เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2050 - สถานการณ์ที่ยากลำบาก
ตอนที่ 2050 – สถานการณ์ที่ยากลำบาก
ราชาเทพทั้งสิบคนของครอบครัวหยุนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่ปรมาจารย์ชูคนที่ถือพัดเพราะพวกเขาต่างก็ตกใจและอิจฉาอย่างชัดเจน
พวกเขารู้ดีว่าวัตถุเทพมีค่ามากเพียงใดในโลกแห่งเซียน ยกตัวอย่างครอบครัวหยุนของพวกเขา พวกเขามีผู้อาวุโสสูงสุด 2 คนที่อยู่ในขั้นอสงไขย แต่มีเพียงหนึ่งในพวกเขาเท่านั้นที่มีวัตถุเทพ ยิ่งกว่านั้นมันเป็นวัตถุเทพขั้นต่ำ
ผู้อาวุโสสูงสุดอีกคนยังคงใช้วัตถุเซียนขั้นสูงสุด !
“ ปรมาจารย์ชู ตามความรู้ของข้า มีเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเท่านั้นที่สามารถใช้วัตถุเทพได้ ระดับต่ำกว่านั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะปลดปล่อยพลังใด ๆ ได้เลย มิฉะนั้นเจ้าจะต้องทุกข์ทรมานจากผลสะท้อนกลับใหญ่หลวง ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าปรมาจารย์ชูสามารถใช้วัตถุเทพได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร ? ” หยุนเหลียนชิงถามอย่างสุภาพในขณะที่ความคิดเห็นเกี่ยวกับปรมาจารย์ชูเปลี่ยนไป
องค์ชายห้ามองไปที่ราชาเทพของครอบครัวหยุน ในวันอื่น ๆ เขาจะเพิกเฉยต่อสถานะของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่เขาอารมณ์ดีเมื่อเขาคิดว่าเขาจะได้รับรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ในไม่ช้า เขาเริ่มที่จะอธิบายว่า “ถูกต้องแล้ว ภายใต้สถานการณ์ปกติมันเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตตั้งต้นที่จะปลดปล่อยพลังของวัตถุเทพ โดยทั่วไปแล้วมันจะไม่แตกต่างจากเศษเหล็กเพราะจิตวิญญาณของวัตถุเทพทุกชิ้นมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับการยอมรับคนที่มีระดับต่ำกว่าขอบเขตตั้งต้น”
“ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเจ้าจะได้รับการยอมรับจากจิตวิญญาณของวัตถุเทพ พลังที่จำเป็นในการใช้วัตถุเทพก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ราชาเทพทั่วไปสามารถใช้ได้ได้ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมจึงมีแต่ขั้นอสงไขยเท่านั้นที่สามารถใช้วัตถุเทพได้ตามที่พวกเขาต้องการ”
“ อย่างไรก็ตาม พัดวายุนิลหายนะของปรมาจารย์ชูไม่ได้เป็นของเขาจริง ๆ แต่มันกลับเป็นของผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรวรรดินภาของเราซึ่งเป็นอาจารย์ของปรมาจารย์ชูเช่นกัน จิตวิญญาณของพัดวายุนิลหายนะได้รับคำสั่งจากอาจารย์ของปรมาจารย์ชูบวกกับส่วนของพลังงานที่เก็บไว้ในพัดโดยอาจารย์ของเขา ปรมาจารย์ชูสามารถปลดปล่อยพลังของพัดได้ด้วยพลังที่น้อยมาก”
ราชาเทพจากครอบครัวหยุนจึงรู้แจ้ง พวกเขารู้สึกได้ว่าอาจารย์ของปรมาจารย์ชูเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากที่มีการบ่มเพาะสูงส่ง เมื่อเห็นว่าเขาเต็มใจที่จะมอบวัตถุเทพให้กับลูกศิษย์ของเขาด้วยความเต็มใจ เขาก็ไม่ต้องคอยกังวลว่าลูกศิษย์ของเขาจะถูกฆ่าและวัตถุเทพก็จะถูกชิงไป
ยกตัวอย่างเช่นแม้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวหยุนของพวกเขายังมีวัตถุเทพขั้นต่ำ แต่เขาก็ไม่เคยมอบมันให้กับพวกเขา
