เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2065 : ดวงจันทร์เนปจูน (1)
ตอนที่ 2065 : ดวงจันทร์เนปจูน (1)
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมากับคำพูดของเฉินหลง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เราต่างจากแต่ก่อนแล้ว ไคยะกับข้าต่างก็เป็นราชาเทพ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครเป็นภัยต่อเราในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนแห่งนี้ แม้ความจริงนี้จะรั่วไหลออกไป แต่ข้าก็เชื่อว่าเรายังเก็บสมบัติสวรรค์พวกนี้ไว้ได้ด้วยความแข็งแกร่งที่เรามี แม้ว่ามันจะรั่วไหลออกไปจริง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อที่พวกนี้พูด “
เจี้ยนเฉินเหมือนจะคิดบางอย่างออกตอนที่พูดถึงจุดนี้ เขาเริ่มสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา “สิ่งที่เราควรระวังจริง ๆ คือคนด้านนอกพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน มันยังมีตัวตนที่น่ากลัวอย่างพวกขั้นอสงไขยอยู่ เราไม่ต่างอะไรจากมดต่อหน้าคนพวกนั้น “
“เจี้ยนเฉินพูดถูก แม้ว่าข้อมูลนี้จะรั่วไหลออกไปแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อ และมันก็มีคนไม่มั่นใจว่าเราจะมีสมบัติสวรรค์พวกนั้นกับตัวหากไม่ตรวจสอบแหวนมิติ ด้วยความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินมี มันคงเป็นแค่ความหวังที่พวกนั้นจะต้องการตรวจสอบแหวนมิติของเจ้า” เสี่ยวเจิ้งพูดขึ้นและมองไปที่เจี้ยนเฉินกับไคยะด้วยความชื่นชม
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อย เขาเห็นด้วยกับคำพูดของเสี่ยวเจิ้ง
หลังจากนั้นพวกเขาก็เก็บแหวนมิติของราชาเทพทั้งสี่ เมื่อเห็นศพพวกนั้น เจี้ยนเฉินก็คิดสักพัก จากนั้นก็มีกล้วยไม้ขนาดเท่ากับฝ่ามือสีชมพูปรากฏขึ้นมาในมือของเขา
กล้วยไม้นี้พัฒนาขึ้นมาจากเมล็ดของกล้วยไม้กลืนกิน หลังจากที่ดูดซับเลือดบรรพกาลของเขาเข้าไปถึงแม้ว่ามันจะไม่บริสุทธิ์แต่ก็สามารถจะเติบโตขึ้นมาได้และตอนที่พวกเขาเก็บสมบัติสวรรค์กันเสร็จ เมล็ดนี้ก็เติบโตกลายเป็นดอกไม้สีชมพู
กล้วยไม้นี่โดดเด่นอย่างมาก ทันทีที่มันบานออก มันก็มีความคิดและสติของตัวเอง มันยังไม่เพียงพอที่จะสื่อสารกับเจี้ยนเฉินได้ แต่เขารู้สึกได้ถึงอารมณ์จากความคิดของมันได้
เจี้ยนเฉินยกดอกไม้กลืนกินเข้าไปใกล้กศพของราชาเทพทั้งสี่และคิด
เขาเรียนรู้จากจิตกระบี่ว่ากล้วยไม้กลืนกินนั้นจะเติบโตด้วยการกินผู้เป็นอมตะ ดังนั้นเขาต้องการดูว่าราชาเทพเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อกล้วยไม้รึไม่
มันไม่ต่างอะไรกันมากระหว่างผู้บ่มเพาะและผู้ที่เป็นอมตะในโลกเซียนกับโลกอมตะ พวกเขาต่างก็ดูดซับพลังงานของโลกและทำความเข้าใจกฎของโลกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ความต่างเป็นเพียงแค่ชื่อ แต่ตอนที่กล้วยไม้เข้าไปใกล้ศพ มันกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง ใบของมันบานออกทันที ความคิดที่พร่ามัวแฝงไปด้วยความกลัวปรากฏขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินแปลกใจก่อนจะเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที เขาดึงเอาดอกไม้ออกห่างจากศพทันที
แม้ว่ากล้วยไม้นี่จะโดดเด่นแต่มันยังคงอ่อนแอ ศพและเลือดของราชาเทพนั้นน่ากลัวเกินไปสำหรับมัน แม้แต่เลือดเพียงหยดเดียวก็มีพลังเพียงพอทำลายมันนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นมันจึงไม่กล้าที่จะแตะต้องศพพวกนี้ นี่ไม่ต้องนับการกินพวกนี้เข้าไปเลย
“ดูเหมือนว่าข้าต้องไปทีละขั้น ๆ เพื่อทำให้เจ้าเติบโตขึ้นมา มันคงไม่มีทางลัด” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นด้วยความผิดหวัง เขาเก็บกล้วยไม้ไปก่อนจะดินทางกลับกันไปพร้อมกับคนอื่น ๆ
ไม่นานทั้งสี่คนก็ได้มาพบกับราชาเทพหลายสิบคน ตอนที่พวกนั้นเห็นกลุ่มของเจี้ยนเฉิน พวกนั้นก็ร้องออกมาด้วยความแปลกใจและดีใจ พวกนั้นเข้าล้อมพวกเจี้ยนเฉินโดยไม่ลังเล
“เจี้ยนเฉิน ในที่สุดเราก็พบเจ้า เราหาเจ้ามานานแล้ว” ราชาเทพมองมายังทั้งสี่คนและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พวกเขาตื่นเต้นกันอย่างมาก
“ทุกคน ข้าขอถามได้รึไม่ว่าพวกเจ้าตามหาเราทำไม ? ” เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว
“ทำไมรึ ? ฮ่าฮ่า เพื่อสมบัติสวรรค์น่ะสิ สวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างใหญ่ แต่เจ้ากลับเก็บกวาดสมบัติสวรรค์ไปกว่า 1 ใน 4 และเจ้าต้องการเก็บมันไว้กับตัวเอง ไม่ใช่ว่าเจ้าโลภมากไปหน่อยรึไง ? เจ้าต้องแบ่งมันกับเรา ใช่หรือไม่ทุกคน ? ” ราชาเทพคนหนึ่งแค่นเสียงออกมา
“ถูกต้องแล้ว เราต้องการไม่มากหรอก เราแค่ต้องการมันครึ่งหนึ่ง ไม่สิ แค่ 1 ใน 3 ก็พอ ถ้าเจ้ายกมันให้กับเรา เราจะกลับไปทันที”
“ เร็วเข้า รีบส่งมันมา เราไม่ได้ต้องการมากนัก แค่ 1 ใน 3”
….
