุน พวกเขายินดีที่จะเสียสละชีวิตเพื่อมัน

แต่ตอนนี้การปรากฏตัวของชายหนุ่มทำให้หยุนเต๋าไหลรู้สึกสิ้นหวัง

เขารู้ว่ารากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ซึ่งราชาเทพทั้งสิบหกของพวกเขาจ่ายค่าทดแทนไปมากจะถูกเอาไป

เมื่อหยุนเต๋าไหลเรียกชื่อชายหนุ่ม มันทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างยิ่งใหญ่ในสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์

“อะไรนะ? โม่เฉิง เขาคือโม่เฉิงเหรอ? ขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดที่ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ?”

“ขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดที่ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งบนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ, โม่เฉิงได้เข้าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนในครั้งนี้เช่นกัน นั่นเป็นข่าวที่ใหญ่มากพอที่จะสั่นคลอนทั่วทั้งสถานที่”

“โม่เฉิงเป็นขั้นเหนือเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่มีใครต้านทานในโลกแห่งเซียน ได้รับการกล่าวว่ามรดกที่โม่เฉิงได้รับนั้นน่าประทับใจอย่างยิ่ง วิธีการบ่มเพาะของเขาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแม้ในมุมมองของทั้งโลกแห่งเซียน”

“ยังมีขั้นเหนือเทพคนอื่น ๆ ที่สามารถต่อสู้กับโม่เฉิงในโลกแห่งเซียนในปัจจุบันได้หรือไม่ ? ”

“โม่เฉิงทรงพลังมากจนเขาสามารถฆ่าราชาเทพช่วงต้นได้อย่างง่ายดาย อาจไม่มีใครที่สามารถเทียบกับโม่เฉิงได้เพราะเขามีความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ตราบใดที่ราชาเทพที่มีพลังมากกว่าไม่ปรากฎตัว”

ราชาเทพทั้งหมดจ้องมองไปที่โม่เฉิงในสวนสมุนไพรอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความประหลาดใจ อิจฉาและความหวาดกลัวด้วยเช่นกัน สำหรับขั้นเหนือเทพเพียงไม่กี่คน พวกเขาทั้งหมดมองไปที่โม่เฉิงด้วยความเคารพและชื่นชมอย่างลึกซึ้ง

โม่เฉิงเป็นดาวที่ส่องแสงในหมู่ขั้นเหนือเทพเพียงพอที่จะส่องทั่วทั้งโลก ชื่อของเขากระจายไปทั่วที่ราบใหญ่ 49 แห่งและดาวเคราะห์ใหญ่ 81 ดวงเมื่อนานมาแล้ว

นั่นเป็นเพราะเขาเป็นขั้นเหนือเทพที่ทรงพลังที่สุดในโลก ชื่อของเขาโดดเด่นในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพในทุกที่ราบและดาวเคราะห์ มันเป็นประกายและสะดุดตา