เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2054 : จอมปราชญ์สูงสุดทั้งสอง
ตอนที่ 2054 : จอมปราชญ์สูงสุดทั้งสอง
“แปลก ทำไมข้าถึงได้รู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้ ? ข้ารู้สึกว่าข้ารู้จักค่ายกลนี่ แต่ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน ข้าไม่เจอค่ายกลที่ยิ่งใหญ่แบบนี้มาก่อน” เฉินหลงสับสน
แต่ตอนนันเองการรับรู้วิญญาณของเฉินหลงกลับเสียการควบคุมไป มันได้พุ่งเข้าไปหาบอลแสงอย่างรวดเร็ว มันราวกับว่าบอลแสงแผ่พลังสูบอันน่ากลัวออกมาดึงเอาการรับรู้วิญญาณของเฉินหลงเข้าไป แม้แต่ตอนที่เขาต้านทานด้วยพลังทั้งหมดที่มี แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อันใด
สีหน้าของเฉินหลงเปลี่ยนไป เขาต้องการจะดึงเอาการรับรู้ตัวเองกลับมา แต่ทันทีที่เขาคิดและก่อนที่เขาจะได้ลงมือทำ การสูบจากบอลแสงก็ได้เชื่อมต่อกับการรับรู้วิญญาณของเขา มันตรึงวิญญาณของเขาเอาไว้และสุดท้ายภายใต้สายตาที่กลัวของเขา วิญญาณของเขาก็ออกจากร่างและเข้าไปในบอลแสงนั้น
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉินหลงไม่ทันได้คิดอะไร วิญญาณของเขาถูกสูบเข้าไปในบอลแสงนั่นแล้ว
แต่มันทำให้เฉินหลงแปลกใจ ไม่ใช่แค่บอลแสงนั้นไม่ได้เป็นภัยต่อวิญญาณของเขา แต่เขายังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นแทน มันทำให้ความอึดอัดใจที่เขามีจางหายไปและทำให้เขาใจเย็นขึ้นมาได้
เฉินหลงยังไม่ได้ทำการสำรวจเขตหลักของค่ายกล ความสนใจที่เขามีตอนนี้อยู่ที่ตรงหน้าเขา
ประกายแสงขนาดเท่ากับนิ้วโป้งลอยอยู่ด้านหน้าส่องแสงราวกับสายรุ้ง มันดูงดงาม
แสงสีรุ้งนี้สร้างการเชื่อมต่อกับวิญญาณของเฉินหลง ทำให้เขาเข้าไปยังเขตหลักของค่ายกล วิญญาณของเขาเสียการควบคุมไปและเริ่มเข้าไปหาประกายแสงพวกนั้น
นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์จากการที่เฉินหลงประมาท มันคือสัญชาตญาณจากส่วนลึกของวิญญาณเขา
สุดท้ายวิญญาณของเฉินหลงก็หลอมรวมกับแสงสีรุ้งอย่างสมบูรณ์ วิญญาณของเขาเกิดการสั่นไหวขึ้นมา ตอนนั้นเขารู้สึกราวกับเกิดฟ้าผ่าขึ้นมาในหัว มันทำให้เขาตะลึง จากนั้นก็มีภาพอันพร่ามัวปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา พื้นหลังของภาพนี้คืออวกาศ มีสองร่างที่ร้ายร้องด้วยแสงแห่งกฎยืนอยู่ที่นั่น พวกนั้นแผ่พลังอันน่ากลัวที่ไร้ขอบเขตออกมาจนทำให้ทั้งจักรวาลสั่นไหว ดวงดาวทั้งหมดเสียแสงทีมันเคยมีราวกับยอมสยบให้กับสองคนนั้น แม้แต่กฎสูงสุดของจักรวาลก็ยังได้รับผลกระทบไปด้วย พวกมันถึงกับกระจัดกระจายออกไป
สองร่างนี้แข็งแกร่งเพียงพอทำให้คนตัวสั่นเพราะความกลัวได้ พวกนั้นอยู่จุดสูงสุดของจักรวาลและเป็นตัวตนที่เหมือนกับกฎของโลก พวกนั้นควบคุมกฎของโลกเอาไว้ พวกเขาสามารถจัดการกับกระบวนการของจักรวาลได้ด้วยความคิด
พวกนั้นอาบไปด้วยแสงของกฎบดบังตัวตนของพวกเขาเอาไว้ แผ่นค่ายกลกฎหมุนวนรอบหัวของชายคนหนึ่ง มันปกปิดไปทั่วมิติภายนอกและกระตุ้นความลึกลับของโลก แค่เพียงคิดมันก็เปลี่ยนเป็นค่ายกลที่สามารถทำลายจักรวาล, ทำลายมิติและเปลี่ยนเส้นทางของกฎของโลกได้
