เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2064 : รอด 1 ตาย 4
ตอนที่ 2064 : รอด 1 ตาย 4
อึก !
รูขนาดเท่ากับนิ้วมือปรากฎขึ้นมาที่หน้าผากของราชาเทพช่วงปลาย หัวของนางถูกแทงทะลุจนทำให้มีของเหลวสีแดงและขาวไหลออกมาจากหลังหัวของนาง วิญญาณของนางถูกทำลายไปโดยตรง
ตาของนางเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ นางไม่เชื่อว่าราชาเทพช่วงต้นจะน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้ ผลลัพธ์ก็คอแม้ว่านางจะตายไปแต่นางก็ไม่อาจจะตายตาหลับได้
ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ได้เข้าปะทะกับราชาเทพผู้ชาย พลังบรรพกาลแผ่ไปทั่วตัวของเขา มันน่ากลัวอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นกฎแห่งกระบี่ก็หมุนวนรอบตัวเขาและเพียงแค่คิด ปราณกระบี่ก็อัดแน่นขึ้นมาที่มือเขาพร้อมกับส่องแสงออกมา เขาฟันมันออกไปพร้อมกับพลังบรรพกาล โจมตีเข้าใส่ราชาเทพช่วงปลายโดยตรง
“เจ้าที่เป็นราชาเทพช่วงต้นกลับมองข้ามข้าและเจ้ายังประเมินตัวเองสูงเกินไป และต้องการจะเผชิญหน้ากับข้าโดยตรง เจ้ากล้าดีจริง ๆ ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงพลังของราชาเทพช่วงปลาย เพื่อที่เจ้าจะได้เข้าใจเองกว่าความต่างเรื่องระดับชั้นมันต่างกันเพียงใด” ชายคนนั้นฮึดฮัดอกมา เขามองเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับกระบี่ในมือที่แผ่พลังงานออกมา เขาแทงเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยพลังของกฎในขั้นราชาเทพช่วงปลาย
ตอนนี้เจี้ยนเฉินเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้น ในด้านของกฎแล้ว มันยังมีความต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับราชาเทพช่วงปลาย แม้แต่ความจริงที่ว่ากฎแห่งกระบี่จะมีพลังโจมตีที่มากที่สุด แต่มันก็ไม่อาจจะทดแทนความต่างนี้ได้
ผลก็คือตอนที่ปะทะกันนั้น เจี้ยนเฉินไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบในด้านของกฎ แต่พลังบรรพกาลของเขานั้นโดดเด่น มันมีพลังที่น่าเหลือเชื่อ พลังบรรพกาลในปราณกระบี่แผ่ออกมาอย่างรุนแรงและตัดผ่านกฎของราชาเทพช่วงกลางไปได้อย่างง่ายดายและทำให้การโจมตีนั้นสลายไป
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ เจ้าเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้น เจ้ากันการโจมตีของข้าได้ยังไง ? ” ตาของชายคนนั้นหรี่ลง สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความตะลึง เขาไม่ใช่แค่ตะลึงกับการที่เจี้ยนเฉินสามารถกันการโจมตีของเขาได้ แต่ยังเพราะพลังในการโจมตีของเจี้ยนเฉินด้วย
พลังของการโจมตีที่ส่งถึงเขาทำให้เขาตะลึง แม้ว่าเขาจะเป็นราชาเทพช่วงปลายก็ตาม มือขวาของเขาจนทำให้เขาไม่อาจจะรับรู้ถึงมันได้อีก ง่ามมือที่จับกระบี่นั้นฉีกขาดจนทำให้เลือดไหลออกมาพร้อมกับกระดูกที่นิ้วที่แตกออก
