เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2056 : เอาชนะไป่ฉี
ตอนที่ 2056 : เอาชนะไป่ฉี
เจี้ยนเฉินแค่นเสียงเย็นชาออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขามองไปยังทั้งสามคนด้วยสายตาคมพริบราวกับกระบี่ ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าขอถามพวกเจ้าได้หรือไม่ว่าเราไปทำอะไรให้องค์ชายห้าขุ่นเคืองจนถึงขั้นต้องส่งพวกเจ้ามาฆ่าพวกเรา ? ”
สองพี่น้องและเฮยหยาไม่ได้ตอบกลับ พวกนั้นกลับมองไปที่เฉินหลงด้วยท่าทีตกตะลึง, สับสนและกลัว
“เจ้าจัดการกับดอกไม้มงคลสวรรค์ของข้าได้ยังไง ? ทำไมดอกไม้มงคลสวรรค์ของข้าถึงได้ระเบิดได้ ? ” ไป่เฮอถามเฉินหลง นางทั้งรู้สึกแปลกใจและหงุดหงิด
“นี่คือพลังที่เจ้าไม่อาจจะเข้าใจรึเชื่อได้ มันจะดีกว่าหากเจ้าไม่รู้ถึงมัน ไม่งั้นแล้วเจ้าคงรับความจริงไม่ได้” เฉินหลงพูดด้วยท่าทีเฉยชา แต่อันที่จริงแล้วในใจเขากลับตื่นเต้นที่ทำลายกล้วยไม้ได้ เขาแทบไม่อาจจะใจเย็นลงได้ด้วยซ้ำ
“ฮึ่ม เจ้าแค่อยากทำตัวลึกลับก็เท่านั้น ! “ ไป่ฉีแค่นเสียงพูดออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต กระบองขนาดใหญ่โผล่มาในมือเขาและเขาก็ได้ฟาดมันเข้าใส่เฉินหลงที่อยู่ห่างไปกว่า 1 กิโลเมตร
กระบองนี้มีขนาดใหญ่อย่างมากตอนที่มันฟาดลงไป ด้ามจับนั้นยาวหลายร้อยเมตรเข้าไปถึงตัวเฉินหลงทันที หัวของกระบองกว้างขึ้นมาหลายร้อยเมตรพร้อมกับพลังงานที่ปะทุออกมา มันเหมือนจะทรงพลังอย่างมาก สีหน้าของเฉินหลงยังคงเดิม เขาเชื่อมต่อกับค่ายกลของภูเขาแห่งนี้ ดังนั้นทั้งเขตนี้จึงเป็นเหมือนเขตของเขา สำหรับเขาแล้วเขาได้กลายเป็นเทพของเขตนี้ ซึ่งเขาสามารถควบคุมชีวิตและความตายของทุกอย่างที่นี่ได้ ด้วยภูมิประเทศที่อยู่ในการควบคุม เฉินหลงจึงมั่นใจอย่างมาก เขารู้สึกว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นบรรพกาลก็ไม่อาจจะทำให้เขาบาดเจ็บได้
นี่เพราะค่ายกลขั้นสูงสุดในภูเขาแห่งนี้
ตอนที่เฉินหลงต้องการจะหยุดคทาของไป่ฉีด้วยค่ายกล เจี้ยนเฉินก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้าแทน ผมและเสื้อผ้าของเขากระพือไปตามลมพร้อมกับพลังที่แผ่ออกมา เขายื่นมือออกไปรับคทาที่กำลังตกลงมา
พลังของกฎแห่งกระบี่ส่องประกายแสงสีขาวออกมาในมือของเขาพร้อมกับพลังบรรพกาลที่แผ่ออกมา
“ฮึ่ม เจ้าคิดจะรับการโจมตีของข้าด้วยมือเปล่าหรือ ? เจ้าคิดว่าเจ้าทำอะไรอยู่ ? ” ไป่ฉีอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเมื่อเห็นท่าทีของเจี้ยนเฉิน เขาเข้าใจพลังในการโจมตีของตนเองดี นี่ไม่ต้องนับเจี้ยนเฉินที่เพิ่งขึ้นมาเป็นราชาเทพเลย แม้แต่ราชาเทพช่วงปลายหลายคนก็ไม่กล้าจะรับการโจมตีนี้โดยตรง
ตูม !