เมื่อเส้นทางข้างหน้าถูกกวาดล้างไปอย่างสมบูรณ์ องค์ชายห้าก็มาถึงกลุ่มของเจี้ยนเฉิน พวกเขายืนอยู่นอกม่านพลังงานขณะที่จ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินที่อยู่ข้างใน
“เจ้าคือโม่เฉิงหรือ ? เป็นอันดับหนึ่งบนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ ? ” องค์ชายห้ามองดูเจี้ยนเฉิน ในขณะที่เขาขมวดคิ้วโดยถามคำถามที่ไม่แน่ใจ เขาเคยได้ยินจากคนในครอบครัวหยุนว่าโม่เฉิงได้ตามล่าหยุนเต๋าไหลหลังจากที่เขาหนีไปพร้อมกับรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ และนั่นก็คือราชาเทพช่วงสูงสุดจากบัลลังก์ราชาเทพที่ยืนอยู่ข้างโม่เฉิง เป็นผลให้องค์ชายห้าเชื่อว่ารากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ได้อยู่ในมือของโม่เฉิง
ตอนนี้เขาเห็นเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนมากมายในสวน เขาจึงเชื่อว่าคนตรงหน้าเขาคือโม่เฉิง
ส่วนที่ทำให้เขาขมวดคิ้วของเขาก็คือแม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นโม่เฉิงมาก่อน แต่เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดที่ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งบนป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ คนตรงเขาดูเหมือนจะแตกต่างจากข่าวลือ
ยิ่งกว่านั้นเขาไม่เห็นราชาเทพช่วงสูงสุดที่มากับโม่เฉิงเช่นกัน
ราชาเทพที่มาพร้อมกับองค์ชายห้าศึกษากลุ่มของเจี้ยนเฉินด้วยประกายตาแปลก ๆ โดยเฉพาะราชาเทพของครอบครัวหยุนสีหน้าที่แสดงออกที่แปลกมาก นอกเหนือจากหยุนเต๋าไหล
“ซินเอ๋อ, เจี้ยนเฉิน, ไคยะ, เฉินหลง พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ? ” หยุนเหลียนชิงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ ความประหลาดใจปรากฏอยู่เต็มใบหน้าของเขา
นอกเหนือจากหยุนเต๋าไหล ราชาเทพคนอื่น ๆ ของครอบครัวหยุนยังคงจ้องมองผู้คนในม่านพลังงานอย่างว่างเปล่าในขณะที่พวกเขาแสดงความสงสัย
สีหน้าขององค์ชายห้ามืดครึ้มเล็กน้อยในขณะที่เขารู้สึกว่าเป็นลางร้าย เขามองหยุนเต๋าไหลและถามว่า “รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์อยู่ที่ไหน ? ”
“เต๋าไหล นี่เป็นองค์ชายห้าของจักรวรรดินภา” หยุนเหลียนชิงมาถึงตรงหน้าหยุนเต๋าไหลและอธิบาย เขากลัวว่าหยุนเต๋าไหลจะล่วงเกินองค์ชายห้าเมื่อเขาไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
“องค์ชายห้า – รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์…” หยุนเต๋าไหลดูเหมือนจะตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขาพูดติดอ่างขณะที่ใบหน้าของเขาซีด
เขาไม่ได้โง่ เมื่อเขาได้ยินว่าคนที่มาเป็นองค์ชายห้าของจักรวรรดินภา เขารู้ว่าคนอื่น ๆ ของครอบครัวหยุนตัดสินใจอย่างไร มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกลัว
หากเขายังคงมีรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ เขาจะไม่เป็นเช่นนี้ อีกทั้งเขาจะไม่เป็นแบบนี้ทั้ง ๆ ที่โม่เฉิงเอามันไป อย่างไรก็ตามรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ก็ได้ถูกกินไปแล้วและคนที่กินมันก็คือหยุนซิน
“รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์หายไปแล้ว” เจี้ยนเฉินกล่าวขณะที่เขาเดินออกจากม่านพลังอย่างมาดมั่น เขาพิจารณาองค์ชายห้าและคนของเขาก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ปรมาจารย์ชูเป็นคนสุดท้าย เขาเคร่งเครียดสุด ๆ และเขาก็บอกกับปรมาจารย์เฉินหลงในทันที เพื่อให้ปรมาจารย์เฉินหลงลอบวางค่ายกลอย่างลับ ๆ
สีหน้าขององค์ชายห้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินและอุทานอย่างเย็นชา “เจ้าพูดว่าอะไร ? รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์หายไปไหน ? ” รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์เป็นสมบัติที่กำหนดว่าเขาจะสามารถกลายเป็นขั้นบรรพกาลในอนาคต เขายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับมันมา แม้ว่าโม่เฉิงจะนำมันไป เขาก็จะตามไปเพื่อแย่งชิงกับโม่เฉิงเพื่อนำมันกลับมา
“ข้า – ข้า – ข้าได้กินรากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ไปแล้ว” หยุนซินก็ออกไปเช่นกันและนางก็พยายามที่จะหยุดการสะอื้นของนาง นางสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ารากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ได้สลายไปแล้วภายในร่างของนางกลายเป็นพลังที่ปรับปรุงพรสวรรค์ของนาง
รากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์มีสัจธรรมของจักรวาลและมันถูกสร้างขึ้นโดยการดูดซับความอุดมสมบูรณ์ของพลังโลก ไม่รุนแรงเหมือนสมบัติสวรรค์ธรรมดาที่ผู้คนอ่อนแอกว่าจะระเบิดหากพวกเขาบริโภคมัน ผลที่ตามมาคือหยุนซินจะไม่รู้สึกไม่สบายหลังจากที่นางกินมัน
“ซินเอ๋อร์ เจ้าพูดว่าอะไรนะ ? ” สีหน้าของราชาเทพของครอบครัวหยุนเปลี่ยนไปอย่างมาก หากสถานการณ์ต่างกันพวกเขาจะรู้สึกดีใจอย่างแน่นอน พวกเขาอาจหัวเราะดัง ๆ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาได้แต่เพียงตัวสั่นเท่านั้น พวกเขารู้สึกกลัวและเกิดความกังวลจากก้นบึ้งของหัวใจ
สีหน้าขององค์ชายห้ามืดครึ้มลง เขาจ้องมองไปที่หยุนซินเพราะเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย เรื่องนี้เกิดจากความโกรธสุดขีด
เจี้ยนเฉินใจหายวูบเล็กน้อยจากท่าทีขององค์ชายห้า เขาจ้องมองที่หยุนซินข้างเขาก่อนที่จะพยายามยกประโยชน์ให้องค์ชายห้าฟัง “มันเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของหยุนซินที่ได้บริโภครากจิตวิญญาณวิถีสวรรค์ หากนางได้รับการส่งเสริมเพิ่มเติม ความสำเร็จในอนาคตของนางจะไม่สามารถวัดได้ การเป็นขั้นบรรพกาลจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง ในเวลานั้นความแข็งแกร่งของจักรวรรดินภาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในที่ราบสายฟ้าซ่อนเร้น เช่นเดียวกันกับการที่จะกำหราบอาณาจักรนิรันดรอื่น ๆ ซึ่งก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา ข้า เจี้ยนเฉิน และข้าอยากจะแสดงความยินดีกับองค์ชายห้าล่วงหน้า ข้าขอแสดงความยินดีกับจักรวรรดินภาของท่านในการเป็นอาณาจักรนิรันดรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในที่ราบสายฟ้าซ่อนเร้น”
องค์ชายห้าไม่หวั่นไหวเลย สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมในขณะที่เขามองหยุนซินอย่างไม่สบายใจ ในความเป็นจริง เขาสติแตกไปแล้ว เขาอยากจะฆ่าหยุนซินให้ตายคาที่ในทันที
หยุนซินก็รู้สึกผิดในขณะที่นางรู้สึกไม่สบายใจ