อีกคนมีภาพของสังสารวัฏทั้งหกอยู่ด้านหลัง แต่ละภาพนั้นดูไร้ขอบเขตราวกับก่อตัวเป็นโลกของตัวเอง แต่ละโลกนั้นมีพลังสังสารวัฏแตกต่างกันไป
เมื่อภาพทั้งหกอยู่รวมกัน พวกมันได้แผ่พลังอันน่ากลัวและไร้ขอบเขตออกมาเหมือนกับเทพสูงสุดที่สามาราถสยบกฎของทั้งโลกได้
ภาพนี้หยุดไปชั่วครู่ก่อนจะแตกกระจายออก แม้ว่าจะปรากฏขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที แต่เฉินหลงก็ยังรู้สึกได้ว่าเขาจมไปกับมัน ผลกระทบที่ส่งต่อถึงเขานั้นมากซะจนเขาไม่อาจจะใจเย็นลงได้แม้ว่าจะผ่านมานานแล้วก็ตาม
“จอมปราชญ์สูงสุด ! ทั้งสองคนนี้คือจอมปราชญ์สูงสุด ! หนึ่งในนั้นต้องเป็นคนที่สร้างค่ายกลในภูเขาแห่งนี้และอีกคนคงเป็นอมตะเที่ยงแท้วัฎสงสารของโลกอมตะ” วิญญาณของเฉินหลงสั่นไหวอย่างรุนแรง
“แสงสีรุ้งนี่มันอะไรกัน ? ” เฉินหลงหันไปสนใจประกายแสงสีรุ้ง ตอนนี้ประกายแสงได้หลอมรวมกับวิญญาณของเขา เขาไม่รู้อะไรเลยนอกจากความจริงที่ว่ามันไม่ได้เป็นภัยต่อเขา
แต่วิญญาณของเขาไม่อาจจะมองทะลุแสงและเห็นความลับของมันได้ แสงสีรุ้งนี้บดบังมันเอาไว้
ทันใดนั้นวิญญาณของเฉินหลงก็สั่นไหวอีกครั้ง เขารู้สึกทั้งแปลกใจและดีใจ เขาพบว่าวิญญาณของเขาได้หลอมรวมกับแก่นของค่ายกลและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับมัน เขาสำรวจค่ายกลทั้งหมดจากเขตหลักได้อย่างชัดเจน
ต่อมาค่ายกลอันน่ากลัวในภูเขาที่สร้างขึ้นโดยจอมปราชญ์สูงสุดก็ไม่อาจปกปิดความลับใด ๆ จากเฉินหลงอีกต่อไป เขาสามารถตรวจสอบทุกรายละเอียดได้ตามต้องการ เขาถึงกับเริ่มรู้สึกเหมือนว่าเขาสามารถควบคุมพลังของค่ายกลนี้ได้ มันราวกับว่าเขาควบคุมทุกพื้นที่ในภูเขาได้
“ภูเขาเนปจูนคือภูเขาหรือสมบัติกันแน่ ? ” เฉินหลงตะลึง ไม่นานเขาก็มองออกไป
จากภูเขาแห่งนี้เขาพบร่างสามร่างที่ดุค้นตาลอยอยู่ในภูเขา
“นั่นคือคนที่มากับองค์ชายห้า” เฉินหลงจำพวกนั้นได้ทันที
จากทั้งสามคนนั้นมีสองคนที่เป็นพี่น้องกันและเฮยหยาอีกคน พวกนั้นมาตามคำสั่งองค์ชายห้าเพื่อปลิดชีวิต เจี้ยนเฉิน
เฮยหยาเป็นชายหนุ่มตัวผอมสูง เขาเหมือนเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่การบ่มเพาะของเขานั้นแข็งแกร่งจนมาถึงขั้นราชาเทพช่วงปลายได้
“ไป่ฉี, ไป่เฮอ เจ้าเด็กที่ชื่อเจี้ยนเฉินน่าจะอยู่ในภูเขาแห่งนี้ ข้ารับรู้ได้ว่าเราเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เราน่าจะเกือบถึงตัวเขาแล้ว” เฮยหยาลดความเร็วลงและเริ่มปกปิดตัวตนของตัวเอง เขาค่อย ๆ มุ่งหน้าไปยังจุดที่พวกเจี้ยนเฉินเก็บตัวอยู่ เขาหันกลับไปมองและบอกกับสองพี่น้อง “เตรียมตัวสู้ เราต้องทำตามที่องค์ชายสั่งให้สำเร็จ เราไม่อาจจะปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นได้ แม้ว่าเจี้ยนเฉินกับคนอื่น ๆ จะไม่แข็งแกร่งและเราสามารถฆ่าพวกนั้นได้ง่าย ๆ ด้วยความแข็งแกร่งที่เรามี แต่พวกนั้นก็ยังมีขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดถึง 2 คน ใครจะไปรู้ว่าพวกนั้นจะมีไพ่ลับอะไรบ้าง ถ้าพวกนั้นหนีไป เราคงไม่อาจจะอธิบายกับองค์ชายห้าได้ “
“ไม่ต้องกังวล หากเราสองคนลงมือ พวกนั้นไม่อาจจะหนีไปได้แน่ แม้ว่าจะมีไพ่ลับเพื่อเอาตัวรอด แต่พวกนั้นคงไม่อาจจะใช้มันได้ทัน นอกจากว่าพวกนั้นจะเป็นราชาเทพช่วงปลาย” ไป่ฉีหัวเราะออกมา