เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2052 : เข้าไปเก็บตัวในภูเขาเนปจูน
ตอนที่ 2052 : เข้าไปเก็บตัวในภูเขาเนปจูน
ไคยะกับเฉินหลงไม่ได้คัดค้านข้อเสนอของเจี้ยนเฉิน พวกเขาต่างก็เข้าใจว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กลัวพวกราชาเทพช่วงปลายเมื่อร่วมมือกันแต่พวกเขาก็ยังไม่อาจจะเป็นคู่มือของราชสเทพช่วงปลายที่แข็งแกร่งได้
ปรมาจารย์ชูที่อยู่กับองค์ชายห้านั้นแข็งแกร่งกว่าราชาเทพช่วงปลายทั่วไปอย่างมาก
นอกจากปรมาจารย์ชู ยังมีราชาเทพช่วงสูงสุดคนอื่นจากบัลลังก์ราชาเทพ เมื่อพวกนั้นมาพบพวกเขา พวกเขาคงยากจะเอาชนะได้ถึงแม้ว่าจะร่วมมือกันก็ตาม
ผลก็คือพวกเขาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง ยังไงซะราชาเทพมากมายก็ได้มารวมตัวกันที่ชั้น 8 ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ไม่เหมือนพวกที่อยู่ชั้นล่างที่มีขั้นเหนือเทพมากมาย
“ข้าเองก็ต้องเข้าเก็บตัวบ่มเพาะเพื่อที่จะทะลวงผ่านเป็นราชาเทพให้ได้เร็วที่สุด” ไคยะพูดขึ้น ขั้นเหนือเทพช่วงปลายคงเสียเปรียบทั้งในด้านการบ่มเพาะและความเข้าใจเมื่อต้องสู้กับราชาเทพ
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว เจี้ยนเฉินกับคนอื่น ๆ ก็ได้ออกจากสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ทันที เสี่ยวเจิ้งไม่ได้คิดจะออกไปไหน ดังนั้นเขาจึงอยู่กับกลุ่มของเจี้ยนเฉินต่อไป
“เจี้ยนเฉิน หากเจ้าค้นหาสถานที่เพื่อเก็บตัว ข้ารู้จักบางที่ที่เหมาะสำหรับเจ้า” เสี่ยวเจิ้งเข้ามาใน พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนหลายครั้งแล้ว ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในเป็นอย่างดี เขาเสนอตัวนำทางโดยไม่ต้องให้คนถาม “มากับข้า”
หลังจากนั้นกลุ่มของเจี้ยนเฉินก็เดินทางไปได้กว่าล้านกิโลเมตรในเวลาอันสั้นภายใต้การนำทางของเสี่ยวเจิ้ง สุดท้ายพวกเก็มาหยุดที่สันเขาอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง
เจี้ยนเฉินแปลกใจทันทีที่เข้ามาในสันเขาแห่งนี้ ไม่ใช่แค่พลังงานดั้งเดิมที่มากก่วาที่อื่นเป็นสิบเท่าจนกระทั่งก่อตัวเป็นหมอกหนาแต่ เจี้ยนเฉินยังรู้สึกได้ว่ากฎของโลกที่นี่ชัดเจนยิ่งกว่าที่อื่น
“ตามบันทึกโบราณ สันเขาแห่งนี้คือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในลัทธิเต๋าแห่งเนปจูน มันเรียกว่าภูเขาเนปจูน มีคำร่ำลือกันว่าภูเขาเนปจูนแห่งนี้คือดินแดนที่ได้รับการอวยพรของลัทธิเต๋าแห่งเนปจูน มันมีค่ายกลที่แข็งแก่รงที่ใจกลางสันเขา มันเพราะค่ายกลพวกนี้ที่ทำให้ภูเขาเป็นจุดศูนย์รวมความลึกลับของจักรวาล ไม่ใช่แค่พลังงานดั้งเดิมที่บริสุทธิ์ที่สุดได้มารวมตัวกันทีนี่ แต่การบ่มเพาะที่นี่ก็ทำให้ทำความเข้าใจกฎของโลกได้ลึกซึ้งกว่าเดิม ผลก็คือการบ่มเพาะที่นี่จะทำได้ง่ายกว่าเดิม” เสี่ยวเจิ้งรู้เรื่องนี้ดี เขามองไปรอบ ๆ ด้วยความแปลกใจและอธิบายให้กับทั้งสามคนฟัง “ว่ากันว่าบรรพชนที่แข็งแกร่งที่สุดของลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจอมปราชญ์สูงสุด ค่ายกลที่นี่ถูกสร้างขึ้นโดยจอมปราชญ์สูงสุดเอง ดังนั้นมันจึงเป็นของที่ไร้เทียมทาน ค่ายกลทั้งหมดที่นี่แฝงไปด้วยสัจจะของโลก”
“ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านนอกพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนและมันเป็นที่ที่เอาไว้ให้ศิษย์หลักบ่มเพาะ แต่พวกเขาจะย้ายมาที่นี่หากลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ดังนั้นจึงยังมีคนอยู่ที่นี่อยู่”
“เสี่ยวเจิ้ง ดูหมือนว่าเจ้าจะรู้เยอะจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นอย่างใจเย็น
เสี่ยวเจิ้งหัวเราะออกมา “ลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนนี้เดิมทีตั้งอยู่ที่ราบเหอหนิว และข้าก็เกิดที่นั่น ข้ามาจากที่เดียวกับลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนและได้เข้ามายังที่นี่หลายครั้งแล้ว รวมกับที่ข้าได้สอบถามจากทุกคนแล้ว ข้าจึงรู้จักที่นี่ดีขึ้น”
ตอนที่พูดคุยกันนั้นทั้งสี่คนก็ได้เข้าไปในส่วนลึกของภูเขา ระหว่างทาง เจี้ยนเฉินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีตัวตนที่แข็งแกร่งมากมายในภูเขา ชัดแล้วว่ามีหลายคนเลือกที่จะบ่มเพาะอยู่ที่นี่
สุดท้ายทั้งสี่คนก็เลือกถ้ำเป็นที่บ่มเพาะ เฉินหลงได้ร่ายค่ายกลแยกแต่ละคนเอาไว้ มันเพื่อปกป้องพวกเขาและป้องกันไม่ให้เป็นการรบกวนกัน
เจี้ยนเฉินได้เข้าสู่การกักตนฝึกวิชา เขาเตรียมสมบัติสำหรับการทะลวงผ่านร่างบรรพกาลของตน ไม่ใช่แค่แก่นอสูรขั้นราชาเทพที่เขาได้มาจากภูเขาหยินเจ็ดทลาย แต่เขายังมีผลึกพลังงานจากสัตว์อวกาศที่พวกเขาฆ่าระหว่างเดินทางมา สมบัติเหล่านี้เพียงพอที่เขาจะทะลวงขึ้นไปถึงขั้น 12 ได้
ไคยะและเฉินหลงเองก็เข้าสู่การกักตนฝึกวิชาเช่นกัน ไคยะได้ฟื้นฟูตัวเองก่อนที่จะทำการบ่มเพาะ นางเข้าใจความลึกลับของโลกตอนที่กำลังจะทะลวงผ่านเป็นราชาเทพ
สำหรับเฉินหลงแล้ว เขาเอาแหวนมิติที่เขาได้มาจากชั้น 7 ออกมาตรวจสอบของที่อยู่ภายใน
ชัดเจนแล้วว่าเจ้าของแหวนนี่คือผู้เชี่ยวชาญค่ายกล เฉินหลงพบบันทึกและข้อมูลเรื่องเส้นทางแห่งกฎอยู่ภายในแหวน ดังนั้นเขาจึงทำการตรวจสอบมันทันที
องค์ชายห้าของอาณาจักรนภากับคนของเขาหยุดอยู่ข้างแม่น้ำเล็ก ๆ ที่นี่ห่างจากภูเขาเนปจูนกว่าล้านกิโลเมตร มีทหารมากมายที่ตัวโชกเลือด ชัดแล้วว่าพวกเขาเพิ่งจะต่อสู้กันมา
องค์ชายห้านั่งอยู่บนก้อนหินตรวจสอบผลไม้สีน้ำตาลขนาดเท่ากับกำปั้นในมือ เขายิ้มออกมาและพึมพำว่า “ผลมิติมืด มันคือวัสดุดิบหลักสำหรับการทำยากลั่นวิญญาณของจิตวิญญาณปฐพี นี่คือยาระดับเทพขั้น 4 และมันสามารถยกระดับวิญญาณและกลั่นกรองจิตใจได้ มันเป็นของหายาก คนพวกนี้ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ พวกนั้นมีของดีกับตัว”
องค์ชายห้าขโมยผลมิติมืดมาจากกลุ่มคนหนึ่ง แม้ว่าพวกนั้นจะไม่ได้อ่อนแอ แต่คนที่เขาพามาด้วยก็ฆ่าพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย
“ซินเอ๋อ ยากลั่นวิญญาณของจิตวิญญาณปฐพีนี้ชัดเจนแล้วว่าจะส่งผลต่อเจ้าในทันที มันสามารถปรับการสั่นพ้องกับกฎของโลกและจะทำความเข้าใจได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม ข้าเก็บวัตถุดิบเหล่านี้มาเพื่อทำยาในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน และข้าจะบอกให้อาณาจักรปรุงมันให้กับเจ้า” องค์ชายห้ายกผลไม้นมือขึ้นและหันไปคุยกับ หยุนซินที่อยู่ข้างกาย
หยุนซินนั่งอยู่บนก้อนหินด้วยท่าทีเหม่อลอย สายตาของนางไม่ได้เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย นางราวกับรูปปั้น นางไม่ได้ยินคำพูดที่องค์ชายห้าพูดออกมา
“ ซินเอ๋อ ! ” องค์ชายห้าอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาดังกว่าเดิม
“อ่ะ องค์ชายห้า มีอะไรหรือ ? ” หยุนซินมองไปยังองค์ชายห้าด้วยความสับสนราวกับว่านางเพิ่งจะตื่นจากฝัน
“ซินเอ๋อ มองเข้ามาในตาข้า” องค์ชายห้าพูดขึ้นและมองไปยังหยุนซินโดยไม่กระพริบตา ต่อมาก็เกิดวังวนสีเทาขึ้นในนัยน์ตาเขา มันแฝงไปด้วยพลังลึกลับราวกับว่าจะสูบวิญญาณของหยุนซินเข้าไป
หยุนซินรู้สึกมึนขึ้นมาทันที่ ตอนนี้นางสนใจแต่วังวนในนัยน์ตาขององค์ชายห้า
“ซินเอ๋อ บอกข้ามา เจ้าคิดถึงชายที่ชื่อเจี้ยนเฉินหรือ ? ” องค์ชายห้าถามขึ้นมา เสียงของเขาดูราบเรียบแต่ตอนที่ หยุนซินได้ยินแบบนั้น มันราวกับเสียงนี้จะดึงดูดความสนใจของนางได้
“ใช่” หยุนซินตอบกลับ ตอนนี้นางไม่อาจจะปกปิดความลับใด ๆ ได้เลย นางได้แต่บอกความจริงกับเขาไป
ใกล้ ๆ กันนั้นสีหน้าของหยุนเหลียนชิงเปลี่ยนไป เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจี้ยนเฉิน แต่เขารู้ว่าเขาไม่อาจจะทำอะไรได้
คนอื่น ๆ ของครอบครัวหยุนพากันเคร่งเครียด พวกเขาไม่ได้กังวลแทนเจี้ยนเฉิน กลับกันแล้ว พวกเขากังวลว่ามันจะส่งผลต่อตัวหยุนซินแทน
สีหน้าขององค์ชายห้ามืดครึ้มลง เขาได้บีบผลไม้ในมือจนเละ น้ำนั้นกระจายไปทั่วมือของเขา
“ข้า ข้ ข้าแค่..” หยุนซินได้สติขึ้นมา แต่ทันทีที่คิดถึงคำตอบที่นางพูดไป นางก็หน้าซีดทันที
แม้ว่าตะกี้นางจะไม่รู้ตัวแต่นางก็จำได้ว่านางพูดอะไรออกไป นางคิดว่าคำตอบที่นางพูดออกไปนั้นหมายถึงวันเวลาที่ใช้ร่วมกันกับพวกเจี้ยนเฉิน
แต่ตอนที่องค์ชายห้าได้ยินคำตอบ ความหมายมันกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
นางอยากจะอธิบายแต่นางเข้าใจว่าหากพูดอะไรออกไปก็คงเหมือนกับการแก้ตัว
“ไปกันเถอะ” องค์ชายห้าไม่พูดเรื่องนี้ต่อ เขาเรียกคนของเขาและออกเดินทางอีกครั้งแต่เขาแอบบอกกับคนด้านหลังเขา “ ไป่ฉี, ไป่เหอ ไปกับเฮยหยา ไปหาคนที่ชื่อเจี้ยนเฉิน ฆ่าทุกคนที่อยู่กับเขา รวมถึงเจี้ยนเฉินด้วย แอบออกไป ข้าไม่อยากให้ซินเอ๋อรู้เรื่องนี้”
ไป่ฉีกับไป่เหอคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มองค์ชายห้า หากไม่นับปรมาจารย์ชู
องค์ชายห้าได้ส่งสองพี่น้องนี้ไปจัดการกับกลุ่มเจี้ยนเฉิน ชัดเจนแล้วว่าเขาเห็นได้ว่ากลุ่มของเจี้ยนเฉินนั้นโดดเด่นพียงใด
“ฮ่าฮ่า เฮยหยาเคยเจอเด็กนั่นมา ไม่ว่าพวกนั้นจะอยู่ไกลแค่ไหน ตราบใดที่เฮยหยาเคยเห็นพวกนั้น เขาก็หาพวกนั้นเจอได้ องค์ชายไม่ต้องกังวล ข้ารับรองได้ว่าเราจะทำหน้าที่นี้ให้สำเร็จ” ไป่ฉีตอบกลับ