ราชาเทพต่างก็พากันพูดออกมาราวกับนี่เป็นเรื่องเร่งด่วน พวกนั้นต้องการสมบัติสวรรค์และกลับไปทันที พวกเขาต้องการแค่ 1 ใน 3 เพราะทุกคนรู้ว่ามีราชาเทพมากมายในชั้น 9 ตามหาตัวเจี้ยนเฉินอยู่ และมันจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าพวกเขาชิงมันไปหมด พวกเขาคงรักษามันไว้ไม่ได้ด้วยความแข็งแกร่งที่พวกเขามี ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการแค่เพียงบางส่วนและจากไปตอนที่คนอื่น ๆ มาแย่งชิงส่วนที่เหลือ
“เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าเรามีสมบัติสวรรค์กับตัวเพราะคนอื่นบอกแบบนั้น ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไปจากสีหน้าของคนเหล่านี้ ไม่ว่าเขาจะมองยังไงก็ตาม มันก็ราวกับว่าพวกนี้มั่นใจว่าเขามีสมบัติสวรรค์กับตัวและไม่ได้เคลือบแคลงใจในเรื่องนี้
“ฮ่าฮ่า ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดแบบนี้ เจ้าไม่รู้รึไงว่ามีคนมองย้อนเวลาได้ตอนที่เจ้าอยู่ในสวนนั่น ดังนั้นสิ่งที่เจ้าทำนั้นก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป” ราชาเทพคนหนึ่งหัวเราะออกมา
“มองย้อนเวลา ? อย่างนั้นรึ ? ” สีหน้าของเจี้ยนเฉินหม่นลง แม้แต่ไคยะ, เฉินหลงและเสี่ยวเจิ้งก็สีหน้าบิดเบี้ยวไป
พวกเขาคงไม่กังวลหากมีใครบอกเรื่องนี้เพราะคำพูดของคนใช่ว่าจะเชื่อถือได้เสมอ น้อยคนนักที่จะเชื่อมัน แต่การมองย้อนเวลาและเผยอดีตนั้นต่างออกไป มันคือหลักฐานที่ไม่อาจจะสงสัยได้
“เจ้าต้องการสมบัติสวรรค์ระดับเทพรึ ? ไปเก็บที่สวนกันเองสิ” เจี้ยนเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เมื่อเจ้าไม่คิดจะส่งมันมา เราก็คงได้แต่ชิงเอามันมา พี่น้อง ร่วมมือกัน เมื่อเราฆ่าพวกนี้ได้ เราจะแบ่งสมบัติสวรรค์ระดับเทพกันอย่างเท่าเทียม เราไม่อาจจะเสียเวลาได้” เมื่อชายคนนี้พูดจบ ทุกคนก็ได้เข้าโจมตีกลุ่มของเจี้ยนเฉินกันทันที
แต่ความแข็งแกร่งที่พวกนี้มีชัดแล้วว่าแตกต่างกันออกไป แม้ว่าคนฝ่ายที่พูดจะมีคนหลายสิบคนซึ่งได้เปรียบเรื่องจำนวน แต่พวกนี้มีราชาเทพช่วงปลายแค่เพียง 4 คน คนที่เหลืออยู่เพียงช่วงต้นและกลางเท่านั้น ความแข็งแกร่งของพวกนี้ธรรมดา ดังนั้นพวกนี้จะเป็นคู่มือของเจี้ยนเฉินกับไคยะได้ยังไง ?
ผลก็คือทันทีที่เกิดการต่อสู้ขึ้น มันก็เป็นการอัดอยู่ฝ่ายเดียว เจี้ยนเฉินและไคยะได้ฆ่าราชาเทพไปจำนวนมาก ราชาเทพช่วงต้นถึงกับตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว