เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2058 : กล้วยไม้กลืนกิน
ตอนที่ 2058 : กล้วยไม้กลืนกิน
เฮยหยาพูดอะไรไม่ออก จากนั้นเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา การสาบานนี้เท่ากับการหักหลังองค์ชายห้า
“เจ้าไม่คิดจะตกลงสินะ ? ” เจี้ยนเฉินเอ่ยขึ้นมา
“ข้า…” เฮยหยาลังเล เมื่อเขาคิดถึงการที่เจี้ยนเฉินสามารถฆ่าไป่ฉีและไป่เฮอได้อย่างง่ายดาย ทั้งสองร่วมมือกับรวมถึงการที่เขาเพิ่งขึ้นเป็นราชาเทพได้ไม่นาน เฮยหยาก็ตัดสินใจได้ เขากัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา “ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะยอม แต่เจ้าต้องรับรองว่ากลุ่มขององค์ชายห้าจะไม่สามารถออกไปจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ไม่งั้นแล้วหากองค์ชายห้ารู้ว่าข้าหักหลังเขา ตระกูลของข้าได้ถูกทำลายแน่ ถ้าเจ้าทำแบบนั้นไม่ได้ งั้นข้ายอมตายด้วยน้ำมือของเจ้าดีกว่าการที่ตระกูลข้าจะถูกทำลาย” เฮยหยาเหมือนจะไม่ได้ผูกพันธ์อะไรกับองค์ชายห้า จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้เต็มใจจะมาเป็นองครักษ์ให้กับองค์ชายห้าด้วยซ้ำ มันเป็นองค์ชายห้าที่ขู่เขาและบังคับเขา ดังนั้นเขาจึงแค้นเคืององค์ชายห้ามาโดยตลอด
“ได้ ข้าตกลง” เจี้ยนเฉินตอบกลับโดยไม่ลังเล ความสามารถที่เฮยหยามีนั้นทำให้เจี้ยนเฉินพอใจ มันคงจะมีประโยชน์ในไม่ช้า ยิ่งกว่านั้นเขาก็มีความบาดหมางกับองค์ชายห้าเนื่องจากเขาฆ่าลูกน้องของอีกฝ่ายไป องค์ชายห้าคงไม่ยอมปล่อยวางเรื่องนี้แน่ ดังนั้นคงเกิดการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายในไม่ช้า
หลังจากนั้นเฮยหยาก็ทำพันธสัญญาโลหิตว่าจะจงรักภักดีต่อเจี้ยนเฉิน แต่เขายังคงย้ำว่าตราบใดที่องค์ชายห้ายังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่เลือกอยู่ข้างเจี้ยนเฉิน
“ข้าแค่ต้องออกจากที่นี่และหาที่ซ่อนตัว ข้าไม่อาจจะให้องค์ชายห้ารู้ได้ว่าข้าหักหลังเขา ไม่เช่นนั้นเมื่อเขาออกจากที่นี่ไปได้ ตระกูลของข้าคงจบสิ้น” เฮยหยาพูดด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“เจ้าอยู่ในภูเขาแห่งนี้ได้ ที่นี่ปลอดภัย ไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ หากองค์ชายห้ามาที่นี่ แม้ว่าเขาจะมีพวกอยู่ในบัลลังก์ราฃาเทพคอยปกป้อง แต่พวกนั้นนั่นแหละที่จะตาย” เฉินหลงพูดขึ้น
เฮยหยามองไปที่เฉินหลงและอดไม่ได้ที่จะคิดถึงกล้วยไม้ของไป่เฮอที่ระเบิดโดยไม่มีเหตุผล เขาได้ถามออกมาด้วยความกลัว “เจ้าใช้ลูกไม้อะไรหรือตอนที่ข้าพยายามจะหนีก่อนหน้านี้ ? ”
เฉินหลงพยักหน้า
“ก็ได้ ข้าจะอยู่ในภูเขาแห่งนี้ไปก่อน” เฮยหยาตกลงทันทีด้วยท่าทีตรงไปตรงมา
หลังจากนั้นเฮยหยาก็หาถ้ำอยู่ใกล้ ๆ เพื่อพำนักอยู่ เจี้ยนเฉินมองไปที่เฉินหลงและถามขึ้นมา “ดูเหมือนว่าเจ้าเองก็พบกับโชค เจ้าทำให้ข้าแปลกใจตอนที่เจ้าทำลายกล้วยไม้นั่น และข้าก็ไม่รู้เลยว่าเจ้าหยุดเฮยหยาไว้ได้อย่างไร”
เฉินหลงถอนหายใจออกมา “ข้าเจอโชคเข้าจริง ๆ เจี้ยนเฉิน ถ้าข้าบอกว่าข้าฆ่าพวกขั้นอสงไขยได้อย่างง่ายดายที่นี่ เจ้าจะเชื่อข้ารึไม่ ? ”
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายและมองไปที่เฉินหลง เขามองดูเฉินหลง อยู่สักพัก หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น “ข้าเชื่อเจ้า แต่เจ้าได้พลังนี้มาได้ยังไงกัน ? ”
“ข้าสามารถควบคุมค่ายกลของจอมปราชญ์สูงสุดในภูเขาแห่งนี้ได้ ทั้งภูเขานี้เป็นอาณาเขตของข้า” เฉินหลงไม่ได้ปิดบังอะไรเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินหรี่ตาลงด้วยความตะลึงและยากจะสงบสติอารมณ์ไว้ได้
หลังจากนั้นสักพักเขาก็ถอนหายใจออกมาและสงบสติอารมณ์ตัวเอง เขามองไปที่เศษกล้วยไม้ เขารู้แล้ว่ามันถูกทำลายโดยค่ายกลของจอมปราชญ์สูงสุดภายใต้การควบคุมของเฉินหลง
ทันใดนั้นตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่ลง ในพริบตาเขาก็โผล่มาข้าง ๆ เศษกล้วยไม้และพบเมล็ดขนาดเท่ากับนิ้วโป้งภายในรากที่แตกออก มันส่องประกายด้วยแสงที่พร่ามัว พลังชีวิตที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่ภายในเมล็ด พลังของมันโดดเด่นอย่างมาก
“ หืม ? นายท่าน นี่มันกล้วยไม้กลืนกินอมตะ” ตอนนั้นเสียงของจิตวิญญาณกระบี่ก็ดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน อีกครั้ง มันนานแล้วตั้งแต่ที่พวกเขาพูดคุยกัน
“กล้วยไม้กลืนกินนี้มาจากโลกอมตะและเติบโตแค่ในโลกอมตะ กล้วยไม้นี้เติบโตด้วยการกินร่างชีวิต ทำให้มันเติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษและแม้แต่ในโลกอมตะก็ยังหายาก มีหลายนิกายใหญ่และองค์กรใหญ่ที่ปลูกกล้วยไม้กลืนกินนี้เอาไว้เป็นภูติคุ้มกันองค์กร” จิตวิญญาณกระบี่พูดขึ้น
“แม้ว่าโลกเซียนและโลกอมตะจะอยู่คนละฝั่งกัน แต่บางคนก็ยังข้ามมายังอีกโลก กล้วยไม้กลืนกินนี้มาจากโลกอมตะ ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้เลย มันแค่ว่าในโลกเซียนนั้นมีหลายคนที่ไม่รู้จักมันและพวกเขาไม่รู้ค่าที่แท้จริงของมัน ไม่งั้นแล้วมันคงไม่ถูกมองข้ามเช่นนี้”
“แต่กล้วยไม้กลืนกินนี่ตายแล้ว มันเหลือแค่เมล็ด” เจี้ยนเฉินถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า
“นายท่าน กล้วยไม้กลืนกินเติบโตขึ้นจากเมล็ดเช่นนี้ เมล็ดในมือท่านมีค่าเท่ากับลูกของกล้วยไม้กลืนกินที่ตายไป ท่านแต่ต้องหยดเลือดของท่านลงบนเมล็ดเพื่อที่มันจะได้รับรู้ตัวตนของท่าน ด้วยวิธีนี้เมื่อมันเติบโตขึ้นมา มันจะถือว่าท่านเป็นเจ้าของมัน ยิ่งกว่านั้นเลือดของท่านก็เป็นเลือดบรรพกาล ดังนั้นกล้วยไม้กลืนกินนี่จะพัฒนาเพราะเลือดของท่าน กล้วยไม้นี่เป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ มันเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ข้าเชื่อว่ามันจะช่วยท่านได้อย่างมากในไม่ช้า” น้ำเสียงอันนุ่มนวลของฉิงโซวดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน เร่งให้เขาหยดเลือดใส่เมล็ดกล้วยไม้นี่
เจี้ยนเฉินไม่ได้หยดเลือดของเขาลงไปทันที เขากลับขอเมล็ดนี้จากเฉินหลง ยังไงซะกล้วยไม้กลืนกินนี่ก็ถูกเฉินหลงทำลายลงได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นของของอีกฝ่าย
“เมื่อเจ้าสนใจมันก็เอามันไปเถอะ” เฉินหลงไม่ได้รังเกียจ อันที่จริงเขากับเจี้ยนเฉินก็ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมายระหว่างการเดินทางจากที่ราบเมฆา พวกเขาผ่านการต่อสู้เป็นตายมาด้วยกัน พวกเขาถือว่าเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เจี้ยนเฉินไม่ลังเลอีกต่อไป เขาหยดเลือดบรรพกาลลงบนเมล็ด จากนั้นเลือดก็จมลงไปในเมล็ดเงียบ ๆ
หลังจากที่ดูดซับเลือดเข้าไป พลังชีวิตในเมล็ดเหมือนจะแข็งแรงขึ้น ในเวลาเดียวกันมันก็เปล่งแสงออกมาสว่างกว่าเดิม
“เมล็ดนี่พัฒนาจริง ๆ การพัฒนาอาจจะต้องใช้เวลาอยู่หลายวัน” เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะแอบตื่นเต้นไปด้วย เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในเมล็ด เขารู้ว่าจิตวิญญาณกระบี่นั้นไม่ได้โกหก เนื่องจากเมล็ดนี่จะมีประโยชน์ในไม่ช้า มันก็ทำให้เขาดีใจขึ้นมา
“เจี้ยนเฉิน เกิดอะไรขึ้นกัน ? ” ตอนนั้นไคยะได้ออกมาจากถ้ำและมองไปที่ศพของไป่ฉีกับไป่เฮอ รวมถึงเลือดที่อาบตัวเจี้ยนเฉิน นางถึงกับขมวดคิ้ว
“ไคยะ เจ้าเป็นราชาเทพแล้ว” เจี้ยนเฉินมองไปที่ไคยะและตื่นเต้นขึ้นมา จากนั้นเขาก็บอกนางทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
แววตาของไคยะดูเย็นชาขึ้นมาหลังจากที่รู้ทุกอย่าง นางพูดขึ้น “องค์ชายห้ายโสเกินไปแล้ว เขาคิดว่าเขาทำอะไรก็ได้ตามใจด้วยพลังน้อยนิดที่เขามีงั้นรึ ? ”
สีหน้าของเจี้ยนเฉินนิ่งไป เขามองไปที่ไคยะและถามออกด้วยความกังวล “ไคยะ เจ้าเป็นอะไรไปหรือไม่ ? ”
เพราะบางอย่าง ไคยะในตอนนี้เหมือนจะแปลกไปจากเดิม เสียงของนางดูหยิ่งยโสราวกับดูถูกทุกคนอยู่
มันมีคนเกือบ 50 คนรอบตัวองค์ชายห้ารวมไปถึงปรมาจารย์ชูที่ใช้วัตถุเทพ นี่ถือว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่ง แต่ ไคยะกลับบอกว่าพลังน้อยนิด
ไคยะไม่ได้เป็นแบบนี้ตามที่เจี้ยนเฉินเข้าใจมา แม้ว่านางจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเอาชนะคนขององค์ชายห้าได้ แต่นางก็จะไม่พูดอะไรแบบนี้ออกมา
เฉินหลงมองไปที่ไคยะด้วยความแปลกใจและสงสัย แม้ว่าเขาจะเพิ่งเจอกับไคยะ แต่เขาก็รู้ว่านางเป็นคนแบบไหนและมีนิสัยเช่นไร เฉินหลงเองก็รู้สึกว่าสิ่งที่ไคยะพูดมานั้นดูแปลกไปจากเดิม
แต่ความไม่คุ้นเคยนี้กลับเหมือนคุ้นเคยอย่างมากราวกับว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้ มันทำให้เฉินหลงรู้สึกขัดแย้งขึ้นมาในใจ