“จะ เจ้าปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้ตอนที่อยู่ในสวนรึ ? ตะ แต่ชัดเจนแล้วว่าเจ้าเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้น เจ้ามีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ยังไง ? จะ เจ้าเป็นสัตว์เทวะรึไง ? ” ชายคนนั้นร้องออกมาพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไร สายตาเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต แค่เพียงคิดปราณกระบี่ต้าหลัวในมือก็ก่อตัวขึ้นมา มันพุ่งตรงเข้าไปที่หน้าผากของอีกฝ่ายในรูปแบบของเส้นแสงสีทอง
แม้ว่าชายคนนี้จะเป็นราชาเทพช่วงปลาย แต่เขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับไป่ฉีหรือไป่เฮอ เจี้ยนเฉินสามารถฆ่าสองพี่น้องนั้นได้ทั้งที่สองคนนั้นร่วมมือกัน ดังนั้นการฆ่าชายคนนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก
การต่อสู้กินเวลาไม่นาน ไคยะและเจี้ยนเฉินต่างก็ฆ่าคู่ต่อสู้ของตัวเอง แม้ว่าจะมีรากฐานการบ่มเพาะที่ดีกว่า แต่สถานการณ์ของเฉินหลงและเสี่ยวเจิ้งนั้นไม่ได้ดีเท่ากับทั้งคู่
เฉินหลงรับการโจมตีจากราชาเทพช่วงปลายที่เป็นคู่มือ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญค่ายกล ดังนั้นเขาจึงชำนาญเส้นทางแห่งค่ายกล ถ้าเขาสามารถใช้ค่ายกลของตัวเองได้ เขาก็สามารถฆ่าราชาเทพช่วงปลายได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อไม่มีค่ายกล แม้แต่ราชาเทพช่วงต้นก็สร้างปัญหาให้กับเขาได้
ราชาเทพช่วงปลายที่สู้กับเฉินหลงรู้อยู่แล้วว่าเฉินหลงนั้นเชี่ยวชาญด้านค่ายกล ดังนั้นเขาจึงกระหน่ำโจมตีตั้งแต่ต้นเพื่อไม่ให้เฉินหลงมีเวลาสร้างค่ายกลขึ้นมา ผลก็คือเฉินหลงกระอักเลือดออกมา เขาบาดเจ็บสาหัส ถ้าไม่ใช่เพราะแผ่นอาคมที่ปกป้องเขา เขาอาจจะบาดเจ็บหนักกว่านี้
เสี่ยวเจิ้งเองก็เสียเปรียบจนต้องถอยกลับไปเพราะราชาเทพช่วงกลาง แต่โชคดีที่เสี่ยวเจิ้งไม่ใช่ราชาเทพช่วงต้นที่อ่อนแอ แม้ว่าพลังของเขาจะเทียบไม่ได้กับพวกระดับสูงก็ตาม เมื่อรวมกับการที่เขาเป็นราชาเทพช่วงต้นตอนปลายและห่างจากช่วงกลางแค่เพียงเล็กน้อย เขาจึงสามารถรับการโจมตีจากราชาเทพช่วงกลางได้สักพัก
ผู้อาวุโสหยิงยืนกอดอกมองดูการต่อสู้อยู่ห่าง ๆ เขายิ้มออกมาเล็กน้อย เขาเริ่มคิดถึงการแบ่งสมบัติสวรรค์ที่จะได้มา แต่ไม่นานสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เขามองไปยังราชาเทพช่วงปลายทั้งสองคนที่โดนเจี้ยนเฉินและไคยะฆ่าพร้อมกับใจที่หล่นวูบ
“ไม่นะ เรามีปัญหาแล้ว พวกนี้มันหมาป่าในคราบลูกแกะ ผู้อาวุโสซี หนีเร็วเข้า ไปซะ ! ” ผู้อาวุโสหยิงตะโกนบอกผู้อาวุโสซี เขาเองก็ไม่เสียเวลา เขาหันกลับและหนีออกไปโดยไม่สนใจคนของตัวเอง