ต่อมาก็เกิดการปะทะขึ้นจนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา พลังอันน่ากลัวระเบิดออกมาราวกับพลุไฟแผ่ออกไปทุกทิศทาง
พายุพลังงานอันน่ากลัวนี้เพียงพอที่จะทำลายเมืองที่โลกภายนอกได้ แต่ในภูเขาแห่งนี้มันกลับทำอะไรไม่ได้เลย สีหน้าเย้ยหยันของไป่ฉีนิ่งไป ก่อนที่สีหน้าเขาจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สายตาเขาเต็มไปด้วยความตะลึง ตอนที่มือของเจี้ยนเฉินปะทะกับกระบองของเขา ไป่ฉีรู้สึกแค่ว่าพลังอันน่ากลัวพุ่งผ่านอาวุธของเขามาทำให้ร่างกายของเขาสั่นจนไม่อาจจะควบคุมได้จนต้องถอยกลับมา แขนเสื้อบนมือข้างที่จับคทานั้นฉีกขาดพร้อมกับง่ามนิ้วของเขาที่ฉีกขาดไปพร้อมกันด้วย
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ! เจ้าเพิ่งขึ้นเป็นราชาเทพ เจ้าจะแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง ? ” ไป่ฉีร้องออกมาและมองไปที่ เจี้ยนเฉินราวกับมองดูสัตว์ประหลาด
ในอีกด้านสายตาของไป่เฮอและ เฮยหยาที่ไม่ได้คิดสนใจเจี้ยนเฉินในตอนแรกนั้นกลับหรี่ลง พวกนั้นต่างก็มองไปยังเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
มันมีราชาเทพมากมายรอบตัวองค์ชายห้า แต่รวมทุกคนแล้ว ไป่ฉีนั้นคือคนที่แก่งที่สุดเป็นรองแค่ปรมาจารย์ชู ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่กลับต้องถอยกลับมาเพราะราชาเทพช่วงต้น นี่ทำลายความคิดพื้นฐานเรื่องความแข็งแกร่งที่พวกเขามี
“ ถ้าข้าไม่แข็งแกร่งแบบนี้ ข้าคงกลายเป็นศพไปแล้ว” เจี้ยนเฉินพูดด้วยท่าทีเฉยเมย ทันทีที่เขาออกจากการบ่มเพาะ เขาก็ได้เจอกับทั้งสามที่ตั้งใจจะมาฆ่าเขา มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมาก
พลังในการสู้ของไป่ฉีนั้นสูงส่ง แม้ว่ามันจะไม่ได้มากเท่ากับราชาเทพช่วงสูงสุดจากในข่าวลือ แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าราชาเทพช่วงปลายทั่วไป ถ้าเจี้ยนเฉินไม่ทะลวงผ่านมาได้ เขาคงตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตเมื่อเผชิญหน้ากับทั้งสามคน
เจี้ยนเฉินพุ่งออกไปและตัดผ่านระยะกว่าพันเมตรโผล่มาตรงหน้าไป่ฉีราวกับหายตัวได้ เขายิงปราณกระบี่ต้าหลัวออกไปด้วยการยกมือขึ้นและเริ่มเข้าต่อสู้กับไป่ฉี
ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นสูงส่งจนยากจะอธิบายได้ ตอนที่เขาสู้กับไป่ฉีด้วยมือเปล่า ทุกการเคลื่อนไหวและการโจมตีนั้นมีพลังอันน่ากลัว เขาสยบไป่ฉีที่มีวัตถุเซียนได้
“อ๊าก ! ” ไป่ฉีคำรามออกมาพร้อมกับพลังที่ระเบิดออกมา เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อใช้ทักษะต่อสู้ระดับสัจจะกับเจี้ยนเฉิน มันมีพายุพลังงานเกิดขึ้นทุกครั้งที่ทั้งสองปะทะกัน พายุนี้แผ่ออกไปโดยรอบ แม้ว่าจะไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับภูเขาแห่งนี้ได้แต่พวกมันก็ทำให้คนที่บ่มเพาะที่นี่แตกตื่น
ไกลออกไปราชาเทพหลายสิบคนเริ่มารวมตัวกัน ทุกคนต่างก็ยืนอยู่บนอากาศและมองดูการต่อสู้จากไกล ๆ
“ราชาเทพช่วงปลายผู้นั้นน่าจะมาจากองค์กรใหญ่ พลังงานดั้งเดิมของเขาทั้งหนาแน่นและบริสุทธิ์ ทักษะการบ่มเพาะของเขาคงโดดเด่น ในเวลาเดียวกันทักษะต่อสู้ที่เขาใช้ก็อยู่ในประเภทที่ดีที่สุด มันอยู่ในขั้น 9 ของระดันสัจจะ ความแข็งแกร่งของเขาตอรนี้แย่กว่าพวกที่ก้าวขึ้นไปยังบัลลังก์ราชาเทพแค่เพียงเล็กน้อย…”
“ ส่วนที่น่าทึ่งคือคู่ต่อสู้ของเขา เขาเหมือนจะเพิ่งขึ้นเป็นราชาเทพเพียงไม่นาน แต่กลับมีพลังอันน่ากลัว มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ…”
“มันยากที่จะคาดเดาได้ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดเมื่อตอนที่เขาเป็นขั้นเหนือเทพ ตอนนี้เขาเพิ่งบรรลุเป็นราชาเทพแต่กลับสามารถรับมือราชาเทพช่วงปลายได้อย่างง่ายดาย…”
…
ราชาเทพโดยรอบต่างก็พากันมองดูเจี้ยนเฉินด้วยความแปลกใจและกลัว
“ชายคนนี้คงเป็นสุดยอดราชาเทพในบัลลังก์ราชาเทพเมื่อเขาเลื่อนระดับเป็นราชาเทพช่วงปลาย เขาต้องขึ้นไปอยู่ร้อยอันดับแรกได้แน่ ๆ เขาอาจจะก้าวข้ามข้าไปได้และขึ้นไปอยู่ในสิบอันดับแรกก็ได้” ราชาเทพชุดดำพูดขึ้นมา มีผู้คนมากมายรายล้อมเขาอยู่ ชัดแล้วว่าฐานะของเขาสูงส่ง
ราชาเทพคนนี้อายุประมาณ 30 ปี เขาปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้ทำให้ดูเหมือนคนธรรมดา แต่เขาเหมือนกับมีความสง่าเหมือนกับขุนนาง
เขาคือราชาในอนาคต ผู้ปกครองโลกที่กำลังเติบโตอยู่ !
“นายน้อยพูดถูก ชายคนนี้โดดเด่นจริง ๆ และอนาคตของเขาคงไร้ขีดจำกัด แน่นอนหากชายคนนี้เติบโตได้สำเร็จ ยังไงซะก็มีพวกแปลกประหลาดที่แข็งแกร่งมากมายในประวัติศาสตร์ของโลกเซียน แต่ส่วนมากได้ตายไปก่อนที่จะได้เติบโตเต็มที่ ในเวลาเดียวกันก็มีไม่กี่คนที่ก้าวไปยังจุดสูงสุดได้” ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังชายชุดดำพูดขึ้น