เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2073 : ห้อมล้อม
ตอนที่ 2073 : ห้อมล้อม
ราชาเทพที่ไล่ตามจื่อหยุนในตอนแรกนั้นถูกสลัดหลุดตั้งแต่ที่นางได้เผาแก่นเลือดของนาง แต่ตอนนี้ทุกคนกลับตามมาทันแล้ว พวกนี้มีกันกว่า 50-60 คนและทุกคนก็แผ่พลังที่แข็งแกร่งออกมา พวกนี้ล้อมเขาไว้ไม่เปิดช่องทางให้หนี
ยิ่งกว่านั้นตอนที่พวกนี้ไล่ตามมานั้น พวกนี้ก็ได้เรียกเพื่อนและคนของตัวเองในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนมาด้วย มันเท่ากับการเพิ่มจำนวนราชาเทพขึ้นไปอีก
ราชาเทพที่ล้อมพวกเขาไว้เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเกิดวงล้อมขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบ เจี้ยนเฉิน, ไคยะ และคนอื่น ๆ เอาไว้
พวกนี้ต่างก็มองไปที่จื่อหยุน แม้แต่พวกที่มาจากกลุ่มเดียวกันก็ไม่อาจจะต้านทานความโลภจากมรดกจากขั้นบรรพกาลได้
แต่ไม่มีใครกล้าโจมตีก่อน พวกเขายังคงรักษาระยะห่างกันไว้และมองไปที่จื่อหยุน รวมทั้งระวังคนรอบตัว
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และขมวดคิ้ว นักฆ่าที่ใช้กฎความมืดได้โจมตีพวกเขามาก่อนแล้วซึ่งทำให้พวกเขาเสียเวลา หลังจากนั้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เสี่ยวม่าน พวกเขาจึงเสียเวลาเพิ่มขึ้นไปอีกซึ่งทำให้เสียโอกาสที่จะหนีและตกอยู่ในวงล้อม
เจี้ยนเฉินมองไปยังเสี่ยวม่านและรู้สึกว่าเริ่มมีปัญหา ด้วยความแข็งแกร่งที่เขากับไคยะมีแล้ว เขามั่นใจว่าทั้งสองหนีออกจากวงล้อมนี้ไปได้ตราบใดที่พวกในบัลลังก์ราชาเทพไม่ปรากฏตัวขึ้นมา แต่เขาไม่อาจจะเข้าใกล้เสี่ยวม่านได้เลยแม้แต่น้อยเพราะการปกป้องจากพลังลึกลับ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะพานางไปกับเขาด้วยไม่ได้
เขาไม่อาจจะทิ้งเสี่ยวม่านไว้ที่นี่โดยที่เขาหนีไปพร้อมกับไคยะและจื่อหยุนไม่ใช่รึ ?
ตอนนั้นมีราชาเทพอีกหลายคนเข้ามาร่วมวงล้อมนี้ด้วย แต่ตอนที่พวกนั้นเห็นเจี้ยนเฉิน พวกนั้นก็ดีใจขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่ เราตามหาเจ้าอยู่นาน”
ราชาเทพคนอื่นต่างก็แปลกใจเมื่อได้ยินชื่อนี้ แต่ไม่นานพวกนั้นก็พากันดีใจไปด้วย
“อะไรนะ ? เขาคือเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ? ชายในข่าวลือที่บอกกันว่าเอาสมบัติสวรรค์ระดับเทพจากสวนไปจำนวนมากน่ะรึ ? ”
“เขาคือเจี้ยนเฉินจริง ๆ รึ ? ดูเหมือนว่าเขาจะดวงกุด เราถึงได้หาเขาเจอง่ายดายแบบนี้”
“ว่ากันว่าเจี้ยนเฉินและคนของเขาได้ขุดเอาสมบัติในสวนไปกว่า 1 ใน 4 ชิชิ มันมีสมบัติสวรรค์กว่าพันชิ้นที่นั่น ดังนั้น 1 ใน 4 ก็เท่ากับ 200 กว่าชิ้น…”
แม้ว่าจะมีราชาเทพไม่กี่คนที่เห็นภาพย้อนอดีตแต่เรื่องนี้ก็กระจายออกไปราวกับไฟป่า ไม่นานข่าวนี้ก็ไปถึงหูทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงจำชื่อเจี้ยนเฉินได้เป็นอย่างดี ยกเว้นแค่พวกคนที่เก็บตัวบ่มเพาะอยู่
ทันใดนั้นทุกคนก็ละสายตาจากจื่อหยุนมามองที่เจี้ยนเฉิน พวกนั้นต่างก็แสดงสีหน้าโลภออกมาโดยไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย พวกนั้นแสดงสีหน้าราวกับเห็นขุมสมบัติ
บางคนคิดว่าเจี้ยนเฉินสำคัญยิ่งกว่าจื่อหยุนด้วยซ้ำ อันที่จริงมรดกของขั้นบรรพกาลก็น่าสนใจแต่มันก็มีแค่อันเดียว ไม่มีใครมั่นใจว่าจะเอามันมาครองได้
แต่สมบัติสวรรค์ระดับเทพที่ เจี้ยนเฉิน ได้มานั้นต่างออกไป แม้ว่าจะมีกันหลายคนแต่มันก็เพียงพอที่จะแบ่งปันกันได้
“ทุกคน ระวังตัวไว้ด้วย เจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งและไม่อาจจะประมาทได้ ตอนที่เขาเป็นราชาเทพ เขาเคยฆ่าราชาเทพมากมายในสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์และแม้แต่โม่เฉิงที่อยู่อันดับหนึ่งของป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพก็ยังพ่ายแพ้ให้กับเขา ตอนนี้เขายิ่งจัดการยากขึ้นไปอีก เมื่อระดับการบ่มเพาะเขาทะลวงขึ้นมาได้และขึ้นเป็นราชาเทพ พลังของเขาก็ต้องมากขึ้นกว่าเดิม…” – ราชาเทพในกลุ่มได้ตะโกนออกมา พวกเขาที่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนั้นเข้าใจถึงความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินมีดี
“ทุกคน เจี้ยนเฉินแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้นแต่พลังของเขาก็น่าประทับใจอย่างมาก ดูแขนข้าสิ แขนข้าถูกเจี้ยนเฉินตัดไป แม้แต่วัตถุเซียนขั้นสูงสุดที่อยู่ในมือข้าก็ยังถูกเขาชิงไป สาวงามข้างกาย เจี้ยนเฉินเองก็แข็งแกร่งเช่นกัน พวกเจ้าต้องระวังตัว อย่าให้พวกนี้หนีไปได้” ชายหนุ่มที่ถูกเจี้ยนเฉินตัดแขนไปนั้นตะโกนออกมา เขามองมาที่เจี้ยนเฉินด้วยความเคียดแค้น
ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะเอาตัวรอด เขาต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับเจี้ยนเฉิน และมันก็ถึงจุดที่ว่าเขาไม่กล้าจะแสดงท่าทีแค้นออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเจี้ยนเฉินตกที่นั่งลำบาก เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่อาจจะกักเก็บมันไว้ได้อีกต่อไป เขาต้องการจะแก้แค้นเพื่อแขนของเขา
เมื่อได้ยินคำเตือนนั้น ทุกคนต่างก็ระวังตัวกันขึ้นมา
“ไม่ต้องกังวล วันนี้เจี้ยนเฉินหนีไปไหนไม่ได้หรอก ทุกอย่างที่เขาได้มาจากสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ต้องเป็นของเรา”
หลังจากที่มีราชาเทพมากมายเข้ามารุมล้อมเจี้ยนเฉิน ทุกคนจึงต่างก็พากันคิดว่าเจี้ยนเฉินนั้นจบสิ้นแล้ว แต่เจี้ยนเฉินกลับไม่ได้สนใจสถานการณ์รอบข้างเลย เขามองไปที่จื่อหยุนด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “ลองดูสิว่าเจ้าเข้าไปใกล้ตัวน้องเจ้าได้รึไม่”
“ฮึ่ม เจี้ยนเฉิน เจ้ายังเป็นห่วงคนอื่นได้อยู่อีกรึ เจ้าควรห่วงดีกว่าว่าจะเอาตัวรอดยังไง” ชายหนุ่มที่เสียแขนไปแค่เสียงออกมาจากด้านหลังวงล้อม เขามองไปยังกระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินด้วยความแค้น
เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่จื่อหยุนที่เดินไปข้างกายเสี่ยวม่าน นางยื่นมือไปยกตัวเสี่ยวม่านขึ้น แต่พลังลึกลับเองก็ขวางทางนางเช่นกันทำให้นางไม่อาจจะเข้าใกล้ต่อได้
“หืม ? เด็กสาวนี่ดูประหลาด …..” ราชาเทพหลายคนเห็นเสี่ยวม่านพร้อมกับแสดงแววตาประหลาดออกมา “มันเหมือนว่ามีพลังลึกลับรอบตัวนาง ให้ข้าลองดูเอง” ชายแก่ชุดน้ำตาลควบคุมกระบี่ด้วยวิญญาณของตัวเองส่งตรงเข้าใส่เสี่ยวม่าน
ฟรืด !
กระบี่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันตัดผ่านระยะร้อยเมตรในเสี้ยววินาที มันส่องประกายสดใสออกมาในค่ำคืนที่มืดมิดและพุ่งตรงเข้าใส่เสี่ยวม่าน มันมีพลังที่น่าแปลกใจ
ชายแก่ไม่ได้สนใจชีวิตของเสี่ยวม่านเลยแม้แต่น้อย เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าเสี่ยวม่านยังอยู่ขอบเขตมนุษย์ เขาใช้พลังระดับราชาเทพออกมาโดยไม่ยั้งมือแม้แต่น้อย