ราชาเทพช่วงปลายทั้งสองที่เจี้ยนเฉินและไคยะฆ่าไปนั้นมีความแข็งแกร่งพอ ๆ กับเขา พวกนั้นโดนฆ่าอย่างง่ายดาย ดังนั้นทั้งสองคนคงฆ่าผู้อาวุโสหยิงได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ผู้อาวุโสหยิงเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหนีโดยไม่ลังเลหลังจากที่เห็นสหายทั้งสองคนตายไป
“อสนีบาต ! ”
ตาของเจี้ยนเฉินจับจ้องไปยังผู้อาวุโสหยิง และเขาก็ได้ไล่ตามอีกฝ่ายไปเพื่อหยุดอีกฝ่ายไม่ให้หนี ไคยะนั้นกลับกัน นางเข้าไปช่วยเฉินหลงโดยการไปขวางหน้าราชาเทพช่วงปลายให้
สีหน้าของผู้อาวุโสบิดเบี้ยวไปเมื่อเผชิญหน้ากับเจี้ยนเฉินที่เป็นราชาเทพช่วงต้นแต่กลับมีพลังอันน่ากลัว เขาได้ตะโกนบอกกับผู้อาวุโสซีที่หนีไปอีกทาง “ผู้อาวุโสซี อย่าลืมบอกข่าวที่ว่าพวกนี้มีสมบัติสวรรค์ระดับเทพ 266 ชิ้น ! เราปล่อยพวกนี้ไปไม่ได้ เราไม่อาจจะให้พวกนี้ได้สมบัติสวรรค์ระดับเทพมากมายแบบนี้ไปได้ ! ” ตอนที่พูดนั้น ผู้อาวุโสหยิงไม่ได้สู้กับเจี้ยนเฉิน เขาใช้ทักษะลับเพื่อหนีต่อ แต่จู่ ๆ ก็มีปราณกระบี่พุ่งทะลุอกของเขาไป
คำพูดของผู้อาวุโสหยิงนั้นทำให้เจี้ยนเฉินรู้ว่าผู้อาวุโสซีกำลังหนีไป ดังนั้นผู้อาวุโสซีจะทำให้เขาไขว้เขวและใช้โอกาสนี้ในการหนี แต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะหนีได้
ผู้อาวุโสซีเข้าใจความคิดของผู้อาวุโสหยิงดี สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันทีและนางก็ได้สบถออกมาก่อนจะใช้เครื่องรางในแหวนมิติโดยไม่ลังเล มันสร้างม่านพลังรอบตัวนาง จากนั้นนางก็ใช้ทักษะลับเพื่อเร่งความเร็วของตัวเองด้วยการเผาแก่นเลือดของตน
เป็นธรรมดาที่เจี้ยนเฉินไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสซีหนีไปได้ ไม่งั้นนางคงบอกข่าวการที่พวกเขามีสมบัติสวรรค์ระดับเทพมากมาย แค่เพียงคิด เขาก็ยิงปราณกระบี่เข้าใส่ผู้อาวุโสซีทันที
ตูม !
ปราณกระบี่ลึกซึ้งที่ทรงพลังพุ่งปะทะกับม่านพลังรอบตัว ผู้อาวุโสซีจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ม่านพลังสั่นไหวอย่างรุนแรงแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พังลง ผู้อาวุโสซีพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่ากลัวหลังจากที่เผาแก่นเลือดของตน นางหายไปที่เส้นขอบฟ้าในพริบตา
“เครื่อไงรางนั่นน่าประทับใจกับการที่มันป้องกันปราณกระบี่ลึกซึ้งของข้าได้ มันน่าจะมาจากผู้ที่อยู่ในขอบเขตตั้งต้น” เจี้ยนเฉินตะลึงและสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้ฆ่าผู้อาวุโสหยิงด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว นอกจากผู้อาวุโสซีที่หนีไปได้แล้ว คนอื่น ๆ จากนิกายเมฆขาวโดนฆ่าหมด ในกลุ่มของเจี้ยนเฉินมีแค่เฉินหลงที่บาดเจ็บสาหัส ส่วนเสี่ยวเจิ้งบาดเจ็บแค่เล็กน้อย
“เราปิดความลับกับการที่เราได้สมบัติสวรรค์ระดับเทพมากมายมาไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาในอนาคต ” เฉินหลงพูดขึ้นแต่เขาไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย