เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2055 : เจี้ยนเฉินปรากฏตัว
ตอนที่ 2055 : เจี้ยนเฉินปรากฏตัว
แม้ว่าสองพี่น้องและเฮยหยาจะอยู่ห่างจากจุดที่เจี้ยนเฉินบ่มเพาะอยู่ แต่ตอนนี้เฉินหลงนั้นหลอมรวมเข้ากับพื้นที่ของภูเขาแล้ว เขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพียงแค่ใช้ความคิด ไม่มีอะไรหลีกหนีจากการรับรู้ของเขาได้ มันราวกับว่าภูเขาทั้งลูกนั้นกลายเป็นอาณาเขตของเฉินหลง เขาได้กลายเป็นผู้ปกครองของเขตนี้ไป
ผลก็คือเฉินหลงได้ยินการพูดคุยของทั้งสามคนนั้น
“ทั้งสามมาเพื่อฆ่าเรา พวกเขามีจุดประสงค์ร้าย” เฉินหลงคิด แค่เพียงคิดวิญญาณของเขาก็กลับไปที่ร่างของตนแต่ประกายแสงสีรุ้งในเขตหลักของค่ายกลเหมือนจะอยู่ในวิญญาณของเขาด้วย มันตามวิญญาณเขากลับมาอยู่ในร่างของเขา
ตอนนี้เฉินหลงไม่จำเป็นต้องหลอมรวมวิญญาณกับเขตหลักของค่ายกลอีก เขารู้สึกได้ถึงการเชื่อมโยงระหว่างภูเขากับวิญญาณทำให้เขาควบคุมค่ายกลนี้ตอนไหนก็ได้
เขารู้สึกถึงพลังที่เขาได้มาและเริ่มมั่นใจขึ้น เขาพึมพำกับตัวเอง “ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ข้าคงทำได้แต่ป้องกันตัว แต่ตอนนี้….”
ในพริบตา เฉินหลงก็ได้ออกมาจากถ้ำมานั่งอยู่บนกิ่งไม้ด้านนอก เขารอคอยการมาของทั้งสามคนอยู่เงียบ ๆ
ตอนที่เฮยหยาเข้ามายังส่วนลึกของภูเขา เขาก็เคลื่อนที่ช้าลงเรื่อย ๆ พลังลึกลับที่แผ่ออกมาจากโลกส่งผลต่อเขาในระดับหนึ่งจนการรับรู้ถึงกลุ่มของเจี้ยนเฉินพร่ามัวไป พรสวรรค์ติดตัวของเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก
“ สมกับเป็นค่ายกลที่จอมปราชญ์สูงสุดของเส้นทางโบราณสร้างขึ้นมา มันส่งผลต่อความสามารถของข้าอย่างมาก ข้ารับรู้ได้แค่ 3 จาก 4 คน ข้าไม่อาจจะหาอีกคนเจอได้” เฮยหยาแปลกใจ เขาเคลื่อนที่ช้าลงกว่าเดิมเพราะกลัวว่าเขาจะสูญเสียการรับรู้จากพวกนั้นไป
หลังจากนั้นครึ่งวัน เฮยหยาก็มาหยุดอยู่สถานที่หนึ่งพร้อมกับสองพี่น้อง ทั้งสามปกปิดพลังของตัวเองและเคลื่อนไหวเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้ใครตื่นตัว
“ตรงนี้แหละ มันมีถ้ำอยู่ด้านล่าง มันปกปิดไปด้วยค่ายกล เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ อยู่ที่นี่” เฮยหยาพูดขึ้นและชี้ไปที่กำแพงหิน จากนั้นเขาก็คิ้วขมวดเล็กน้อยและมองไปยังไป่เฮอและไป่ฉี เขาพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ “แต่ความสามารถของข้ารับรู้ได้แค่ 3 คนเท่านั้น คนที่สี่หายไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว จนตอนนี้ข้าก็ยังไม่พบเขา”
“หายไปรึ ? ” ไป่เฮอเลิกคิ้วและหัวเราะออกมา “แน่นอนว่าทั้งสี่คนอยู่ในภูเขาแห่งนี้ ไม่ใช่ว่าคนที่หายตัวไปนั้นตายเพราะการบ่มเพาะรึไงกัน ? ”
“เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเขาจะตายไป แต่ด้วยความสามารถที่ข้ามี ข้าก็ต้องจะพบศพของเขา แม้ว่าศพจะถูกทำลายแต่ข้าก็สามารถรับรู้ได้ว่าเขาตายที่ไหน” เฮยหยาเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้
“ช่างเถอะ หากเราหาเขาไม่เจอก็ช่างมัน ฆ่าอีก 3 คนที่เหลือแล้วกลับไปรวมตัวกับองค์ชาย” ไป่ฉีก้าวออกมาและมองไปยังถ้ำตรงหน้าด้วยความสนใจ สายตาเขาแสดงความอาฆาตออกมา “การป้องกันของค่ายกลนี่น่าประทับใจ แต่เราต้องทำลายมันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเพื่อกันไม่ให้คนด้านในหนีออกมาได้ น้องสาว มาโจมตีด้วยกัน เฮยหยา จับตามองด้านนอกเอาไว้”
ตอนที่พูดนั้นสองพี่น้องก็เริ่มรวมพลังกันเพื่อใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด
“เจ้าสามคน เราไม่ได้มีความแค้นต่อพวกเจ้า ข้าถามได้รึไม่ว่าทำไมพวกเจ้าถึงต้องการจะฆ่าเรา ? ”
ตอนที่สองพี่น้องกำลังจะทำการโจมตีออกมา มันก็มีเสียงแก่ ๆ ดังขึ้นจากใกล้ ๆ
เสียงนั้นทำให้ทั้งสามคนตะลึง พวกนั้นหันกลับไปมองที่มาของเสียงและเห็นเฉินหลงนั่งอยู่บนกิ่งไม้ด้วยท่าทีสบายใจ
พวกนั้นหรี่ตาลงมองไปที่เฉินหลงแล้วก็ต้องตกตะลึง นี่เพราะต้นไม้ที่เฉินหลงนั่งอยู่นั้นอยู่ใกล้กับถ้ำ เขาไม่ได้ปกปิดตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่ทั้งสามคนกลับไม่อาจจรับรู้ได้ถึงตัวตนของเฉินหลง แม้แต่ตอนที่ตรวจสอบรอบ ๆ ด้วยการรับรู้วิญญาณก็ไม่ได้พบอะไรอยู่บนต้นไม้เลย
“ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ? ” เฮยหยามองไปที่เฉินหลงอย่างตะลึงงัน เขาถึงกับพูดออกมาตะกุกตะกัก คนที่เขาไม่อาจจะรับรู้ได้ด้วยความสามารถที่เขามีนั้นคือเฉินหลง
แต่ตอนนี้เฉินหลงได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าเขาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่อาจจะตรึงเป้าหมายไปที่เฉินหลงได้ด้วยความสามารถที่เขามี
เฉินหลงเหมือนจะหลอมรวมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่นี่ เขามองเห็นได้จากเพียงแค่สายตา
“เจ้าเป็นใครกัน ? ” ไป่ฉีตะโกนออกมาพร้อมกับสีหน้าที่เริ่มหม่น
“ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นใคร เขาเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้น เขาอาจจะมีสมบัติหรือเข้าใจทักษะพิเศษบางอย่างซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงหลบหลีกการรับรู้ของเราได้” ไป่เฮอพูดขึ้นมา นางกางมือออกพร้อมกับกล้วยไม้สีแดงที่ลอยอยู่บนฝ่ามือก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่เฉินหลง
กล้วยไม้ขยายตัวออกกว้างหลายสิบเมตรในทันที แต่ละใบนั้นใหญ่และเปล่งแสงสีแดงออกมา มันกลืนกินเฉินหลงจากด้านบน ใบไม้แต่ละใบพันรอบตัวเขาไว้ พยายามกินเขาเข้าไป
กล้วยไม้นี้แต่เดิมเป็นแค่เมล็ด มันร่วงลงมาจากอวกาศก่อนจะมาตกตรงหน้าไป่เฮอโดยบังเอิญ ไป่เฮอรู้ว่าเมล็ดนี้พิเศษเพราะมันมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง ดังนั้นนางจึงปลูกมันขึ้นมา เมล็ดนี้สุดท้ายก็กลายเป็นกล้วยไม้ที่งดงาม สุดท้ายมันเติบโตขึ้นมาจนมีสภาพเช่นตอนนี้จากการกลืนกินเลือดเนื้อของผู้บ่มเพาะซึ่งทำให้มันแข็งแกร่งอย่างมาก
เมื่อโดนรัดโดยกล้วยไม้นี้แล้ว แม้แต่ราชาเทพช่วงปลายก็ไม่อาจจะหนีได้
ตลอดหลายปีมานี้มีราชาเทพนับไม่ถ้วนที่ต้องตายเพราะกล้วยไม้นี้
ตอนที่กล้วยไม้นั้นพุ่งเข้าใส่เฉินหลง ทั้งสามคนต่างก็จับตาดูเขาไว้ เฉินหลงนั้นอ่อนแอเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้นแต่เขากลับดูผิดปกติ เขาสามารถหลบหลีกการรับรู้ของทั้งสามได้และทำให้ความสามารถที่เฮยหยามีนั้นไร้ค่า
ปัง !
ตอนนั้นเองกล้วยไม้ที่กินเฉินหลงเข้าไปกลับระเบิดออก กล้วยไม้กระจายออกเป็นชิ้น ๆ
สีหน้าของทั้งสามคนเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกนั้นต่างก็อึ้ง ทั้งสามจับตาดูอยู่ตลอดแต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ” เฮยหยาพูดเสียงสั่น เขาเข้าใจความแข็งแกร่งของกล้วยไม้นี่ มันสามารถกินราชาเทพช่วงปลายได้อย่างง่ายดาย แต่มันกลับระเบิดออกโดยไม่มีเหตุผลตรงหน้าเขา
ไป่ฉีและไป่เฮอเองก็สับสน พวกเขาไม่รู้เลยว่าพลังอะไรกันที่ทำให้กล้วยไม้มีสภาพเช่นนี้ได้
ไป่เฮอหน้าซีดเผือด ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดตอนที่เห็นว่ากล้วยไม้นั้นตายไป
เฉินหลงนั่งอยู่บนกิ่งไม้ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย ตาเขาเป็นประกาย เขาดีใจจนยากจะปกปิดความดีใจที่มีได้
“พวกเจ้ามากันทำไม ? ” ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เจี้ยนเฉินพุ่งผ่านค่ายกลและออกมาจากถ้ำที่เขาเก็บตัวอยู่ เขามองไปยังกล้วยไม้ที่ระเบิดตรงหน้าก่อนจะมองไปที่ไป่ฉี, ไป่เฮอและเฮยหยา
ตอนนี้มีพลังที่แข็งแกร่งหมุนวนรอบตัวเจี้ยนเฉิน ชัดแล้วว่าร่างบรรพกาลของเขาขึ้นไปถึงขั้น 12 ได้สำเร็จแล้ว
“ทั้งสามคนมาที่นี่เพื่อฆ่าเรา” เฉินหลงพูดขึ้นอย่างใจเย็น